วันเสาร์, ตุลาคม 26, 2024

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรก บล็อก หน้า 2

เปิดตำราคนทำธุรกิจ! ขนส่งแบบเหมาตู้จากจีน เหมาะกับธุรกิจอะไรบ้าง

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//ในยุคปัจจุบันการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตขึ้นได้มาก โดยเฉพาะการขนส่งจากจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการผลิตขนาดใหญ่อันดับต้น ๆ ของโลก ดังนั้นการใช้เลือกบริการจากบริษัทขนส่งสินค้าจากจีนย่อมเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เพราะบริการขนส่งแต่ละแบบก็มีลักษณะที่ต่างกัน วันนี้จะขอพาไปดูการเหมาตู้คอนเทนเนอร์จากจีนว่าขนส่งแบบนี้จะเหมาะกับธุรกิจแบบใดไหนบ้างขนส่งแบบเหมาตู้จากจีนคืออะไร

ภาพ: การขนส่งแบบเหมาตู้

การเหมาตู้คอนเทนเนอร์จากจีน โดยใช้บริการขนส่งแบบเหมาตู้จากจีน หรือ Full Container Load (FCL) เป็นบริการแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก วิธีนี้จะเป็นการส่งสินค้าโดยบรรจุสินค้าให้เต็มทั้งตู้ โดยทั้งตู้คอนเทนเนอร์นั้นจะเป็นของลูกค้าเพียงเจ้าเดียว ทำให้ขนส่งแบบ FCL มีข้อได้เปรียบหลายอย่าง

  • ประหยัดต้นทุน
  • ไม่ต้องแชร์ตู้กับใคร
  • ระยะเวลารวดเร็วขึ้น
  • สินค้าปลอดภัย

คำนวณค่าขนส่งแบบเหมาตู้อย่างไร

หลังจากรู้แล้วว่าขนส่งแบบเหมาคืออะไร คำถามต่อไปที่มักเกิดขึ้นมาต่อก็ไม่พ้นเรื่องราคา ว่าจะคำนวณค่าขนส่งยังไง แล้วการขนส่งแบบนี้มันมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ วันนี้จะมาไขคำตอบกัน

1. วิธีการคำนวณค่าขนส่ง

ค่าบริการขนส่งโดยเบื้องต้นจะคำนวณจากปริมาตรของสินค้า (หน่วยเป็นคิว) หารกับน้ำหนักของสินค้าทั้งหมด (หน่วยเป็นกิโลกรัม) แล้วคูณด้วยเรทราคา ก็จะได้ราคาค่าบริการเบื้องต้นแล้ว

2. เหมาตู้คอนเทนเนอร์ ราคาเท่าไหร่

  • คอนเทนเนอร์ขนาด 20 ฟุต 28 คิว ราคาขนส่งทางเรือประมาณ 60,000 – 100,000 บาท
  • คอนเทนเนอร์ขนาด 40 ฟุต 68 คิว ราคาขนส่งทางเรือประมาณ 100,000 – 200,000 บาท

4 ธุรกิจที่เหมาะสำหรับกับการขนส่งแบบเหมาตู้

ภาพ: การขนส่งแบบเหมาตู้

1. ธุรกิจการผลิตและจัดจำหน่ายสินค้า

ธุรกิจที่ผลิตสินค้าเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ของใช้ในบ้าน หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เหมาะมากสำหรับการใช้บริการขนส่งแบบเหมาตู้คอนเทนเนอร์ เนื่องจากธุรกิจนี้จะมีปริมาณสินค้าจำนวนมาก ทำให้การเหมาตู้จะช่วยประหยัดทั้งเวลาการขนส่งและประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย

2. ธุรกิจค้าปลีก

ส่วนธุรกิจค้าปลีกที่ต้องนำเข้าสินค้าจากจีน หัวใจสำคัญคือการลดต้นทุนของสินค้า เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้เป็นอย่างดี ดังนั้นการใช้บริการแบบเหมาตู้จะช่วยให้สั่งสินค้าได้ในปริมาณมาก เพื่อลดค่าใช้จ่ายต่อชิ้น แถมยังช่วยให้มีสต๊อกสินค้าไว้รับความต้องการของลูกค้า

