วันเสาร์, พฤษภาคม 10, 2025

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรก บล็อก หน้า 1744

หนุนนายกฯหักดิบรถไฟฟ้า สายสีส้ม

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // แวดวงขนส่งหนุนนายกฯหักดิบโครงการรถไฟฟ้า สายสีส้มก่อน รฟม.ลากประมูลเข้ารกเข้าพง ชี้ประเทศต้องสูญเสียโอกาสจากความล่าช้าการดำเนินโครงการและมีแต่จะเรียกแขกให้งานเข้า หากยังปล่อย รฟม.โม่แป้งต่อไป แนะรัฐปัดฝุ่นทีโออาร์เดิมจัดประมูลเชื่อสยบปัญหาทั้งหมด

หลังจากที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ยังไม่สามารถผ่าทางตันการประมูลจัดหาเอกชนเข้าร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้า สายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี ระยะทาง 35.9 กม.วงเงินลงทุนกว่า 1.42 แสนล้านบาท ภายหลังจากที่ฝ่ายบริหาร รฟม.และคณะกรรมการคัดเลือก ตามมาตรา36 ดำเนินการปรับเปลี่ยนเกณฑ์พิจารณาคัดเลือกใหม่กลางอากาศ ภายหลัง จากการปิดขายซองประมูลไปแล้วนับเดือน โดยปรับเปลี่ยนเกณฑ์คัดเลือกจากที่ต้องพิจารณาข้อเสนอทางการเงินของบริษัทเอกชนที่ผ่านเกณฑ์ข้อเสนอทางเทคนิคเท่านั้นมาเป็นการพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิคและการเงินประกอบกัน จนก่อให้เกิดการร้องเรียน และฟ้องร้องต่อศาลปกครอง และศาลปกครองสูงสุดตามมา

แม้ว่าศาลปกครองกลางจะมีคำสั่งให้รฟม.ทุเลาการบังคับตามเกณฑ์คัดเลือกใหม่ระหว่างรอฟังคำพิพากษา แต่รฟม. ก็ยังคงยืนยันที่จะเปิดประมูลภายใต้หลักเกณฑ์ใหม่ดังกล่าว โดยได้อุทธรณ์คำสั่งของศาลปกครองกลางต่อศาลปกครองสูงสุด แต่กระนั้นศาลปกครองสูงสุด ที่ใช้เวลาพิจารณาคำชี้แจงจาก รฟม.แล้วก็ยังไม่มีคำสั่งใดๆ ลงมา ท้ายที่สุด รฟม.และคณะกรรมการคัดเลือก จึงตัดสินใจยกเลิกการประกวดราคาในครั้งก่อนไปเมื่อวันที่ 3 ก.พ.64 ด้วยข้ออ้าง ไม่อาจรอฟังคำพิพากษาจากศาลปกครองกลาง หรือศาลปกครองสูงสุดได้ และเชื่อว่าการเปิดประมูลใหม่ โดยนำเอาเกณฑ์คัดเลือกเจ้าปัญหามาประกาศเป็นเงืาอนไขประมูลตั้งแต่แรก จะร่นระยะเวลาการจัดประมูลได้

แต่สุดท้าย การประมูลหาเอกชนเข้าร่วมลงทุนในโครงการรถไฟฟ้า สายสีส้ม กลับยังไม่ขยับเขยื้อนไปไหน รฟม.และคณะกรรมการคัดเลือกยังคงไม่สามารถออกประกาศเงื่อนไขการประมูลตามเกณฑ์ใหม่ได้ ทั้งโครงการยังจ่อจะเรียกแขกให้งานเข้า เพราะไม่เพียงตัวผู้มีส่วนรับผิดชอบใจการดำเนินโครงการจะถูกร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.แล้ว ผู้ว่าการรฟม.และคณะกรรมการคัดเลือก ยังถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) มีมติให้ส่งผลสอบสวนไปให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ไต่สวนเอาผิดกันกราวรูดอีกระลอกด้วย

ล่าสุด ยังถูกศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบมีคำสั่งรับคำฟ้องคดีที่บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ BTS ที่ฟ้องเอาผิดผู้ว่ารฟม.และคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 กรณี แก้ไขหลักเกณฑ์การคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) และยกเลิกการประมูลดังกล่าว ในความผิดทุจริตหลายกระทงด้วยกัน

แหล่งข่าวระดับสูงจาก รฟม.เปิดเผยว่า ผลพวงจากการที่ DSI ยื่นสำนวนสอบสวนให้คณะกรรมการป.ป.ช. ไต่สวนโครงการนี้ รวมทั้งกรณีที่ศาลทุจริตและประพฤติมิชอบ มีคำสั่งให้รับคำฟ้องของ BTS ไว้พิจารณาไต่สวนนั้นถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของโครงการนี้ โดยหากศาลทุจริตฯ มีคำสั่งให้ดำเนินการไต่สวนโครงการดังกล่าว ผู้ว่าการรฟม.และเจ้าหน้าที่รัฐที่ร่วมเป็นกรรมการคัดเลือกฯ จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่และหน่วยงานต้นสังกัดจำเป็นต้องมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ด้วย ซึ่งจะทำให้เส้นทางการประมูลคัดเลือกโครงการดังกล่าวต้องหยุดชะงักลงไปอย่างแน่นอน

ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้กำกับดูแลกฎหมายต่างๆ เกือบทั้งหมดในเวลานี้ สมควรจะต้อง “ล้วงลูก”เข้ามาผ่าทางตันการดำเนินโครงการนี้โดยมีคำสั่ง หรือมติคณะมนตรี(ครม.)ให้ผู้เกี่ยวข้องคือ กระทรวงคมนาคมและรฟม.ปัดฝุ่นนำเอาเกณฑ์ประมูลคัดเลือกตามทีโออาร์(TOR)เดิมมาใช้เท่านั้น จึงจะแก้ไขปัญหาคาราคาซังที่เป็นอยู่ได้ เพราะหากยังปล่อยให้รฟม.ดำเนินการจัดประมูลภายใต้หลักเกณฑ์เจ้าปัญหา เชื่อแน่ว่าจะทำให้เส้นทางการโครงการรถไฟฟ้า สายสีส้ม เผชิญทางตันอย่างแน่นอน โดยเฉพาะหากศาลปกครองหรือ ศาลทุจริตฯ รวมทั้ง ป.ป.ช.มีคำพิพากษาหรือ คำชี้ขาดออกมาว่า การดำเนินการของรฟม.และคณะกรรมการคัดเลือกต่อการปรับเปลี่ยนเกณฑ์ประมูลคัดเลือกส่อไปในทางทุจริต มีการปรับเปลี่ยนเกณฑ์คัดเลือกเอื้อประโยชน์แก่เอกชนบางรายแล้ว จะยิ่งทำให้เส้นทางการประมูลเผชิญทางตัน

“เหตุนี้จึงไม่มีหนทางอื่นที่จะทำให้โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มจะเดินต่อไปได้ นอกจากนายกรัฐมนตรีจะหักดิบให้กระทรวงคมนาคมและรฟม.ต้องเปิดประมูลโครงการนี้ภายใต้หลักเกณฑ์คัดเลือกเดิมที่ครม.ได้อนุมัติหลักการไปแล้วเท่านั้น”

สำหรับความล่าช้าที่เกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการนี้แหล่งข่าวกล่าวว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่า ขณะนี้โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มได้ล่าช้าไปจาก “ไทม์ไลน์”ที่วางเอาไว้เดิมอย่างมาก และมีแนวโน้มว่าจะทำให้รฟม.อาจต้องสูญเสีย งบประมาณกว่า 1-2,000 ล้านบาทในการดูแลรักษาระบบในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก (ศูนย์วัฒนธรรม- มีนบุรี) ที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 65 ขณะที่การคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนโครงการนี้รวมทั้งดำเนินโครงการรถไฟฟ้า สายสีส้มตะวันตก(บางขุนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม) ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2-3 ปีจากนี้ ยังไม่รวมความเสียหาย จากการที่ประชาชนคนกรุงสูญเสียโอกาสในการใช้บริการรถไฟฟ้า ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นส่วนนี้ จำเป็นจะต้องมีผู้รับผิดชอบทั้งระดับนโยบาย และระดับปฏิบัติงาน

ปฏิเสธไม่ได้ว่ ความเสียหาย และความล่าช้าในการดำเนินโครงการรถไฟฟ้า สายสีส้มที่เกิดขึ้น ทั้งกระทรวงคมนาคมและ บอร์ดรฟม. รวมถึงผู้บริหารรรฟม.ไม่สามารถจะปฏิเสธความรับผิดชอบไปได้ จึงเป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้กำกับดูแลนโยบายรัฐบาลในภาพรวมจะต้องแสดงให้เห็นว่า ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือ ปล่อยปละละเลยให้เกิดปัญหาขึ้น ในเมื่อมีข้อมูลประจักษ์ชัดไม่เพียงการดำเนินโครงการรถไฟฟ้า ตามนโยบายรัฐบาลจะเต็มไปด้วยความล่าช้าแล้ว ยังจ่อจะเรียกแขกให้งานเข้าจะลากเอารัฐบาลไปขึ้นเขียง ป.ป.ช.ตามมาอีก จึงสมควรจะต้องหาผู้รับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยเร็ว

หาไม่แล้วนายกรัฐมนตรี จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหายทั้งมวล ดังที่กำลังเกิดขึ้นกับความล้มเหลวของการบริหารจัดการวัคซีนต้าน covid ในเวลานี้!

 

 

 

WELLUX จับมือ BLAUPUNKT บริจาคกว่า 1 ล้านบาท ซื้อเครื่องช่วยและท่อหายใจ มอบให้ผู้ป่วยภาวะวิกฤตโควิด-19 ผ่านรพ.รามาฯ

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายธัญญวิชญ์ เตชาทัตอัครวินท์ (เฮียสี่) เจ้าแห่งนวัตกรรมหลอดไฟ WELLUX (เวลลักซ์)  เครื่องเสียงและฟิล์ม BLAUPUNKT (บลาวฟุ้งค์) บริจาคช่วยการแพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดี ต่อลมหายใจให้กับผู้ป่วยภาวะวิกฤตสู้โควิด-19ทั้งนี้นายธัญญวิชญ์ ประธานบริหาร พร้อมนางสาวภัคคินี สกุลอาริยะ กรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เวลลักซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์เวลลักซ์ สปอร์ตไลท์  โซล่าเซลล์ LUMILED+BYD Battery (ลูมิ-แอลอีดี พลัส บีวายดี แบตเตอรี่) และ บริษัท เตชินท์ อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้นำเข้าแบรนด์ BLAUPUNKT อย่างเป็นทางการผู้เดียวในประเทศไทย ได้ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยต่อลมหายใจให้กับผู้ป่วยภาวะวิกฤตให้ผ่านพ้นและกลับมามีชีวิตปกติ  โดยการส่งมอบเครื่องช่วยหายใจชนิดอัตราการไหลสูง (High Flow Oxygen Therapy Device) รุ่น H-80M จำนวน 3 เครื่อง และ ชุดท่อช่วยหายใจ (High Flow) 15 ชุด ให้แก่โรงพยาบาลรามาธิบดี ซึ่งขณะนี้จำนวนเตียงผู้ป่วยวิกฤตและอุปกรณ์การรักษาโดยเฉพาะเครื่องช่วยหายใจประสบภาวะขาดแคลน โดยมี ศ.นพ.พรชัย สิมะโรจน์ หัวหน้าศูนย์นโยบายและการจัดการสุขภาพโรงพยาบาลรามาธิบดี เป็นผู้รับมอบอย่างไรก็ตามเนื่องจากสภาวะการระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรง และระบาดทั่วประเทศในขณะนี้ ทำให้สถานการณ์ผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่อยู่ในภาวะวิกฤตมีจำนวนมากขึ้นและมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อุปกรณ์เครื่องช่วยหายใจเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นจึงยังมีภาวะขาดแคลนเป็นอย่างมาก
ดังนั้นทางบริษัท เวลลักซ์ ประเทศไทย จำกัด ได้ร่วมส่งกำลังใจ มอบหลอดไฟนวัตกรรม เพื่อเพิ่มแสงสว่างและความปลอดภัยให้กับทางโรงพยาบาลและเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ ประกอบไปด้วย ผลิตภัณฑ์โคมไฟ LED Solar Flood Light (แอลอีดี โซล่า ฟลัดไลท์) และหลอดไฟ LED T8 Chip SAMSUNG (แอลอีดี ที8 ชิปซัมซุง) รวมมูลค่าสิ่งของที่มอบให้แก่โรงพยาบาลรามาธิบดี ฝ่าภาวะวิกฤต “สู้ COVID-19” ในครั้งนี้ กว่า 1 ล้านบาท
นายธัญญวิชญ์ กล่าวว่า “เราขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในพลังแห่งการให้ครั้งสำคัญ เพื่อช่วยต่อลมหายใจให้ผู้ป่วยภาวะวิกฤตในขณะนี้ให้สามารถผ่านสภาวะที่ยากลำบาก และสามารถต่อสู้กับโรคโควิด-19 ให้กลับมาแข็งแรงได้ด้วยดี โดยทั้ง 2 บริษัทของผม  ตั้งแต่  โควิด-19 ในปีที่ผ่านมาจนถึงทุกวันนี้ มีนโยบายให้ทุกคนเตรียมความพร้อมอยู่เสมอ พร้อมทั้งปฏิบัติตามทุกมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด”
พร้อมระบุว่า บริษัทอยู่ระหว่างการวางแผนจัดหาวัคซีน เพื่อฉีดให้กับพนักงานทุกคนและครอบครัว ซึ่งเป็นการป้องกันและสร้างภูมิคุ้มกันในด้านสุขภาพอนามัยที่ดีที่สุดณ ขณะนี้ ส่วนมาตรการการดูแลและช่วยเหลือด้านอื่นๆ เรายังคงดูแลอย่างเต็มที่   อีกทั้งปีนี้บริษัทยังคงมีนโยบายไม่ลดคน ไม่ลดเงินเดือน มีการขยายต่อประกันโควิด-19 ให้กับพนักงานทุกคน รวมทั้งทำการฉีดพ่นฆ่าเชื้อโรคทั้งในส่วนออฟฟิศ โกดังสินค้าและรถส่งของทุกวันอยู่เสมอ
ทั้งนี้เพื่อเป็นการดูแลและแทนคำขอบคุณให้กับพนักงานทุกคนที่ร่วมกันฟันฝ่าวิกฤตและทำงานหนักให้บริษัทเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดในปีที่ผ่านมา
ทางด้านนางสาวภัคคินี สกุลอาริยะ กรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด ของทั้ง 2 บริษัท กล่าวว่า “เราขอร่วมเป็นอีกส่วนหนึ่งส่งมอบกำลังใจให้บุคคลากรทางการแพทย์และทุกคนให้มีกำลังกาย กำลังใจที่แข็งแรงเพื่อที่จะก้าวผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกันอย่างปลอดภัยค่ะ”:Cr;มณสิการ รามจันทร์

