http://www.natethip.com/news.php?id=7344
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
http://www.natethip.com/news.php?id=7344
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
http://www.natethip.com/news.php?id=7343
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
http://www.natethip.com/news.php?id=7342
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด ขออภัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางบริษัทจะรับผิดชอบค่าเสียหาย และดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บทุกรายอย่างเต็มที่
ล่าสุดเพจเฟซบุ๊ก ไทยสมายล์บัส ได้ชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า ทางบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด ขออภัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางบริษัทจะรับผิดชอบค่าเสียหาย และดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บทุกรายอย่างเต็มที่ เบื้องต้นทางบริษัทฯ ได้ส่งทีมตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบว่าตัวรถบัสโดยสารพลังงานไฟฟ้า สาย S7 เบอร์ 11 ของอู่เคหะธนบุรี ระบบของรถบัสโดยสารพลังงานไฟฟ้า ไม่มีความผิดปกติใดๆ ทั้งเรื่องของระบบไฟฟ้า และระบบควบคุมการเบรก จึงยืนยันว่าสาเหตุของการชนครั้งนี้ ไม่ได้เกิดจากความผิดปกติของระบบตัวรถบัสโดยสารพลังงานไฟฟ้า ซึ่งตามขั้นตอนปกติก่อนเดินรถในทุกวัน ทุกอู่จะทำการตรวจสอบความพร้อมของรถอย่างสม่ำเสมอ
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังได้ทำการสอบสวนพนักงานขับรถเป็นที่เรียบร้อย ตัวพนักงานขับรถยอมรับว่า ตนเองมีปัญหาส่วนตัวพักผ่อนน้อย ตอนขับรถเคลื่อนตัวไปจึงเกิดอาการตกใจ เมื่อตั้งใจจะเหยียบเบรกรถ กลับไปเหยียบคันเร่งแทน ทำให้ความเร็วของรถพุ่งตัวไปจนตัวเองเสียการควบคุมไปชั่วขณะส่วนตัวตกใจเลยให้สำภาษณ์สื่อมวลชนบางสื่อว่าเบรคแตก
ส่วนมาตรการของทางบริษัทฯ จะดำเนินการลงโทษพนักงานขับรถตามมาตรการขั้นสูงสุด พร้อมกำชับแนวทางป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีกในอนาคต ทางบริษัทฯ ขออภัยกับผู้บาดเจ็บและครอบครัวทุกท่านมา ณ โอกาสนี้.
https://linevoom.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1169577292804263606
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
พิมพ์ไทยออนไลน์//เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2566 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) และมอบนโยบายสำคัญในการขับเคลื่อนงานด้านเด็กและเยาวชน ว่า เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของเด็ก เยาวชน และครอบครัว เราต้องเน้นการคิดนอกกรอบ และการทำงานเชิงยุทธศาสตร์ในประเด็นสำคัญ ๆ ที่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน ตนขอฝากข้อคิดในการทำงาน โดยขอให้ความสำคัญกับการสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจแก่สังคมและการสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ รวมถึงภาคเอกชน ที่มุ่งเห็นประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชนจากความร่วมมือนั้น ๆ อย่างแท้จริง
ทั้งนี้ กรมกิจการเด็กและเยาวชน จะต้องทำงานที่ท้าทายมากขึ้นและร่วมกับส่วนราชการทั้งภายในและภายนอกกระทรวง พม. เพื่อการทำงานในอนาคต โดยตนพร้อมที่จะร่วมมือผลักดันแก้ไขข้อขัดข้องที่เป็นอุปสรรค สำหรับประเด็นเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดนั้น ควรพิจารณาให้เด็กกลุ่มเป้าหมายได้เข้าถึงสิทธิอย่างทั่วถึง ครบถ้วน และสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยมีศักยภาพในการดูแลเด็กให้มีพัฒนาการ และสุดท้ายที่สำคัญคือ ผู้ใหญ่ในสังคมต้องเป็นต้นแบบที่ดีสำหรับเด็กและเยาวชน
นายวราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ตนได้ตรวจเยี่ยมกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) และมอบนโยบายสำคัญในการขับเคลื่อนงานด้านผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็น การส่งเสริมให้ผู้สูงอายุเป็นคลังปัญญาให้คำแนะนำแก่คนรุ่นต่อไป รวมถึงการอยู่ร่วมกันระหว่างรุ่น (Intergenerational House) การส่งเสริมให้ผู้สูงอายุใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและมีพฤฒิพลัง (Active Ageing) ด้วยการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม การจ้างงานผู้สูงอายุที่มุ่งเน้นลักษณะงานที่เหมาะสม การปรับที่พักอาศัยแบบ Universal Design การดูแลผู้สูงอายุตั้งแต่ก่อนสูงวัยทุกมิติ อาทิ การบริหารเงินออม และความรู้ Cyber Security เป็นต้น การให้ความช่วยเหลือผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มเปราะบางต่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลงทางสภาพแวดล้อม (Climate Change) การสร้างรายได้ให้ผู้สูงอายุในศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ (ศพส.) ด้วยการคัดแยกขยะแล้วเปลี่ยนเป็นเงิน และการเชื่อมโยง Database “พม. หนึ่งเดียว” ระหว่างกรมต่างๆ โดยเฉพาะการดึงศักยภาพของภาคเอกชนมาใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ เพราะ กระทรวง พม. เพียงหน่วยงานเดียว ไม่สามารถทำงานสำเร็จได้#ช่วย24ชั่วโมง #พม24ชม #ข่าวพม #esshelpme #วราวุธรับฟังทำจริง
#พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม#กระทรวงพม #รมวพม #รับฟังทำจริง :Cr;มณสิการ รามจันทร์
พิมพ์ไทยออนไลน์//จากเหตุการณ์เด็กชายวัย 6 ขวบที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากวัตถุระเบิดในกระเป๋าขณะเล่นกับพี่ชายที่สนามเด็กเล่นภายในโครงการเคหะชุมชนฉะเชิงเทรา 2 เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ได้มอบหมาย นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เร่งเยียวยาให้ความช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด และเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2566 นายเทพฤทธิ์ ฤทธิณรงค์ ผู้ช่วยผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ ได้รับมอบหมายให้นำกระเช้าและเงินสดมอบให้คุณยายของเด็กชายคนดังกล่าว ณ โรงพยาบาลพุทธโสธร ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา
นายเทพฤทธิ์ ฤทธิณรงค์ ผู้ช่วยผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า การเคหะแห่งชาติได้รับแจ้งว่ามีเด็กชายวัย
6 ขวบและพี่ชายอีก 2 คน พบกระเป๋าปริศนาที่สนามเด็กเล่น และเมื่อเปิดกระเป๋าออกดูจึงเกิดระเบิดขึ้น ทำให้เด็กชายวัย 6 ขวบได้รับบาดเจ็บสาหัส ในเบื้องต้นการเคหะแห่งชาติได้มอบหมายให้ นายวีระศักดิ์ ระโหฐาน เคหะจังหวัดฉะเชิงเทรา ลงพื้นที่ร่วมกับ นายเอกชัย ชื่นอารมณ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ตำบลสนามจันทร์ อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา และเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรแสนภูดาษ ตรวจสอบพื้นที่เพิ่มเติมพบว่า บริเวณสนามเด็กเล่นยังเป็นพื้นที่อันตรายห้ามเข้า และพบวัตถุอันตรายเพิ่มเติม เช่น ระเบิดแบบไทยประดิษฐ์ 1 ลูก มีดหัวตัด 1 เล่ม และอุปกรณ์เสพยาเสพติด
ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิดเข้ามาเก็บกู้วัตถุระเบิดและนำไปทำลาย พร้อมได้มีการประกาศแจ้งงดใช้พื้นที่สนามเด็กชั่วคราว เพื่อกันพื้นที่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบพื้นที่เพิ่มเติมต่อไป ด้านเด็กชายวัย 6 ขวบ หลังเกิดเหตุญาติได้รีบนำส่งโรงพยาบาลทันที และได้รับการรักษาแล้ว จำเป็นต้องตัดนิ้วกลางข้างขวาออกหนึ่งข้อเนื่องจากกระดูกแตก ไม่สามารถต่อกลับมาให้ใช้งานตามปกติได้ ส่วนบริเวณดวงตาเกิดอาการบวมจากแรงกระแทกของระเบิด ซึ่งแพทย์แจ้งว่าดวงตาสามารถใช้งานได้ตามปกติ และอาการโดยรวมปลอดภัยแล้ว
นายเทพฤทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเคหะแห่งชาติได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สำนักงานเคหะจังหวัดฉะเชิงเทราดำเนินการตามที่กล่าวข้างต้น ทั้งยังได้ประสานงานกับพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดฉะเชิงเทรา
เพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ ทั้งอาการทางกายและอาการทางด้านจิตใจ ในวันนี้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดฉะเชิงเทรา มอบหมายให้นางสาวกนกวรรณ พาณิชย์วัฒนากูล นักพัฒนาสังคมชำนาญการ
ร่วมลงพื้นที่กับบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดฉะเชิงเทรา และอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
(อพม.) เพื่อเยียวยาสภาพจิตใจของเด็ก และวางแผนการติดตามประเมินผลสภาพจิตใจ พร้อมทั้งประสานส่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากพบสภาวะปัญหาด้านอื่นๆ ที่ต้องแก้ไข นอกจากนี้ จะพิจารณาให้ความช่วยเหลือเป็นเงินสงเคราะห์ครอบครัวกรณีฉุกเฉิน จำนวน 3,000 บาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับครอบครัวระหว่างเด็กรักษาตัวที่โรงพยาบาลต่อไป” :Cr;มณสิการ รามจันทร์
พิมพ์ไทยออนไลน์//การแข่งขันอีสปอร์ต ในกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 “หางโจวเกมส์” ที่สนามไชน่า หางโจว อีสปอร์ต เซ็นเตอร์ เมืองหางโจว ประเทศจีน เมื่อวันที่ 26 กันยายน ทัพอีสปอร์ตไทยแข่งขัน รอบชิงเหรียญทองแดง ประเภททีม ของเกมดัง Arena of Valor หรือ AoV ซึ่งคอเกมเมอร์ไทยรู้จักกันในชื่อว่า RoV
รอบชิงเหรียญทองแดง ทัพอีสปอร์ตไทย ซึ่งประกอบด้วย Moss-สรวัชร์ บุญพรม, 007x-ชยุตม์ สืบค้า, MeMarkz-กวี วชิราพัศ, Miracle-อนุศักดิ์ แมนผดุง และ Summer-วัชรนันท์ ถาวร ออกสนามดวลศึกตีป้อมกับคู่ปรับในย่านอาเซียนอย่างทีมเวียดนาม
ผลปรากฏว่า ทัพอีสปอร์ตไทยโชว์สกิลเหนือชั้น ไล่ทุบทีมเวียดนามอย่างสะใจ ก่อนคว้าชัย 2-0 คว้าเหรียญทองแดง ซึ่งถือเป็นเหรียญแรกในประวัติศาสตร์ของทีมอีสปอร์ตไทยในเอเชี่ยนเกมส์
Cr..วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์
พิมพ์ไทยออนไลน์//การแข่งขันเทนนิส กีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่ สนามโอลิมปิกเทนนิส เซ็นเตอร์ เมืองหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2566 เป็นการแข่งขันวันที่สาม
ทีมนักหวดลูกสักหลาดไทยได้เฮจากการแข่งขัน ประเภทหญิงคู่ รอบสอง หรือ 16 คู่สุดท้าย เมื่อ “ออมสิน” อัญชิสา ฉันทะ ผนึกกำลังกับ “แน็ต” พัณณิน โควาพิทักษ์เทศ ช่วยกันปราบ “คู่เต็ง 3” อันกิต้า ไรน่า กับ ปรารถนา ทอมแบเร่ อินเดีย ได้สำเร็จ 2-0 เซต 7-5 และ 6-2 ในเวลาแข่งขันเกือบ 2 ชั่วโมง
อัญชิสา กับ พัณณิน ควงแขนเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ หรือ 8 คู่สุดท้าย ไปพบ หลี่ ย่า ซวน กับ เหลียง เอิน ซัว คู่เต็ง 8 ของรายการ จากไต้หวัน ชนะ โกซาล ไอนิตดิโนวา กับ ซิเบค คูลัมบาเยว่า จากคาซัคสถาน 2-0 เซต 7-6 ไทเบรก 7-5 และ 6-4
นอกจากนี้มีการแข่งขันของนักเทนนิสไทยอีกหลายคู่ ซึ่งพยายามสู้อย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะคู่แข่งขันได้ มีผลดังนี้
ประเภทชายเดี่ยว รอบสาม (16 คน) “บูม” กษิดิศ สำเร็จ มือ 636 ของโลก ปราชัย คูโมยัน ซุลตานอฟ จากอุซเบกิสถาน มือวาง 13 ของรายการ และมือ 420 ของโลก 0-2 เซต 4-6, 2-6
หญิงเดี่ยว รอบสาม (16 คน) “ไหม” มนัญชญา สว่างแก้ว มือ 252 ของโลก และมือวาง 9 ของรายการ พ่าย ฮัน นา แล จากเกาหลีใต้ มือ 216 ของโลก และเต็ง 5 ของรายการ 1-2 เซต 6-1, 2-6 และ 5-7 ด้าน “รวงข้าว” ลัลนา ธาราฤดี มือ 249 ของโลก และเต็ง 8 ของรายการ แพ้ เคียวกะ โอกามุระ จากญี่ปุ่น มือ 323 ของโลก และเต็ง 11 ของรายการ อย่างน่าเสียดาย 1-2 เซต 6-4, 4-6 และ 4-6 หญิงคู่ รอบสอง (16 คู่) “ลักส์” ลักษิกา คำขำ กับ “เอิร์ธ” เพียงธาร ผลิพืช คู่เต็ง 4 ของรายการ พ่าย อัลดิล่า ซูตเจียดี้ กับ เจนิซ เจิน คู่อินโดนีเซีย 0-2 เซต 6-7 ไทเบรก 4-7 และ 3-6
Cr..วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์