https://www.natethip.com/news.php?id=9610
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
https://www.natethip.com/news.php?id=9610
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
https://linevoom.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1173975422563060458
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
https://www.natethip.com/news.php?id=9608
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
https://www.natethip.com/news.php?id=9607
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
https://www.natethip.com/news.php?id=9606
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
https://linevoom.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1173966745860051723
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
https://www.natethip.com/news.php?id=9605
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
คนรถไฟสุดมึน นาน 6 เดือนผู้ว่ารถไฟฯตามใบสั่งได้แต่ตั้งคณะที่ปรึกษา-คณะทำงานเป็นกุรุด ไม่แน่ใจไว้กรองงานหรือดองงานกันแน่ ล่าสุดประกาศนโยบาย”อีบิดดิ้ง”ทุกโครงการแม้เป็นงานเฉพาะด้านมีผู้เสนอแค่1-2รายก็ไม่เว้น หวั่นฉุดโครงการอืดเป็นเรือเกลือ!
หลังจากกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ออกมาตีปี๊บผลงานชิ้น”โบแดง”ในการทำคลอดโครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ระยะ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 357 กม.วงเงินลงทุนกว่า 341,351 ล้านบาทไป เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา
แหล่งข่าวในแวดวงก่อสร้างกลับมองว่า ความคาดหวังที่โครงการนี้จะแล้วเสร็จตามเป้าหมายหรือไม่นั้น หลายฝ่ายยังแสดงความกังวล เพราะขนาดโครงการในระยะแรก กรุงเทพ-โคราช ระยะทาง 252 กม.วงเงินลงทุน 179,000 ล้านบาทที่ รฟท.และกระทรวงคมนาคมเปิดหวูดก่อสร้างมาตั้งแต่ปลายปี 2560 ผ่านมาวันนี้กว่า 7 ปีเข้าไปแล้ว ยังมีความคืบหน้าไปเพียง 35%เท่านั้น
ขณะที่ตัวผู้ว่าการรถไฟฯ นายวีริศ อัมระปาล ที่ข้ามห้วยมาจากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ที่ฝ่ายการเมืองหมายมั่นปั้นมือให้เข้ามานั่งเก้าอี้ผู้ว่าการรถไฟฯ ด้วยความคาดหวังจะอาศัยความเป็นนักบริหารมืออาชีพเพื่อให้เข้ามาแก้ไขปัญหาหนี้สินค้ำคอ ขององค์กรนี้ รวมทั้งขับเคลื่อนงานต่างๆภายในองค์กรให้กระชับรวดเร็วนั้น
ผ่านไปกว่า 6 เดือนเข้าไปแล้ว ดูเหมือนผลงานและความคืบหน้าในการขับเคลื่อนองค์กร รฟท.จะยังไม่มีโครงการใดออกมาเป็นรูปธรรม ตรงกันข้ามภายใต้การบริหารงานของผู้ว่ารถไฟฯคนใหม่ กลับจะหนักหนาสาหัสกว่ายุคที่ผ่านๆ มาเสียอีก ด้วยมาดความเป็นนักวิชาการที่ขาดประสบการณ์งานจัดซื้อจัดจ้างขนาดใหญ่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เข้าตัวไม่กล้าเซ็นงาน หรืออนุมัติงานจัดซื้อจัดจ้างในทุกเรื่องที่คนในการถไฟฯเสนอขึ้นมา เว้นแต่เรื่องที่เป็นงานนโยบายจริงๆ จึงจะยอมเซ็นผ่านให้