“มารินอส” เบียดท้ายเกม 2-1 “อุ้ม-ธีราทร” มีเอี่ยวประตูแรก แฟนให้กำลังใจ

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // โยโกฮาม่า เอฟ. มารินอส ได้สองตัวสำรองทีเด็ด ประสานงานช่วยให้นำชัยท้ายเกม เบียดชนะ ชิมิสึ เอส-พัลส์ หวุดหวิด เก็บสามคะแนนได้สำเร็จ กองเชียร์เจ้าถิ่น ได้นำป้ายผ้ามาขึงส่งกำลังใจให้ “โก๋อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน แบ็กซ้ายทีมชาติไทย ซึ่งมีส่วนร่วมกับประตูด้วย
ศึก เมจิ ยาสึดะ เจวันลีก ฤดูกาล 2021 นัดที่ 17 ประจำวันอาทิตย์ที่ 30 พ.ค.64 ที่ นิสสัน สเตเดี้ยม เวลา 11.00 น. ตามเวลาประเทศไทย เจ้าบ้าน โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ทีมอันดับ 4 ของตาราง เปิดบ้านรับมือ ชิมิสึ เอส-พัลส์ ทีมอันดับ 15 โดยเกมนี้ อังเก้ ปอสเตโคกลู โค้ชออสซี่ของเจ้าถิ่น จัดทัพชุดใหญ่ นำโดย อุ้ม-ธีราทร ซึ่งได้รับกำลังใจจากแฟนๆ ที่นำป้ายข้อความภาษาไทย “บุญจัง เราจะอยู่ข้างคุณและครอบครัวคุณเสมอ” มาขึงที่สนามด้วย หลังถูกกระแสวิจารณ์จากกรณีถอนตัวจากทีมชาติไทย ชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ที่ ยูเออี
เริ่มเกมได้ 4 นาที โยโกฮาม่า เอฟ. มารินอส ได้ประตูขึ้นนำจากการประสานงานทางริมเส้นฝั่งซ้าย จุดเริ่มต้นจาก ธีราทร ผ่านบอลให้ ไดเซน มาเอดะ แนวรุกวัย 23 ปี ครอสบอลมาหน้าประตูให้ เอลแบร์ เข้าชาร์จง่ายๆ เจ้าถิ่นนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว

นาที 26 ธีราทร หวิดได้แอสซิสต์หลังผ่านบอลให้ อาโดะ โอไนวู แต่งบอลหนึ่งจังหวะแล้วกดด้วยซ้าย ทว่าบอลไปตรงตัวของ ชูอิชิ กอนดะ ที่เซฟไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนจบครึ่งแรกไม่กี่นาที ชิมิสึ ทำช็อกเจ้าถิ่น เอลซินโญ่ กระชากบอลจากทางฝั่งขวา ก่อนจะปาดราดมาให้ ติอาโก้ ซานตาน่า แปจ่อๆ จังหวะแรกติดเซฟของ โยเฮ ทาคาโอกะ แต่เจ้าตัวตามซ้ำเข้าไปไม่เหลือ นาที 41 เกมกลับมาเท่ากัน 1-1
ครึ่งหลัง มารินอส ลุยแหลกนาทีสุดท้าย ความพยายามก็สัมฤทธิ์ผลเมื่อโคตะ มิซูนูมะ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ปาดบอลจากทางด้านขวามาให้ เลโอ เซียร่า อีกหนึ่งสำรอง เข้าฮอสพา มารินอส คว้าชัยหวุดหวิด 2-1 ในนาทีที่ 90 เก็บเพิ่มอีก 3 คะแนนขึ้นไปมี 34 แต้มจากการลงสนาม 16 นัด ส่วน ชิมิสึ ยังคงมีแค่ 15 คะแนน จากการลงเล่น 17 เกม
สำหรับเกมลีกนัดต่อไปของ โยโกฮาม่า เอฟ. มารินอส เจอกับ ซางัน โทสุ วันที่ 23 มิ.ย. ส่วนโปรแกรมถ่ายทอดสดฟุตบอลเจลีก ทาง SIAMSPORT YouTube Channel นัดถัดไปคือ วันพุธที่ 2 มิ.ย. ที่ โยโกฮาม่า เอฟซี เปิดบ้านรับ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่

Cr. :วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“จุฑาธิป” ผงาดเจ้าทอง “ศึกสองล้อลู่ชิงแชมป์ปทท.” สนาม 3 ยอดผู้ชมพุ่งกระฉูด

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // “จุฑาธิป มณีพันธุ์” ทำผลงานยอดเยี่ยม กวาดคนเดียว 5 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน ครองตำแหน่ง “เจ้าเหรียญทอง” ศึกสองประเภทลู่ ชิงถ้วยพระราชทาน “ควีนส์สิริกิติ์” สนามที่ 3 ด้านยอดผู้ชมทางบ้านถ่ายทอดสดเฟซบุ๊กไลฟ์ Thaicycling Association กับ Thai PBS รวมเกือบ 50,000 วิว และผู้ชมถ่ายอทอดสด “ไทยพีบีเอส” อีกหลายแสนคน
การแข่งขันจักรยานประเภทลู่ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน “ควีนส์สิริกิติ์” ประจำปี 2564 ในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ New Normal (ไม่มีผู้ชม) สนามที่ 3 ที่สนามเวลโลโดรม หัวหมาก เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม วันสุดท้าย ชิงชนะเลิศทุกรายการ จัดภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคไวรัสโควิด-19 ตามคู่มือสมาคมกีฬาจักรยานฯเห็นชอบจาก ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. อย่างเคร่งครัด

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย เผยว่า ช่วงเช้ามีการถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ Thaicycling Association มียอดผู้ชมกว่า 20,000 วิว และมีการแชร์กว่า 200 ครั้ง ส่วนช่วงบ่ายถ่ายทอดสดไทยพีบีเอส ผู้ชมหลายแสนคน ยังมีการถ่ายทอดผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ Thai PBS ยอดผู้ชมมากกว่า 25,000 วิว รวมผู้ชมเกือบ 50,000 วิว นับว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก
ผลแข่งขันรอบชิงชนะเลิศรุ่นที่น่าสนใจ มีดังนี้ เปอร์ซูต รุ่นทั่วไปหญิง (3 กม.) นักปั่นสาวทีมชาติไทยสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม คว้าอันดับ 1-3 ไปครองทั้งหมด โดยแชมป์ “บีซ” ร.ท.หญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์ เวลา 4.30.466 นาที, ที่ 2 “ไก่” ส.ท.หญิง ศุภักษร นันตะนะ เวลา 4.42.511 นาที, ที่ 3 ส.ต.หญิง ชนิภรณ์ บัตริยะ
เปอร์ซูต รุ่นทั่วไปชาย (4 กม.) ที่ 1 นายพีรพงศ์ ลาดเงิน (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ-โกกิ) เวลา 4.43.732 นาที, ที่ 2 จ.ท.ปฐมภพ พลอาจทัน (สโมสรทหารอากาศ) เวลา 4.52.046 นาที, ที่ 3 ส.ต.ต.ศักดิ์ชัย พอดีงาม (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ-โกกิ) เวลา 4.54.180 นาที