3. ธุรกิจเกษตรและอาหาร

สำหรับธุรกิจอีกประเภทที่เหมาะกับการใช้บริการขนส่งแบบเหมาตู้คือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรและอาหาร เช่น ผักสด ผลไม้ หรือสินค้าเกษตรอื่นๆ เพราะสินค้าเหล่านี้ต้องการความสดใหม่ และการรักษาคุณภาพวัตถุดิบต่าง ๆ ให้ดีที่สุด ระยะเวลาและความรวดเร็วจึงสำคัญมาก

4. ธุรกิจเทคโนโลยี

บริษัทที่นำเข้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์หรือชิ้นส่วนที่มีมูลค่าสูง เช่น คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ไอที อาจใช้บริการขนส่งแบบเหมาตู้คอนเทนเนอร์เพื่อป้องกันความเสียหายและรักษาคุณภาพสินค้า

การขนส่งแบบเหมาตู้คอนเทนเนอร์เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจที่มีการผลิตหรือจัดจำหน่ายสินค้าปริมาณมาก และถ้ายิ่งได้บริษัทขนส่งสินค้าจากจีนที่เชี่ยวชาญและชำนาญด้านการนำเข้าสินค้าจากประเทศจีนมาไทย ด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์ทำงานแบบมืออาชีพ พร้อมให้บริการอย่างครบวงจร ก็จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จในตลาดโลกอย่างยั่งยืน

สทร. ปั้นเด็กไทยพลิกโฉมรถไฟแห่งอนาคต ชูเทคโนโลยีระบบราง สร้างอุตสาหกรรมใหม่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// สถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (สทร.) จัดประกวดไอเดีย “รถไฟในฝัน” ระดับเยาวชน เตรียมสร้างคนรองรับอุตสาหกรรมใหม่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย พร้อมเร่งจัดทำยุทธศาสตร์ด้านเทคโนโลยีระบบรางแบบบูรณาการ

เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2567 ที่ ห้องบอลรูม B โรงแรมปทุมวันปริ๊นเซส ดร.จุลเทพ ขจรไชยกูล ผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) หรือ สทร. ภายใต้กระทรวงคมนาคม ได้แถลงเปิดตัวโครงการ “คิดใหญ่ไปให้สุดราง” (Think Beyond Track) ซึ่งเป็นการประกวดความคิดสร้างสรรค์ระดับเยาวชนในหัวข้อ “รถไฟในฝัน” พร้อมเปิดวิสัยทัศน์และพันธกิจของ สทร. ในการจัดทำยุทธศาสตร์ด้านเทคโนโลยีระบบรางของประเทศ
ดร.จุลเทพ เปิดเผยว่า โครงการนี้ถือเป็นกิจกรรมนำร่องของ สทร. ซึ่งเป็นสถาบันหลักด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง และมีพันธกิจสำคัญด้านหนึ่งคือ การพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับการสร้างอุตสาหกรรมระบบรางของประเทศ จึงได้ริเริ่มจัดโครงการประกวดความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับการพัฒนาระบบราง โดยพุ่งเป้าที่กลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ เชิญชวนให้นักเรียน นักศึกษา อายุระหว่าง 16-22 ปี ในจังหวัดที่มีรถไฟสายหลักวิ่งผ่าน ร่วมส่งผลงานเข้าประกวดภายใต้หัวข้อ “รถไฟในฝัน” โดยมีรางวัลเป็นเงินทุนการศึกษารวม 420,000 บาท ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาทักษะของเยาวชนในการคิดสร้างสรรค์และนำเสนอไอเดียที่สามารถต่อยอดไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมระบบรางในอนาคต โดยผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดการสมัครเข้าร่วมโครงการและส่งผลงานได้ทางเว็บไซต์ www.คิดใหญ่ไปให้สุดราง.net

“ภารกิจหลักของ สทร. คือ การพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง เพื่อสร้างอุตสาหกรรมระบบรางของไทย เราคาดหวังว่าอุตสาหกรรมนี้จะเป็นอุตสาหกรรมใหม่ที่จะช่วยผลักดันเศรษฐกิจของประเทศ และสามารถยกระดับขีดความสามารถของไทยให้เป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมระบบรางในภูมิภาคอาเซียน ดังนั้น การเตรียมความพร้อมด้านบุคลากรเพื่อป้อนสู่อุตสาหกรรมระบบราง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องรีบดำเนินการ โดยเฉพาะการสร้างความตระหนักในกลุ่มเยาวชนซึ่งจะเป็นกำลังหลักของอุตสาหกรรมนี้ในอนาคต เราจึงริเริ่มจัดโครงการประกวดความคิดสร้างสรรค์การพัฒนาระบบราง และหวังว่ากิจกรรมนำร่องครั้งนี้จะสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของระบบราง และมองเห็นโอกาสด้านอาชีพในอุตสาหกรรมใหม่นี้” ดร.จุลเทพ กล่าว

นอกจากนี้ ดร.จุลเทพ ยังกล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทบาทของ สทร.ว่า สทร. เป็นสถาบันที่จัดตั้งขึ้นภายใต้กระทรวงคมนาคม ตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) พ.ศ.2564 เพื่อบูรณาการความเชี่ยวชาญและทรัพยากรจากทุกภาคส่วน ในการยกระดับขีดความสามารถทางเทคโนโลยีและสร้างอุตสาหกรรมระบบรางของประเทศ โดยมีภารกิจหลักที่สำคัญคือ การสร้างยุทธศาสตร์ด้านเทคโนโลยีระบบราง เพื่อสนับสนุนนโยบายและยุทธศาสตร์ระดับชาติและระดับกระทรวง โดยบูรณาการทิศทางและความร่วมมือของ 3 ภาคส่วน ประกอบด้วย ส่วนของผู้กำหนดนโยบาย ส่วนของผู้เดินรถและอุตสาหกรรม และส่วนของนักวิจัย/นักวิชาการ ให้ครอบคลุมทั้งบริบทด้านเทคโนโลยีระบบราง บริบทด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยกำหนดลำดับความสำคัญอย่างชัดเจนและเป็นระบบ พร้อมกำหนด Roadmap ตัวชี้วัด มาตรการ กลไก และผู้เล่นสำคัญในระบบนิเวศการสร้างอุตสาหกรรมระบบราง

ภารกิจหลักของ สทร. ยังประกอบด้วย การวิจัยและพัฒนานวัตกรรม การสร้างมาตรฐานระบบรางและระบบการทดสอบด้านระบบราง การร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศในการรับ แลกเปลี่ยน และถ่ายทอดเทคโนโลยีระบบราง รวมไปถึงการพัฒนาบุคลากรด้านระบบราง และการจัดทำฐานข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีระบบรางด้วย

ที่ผ่านมา สทร. ได้สร้างความร่วมมือกับบริษัทชั้นนำระดับโลกเพื่อพัฒนาองค์ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีระบบราง ควบคู่ไปกับการเตรียมความพร้อมด้านบุคลากรผ่านการฝึกอบรม และการส่งเสริมหลักสูตรด้านการศึกษาเกี่ยวกับระบบราง เพื่อสร้างอุตสาหกรรมระบบรางซึ่งใช้เทคโนโลยีที่พัฒนาโดยคนไทยและใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศ อีกทั้งยังมีการประเมินศักยภาพของผู้ประกอบการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ของไทยในเบื้องต้นว่า จะสามารถเป็นผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมระบบรางตามมาตรฐานระดับโลกได้หรือไม่

“ตอนนี้ผู้ประกอบการและแรงงานในอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์กำลังได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีจากรถยนต์สันดาปมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้า การสร้างอุตสาหกรรมระบบรางโดยอาศัยเทคโนโลยีที่เป็นของคนไทย จะสามารถช่วยแก้ปัญหาผลกระทบเชิงเศรษฐกิจและสังคมได้อีกทางหนึ่ง และอุตสาหกรรมนี้จะเป็นเครื่องยนต์ตัวใหม่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ” ผอ. สทร. กล่าวทิ้งท้าย :Cr;มณสิการ รามจันทร์ 

D-PREP International Schoolเฉลิมฉลองหมุดหมายใหม่แห่งการเรียนรู้ผ่านการเปิด Secondary Campus สุดยิ่งใหญ่

0

D-PREP International Schoolเฉลิมฉลองหมุดหมายใหม่แห่งการเรียนรู้ผ่านการเปิด Secondary Campus สุดยิ่งใหญ่

