วันเสาร์, กรกฎาคม 27, 2024

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรกกระทรวงยุติธรรมลูกสาว"อาม่าฮวย" พร้อมทนายพบ ปอท มอบหลักฐานที่สื่อลงข่าวบิดเบือน และขอให้แก้ไขตามข้อเท็จจริง

ลูกสาว”อาม่าฮวย” พร้อมทนายพบ ปอท มอบหลักฐานที่สื่อลงข่าวบิดเบือน และขอให้แก้ไขตามข้อเท็จจริง

พิมพ์ไทยออนไลน์ // ลูกสาว”อาม่าฮวย” และทนาย พบ ปอท พร้อมนำกลักฐานที่สื่อลงข่าวบิดเบืินเกินคงามจริง ขอให้สื่อดำเนินการแก้ไข

วันที่ 19 ส.ค.64  เวลา 11.00 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายกฤษฎา อินทามระ ทนายความ พร้อม นางมาวดี ศรีวิรัตน์ ลูกสาวของนางฮวย ศรีวิรัตน์ มารดา เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ฐานันดร สาสูงเนิน และ ร.ต.ท.หญิง รัฐฐานนท์ คชนนท์ รอง สว. (สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. มอบหลักฐานเพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีสื่อออนไลน์ลงข่าวบิดเบือนว่า นางมาวดี ทยอยถอนเงินในบัญชีกว่า 24.7 ล้านบาท และถ่ายโอนทรัพย์สินอื่นๆ ขณะ นางฮวย นอนพักฟื้นรักษาตัวด้วยโรคเส้นเลือดหัวใจตีบที่โรงพยาบาล ก่อนศาลอาญาพระโขนงลงโทษจำคุก 12 ปี

นายกฤษฎา กล่าวว่า คดีหมายเลขดำที่ อ.1668/2563 คดีหมายเลขแดงที่ อ.924/2564 ศาลอาญาพระโขนงลงโทษจำคุก 12 ปี โดยคดีนี้ นางฮวย ศรีวิรัตน์ โดย น.ส.มินตรา ศรีวิรัตน์ ผู้รับมอบอำนาจ เป็นโจทก์ฟ้องว่า นางมาวดี ศรีวิรัตน์ จำเลยข้อหา ลักเงินออกจากบัญชีโจทก์รวม 6 ครั้งเป็นเงิน 24.7 ล้านบาทนั้น ช่วงระหว่าง 57-58 ซึ่งทางเราก็น้อมรับคำตัดสินของศาลและอยู่ระหว่างยื่นอุทธรณ์ และไม่ใช่คดีที่ยักยอกทรัพย์ นางฮวย จำนวน 253 ล้านบาท ซึ่งยังอยู่ระหว่างพิจารณาคดีในศาล

นายกฤษฎา กล่าวอีกว่า ส่วนคดีเงิน 253 ล้านบาทนั้น คือคดีหมายเลขดำที่ อ.3228/2562ฯ ที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาพระโขนง 3 และ นางฮวย ศรีวิรัตน์ ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางมาวดี ศรีวิรัตน์ และเจ้าหน้าที่ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน) อีก 4 คน เป็นจำเลย ฐานยักยอกทรัพย์มูลค่า 253 ล้านบาทนั้น ขณะนี้ศาลอาญาพระโขนง ซึ่งคดีนี้ยังอยู่ในระหว่างพิจารณาสืบพยานจำเลยในเดือน ธ.ค.2564

“วันนี้มาพบพนักงานสอบสวน ปอท. เพื่อมอบหลักฐานตรวจสอบสื่อมวลชนสำนักต่างๆ ที่มีการเสนอข่าวคลาดเคลื่อนและปรึกษาข้อกฎหมาย ซึ่งจริงแล้วศาลชั้นต้น ตัดสินคดีจำนวนเงิน 24.7 ล้านบาท และได้ยื่นอุทธรณ์แล้ว ส่วนคดีเงินจำนวน 253 ล้านบาทนั้นยังอยู่ระหว่างพิจารณา จึงอยากให้สื่อช่วยลงข่าวทั่นำเสนอเกินความจริงและขอให้แก้ไขเนื้อหา เพือจะได้ทำการพิจารณาไม่ว่าจะเนินคดีหรือไม่ ตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป”

Cr : ทวีศักดิ์ ชิตทัพ ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวใหม่