พิมพ์ไทยออนไลน์// การแข่งขันเทนนิสอาชีพ รายการ “ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนชิพ 2021” ครั้งที่ 1 ชิงเงินรางวัลรวม 600,000 บาท พร้อมคะแนนสะสมอันดับประเทศไทย ที่ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี จัดขึ้นภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 เมื่อวันที่ 21 ก.พ. รอบชิงชนะเลิศ ประเภทชายเดี่ยวและหญิงเดี่ยว โดย พลเอก กู้เกียรติ ศรีนาคา อุปนายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบกและอดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานมอบรางวัลแก่นักกีฬา
ประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ นักเทนนิสในโครงการ “แอลทีเอที อะคาเดมี่” โคจรมาพบกัน ระหว่าง “บูม” กษิดิศ สำเร็จ มือวางอันดับ 2 ของรายการ อายุ 20 ปี จากกรุงเทพฯ ทีมชาติชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 30 พบกับ “ก็อต” กฤติน โกยกุล มือวางอันดับ 5 ของรายการ อายุ 25 ปี จากพังงา โดย กฤติน และ กษิดิศ นั้น เป็นคู่ชิงชนะเลิศชายเดี่ยวเทนนิสอาชีพ รายการ “ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนชิพ พรีเซนเต็ด บาย เอส เอ ที” รายการที่ 2 เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งแมทช์นั้น กฤติน เป็นฝ่ายชนะ 6-4, 6-3 ได้แชมป์ไปครอง

มอบรางวัล – พลเอก กู้เกียรติ ศรีนาคา อุปนายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานมอบรางวัลแก่นักกีฬาประเภทเดี่ยว เทนนิสอาชีพ รายการ “ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนชิพ 2021” ครั้งที่ 1 ที่ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 21 ก.พ.

มาถึงแมทช์นี้ ปรากฏว่า กษิดิศ ที่วางแผนแก้เกมการเล่นมาเป็นอย่างดี ใช้เวลาในการแข่งขันไปเพียง 57 นาที ก็สามารถเอาชนะ กฤติน ได้ขาดลอย 2-0 เซต ด้วยสกอร์ 6-1 และ 6-2 ทำให้ กษิดิศ ได้แชมป์ไปครอง รับเงินรางวัล จำนวน 60,000 บาท พร้อมคะแนนสะสมอันดับประเทศไทย 220 คะแนน ขณะที่ กฤติน ได้รองแชมป์ รับเงินรางวัล จำนวน 36,000 บาท พร้อมคะแนนสะสมอันดับประเทศไทย 140 คะแนน สำหรับ กษิดิศ สำเร็จ นั้น เป็นลูกชายของ วิทยา สำเร็จ อดีตนักเทนนิสทีมชาติไทย และปัจจุบันเป็นผู้ฝึกสอนกีฬาเทนนิสทีมชาติไทย

ประเภทหญิงเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ “อีฟ” พัชรินทร์ ชีพชาญเดช มือวางอันดับ 4 ของรายการ จากขอนแก่น วัย 26 ปี แชมป์หญิงเดี่ยวเทนนิสอาชีพ “ไทยแลนด์ แชมป์เปี้ยนชิพ พรีเซนเต็ด บาย เอส เอ ที” รายการที่ 1 เมื่อปีที่แล้วและ2 สองเหรียญทองแดงจากหญิงคู่และคู่ผสมซีเกมส์ 2019 พบนักหวดดาวรุ่ง “รวงข้าว” ลัลนา ธาราฤดี มือวางอันดับ 15 ของรายการ วัย 16 ปี จากนครศรีธรรมราช
เซตแรก พัชรินทร์ ออกสตาร์ทได้ดี และนำห่างถึง 5-1 ทว่า ลัลนา ที่พยายามเล่นตามฟอร์มของตัวเอง ทำให้ตีได้เฉียบขาด เก็บแต้มไล่มา 5-5 แต่พัชรินทร์ยังแข็งแกร่ง เก็บ 2 เกมรวดชนะไปได้ 7-5 และเล่นได้ดีต่อเนื่องในเซตที่สองคว้าชัย 2 เซตรวด 7-5 และ 6-2 โดยใช้เวลาในการแข่งขันไปทั้งสิ้น 1 ชั่วโมง 32 นาที พัชรินทร์ คว้าแชมป์ประเภทหญิงเดี่ยวไปครอง รับเงินรางวัลจำนวน 36,000 บาท พร้อมคะแนนสะสม 220 คะแนน ส่วน ลัลนา รองแชมป์ รับเงินรางวัลจำนวน 20,000 บาท พร้อมคะแนนสะสม 140 คะแนน
จากนั้นเนรอบชิงชนะเลิศ ประเภทคู่ นายภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา อุปนายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ที่ปรึกษาและประธานคณะทำงานยุทธศาสตร์และนโยบาย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานมอบรางวัลแก่นักกีฬา และมี นายภุชงค์ เลาหศิริวงศ์ กรรมการอำนวยการสมาคมกีฬาลอนเทนนิสฯ ฝ่ายจัดการแข่งขัน ร่วมด้วย