ล่าสุด เมื่อปลายปี 67 ที่ผ่านมา ผู้ว่ารถไฟฯ ถึงกับตั้งการ์ดสูง ตั้งคณะที่ปรึกษา และคณะทำงานเต็มลำเรือ เพื่อคอยกลั่นกรองงานจัดซื้อจัดจ้าง ดูแลโครงการต่างๆ ที่จะผ่านขึ้นไปยังผู้ว่าการรถไฟฯ
ประกอบด้วย 1. คณะที่ปรึกษาดูแลบริหารงานทั่วไปมีพล.อ.ธวัชชัย ชวนสมบูรณ์ ,นายเทิดศักดิ์ เศรษฐมานพ ,นายรัชฎา จิวาลัย และรศ.ดร.พิสนฑ์ อุดมวรรัตน์ 2.คณะทำงานศึกษาตอดตามปัญหาการดำเนินโครงการนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าการการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)เป็นประธาน , คณะที่ปรึกษาดูแลงานจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ มีนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส เป็นประธานเช่นกัน และคณะที่ปรึกษาดูแลด้านกฏหมายที่มีนายดำรงศักดิ์ เครือแก้ว เป็นประธาน
ทั้งนี้แหล่งข่าวในการรถไฟฯ กล่าวว่า หากเจาะลึกรายชื่อทีมที่ปรึกษาข้างต้นก็คงคาดเดาได้ไม่ยากว่าส่วนหนึ่งคงมาจากทีมงานฝ่ายการเมืองด้วย อีกส่วนเจ้าตัวคงจะเชื้อเชิญเข้ามาเป็นเกราะกำลังจะทำอะไรก็ต้องผ่าน เซ็นเซอร์ให้คณะทำงานคณะที่ปรึกษาเสียก่อน
จนหลายฝ่ายพากันตั้งข้อกังขา การที่ผู้ว่ารถไฟฯตั้งคณะที่ปรึกษาและคณะทำงานกันมาเป็นกุรุดนั้น เป็นเพราะไร้ฝีมือในการบริหารงานเอง จึงต้องแต่งตั้งทีมที่ปรึกษามานั่งบริหารงานแทนหรือเพราะไม่ไว้วางใจคนรถไฟจะสอดไส้มาให้เซ็นหรืออย่างไร ถึงต้องป้องกันตัวเองเอาไว้ก่อน จนได้ชื่อว่าเป็นยุคที่ใช้ทีมงานและคณะที่ปรึกษามากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ก็ว่าได้
“ทีนี้ก็งานเข้า กว่าที่เรื่องอะไรต่อมิอะไรจะทำคลอดออกมาได้สักเรื่องก็ต้องวิ่งไปเข้าเขาวงกตให้คณะบุคคลเหล่านี้พิจารณาและตรวจสอบกัน บางเรื่องหน่วยงานเสนอขึ้นไปยังผู้ว่าการรถไฟไปเป็นแรมเดือนแล้วก็หายเข้ากลีบเมฆ แถมยังมีกระแสเล็ดรอดออกมาด้วยว่า ทีมที่ปรึกษาบางรายยังมีการเรียกผู้ประกอบการไปทำความเข้าใจ หรือตกลงอะไรบางอย่างหลังบ้านด้วยอีก หากไม่ทำตามเงื่อนไขที่ตั้งไว้เรื่องที่ส่งขึ้นไปก็จะถูกเก็บงำเอาไว้อย่างนั้น จนเป็นที่รับรู้กันในหมู่ผู้รับเหมาที่เสนองานกับการรถไฟฯไปแล้ว”
ขณะที่ผู้ว่าการรถไฟฯเองแม้จะประกาศนโยบายทุกอย่างต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ ทุกโครงการจัดซื้อจัดจ้างจะต้องเน้นการประกวดราคาแบบ e-Bidding อย่างเดียว แม้เป็นงานที่มีผู้ผลิตน้อยราย หรือต่อให้มีรายเดียวก็ยังจะให้ใช้การประกวดราคาแบบ ebidding ทำเอาผู้ที่เคยประมูลงานต่างๆในรถไฟได้แต่งงเป็นไก่ตาแตกไปเลย
ขนาดโม่แป้งงานประจำกันเป็นรายวัน การรถไฟฯยังได้ชื่อว่าเป็นหน่วยงานที่อืดเป็นเรือเกลือ ทำอะไรก็เชื่องช้า นี่ยังมาตั้งแต่งตั้งคณะที่ปรึกษา คณะทำงานชุดต่างๆ เป็นกุรุดตามมาอีก จะเพื่อกลั่นกรองงานโครงการ หรือจะตั้งโต๊ะอะไรก็ตามแต่ แต่สิ่งเหล่านี้ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ล้วนทำให้การรถไฟยิ่งได้ชื่อว่าอืดเป็นเรือเกลือหนักเข้าไปอีก
อย่างนี้ท่านรองนายกฯและรมต.คมนาคมจะไปคาดหวังให้รถไฟเร่งเครื่องโครงการต่างๆ ให้เดินหน้าตามเป้าหมายได้อย่างไร แค่จะต้องส่งเรื่องผ่านคณะที่ปรึกษาและคณะทำงานไม่รู้กี่ชุดต่อกี่ชุดนี้ ก็ไม่รู้จะหลงอยู่ในเขาวงกตนานแค่ไหนแล้ว.