เปอร์ซูต รุ่นเยาวชนชาย (3 กม.) ที่ 1 นายเสกอนันต์ มาเนียม (ฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ กองบิน 46 พิษณุโลก) เวลา 3.43.011 นาที, ที่ 2 นายภูริเดช อินทะผิว (รร.กีฬากรุงเทพมหานคร&Roojai) เวลา 3.47.661 นาที, ที่ 3 นายธนายุต พาหวล (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ-โกกิ) เวลา 3.52.836 นาที
เปอร์ซูต รุ่นเยาวชนหญิง 2 กม. ที่ 1 น.ส.ณัฐภรณ์ อภิโมทย์ (รร.กีฬากรุงเทพมหานคร&Roojai) 2.56.513 นาที, ที่ 2 น.ส.นัฐนันท์ นนทะแก้ว (ฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ วัดดงน้อย รร.โคกกระเทียมวิทยาลัย) เวลา 3.01.437 นาที, ที่ 3 น.ส.ทิพวัลย์ นาพรม (รร.กีฬากรุงเทพมหานคร&Java) เวลา 2.58.248 นาที
สปรินต์ รุ่นทั่วไปหญิง ที่ 1 ร.ท.หญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์ (สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม), ที่ 2 น.ส.เยาวเรศ จิตมาตย์ (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ-โกกิ), ที่ 3 น.ส.กัญญารัตน์ หน่อแก้ว (ธนาคารออมสิน) สปรินต์ รุ่นเยาวชนหญิง ที่ 1 น.ส.ณัฐภรณ์ อภิโมทย์ (รร.กีฬากรุงเทพมหานคร&Roojai), ที่ 2 น.ส.พลอยปภัส ศรีใสไพ (ฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ วัดดงน้อย), ที่ 3 น.ส.ชนิดา ไพอรัญ (รร.กีฬากรุงเทพมหานคร)

คีริน รุ่นทั่วไปหญิง ที่ 1 ส.ท.หญิง ศุภักษร นันตะนะ (สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม), ที่ 2 ร.ท.หญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์ (สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม), ที่ 3 ร.ต.ต.หญิง พรรณรายณ์ ราษี (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ-โกกิ) ส่วนผลการแข่งขันทั้งหมดสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ www.thaicycling.or.th
การแข่งขันในสนามที่ 3 นี้ ปรากฏว่า “บีซ” จุฑาธิป ได้เป็นเจ้าเหรียญทอง โดยกวาดไปคนเดียว 5 เหรียญทอง ในรุ่นทั่วไปหญิง จากรายการ สแครตช์ 20 รอบ, ไทม์ไทรอัล 500 เมตร, เปอร์ซูต 3 กม., สปรินต์ บุคคล, ทีมสปรินต์ และ 1 เหรียญเงิน จากคีริน
สำหรับการแข่งขันจักรยานประเภทลู่ ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน “ควีนส์สิริกิติ์” สนามที่ 4 ระหว่างวันที่ 4-6 มิถุนายน ที่สนามเวลโลโดรม หัวหมาก นักปั่นสมัครเข้าแข่งขันได้ที่เว็บไซต์สมาคมกีฬาจักรยานฯ www.thaicycling.or.th หรือสอบถามได้ที่ โทร.0-2719-3340-2 ในวันและเวลาราชการ

Cr. :วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

นายกสมาคมส่งเสริมการศึกษาและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการในประเทศไทย เป็นประธานประชุมกก.พิจารณาวาระสำคัญขับเคลื่อนภารกิจอันเกี่ยวเนื่องกับภาครัฐ

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายศิลปชัย วัชรชวกุล นายกสมาคมส่งเสริมการศึกษาและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการในประเทศไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการครั้งที่5/2564 ซึ่งได้มีการพิจารณาวาระสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา การส่งเสริมการขับเคลื่อนภารกิจสำคัญต่างๆของภาครัฐเพื่อให้สอดคล้องต่อนโบายของสมาคมฯอันนำไปสู่ความสำเร็จสูงสุดต่อมวลสมาชิก โดยได้รับเกียรติจาก นายธวัชชัย มลาวรรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการคนพิการจังหวัดสระแกัว เข้าร่วมรับฟังพร้อมให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินภารกิจอีกด้วย ณ ห้องประชุมของสมาคมฯเลขที่90/159 ตำบลวัฒนานคร อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว เมื่อวันที่28พฤษภาคม2564ที่ผ่านมา :Cr:มณสิการ รามจันทร์

“มาร์เกซ-เอสปาร์กาโร” สตาร์ทแถว 4 โมโตจีพี สนาม 6 “ก้อง-สมเกียรติ” ลุ้นท็อปเท็น “โมโตทู”

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลก 8 สมัยชาวสแปนิช จาก เรปโซล ฮอนด้า ฝืนอาการบาดเจ็บควงคู่ทีมเมทอย่าง โปล เอสปาร์กาโร คว้ากริดสตาร์ทในแถวที่ 4 ศึกโมโตจีพี สนาม 6 อิตาเลียน กรังด์ปรีซ์ ขณะ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดไทยหนึ่งเดียวในจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก จากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” คว้ากริดที่ 18 มีลุ้นขยับผลงานติดท็อปเท็น เพื่อล่าแต้มรุ่นโมโตทู วันอาทิตย์นี้
การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี 2021 สนาม 6 รายการ อิตาเลียน กรังด์ปรีซ์ ดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศ วันอาทิตย์ที่ 30 พฤษภาคมนี้ ที่ ออโตโมโตโดรม อินเตอร์นาซินาเล เดล มูเจลโล อิตาลี ท่ามกลางความสนใจจากแฟนความเร็วทั่วโลก

โดยการแข่งขันรอบควอลิฟาย เมื่อคืนวันที่ 29 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งในรอบ Q1 ต้องมาลุ้นกันถึงช่วง 5 นาทีสุดท้าย โดยไฮไลต์อยู่ที่การชิงจังหวะของ มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลก 8 สมัย จาก เรปโซล ฮอนด้า ที่กดเวลาคว้าอันดับ 1 ทะลุเข้าสู่รอบ Q2 ได้สำเร็จ
จากสภาพร่างกายที่ไม่เต็มร้อย มาร์เกซ ตัดสินใจลงจับเวลาในรอบ Q2 เพียง 5 นาทีสุดท้าย คว้ากริดอันดับ 11 มาครองด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 46.125 วินาที ส่วนทีมเมทอย่าง โปล เอสปาร์กาโร ออกตัวจากกริดที่ 12 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 46.393 วินาที

ด้าน ทาคาอากิ นาคากามิ ยอดนักบิดญี่ปุ่นจาก แอลซีอาร์ ฮอนด้า คว้ากริดอันดับ 15 ด้วยเวลา 1 นาที 46.195 วินาที ส่วนทีมเมทชาวสแปนิชอย่าง อเล็กซ์ มาร์เกซ เจอปัญหาหนักออกตัวจากท้ายแถวในกริดที่ 22 ด้วยเวลา 1 นาที 47.216 วินาที
ขณะที่นักบิดไทยหนึ่งเดียวในศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกรุ่น โมโตทู “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา บิดภายใต้สังกัด อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย หมายเลข 35 สร้างผลงานยอดเยี่ยมรั้งอันดับ 2 ในรอบ Q1 ผ่านเข้ามาคว้ากริดสตาร์ทอันดับ 18 มีลุ้นขยับติดท็อปเท็นอีกครั้งในสนามนี้ แม้เพิ่งแข่งขันเป็นครั้งแรกที่มูเจลโล
ศึก อิตาเลียน กรังด์ปรีซ์ รอบชิงชนะเลิศ วันอาทิตย์ที่ 30 พฤษภาคมนี้ ถ่ายทอดสดการแข่งขันทางช่อง PPTVHD36 เริ่มด้วยรุ่นโมโตทู เวลา 17:20 น. รุ่นโมโตจีพี ในเวลา 19:00 น. ตามเวลาประเทศไทย แฟนความเร็วสามารถติดตามข่าวสารของนักบิดฮอนด้าได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : fb.com/aphondaracingth #WhatStopsYou #มุ่งไปอย่าให้อะไรมาหยุด #MotoGP #MotorSport #RepsolHonda #MM93 #RaceToTheDream #HondaRacingThailand #SC35 #Moto2

Cr. :วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“ช้างศึก” ถูกใบแดง อุ่นแข้ง เจ๊า ทาจิกิสถาน 2-2 “ศุภณัฏฐ์” เหมาสองตุง

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // ทัพช้างศึกที่เหลือ 10 คน ถูกทาจิกิสถานไล่ตีเสมอช่วงท้ายเกม 2-2 เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมทีผ่านม เวลา 20.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น (ช้ากว่าประเทศไทย 3 ชั่วโมง) ที่สนาม Khalid Bin Mohammed Stadium ทีมชาติไทย ลงอุ่นเครื่องแบบ International Friendly ‘A’ Match พบกับ ทีมชาติทาจิกิสถาน
ทัพช้างศึกของ อากิระ นิชิโนะ กุนซือชาวญี่ปุ่น เก็บตัวที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ครบหนึ่งสัปดาห์ เตรียมทีมก่อนลุยศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง ก่อนหน้านี้อุ่นเครื่องแบบเทรนนิ่งแมตช์ พ่าย ทีมชาติโอมาน 0-1
ครึ่งแรกทั้งสองทีมมีโอกาสจบสกอร์เท่ากัน โดย ปฏิวัติ คำไหม ต้องออกแรงเซฟถึงสามครั้ง ขณะที่ทัพช้างศึกมีโอกาสขึ้นนำจากการยิงของ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, จักรพันธ์ แก้วพรม และ ศิวกรณ์ เตียตระกูล แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่ผ่านมือนายด่านทาจิกิสถาน