ชายคู่ ฐานทัพ สุขสำราญ (ลพบุรี) และ ปรัชญา อิสโร (สงขลา) คู่มือวาง 6 ชนะคู่มือวาง 5 กฤติน โกยกุล (พังงา) และ ภวิชญ์ สอนหลักทรัพย์ (ระยอง) ด้วยสกอร์ 0-6, 6-4 และซูเปอร์ไทเบรก 10-6 ได้ครองแชมป์ประเภทชายคู่ รับเงินรางวัลร่วมกัน 22,000 บาท พร้อมคะแนนสะสม 220 คะแนน ส่วนคู่รองแชมป์รับร่วมกัน 10,000 บาท และคะแนนสะสม 140 คะแนน
ส่วนหญิงคู่ พิมพ์รดา จัตวาพรวนิช (กทม.) และ กมลวรรณ บัวแย้ม (ชลบุรี) คู่มือวาง 3 ชนะ “เอิร์ธ” เพียงธาร ผลิพืช (นนทบุรี) และ ลัลนา ธาราฤดี (นครศรีธรรมราช) 7-6 (5), 4-6 และซูเปอร์ไทเบรก 10-2 ได้ครองแชมป์ประเภทหญิงคู่ รับเงินรางวัลร่วมกัน 15,700 บาท พร้อมคะแนนสะสม 220 คะแนน ส่วนคู่รองแชมป์รับร่วมกัน 7,800 บาท พร้อมคะแนนสะสม 140 คะแนน

คู่ผสม “อีฟ” ณิชาต์ เลิศพิทักษ์สินชัย (กทม.) และ “แมน” ณัฐนนท์ กัจฉปานันท์ (ยะลา) โชว์ฟอร์มล้มคู่มือวางอันดับ 1 ของรายการ “ต้อง” สรรค์ชัย รติวัฒน์ (กทม.) และ “อีฟ” พัชรินทร์ ชีพชาญเดช (ขอนแก่น) 6-7 (6-8), 7-5 และซูเปอร์ไทเบรก 10-7 ได้ครองแชมป์ประเภทคู่ผสม รับเงินรางวัลร่วมกัน 15,700 บาท พร้อมคะแนนสะสม 220 คะแนน ส่วนคู่รองแชมป์รับ 7,800 บาท พร้อมคะแนนสะสม 140 คะแนน
สำหรับการแข่งขันเทนนิสอาชีพ รายการ “ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนชิพ 2021” จัดครั้งที่ 2 ต่อเนื่อง วันที่ 22-28 ก.พ.2564 ที่ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี และมีการชิงเงินรางวัลรวม 600,000 บาท พร้อมคะแนนสะสมอันดับประเทศไทยเช่นกัน