24 ตุลาคม 2567 – โรงเรียนนานาชาติ D-PREP International School เฉลิมฉลองพิธีเปิด Secondary Campus สุดยิ่งใหญ่ ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของการส่งมอบประสบการณ์การเรียนรู้ครั้งใหม่ สำหรับนักเรียนในระดับ Middle & High School (เกรด 6-12) โดยการเปิดแคมปัสแห่งใหม่ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสุดล้ำสมัยในครั้งนี้ เกิดขึ้นเพื่อสานต่อเจตนารมณ์ของทางโรงเรียน สำหรับการส่งมอบหลักสูตรการศึกษาที่ครอบคลุม ร่วมกับการพัฒนาทักษะการเป็นผู้นำ ภายใต้บรรยากาศการเรียนรู้ที่ทันสมัย
นอกจากนี้ ทางโรงเรียนนานาชาติ D-PREP International School เป็นหนึ่งในสมาชิกอันทรงเกียรติของ XCL Education กลุ่มการศึกษาระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่พร้อมส่งมอบการศึกษาที่มุ่งเน้นอนาคตแก่นักเรียนมาแล้วกว่า 29,000 คน และยังเป็นโรงเรียนในเครือเดียวกับโรงเรียนนานาชาติ XCL American School of Bangkok, Sukhumvit อีกเช่นเดียวกัน
โดยพิธีเปิด D-PREP Secondary Campus ในครั้งนี้ จัดขึ้นในวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2567 เวลา 9:00 น. เริ่มต้นโดยการกล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ และสมาชิกผู้ทรงคุณวุฒิในวงการการศึกษา โดย คุณ Gilles Mahe ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่มการศึกษา XCL Education และ คุณเลดี้ ดิษยะศริน ตะเวทิกุล ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการโรงเรียนนานาชาติ D-PREP International School
งานในครั้งนี้ได้รับเกียรติการเข้าร่วมจากหลากหลายองค์กรชั้นนำของประเทศไทย อาทิ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสมุทรปราการ แสนสิริ ท็อปกอล์ฟ โรงพยาบาลสมิติเวช เมกาบางนา และธนาคารกสิกรไทย เป็นต้น โดยคณะผู้บริหารของโรงเรียนยังได้แบ่งปันวิสัยทัศน์สำหรับการสร้างโรงเรียนนานาชาติ D-PREP International School ขึ้น ตามด้วยมอบรางวัลแก่ช่างภาพผู้ชนะการประกวดถ่ายภาพ D-PREP Secondary Campus ‘Dream Capture Photo Contest’ ที่ผ่านมา พร้อมปิดงานด้วยการนำแขกผู้มีเกียรติทุกท่านเข้าเยี่ยมชมพื้นที่การเรียนรู้ภายในโรงเรียน รวมถึงพิธีเปิดสุดเซอร์ไพรส์ในตอนท้าย
หลักสูตรที่ครอบคลุมและล้ำสมัยของ D-PREP International School
โรงเรียนนานาชาติ D-PREP International School มุ่งมั่นในการส่งมอบการศึกษาหลักสูตรอเมริกัน พร้อมผสานแนวทางการเรียนรู้ชั้นนำจากทั่วโลก ไม่ใช่เพียงเพื่อให้เกิดความแตกต่าง แต่เป็นไปเพื่อให้เหมาะกับการเสริมสร้างพัฒนาการของนักเรียนในแต่ละช่วงวัยได้อย่างเหมาะสมที่สุด
• Early Years (เตรียมอนุบาล-อนุบาล): Reggio Emilia และ International Baccalaureate (IB PYP)
หลักสูตรสำหรับนักเรียนระดับ Early Years ได้รับแรงบันดาลใจจากปรัชญาการเรียนรู้แบบ Reggio Emilia ซึ่งพร้อมเปิดโอกาสให้นักเรียนในวัยเด็กได้สำรวจโลกอย่างอิสระ ผ่านการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ และการรู้จักสงสัยและสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ
• Primary Years (เกรด 1-5): IB Primary Years Programme (PYP)
หลักสูตรสำหรับนักเรียนระดับ Primary Years จะกระตุ้นให้นักเรียนอายุระหว่าง 7-11 ปี เกิดความสงสัยและพัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ ผ่านการรู้จักตั้งคำถาม และการพยายามค้นพบคำตอบด้วยตนเอง เพื่อเป็นรากฐานด้านวิชาการต่อไปในอนาคต
• Middle School (เกรด 6-8): Expeditionary Learning (EL)
นักเรียนในระดับ Middle School จะได้เรียนรู้ผ่าน “การออกสำรวจ” เพื่อเปิดโอกาสในการประยุกต์ใช้ความรู้ที่ได้รับจากในห้องเรียน สู่ประสบการณ์ในชีวิตจริง โดยแนวทางการเรียนรู้ดังกล่าวจะช่วยให้นักเรียนได้ค้นพบความชอบ ตัวตน และความโดดเด่นของตนเอง
• High School (เกรด 9-12): Advanced Placement (AP) Program
หลักสูตรสำหรับนักเรียนระดับ High School จะมุ่งเน้นในการเตรียมพร้อมนักเรียนสู่การเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย ผ่านการเลือกเรียนรายวิชาต่างๆ ใน Advanced Placement (AP) Program ซึ่งยังเป็นโอกาสที่นักเรียนจะสามารถแลกเปลี่ยนเป็นหน่วยกิตเมื่อเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ ทางโรงเรียนยังมี 3 โปรแกรมการศึกษาให้นักเรียนได้เลือกเรียนตามความสนใจ ได้แก่ โปรแกรม STEAM (มุ่งเน้นด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ ศิลปะ และคณิตศาสตร์), โปรแกรม Global Leadership and Entrepreneurship, และโปรแกรม Individualized Passion Program

