พิมพ์ไทยออนไลน์ // เชียงใหม่ เอฟซี เสริมแกร่งสู้ศึกเลก 2 ไทยลีก 2 อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดคว้าตัว “นาซซ่า” นฤพน ไวลด์ ดาวเตะลูกครึ่งไทย-อังกฤษ มาร่วมทีมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเจ้าตัวเลือกหมายเลข 43 หลังย้ายจาก มะละกา เอฟซี ทีมในมาเลเซีย ซูเปอร์ลีก และผ่านการกักตัวที่ State Quarantine เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้ลงทะเบียนนักกีฬา ในเลคที่2 ก่อนตลาดปิด ที่ผ่านมาและได้รับรองใบโอนย้ายทีมเรียบร้อยแล้วนั้น โดยดาวเตะวัย 31 ปี เผยหลังเปิดตัวกับ “พยัคฆ์ล้านนา” ว่า
“รู้จักจังหวัดเชียงใหม่ เพราะเป็นเมืองใหญ่ เป็นเมืองท่องเที่ยว และตนก็มาเที่ยวอยู่บ่อยครั้ง แต่สำหรับครั้งแรกที่ได้ย้ายมาเล่นฟุตบอลอาชีพกับเชียงใหม่ เอฟซี ก็รู้สึกดีใจ และเป็นเกียรติ มีความสุขมากที่ได้มาอยู่ที่นี่ ถือว่าเชียงใหม่ เอฟซี เป็นทีมใหญ่ทีมหนึ่งของประเทศ และยังได้อยู่ใกล้ชิดคุณแม่ด้วย เพราะคุณแม่อยู่จ.แม่ฮ่องสอน เวลาพาครอบครัว พาลูกๆ ไปเยี่ยมก็สะดวกขึ้น เพราะครอบครัวสำคัญที่สุดเสมอ นอกจากนี้แฟนบอลเชียงใหม่ เอฟซี ยังถือว่ากดดันทีมคู่แข่งได้เป็นอย่างดี ซึ่งก็คอยติดตามอยู่บ่อยๆ อย่างในเกมเวียงพิงค์ดาร์บี้แมตช์ที่ผ่านมาถือว่ากองเชียร์ยอดเยี่ยมมาก และก็เฝ้ารอที่จะลงเล่นต่อหน้าพวกเขา เเป้าหมายก็คือการช่วยเชียงใหม่ เอฟซี เลื่อนชั้นสู่ไทยลีก ให้ได้”
สำหรับ “นาซซ่า” นฤพน เล่นได้หลายตำแหน่งในแผงมิดฟิลด์ และยังขยับลงมาเล่นเซ็นเตอร์แบ็กได้อีกด้วย เคยติดทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 16 ปี ในปี 2003 จากนั้นไปค้าแข้งในลีกเวลส์ กับทีมนิว เซนต์ และไปเล่นที่สหรัฐอเมริกา กับทีมฟลอริดา เทค แพนเธอร์ส รวมถึงที่เนเธอร์แลนด์ กับทีมอาเพลโดร์น ในจูปิแลร์ ลีก หรือดิวิชัน 2 ก่อนจะย้ายมาประเทศไทยในปี 2012 โดยอยู่กับ ทรู แบงคอก ยูไนเต็ด แล้วย้ายไปเล่นให้กับอีกหลายทีมในไทย ทั้งสงขลา เอฟซี, บีบีซียู เอฟซี, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, สุพรรณบุรี เอฟซี, นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี (ยืมตัว) ก่อนจะไปลุยแดนเสือเหลืองกับทีม มะละกา เอฟซี ทีมในมาเลเซีย ซูเปอร์ลีก เมื่อปีที่แล้ว และมาเปิดตัวกับเชียงใหม่ เอฟซี ในที่สุด

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

http://www.natethip.com/news.php?id=3524
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

https://timeline.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1161015294410057675
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

พิมพ์ไทยออนไลน์ // ตร.ดอนเมือง คุมผู้ต้องหาคดีนำชาวโรฮีนจาหลบหนีเข้าเมืองฝากขังศาล คุมเข้มชุดกันโควิด-19

เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 64 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง ควบคุมตัวนางระมัย ไชยมา หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ ความผิดฐานร่วมกันให้คนต่างด้าวเข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม กรณีที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าได้นำแรงงานชาวโรฮีนจา 19 คน ไปพักอาศัยที่บ้านเช่าย่านดอนเมือง ถูกฝ่ายสืบสวนตามไปจับกุมตัวได้ที่จังหวัดปทุมธานี มาขออำนาจศาลฝากขังครั้งแรก