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์// “ทองผาภูมิ” คึกคัก นักปั่นแห่จองที่พักจนเต็มทุกแห่ง เตรียมชิงชัยศึกสองล้อประเภทถนนและเสือภูเขา ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานฯ สนามที่ 1 วันที่ 5-7 มี.ค.64 ภายในเขื่อนวชิราลงกรณ รวมทั้งกิจกรรมขี่จักรยาน “ปั่นเพื่อสุขภาพ” ที่สนับสนุนโดย “สสส.” ที่หน้าเทศบาลตำบลทองผาภูมิ คาดว่าจะมีเงินสะพัดนับสิบล้านบาท เป็นการช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ-แหล่งท่องเที่ยว และสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนอย่างมหาศาล
“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้กำหนดจัดการแข่งขันจักรยานประเภทถนน ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์ภูมิพล” และการแข่งขันจักรยานประเภทเสือภูเขา ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมกับกิจกรรมขี่จักรยาน “ปั่นเพื่อสุขภาพ” ประจำปี 2564 สนามที่ 1 ในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ New Normal ที่อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ระหว่างวันที่ 5-7 มีนาคม ล่าสุด ตนเองพร้อมด้วยฝ่ายเทคนิคของสมาคมฯไปประชุมร่วมเทศบาลตำบลทองผาภูมิ และเขื่อนวชิราลงกรณ เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยมี นายวสันต์ กิมหวัง ปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลทองผาภูมิ, นายอภิรักษ์ ทองโต ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนวชิราลงกรณ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ที่เทศบาลตำบลทองผาภูมิ

พลเอกเดชา กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้ สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้นำเสนอมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในคู่มือที่ผ่านการพิจารณาและเห็นชอบจาก ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เรียบร้อยแล้ว ให้ทางอำเภอทองผาภูมิ ร่วมพิจารณาว่ามีมาตรการ หรือนโยบายใดเพิ่มเติมนอกเหนือไปจากนี้ โดยในช่วงวันที่ 12-14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา สมาคมฯจัดการแข่งขันจักรยานประเภทลู่ ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน “ควีนส์สิริกิติ์” สนามที่ 1 ซึ่งได้รับเกียรติจาก ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีเปิดการแข่งขัน โดยมีคณะทำงานจากกระทรวงสาธารณสุข มาเยี่ยมชมมาตรการจัดแข่งขันของสมาคมฯ ได้กล่าวชื่นชมว่าสมาคมกีฬาจักรยานฯ จัดการแข่งขันได้ดีเยี่ยม และมีมาตรฐานสูงมากการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และเป็นสมาคมต้นแบบให้แก่สมาคมกีฬาอื่น ๆ นำมาตรการไปประยุกต์จัดการแข่งขันต่อไป

พลเอกเดชา กล่าวว่า สำหรับกำหนดการแข่งขัน วันศุกร์ที่ 5 มีนาคม แข่งขันประเภทถนน ไทม์ไทรอัล เริ่ม 08.30 น. และกิจกรรมขี่จักรยาน “ปั่นเพื่อสุขภาพ” เริ่มเวลา 15.00 น., วันเสาร์ที่ 6 มีนาคม แข่งขันประเภทเสือภูเขาครอสคันทรี่ และ ดาวน์ฮิล เริ่มเวลา 08.30 น. ซึ่งการแข่งขันดาวน์ฮิล จะมีการถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กไลฟ์ Thaicycling Association ตั้งแต่เวลา 10.00 น. วันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม แข่งขันประเภทถนน โร้ดเรซ เริ่มเวลา 07.00 น. และเสือภูเขา อิลิมิเนเตอร์ เริ่มเวลา 08.30 น. โดยประเภทถนน โร้ดเรซ จะมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ระหว่างเวลา 14.00-16.00 น.
สำหรับเส้นทางแข่งขันทุกประเภท จะใช้เส้นทางภายในบริเวณเขื่อนวชิราลงกรณ ยกเว้นกิจกรรมขี่จักรยาน “ปั่นเพื่อสุขภาพ” เส้นทางเริ่มจากบริเวณหน้าเทศบาลตำบลทองผาภูมิ ปั่นเข้าไปในตลาดแล้วไปวนที่บริเวณวงเวียนแล้วกลับมาเข้าเส้นชัยที่หน้าเทศบาลตำบลทองผาภูมิ ระยะทาง 3.2 กม.