สิ่งอำนวยความสะดวกสุดล้ำสมัย
ที่ Secondary Campus แห่งใหม่ พื้นที่การเรียนรู้จะครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่พร้อมสนับสนุนนักเรียนทุกคน ทั้งในด้านวิชาการและกิจกรรมภายนอกห้องเรียน
• ห้องเรียนสุดล้ำสมัย: ออกแบบขึ้นเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกัน ผ่านอุปกรณ์การเรียนรู้และการออกแบบห้องเรียนให้มีความยืดหยุ่นและทันสมัย
• ห้องเรียน Design Technology: ออกแบบขึ้นเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้านวิศวกรรมศาสตร์ การออกแบบ และการเรียนรู้แบบ STEAM
• ห้อง Esports และ ICT: ออกแบบขึ้นเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และตอบรับกับความสนใจของนักเรียนในด้านเกมและนวัตกรรมดิจิทัล
• สวนบนดาดฟ้า และพื้นที่การเรียนรู้นอกห้องเรียน: พื้นที่สีเขียวทั่วบริเวณโรงเรียน ออกแบบขึ้นเพื่อปลูกฝังความรักต่อธรรมชาติ และการเรียนรู้สุดสร้างสรรค์ภายนอกห้องเรียน
• พื้นที่สำหรับการกีฬา: ครบครันด้วยพื้นที่สำหรับการกีฬา ทั้งภายในและภายนอกตัวอาคาร เพื่อสนับสนุนการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางด้านร่างกาย และกิจกรรมกีฬาอื่นๆ เช่น กีฬากายกรรม เป็นต้น
ส่งมอบการศึกษามากคุณภาพด้วยความมุ่งมั่น
นอกจากนี้ ที่ Secondary Campus ของโรงเรียนนานาชาติ D-PREP International School ไม่เพียงแต่พร้อมส่งมอบการศึกษาที่เข้มข้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างการพัฒนาตัวตน ทักษะการเป็นผู้นำ และทักษะด้านการเข้าสังคมอย่างรอบด้าน ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่หลากหลาย เพื่อให้นักเรียนทุกคนตระหนักรู้ต่อการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม และพร้อมสู่การเป็นประชาคมโลกที่มีคุณภาพต่อไป

เกี่ยวกับโรงเรียนนานาชาติ D-PREP International School:
D-PREP International School หนึ่งในสมาชิกของ XCL Education และเครือข่ายเดียวกับ American School of Bangkok มุ่งมั่นในการส่งมอบการศึกษาที่ล้ำสมัย ผ่านการประยุกต์ใช้หลากหลายแนวทางการสอน ไม่ว่าจะเป็น Reggio Emilia Approach, Project-based Learning, หลักสูตร IB PYP เข้ากับหลักสูตรอเมริกันสุดล้ำสมัย เพื่อช่วยให้นักเรียนในระดับชั้น Nursery จนถึง High School ได้ค้นพบศักยภาพและความฝัน พร้อมส่งมอบสิ่งดีๆ ให้กับสังคมรอบข้างและโลกของเรา นอกจากนี้ ทางโรงเรียนยังพร้อมปลูกฝังความรักในการเรียนรู้ และการเป็นพลเมืองโลก ผ่านค่านิยมหลัก CO-CREATORS อีกด้วย

สำนักข่าวเนตรทิพย์-ท้องกินข้าว สมองกินข่าว!