พิมพ์ไทยออนไลน์//เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 09.00 น. ที่องค์การบริหารส่วนตำบลร่องกาศ หมู่ที่ 4 ตำบลร่องกาศ อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ นายคุณากร คชหิรัญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ พร้อมด้วยนางละวาดอร ศรีวรรธนะ รองประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดแพร่ นำหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) ลงพื้นที่ให้บริการเชิงรุกแก่ประชาชนเป็นครั้งที่ 5 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยมีการให้บริการตรวจรักษาโรคทั้งแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนปัจจุบัน รวมถึงบริการตรวจเต้านมด้วยตนเอง และการรักษาด้านทันตกรรมแก่ประชาชนในตำบลร่องกาศและพื้นที่ใกล้เคียง นอกจากนี้ยังมีการมอบยาชุดพระราชทานแก่ผู้สูงอายุ มอบถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น พร้อมทั้งรับฟังปัญหาของประชาชนในพื้นที่ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป
โอกาสนี้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดแพร่ (พม.แพร่) ซึ่งทำหน้าที่เป็น ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) จังหวัดแพร่ นำโดย นางสาวโสพิญฐ์ สุวรรณหงส์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดแพร่ (พมจ.แพร่) ได้ร่วมลงพื้นที่กับคณะแพทย์อาสา พอ.สว. ซึ่งได้เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจผู้สูงอายุ และผู้พิการ จำนวน 2 ราย รายแรกเป็นผู้พิการและป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูงและโรคต่อมลูกหมากโต มีปัญหาการกลั้นปัสสาวะไม่ได้ อาศัยอยู่กับบุตรชายที่ไม่มีรายได้ และสุขภาพไม่แข็งแรง และรายที่สองเป็นผู้ป่วยติดเตียงที่มีอาการอ่อนแรงซีกซ้ายและปวดตามตัว เพื่อคัดกรองเข้ารับการดูแลในพระราชานุเคราะห์ของมูลนิธิฯ พร้อมมอบยาชุดพระราชทาน ถุงยังชีพ และสิ่งของจำเป็น
สำหรับทาง พม.จังหวัดแพร่ ได้พิจารณาให้การช่วยเหลือเป็นการปรับปรุงที่อยู่อาศัย ตามโครงการ “ปรับสภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกของผู้สูงอายุให้เหมาะสมและปลอดภัย” จากกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) โดยบูรณาการร่วมกับงบประมาณ “การปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย” จากกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) เพื่อให้ได้บ้านที่มีความมั่นคงแข็งแรง ปลอดภัย นอกจากนี้ ในเบื้องต้นได้มอบเครื่องนอนหมอน ผ้าห่มที่ได้รับการสนับสนุนมาจากเครือข่าย CSR และพิจารณาช่วยเหลือเป็นเงินสงเคราะห์ตามระเบียบของกระทรวง พม. ต่อไป :Cr;มณสิการ รามจันทร์