ครึ่งหลังทีมชาติไทยเปลี่ยนตัวรวดเดียว 4 คน ส่ง จตุรพัช สัทธรรม, สุมัญญา ปุริสาย, นิติพงษ์ เสลานนท์ และ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร ลงสนามมาเล่นแทน สถาพร แดงสี, จักรพันธ์ แก้วพรม, ทริสตอง โด และ สันติภาพ จันทร์หง่อม
นาทีที่ 54 ทีมชาติไทยขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ยิงด้วยซ้ายบอลเรียกเสียบเสาไกลสุดสวย นาทีที่ 61 ช้างศึกบวกสกอร์นำ 2-0 สุมัญญา ปุริสาย พาบอลไปสุดเส้นหลังก่อนเปิดไปให้ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา เอาบอลลงก่อนจิ้มเข้าไปง่าย ๆ เป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้
นาที 65 ทาจิกิสถานได้ประตูไล่มา 2-1 ก่อนที่นาที 71 ช้างศึกเหลือ 10 คนเมื่อ ปวีร์ ตัณฑะเตมีย์ ถูกใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม ท้ายเกมนาที 90 ทาจิกิสถานมาตามตีเสมอ 2-2 จากลูกยิงไกลของผู้เล่นหมายเลข 13 จบเกม ทีมชาติไทย เสมอ ทีมชาติทาจิกิสถาน 2-2

รายชื่อนักเตะทีมชาติไทย ปฏิวัติ คำไหม (GK), ทริสตอง โด, ปวีร์ ตัณฑะเตมีย์, พรรษา เหมวิบูลย์, สถาพร แดงสี, พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี (C), ศิวกรณ์ เตียตระกูล, สันติภาพ จันทร์หง่อม, จักรพันธ์ แก้วพรม, ภานุพงศ์ พลซา, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา
สำหรับ ทีมชาติไทย มีเกมอุ่นเครื่องแบบเทรนนิ่งแมตช์ นัดสุดท้าย พบกับ ทีมชาติอุซเบกิสถาน วันอาทิตย์ที่ 30 พฤษภาคม เวลา 19.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น
โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง ของทีมชาติไทย มีดังนี้ วันที่ 3 มิถุนายน ทีมชาติไทย พบ อินโดนีเซีย เวลา 23.45 น. ที่สนามอัล มัคตูม วันที่ 7 มิถุนายน ยูเออี พบ ทีมชาติไทย เวลา 23.45 น. ที่สนามซาบีล วันที่ 15 มิถุนายน ทีมชาติไทย พบ มาเลเซีย เวลา 23.45 น. ที่สนามอัล มัคตูม

Cr. :วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“ก๊องส์-ธัชกร” ดาวรุ่งไทยแซงเดือด ซิวอันดับ 9 “โมโตจีพี รุกกีส์ คัพ” เรซแรก

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี ยอดนักบิดดาวรุ่งชาวไทยวัย 20 ปี จากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” สร้างผลงานโดดเด่น ทะยานคว้าอันดับ 9 ศึกดาวรุ่งชิงแชมป์โลก เรดบูล โมโตจีพี รุกกีส์ คัพ 2021 สนาม 3 เรซแรก ที่มูเจลโล อิตาลี หลังขยับขึ้นสูงสุดถึงอันดับ 3 สุดมันส์
การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบดาวรุ่งชิงแชมป์โลก รายการ เรดบูล โมโตจีพี รุกกีส์ คัพ 2021 สนาม 3 ดวลความเร็วเรซแรกเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 29 พฤษภาคมนี้ ที่ออโตโดรโม อินเตอร์นาซินาเล เดล มูเจลโล อิตาลี โดยถูกบรรจุเป็นซัพพอร์ทเรซของศึกโมโตจีพี รายการ อิตาเลียน กรังด์ปรีซ์
ศึก เรดบูล โมโตจีพี รุกกีส์ คัพ เฟ้นหายอดดาวรุ่งระดับหัวกะทิจากทั่วโลกกว่า 30 คน เพื่อขยับเข้าสู่เกมระดับโลกรายการโมโตจีพีในอนาคต โดยเรซนี้แข่งขันทั้งสิ้น 15 รอบสนาม “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี จากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” ออกสตาร์ทจากกริดที่ 17
ธัชกร ออกสตาร์ทได้ดีทะยานขึ้นถึงอันดับ 13 ตั้งแต่รอบแรก ก่อนจะหาจังหวะยอดเยี่ยม ไต่ขึ้นมาถึงอันดับ 10 แถมในช่วง 5 รอบสุดท้าย นักบิดไทยขยับขึ้นมาสูงสุดในอันดับ 3 สร้างโอกาสลุ้นโพเดี้ยมครั้งแรกอย่างเต็มตัว
อย่างไรก็ดี เกมในคลาสนี้นักบิดดาวรุ่งทุกคนไล่บู๊กันอย่างหนัก จนถึงโค้งสุดท้าย ธัชกร ทะยานเข้าเส้นชัยในอันดับ 9 ตามหลังแชมป์อย่าง ไทโยะ ฟูรุซาโตะ ดาวรุ่งชาวญี่ปุ่นเพียง 1.150 วินาที
จากผลงานโดดเด่นในเรซนี้ ธัชกร เก็บแต้มสำคัญขยับขึ้นรั้งอันดับ 14 บนตารางแชมเปี้ยนชิพ มีทั้งสิ้น 16 คะแนน ก่อนจะบิดเรซที่ 2 วันอาทิตย์ที่ 30 พฤษภาคมนี้ เวลา 20.20 น.
แฟนความเร็วสามารถชมถ่ายทอดสดการแข่งขันผ่านทางเว็บไซต์ RedBull TV : www.redbull.com/int-en/events/red-bull-motogp-rookies-cup-italy และติดตามข่าวสารของนักบิดฮอนด้าได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : fb.com/aphondaracingth #WhatStopsYou #มุ่งไปอย่าให้อะไรมาหยุด #RaceToTheDream #TB33 #CEVMoto3 #RedBullMotoGPRookiesCup #MotorSport #HondaRacingThailand