นายวสันต์ กิมหวัง ปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลทองผาภูมิ เปิดเผยว่า เทศบาลตำบลทองผาภูมิ ร่วมกับสมาคมกีฬาจักรยานฯ จัดการแข่งขันประเภทถนนและเสือภูเขาชิงแชมป์ประเทศไทย รวมทั้งกิจกรรมขี่จักรยาน “ปั่นเพื่อสุขภาพ” ติดต่อกันมาป็นเวลา 10 ปี ในปีนี้เป็นปีที่ 11 ทางเทศบาลฯ จึงมีความพร้อม 100% ทั้งด้านบุคลากร และการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่ ทางเทศบาลฯ มั่นใจว่าจะมีนักกีฬาและผู้ติดตามมาเยือนตำบลทองผาภูมิเป็นจำนวนมาก ล่าสุด ที่พักและรีสอร์ตภายในอำเภอทองผาภูมิ ถูกจองล่วงหน้าเต็มหมดแล้ว เหลือแต่ที่พักรอบนอกก็คาดว่าเริ่มจะเต็มแล้วเช่นกัน
“สำหรับอำเภอทองผาภูมิ มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย แต่ที่เป็นจุดเด่นก็คือ การตักบาตรในทุกเช้าวันอาทิตย์ บนสะพานหลวงปู่สาย วัดท่าขนุน ซึ่งมีนักท่องเที่ยวมาตักบาตรบนสะพานเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ภายในเขื่อนวชิราลงกรณก็มีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น สะพานสกายวอล์ค ซึ่งเป็นสะพานกระจกยื่นออกไปยาวกว่า 20 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินออกไปทดสอบความกล้าได้ อีกทั้งยังมีจุดถ่ายภาพเพื่อเช็คอินอีกไม่ต่ำกว่า 10 จุด ทางเทศบาลทองผาภูมิ มั่นใจว่าการแข่งขันในครั้งนี้จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ และแหล่งทองเที่ยวที่ซบเซาจากพิษโควิด-19 ให้กลับมาคึกคัก จะช่วยสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนอย่างมหาศาล โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าในระดับรากหญ้าก็มีรายได้เพิ่มขึ้น คาดว่าในช่วงการแข่งขันจะมีเงินสะพัดในอำเภอทองผาภูมิ นับสิบล้านบาทเลยทีเดียว” นายวสันต์ กล่าว

ส่วน นายอภิรักษ์ ทองโต ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนวชิราลงกรณ กล่าวว่า ทางคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของเขื่อนวชิราลงกรณทุกคนมีความยินดี ที่ร่วมกับสมาคมกีจักรยานฯ จัดการแข่งขันจักรยานประเภทถนนและเสือภูเขา ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานฯ สนามที่ 1 ซึ่งที่ผ่านมา ๆ สมาคมกีฬาจักรยานฯจัดการแข่งขันได้อย่างดีมาก เรียกว่าทำได้ดียิ่งกว่ามืออาชีพ ช่วงที่มีสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อปี 2563 ก็มีมาตรการที่เข้มงวด ส่วนปีนี้ได้เพิ่มมาตรการที่เข้มข้นขึ้นไปอีก สร้างความมั่นใจให้ทั้งผู้ที่มาเยือน และเจ้าบ้านได้เป็นอย่างดี ทางเขื่อนวชิราลงกรณยินดีให้ความร่วมมือและสนับสนุนอย่างเต็มที่ รวมทั้งจะเพิ่มมาตรการทำความสะอาดในพื้นที่ทั้งหมดเพื่อต้อนรับนักปั่นจากทั่วประเทศ
ทั้งนี้ นักกีฬาสมัครเข้าร่วมแข่งขัน และทำไลเซนส์ (license) หรือบัตรอนุญาตแข่งขัน สามารถสมัครและลงทะเบียนทำไลเซ่นส์ ได้ที่เว็บไซต์ของสมาคมฯ www.thaicycling.or.th ส่วนการทำประกันอุบัติเหตุ สมาคมฯ ได้ประสานงานกับ บริษัท รู้ใจ จำกัด หรือประกันภัย “รู้ใจ” มาตั้งบูธให้บริการในวันแข่งขัน โดยนักกีฬาสามารถทำประกันอุบัติเหตุในราคา 60 บาท กรมธรรม์ครอบคลุมตลอดการแข่งขันทั้ง 3 วัน หรือสอบถามได้ที่ โทร.0-2719-3340-2 ในวันและเวลาราชการ