0

https://linevoom.line.me/?utm_medium=windows&utm_source=desktop&utm_campaign=GNB_timeline
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

เก็บค่าผ่านทางเข้าย่านธุรกิจ หาเงินซื้อสัมปทานรถไฟฟ้าคืน

0

https://www.natethip.com/news.php?id=9109
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

เกษตรตรวจเข้ม “คุณภาพ พืช/ผัก ผลไม้ ส่งออก” 200,000 ล้าน

0

https://www.natethip.com/news.php?id=9108
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

พม. ชูนโยบาย 5×5 ฝ่าวิกฤตประชากร – ความพร้อมรองรับสังคมสูงอายุ ของไทย ในเวทีนโยบายด้านสังคม เอเชียตะวันออก-แปซิฟิก

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2567 นางจตุพร โรจนพานิช รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้มอบหมายตนเข้าร่วมการประชุมนโยบายด้านสังคมระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก (Regional Social Policy Conference, East Asia and Pacific) พร้อมด้วยนางอภิญญา ชมภูมาศ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 22-23 ตุลาคม 2567 ณ เมืองกูชิง ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นการประชุมภายใต้ความร่วมมือระหว่าง UNICEF และศูนย์วิจัยสวัสดิการสังคม (SWWRC) มหาวิทยาลัยมาลายา ร่วมกับกระทรวงพัฒนาสตรี เด็กปฐมวัย และการพัฒนาชุมชน (KPWK) ประเทศมาเลเซีย

นางจตุพร กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (22 ต.ค. 67) ตนได้ร่วมบรรยายในหัวข้อ “Ageing Trends in East Asia and the Pacific: Challenges and Ways Forward for Social Policies” โดยชี้ให้เห็นถึงความท้าทายที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างรวดเร็ว ทำให้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อโครงสร้างสังคมไทย  ทั้งนี้ ประเทศไทยมีการเตรียมการเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุในหลายมิติ อาทิ การตรากฎหมาย  คือ พระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และการจัดทำยุทธศาสตร์ด้านผู้สูงอายุระยะยาว คือ แผนปฎิบัติการด้านผู้สูงอายุ ระยะที่ 3 (พ.ศ.2566-2580) นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีระบบการคุ้มครองทางสังคมที่ครอบคลุมทุกช่วงวัย รวมถึง ระบบประกันสังคม บริการทางสังคม และการช่วยเหลือสังคมสำหรับผู้สูงอายุ

อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังเผชิญกับความท้าทายเกี่ยวกับการคุ้มครองทางสังคมอันเนื่องมาจากการเข้าสู่สังคมสูงอายุ เช่น ข้อจำกัดด้านงบประมาณ การลดลงของประชากรวัยแรงงาน และปัญหาสุขภาพของผู้สูงอายุ อีกทั้ง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังส่งผลกระทบต่อผู้สูงอายุในพื้นที่ห่างไกล ทำให้มีความจำเป็นในการปรับนโยบายเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง

นางจตุพร กล่าวว่า กระทรวง พม. ได้ขับเคลื่อนนโยบาย “5×5 ฝ่าวิกฤตประชากร (5×5 Let’s Turn the Tide)” ซึ่งเป็นนโยบายของนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  เพื่อรับมือกับความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร  โดยมุ่งเน้นการทำงานเชิงบูรณาการ เพื่อคนทุกช่วงวัย ได้แก่ เสริมพลังวัยทำงาน เพิ่มคุณภาพและผลิตภาพของเด็กและเยาวชน: เด็กน้อย  แต่เปี่ยมด้วยคุณภาพ สร้างพลังผู้สูงอายุ  พลิกวิกฤตทางประชากรให้เป็นโอกาส เพิ่มโอกาสและสร้างเสริมคุณค่าของคนพิการ และสร้างระบบนิเวศ (Eco-system) ที่เหมาะสมเพื่อพัฒนาความมั่นคงของครอบครัว

นางจตุพร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงท้ายของการบรรยาย ตนได้เน้นย้ำถึงความพร้อมของประเทศไทยในการทำงานอย่างใกล้ชิดกับทุกประเทศในภูมิภาค และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันพลิกวิกฤตประชากรให้เป็นโอกาสใหม่ ๆ ซึ่งความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในประชุมครั้งนี้จะช่วยให้ประเทศไทยและภูมิภาค สามารถพัฒนานโยบายสังคมที่ตอบสนองความต้องการของประชากรสูงอายุได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งหวังที่จะปรับเปลี่ยนความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรให้กลายเป็นโอกาสในการพัฒนาสังคมในอนาคต