Cr. :วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“ยิมแอโรบิกไทย” อันดับ 9 โลก “ศรายุทธ” ฟันธง”ซีเกมส์” มีทอง

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // นักกีฬายิมนาสติก แอโรบิกของไทย ทำผลงานในวันที่สองรายการชิงแชมป์โลก ได้ประทับใจ ไม่ได้เข้ารอบชิงชนะเลิศ แต่ผลรวมทุกประเภทดีเกินคาด “ประเภทกรุ๊ป” คว้าอันดับที่ 9 ของโลก ดีกว่าคู่แข่งจากยุโรป และคู่แข่งจาก อินโดนีเซีย “ศรายุทธ” มั่นใจ ซีเกมส์แอโรบิกของไทย ต้องเหรียญทองเท่านั้น
ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับนักกีฬายิมนาสติกทีมชาติไทย สมาคมฯส่งนักกีฬาจำนวน 5 คน และเจ้าหน้าที่อีก 2 คน รวม 7 คนประกอบด้วย นายพีระพงษ์ พจนโกสีย์, นายชนกพล เจียมสุขใจ, น.ส.ชวิศา อินทกุล, น.ส.ไอรดา ปานท้าว, น.ส.สุภัสสร วัชราภรณ์ โดยมี นายณัฐวุฒิ พิมพา (ผู้จัดการทีม) และ มร.โจเซ่ โรมาน กอนซาเลส อัลเบอร์โต้ ผู้ฝึกสอนชาวเม็กซิกัน ไปแข่งขัน ยิมนาสติกแอโรบิก ชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 16 ที่เมืองบากู อาเซอร์ไบจาน เมื่อวันที่ 27-29 พฤษภาคม 2564 โดยมีนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันไม่น้อยกว่า 32 ประเทศ แบ่งออกเป็นประเภท เดี่ยวหญิง , เดี่ยวชาย, มิกซ์แพรส์, ทรีโอ และ กรุ๊ป

ล่าสุดเมื่อค่ำคืนวันที่ 28 พฤษภาคม แข่งขันที่เหลืออีก 3 ประเภท โดยประเภทชายเดี่ยว มีชาติเข้าแข่งขัน จำนวน 25 ประเทศ ปรากฏว่า อันดับ 1 เซมินอฟ โรมาน ( รัสเซีย ) 22.050 คะแนน, อันดับสอง มิเกล มาเน่ ( สเปน) 21.750 คะแนน , อันดับสาม ลูคัส บาร์โบช่า ( บราซิล) 21.750 คะแนน โดยทีมชาติไทย ชนกพล เจียมสุขใจ ทำคะแนนได้ 19.350 คะแนน อยู่อันดับ 18 ของโลก ดีกว่านักกีฬาจากยุโรปหลายชาติ และดีกว่า เกรกอรัส อีสวา ราบาว่า (อินโดนีเซีย) ทำได้ 16.800 คะแนน อันดับที่ 23
ประเภทคู่ผสม “มิกซ์แพรส์” มีนักกีฬาเข้าแข่งขัน 24 ชาติ ไทยส่ง “จ๋า” ชวิศา อินทกุล กับ พีระพงษ์ พจนโกสีย์ ทำได้ 19.700 คะแนน อยู่อันดับที่ 12 ของโลก เป็นรอง โปรตุเกส และสเปน ส่วนคู่ อินโดนีเซีย 19.200 คะแนน อันดับที่ 19 ของโลก

ประเภทกรุ๊ป ทีมชาติไทยส่งครบทั้ง 5 คู่ ประกอบด้วย พีระพงษ์ พจนโกสีย์, ชนกพล เจียมสุขใจ, น.ส.ชวิศา อินทกุล, น.ส.ไอรดา ปานท้าว, น.ส.สุภัสสร วัชราภรณ์ ทำได้สูงถึง 19.311 คะแนน ติดอันดับที่ 9 พลาดเข้ารอบชิงชนะเลิศอย่างเฉียดฉิว อินโดนีเซีย ไม่ได้ลงแข่งขัน
น.ต.ศรายุทธ พัฒนศักดิ์ นายกสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ทุกประเภท อันดับ 1-8 เข้ารอบชิงชนะเลิศ แต่นักกีฬาทีมชาติไทย ไม่ถึงรอบชิงชนะเลิศก็ตาม อยากบอกว่าพึงพอใจอย่างมาก เป็นการส่งแข่งครั้งแรก ทุกคนได้สะสมประสบการณ์กับนักกีฬาระดับโลก ซึ่งประเภทกรุ๊ป ได้อันดับ 9 , ประเภทมิกซ์แพรส์ ได้อันดับที่ 12 ที่เหลืออีก 3 ประเภทไม่เกินอันดับที่ 20 ถือว่าประสบความสำเร็จเกินคาด จะเดินทางกลับวันที่ 30 พ.ค. ต้องกักตัว 14 วัน จากนั้นเวลาที่เหลืออีก 5 เดือน เพื่อเตรียมแข่งขันกีฬาซีเกมส์ มั่นใจต้องเหรียญทอง เท่านั้น

Cr. :วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์