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์// เปิดรับสมัครแล้ววันนี้ !!! “FLAG OF NATION วิ่งส่งธงชาติไทย ไปโตเกียวโอลิมปิก” ชวนคนไทยทั่วประเทศร่วมสร้างประวัติศาสตร์ วิ่งผลัดธงไตรรงค์ ต่อเนื่อง 61 วัน ระยะทางรวม 4,606 กม. หรือเทียบเท่าระยะทางจาก กทม.-โตเกียว เพื่อส่งกำลังใจเชียร์ทัพนักกีฬาทีมชาติไทย สู้ศึกโอลิมปิกเกมส์ 2020
การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกิจการ กระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.), กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี), คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย, คณะกรรมการกีฬาพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย, บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และพันธมิตรภาคเอกชนทุกภาคส่วน ร่วมจัดกิจกรรมวิ่ง “FLAG OF NATION วิ่งส่งธงชาติไทย ไปโตเกียวโอลิมปิก” ชวนคนไทยทั่วประเทศร่วมสร้างประวัติศาสตร์ วิ่งถือธงไตรรงค์ ผ่าน 35 จังหวัด ต่อเนื่อง 61 วัน รวมระยะทาง 4,606 กม. เพื่อส่งกำลังใจให้ทัพนักกีฬาทีมชาติไทย เดินทางไปสู้ศึกโอลิมปิกเกมส์ 2020 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม ถึง 8 สิงหาคม 2564 ที่ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
เชิญคนไทยร่วมสร้างประวัติศาสตร์ครั้งยิ่งใหญ่ วิ่งผลัดส่งต่อธงชาติไทย ในกิจกรรม “FLAG OF NATION วิ่งส่งธงชาติไทย ไปโตเกียวโอลิมปิก” โดยนักวิ่งที่เข้าร่วมจะได้วิ่งถือธงไตรรงค์ คนละ 1 กิโลเมตร พร้อมกับเหล่า ศิลปิน ดารา และนักกีฬาอีกมากมาย โดยจะคัดเลือกประชาชนทั่วไป ศิลปิน ดารา จำนวน 4,568 คน ร่วมร้อยรวมดวงใจให้เป็นหนึ่งเดียว เพื่อส่งต่อกำลังใจผ่านธงชาติไทย ให้ทัพนักกีฬาไทย คว้าชัยในศึกโอลิมปิกเกมส์ 2020
สำหรับเส้นทางการวิ่งผ่าน 35 จังหวัด ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม – 27 พฤษภาคม 2564 จะออกสตาร์ทที่ กรุงเทพมหานคร ต่อด้วย สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา พัทลุง ราชบุรี นครปฐม กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ชัยนาท นครสวรรค์ กำแพงเพชร ตาก ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และสิ้นสุดที่ สมุทรปราการ ที่ สนามบินสุวรรณภูมิ
ผู้สนใจสมัครได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 10 มีนาคม 2564 ผ่านทางเว็บไซต์ www.RoadToTOKYO2020TH.com หรือ race.thai.run/RoadToTOKYO2020TH และประกาศผลผู้ที่ผ่านการคัดเลือกวันที่ 15 มีนาคม 2564 ซึ่งนักวิ่งทุกคนจะได้รับเสื้อและเหรียญเป็นที่ระลึกครั้งประวัติศาสตร์ไว้ครอบครอง
ร่วมสนับสนุนโดย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ, คณะกรรมการกิจการ กระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย คณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด, บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน), บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ,บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ฟู้ดแพนด้าประเทศไทย จำกัด , บริษัท บุญรอดเทรดดิ้งจำกัด, บริษัท เดอะ สวอท์ช กรุ๊ป เทรดดิ้ง(ประเทศไทย) จำกัด ,บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด สามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ทางเวปไซต์ www.stadiumth.com และเฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/THStadium/

 Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

http://www.natethip.com/news.php?id=3662
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

http://www.natethip.com/news.php?id=3661
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

http://www.natethip.com/news.php?id=3660
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

https://timeline.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1161386842410055270
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