สำหรับการประชุมนโยบายด้านสังคมระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก (Regional Social Policy Conference, East Asia and Pacific) เป็นเวทีสำคัญสำหรับผู้กำหนดนโยบายจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง นักวิจัย ผู้เชี่ยวชาญด้านประชากรศาสตร์ และผู้ปฏิบัติงานด้านการพัฒนาเด็ก การเงินสาธารณะ และการคุ้มครองทางสังคม

เพื่อร่วมกันทบทวนบทบาทของการคุ้มครองทางสังคมในการรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ในสังคม โดยเฉพาะการตระหนักถึงความเชื่อมโยงระหว่างแนวโน้มประชากรสูงวัย นโยบายทางสังคมที่คำนึงถึงเด็ก และผลิตภาพทางเศรษฐกิจ พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนประสบการณ์ องค์ความรู้ เพื่อสำรวจแนวทางแก้ไขที่สามารถนำมาปฏิบัติในภูมิภาค รวมถึงเสริมสร้างเครือข่ายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสนับสนุนงานอย่างต่อเนื่อง#ข่าวพม #พม #ศรส #esshelpme #1300 #วราวุธศิลปอาชา #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #พมหนึ่งเดียว #เด็ก #ผู้สูงอายุ #5×5 ฝ่าวิกฤตประชากร #วิกฤตประชากร :Cr;มณสิการ รามจันทร์ 

เชิญขนหัวลุกกับเครื่องดื่มฮาโลวีน ที่โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์

0

เชิญขนหัวลุกกับเครื่องดื่มฮาโลวีน ที่โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์
Drink or Treat มาร่วมดื่มด่ำรสชาติที่เต็มไปด้วยความลึกลับและความมหัศจรรย์กับเครื่องดื่มสุดพิเศษชวนขนหัวลุก 3 สไตล์ ในบรรยากาศฮาโลวีนกันที่โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ตุลาคม 2567

– Secret Room: เปิดประตูสู่ความลับของรสชาติ ม็อกเทลนี้ทำจากสตรอเบอร์รี่ไซรัปหอมหวานนุ่มนวล ผสมผสานน้ำลิ้นจี่ น้ำแอปเปิ้ล และน้ำมะนาว ท็อปด้วยน้ำอัญชันและโซดา ให้ความสดชื่นหวานอมเปรี้ยวซาบซ่าสบายใจ เพียงแก้วละ 159 บาท

– The Ghost Eyes: เปิดโลกของดวงตาลึกลับที่นำคุณสู่ค็อกเทลสุดพิเศษผสมความสดชื่นและหอมหวานของสตรอเบอร์รี่และลิ้นจี่ เสริมด้วยความเปรี้ยวซ่าของเลม่อน สร้างความลงตัวที่น่าตื่นเต้น เพียงแก้วละ 199 บาท

– The Witch Magic: สัมผัสอำนาจแห่งเวทย์มนต์กับค็อกเทลสีส้มสดใสที่ให้รสชาตินุ่มลึก ร่วมกับน้ำส้มคั้นสดและน้ำเชื่อมมะนาว คุณจะรู้สึกสดชื่นแบบไม่น่าเชื่อ เพียงแก้วละ 199 บาท

ส่วนมื้อเย็นวันที่ 31 ตุลาคมอิ่มอร่อยกับบุฟเฟต์นานาชาติที่รวมซีฟู้ดและซูชิพรีเมียม ในบรรยากาศฮาโลวีนให้คุณรู้สึกสัมผัสได้ถึงความหลอน ตั้งแต่เวลา 18.00 – 22.00 น. ที่ห้อง ดิเอมเมอรัลด์ ค็อฟฟี่ช็อพ โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ เพียงท่านละ 1,111 บาทถ้วน (จากราคาปกติ 1,700 บาท)

สำรองโต๊ะล่วงหน้าได้ที่โทร. 0-2276-4567 ต่อ 8413 และ Line : @theemeraldhotel หรือ www.facebook.com/theemeraldcoffeeshop

สำนักข่าวเนตรทิพย์-ท้องกินข้าว สมองกินข่าว!

0

https://linevoom.line.me/?utm_source=chrome_app&utm_medium=windows
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)