พิมพ์ไทยออนไลน์//ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริการใหม่ล่าสุดของ โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ ด้วยการจำหน่ายอาหารเมนูเด็ดที่ขึ้นชื่อ ระหว่างเวลา 07.00-13.00 น. เฉพาะวันจันทร์ – วันศุกร์ เพื่อให้คุณลูกค้าสะดวกมากยิ่งขึ้นกับการได้ทานของโปรดที่ชื่นชอบกว่า 25 รายการโดยไม่ต้องลงจากรถ ทั้งอาหารจานเดียว ของว่างทานเล่น เบเกอรี่ ในราคา Street Food เริ่มต้นเพียง 29 บาทเท่านั้น อาทิ ข้าวขาหมู ผัดไทยกุ้งสด ราดหน้าหมูหมัก ผัดซีอิ๊ว ข้าวต้มปลากะพง หมูเค็มกับข้าวเหนียว กล้วยทอด ครัวซองต์ ชาไทย กาแฟโบราณ ฯลฯ
เชิญเลือกสั่งอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ถูกหลักอนามัยตามมาตรฐาน SHA ในยุค New Normal ที่ซุ้มอาหารบริเวณลานจอดรถหน้าโรงแรมฯ หรือเพียงนัดหมายล่วงหน้า โดยเปิดรับออร์เดอร์ผ่านช่องทางไลน์ @theemeraldhotel หรือโทร. 0-2276-4567 ดังนี้• 07.00 -12.00 น. เพื่อมารับอาหารภายใน 13.00 น. ของวันเดียวกัน
• 13.00 – 20.00 น. เพื่อนัดรับอาหารในวันถัดไปเท่านี้คุณก็อิ่มอร่อยได้อย่างง่ายๆ สะดวกสบาย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร.0-2276-4567 :Cr;มณสิการ รามจันทร์

พิมพ์ไทยออนไลน์// กฟผ.เปิดห้องทดสอบคุณภาพอุปกรณ์ไฟฟ้าแรงสูง 500 kV แห่งเดียวในไทย มุ่งให้บริการตลอด 24 ชม. พร้อมขยายตลาดธุรกิจสู่อาเซียน
นางวีนัส หลงสมบุญ ผู้ช่วยผู้ว่าการวิจัย นวัตกรรม และพัฒนาธุรกิจ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ. เปิดให้บริการห้องปฏิบัติการทดสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งตั้งอยู่ที่สถานีไฟฟ้าแรงสูงบางพลี ถ.บางนา-ตราด แก่ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ มาอย่างยาวนานมากกว่า 50 ปี โดยเริ่มต้นจากการทดสอบที่ระดับแรงดันไฟฟ้า 75 kV และพัฒนาศักยภาพการทดสอบมาอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันห้องปฏิบัติการทดสอบนี้ สามารถทดสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าแรงสูง 500 kV ได้แห่งเดียวในประเทศไทย

ซึ่งเป็นประโยชน์แก่กลุ่มลูกค้าที่ต้องการตรวจเช็คสภาพและประเมินความเสียหายของอุปกรณ์ เพื่อคาดการณ์การซ่อมแซมล่วงหน้ าและลดโอกาสที่จะสูญเสียค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อันเป็นผลมาจากความเสียหายที่เกิดขึ้นกับอุปกรณ์ดังกล่าว
สำหรับศักยภาพของห้องปฏิบัติการทดสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าแรงสูง 500 kV จะใช้ในการดำเนินงาน 3 รูปแบบ ได้แก่ 1. Commissioning Test คือ การทดสอบเพื่อนำไปใช้งานจริง 2. Inspection Test คือ การทดสอบเพื่อตรวจสอบดูความเสียหายเป็นส่วน ๆ 3. Maintenance Test คือ การทดสอบเพื่อการบำรุงรักษา

ปัจจุบัน กฟผ. อยู่ระหว่างการพัฒนาโปรแกรมต่าง ๆ ที่ใช้ภายในห้องปฏิบัติการทดสอบฯ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ลูกค้า อาทิ โปรแกรมการบริหารจัดการข้อมูล เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการรายงานผลการทดสอบ รวมถึงพัฒนา Application เพื่อให้ลูกค้าสามารถติดตามสถานการณ์การดำเนินงานได้ตลอด 24 ชม. ด้วย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กฟผ. ได้ดำเนินการทดสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าแรงสูงให้แก่หน่วยงานภายในองค์กรและหน่วยงานภายนอกต่าง ๆ อาทิ โรงงานอุตสาหกรรม โรงไฟฟ้าทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงจัดฝึกอบรมการปฏิบัติการทดสอบ พร้อมออกใบรับรองให้แก่หน่วยงานภายนอก อีกด้วย

 Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์