โดยระหว่างการนำตัวนางระมัยมาฝากขัง เจ้าหน้าที่ได้เพิ่มความเข้มข้นในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่การนำตัวออกจาก สน.ดอนเมือง โดยตำรวจผู้ควบคุมตัวได้สวมใส่ชุด PPE ตลอดเวลา และนำนางระมัยขึ้นรถที่ใช้ในการสนับสนุนภารกิจส่งกลับโควิด-19 เพียงคนเดียว แยกจากการควบคุมผู้ต้องหาคดีทั่วไป เมื่อถึงศาลอาญา ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ในการนำส่งฝากขังโดยไม่นำผู้ต้องหาลงจากรถ และปฏิบัติตามมาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาดฯ ของศาล ทำการตรวจวัดไข้ ซักประวัติซ้ำ รวมถึงเช็ดล้างเครื่องมือภายในรถเพื่อความปลอดภัยด้วย

Cr :  นายทวีศักดิ์ ชิตทัพ ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไฃน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // “มอส” ปฏิภาณ ปัฐวีกานต์ นักแสดงชื่อดัง ซ้อมปั่นจักรยานออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชั่น One lap เพื่อเตรียมตัวร่วมกิจกรรม “ปั่นในบ้าน ต้านโควิด” เฟส 2 ซึ่งสมาคมกีฬาจักรยานฯแห่งประเทศไทยฯ ร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดขึ้นในช่วงโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด โดยจะประเดิมครั้งแรกในวันเสาร์ที่ 9 ม.ค.64 และจะมีการไลฟ์เฟซบุ๊ก Thaicycling Association ตั้งแต่เวลา 15.45 น. เป็นต้นไป

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // “แบล๊ก วูล์ฟ” เพชรโกศล กรีนซึดะ นักชกไทย ภายใต้การสนับสนุนของค่ายมวยญี่ปุ่น พ้นกำหนดเข้ารับการกักตัว 14 วันในไทยเป็นที่เรียบร้อย เตรียมแยกย้ายกลับภูมิลำเนา ขณะเดียวกัน ยังรอความหวังจากญี่ปุ่นให้กลับไปชิงแชมป์โลกอีกครั้ง ตามสัญญาที่มีต่อกัน
ภูมิ โกศลเสรฐ ผู้จัดการส่วนตัวเผยถึง เพชรโกศล รองแชมป์โลก แชมป์ประเทศไทย พิกัด 108 ปอนด์ ล่าสุดเมื่อ 8 ม.ค.64 ตน ,เพชรโกศล และ สุริยัน ส.รุ่งวิสัย เทรนเนอร์ รวม 3 ชีวิตเตรียมตัวแยกย้าย โดย “เจ้าสน” มีแผนจะเดินทางกลับภูมิลำเนาที่ศรีสะเกษในอีกไม่กี่วันนี้ แต่ต้องขอเช็ครายละเอียดการเดินทางข้ามจังหวัดอีกครั้ง หลังไปใช้ชีวิตอยู่ในญี่ปุ่นนานกว่า 3 เดือนเต็ม และต้องผิดหวังชวดชิงแชมป์ไลต์ฟลายเวต สมาคมมวยโลก WBA เมื่อ ฮิโรโตะ เคียวกูจิ “ซูเปอร์แชมป์” ชาวซามูไร เกิดติดเชื้อโควิดหลังชั่งน้ำหนักอย่างเป็นทางการ ทำให้โปรแกรมชิงแชมป์โลกต้องยกเลิกไปโดยปริยาย และคณะผู้ท้าชิงชาวไทย 3 ชีวิตกลับไทย พร้อมเข้ารับการกักตัวตามระเบียบเฝ้าระวังไวรัสโควิดของรัฐบาลไทยเป็นเวลา 14 วัน กระทั่งล่าสุดครบกำหนดเป็นที่เรียบร้อย

“ต้องขอขอบคุณทางโรงแรม จอมเทียน ฮอลิเดย์ อินน์ พัทยา สถานที่กักตัว ซึ่งดูแลพวกผมทั้ง 3 คนเป็นอย่างดี จากนั้นเพชรโกศลจะกลับบ้านไปหาพ่อแม่ที่ศรีสะเกษ และรอความชัดเจนจากทางญี่ปุ่น ซึ่งทางผู้สนับสนุน มิสเตอร์ โอกาซาวาระ พอรู้ว่าครบกำหนดกักตัว ก็โทรจากญี่ปุ่นมาแสดงความยินดี พร้อมย้ำให้เพชรโกศลเตรียมฟิตซ้อมร่างกายให้ดี เพราะเคียวกูจิได้เซ็นสัญญาแล้วว่า คู่ชกคนต่อไปจะต้องเป็นเพชรโกศลเท่านั้น ถ้าไม่มีคำสั่งใดๆจากสมาคมมวยโลกให้เปลี่ยนแปลง ซึ่งเรื่องนี้เตรียมแผนจะให้เพชรโกศลได้อุ่นเครื่องในไทยอย่างน้อยสักไฟต์ ระหว่างรอกลับไปชิงแชมป์โลกที่ญี่ปุ่นอีกครั้ง”

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // กฟผ. และกลุ่มมิตรผล จับมือเป็นพันธมิตร ดึงศักยภาพ 2 องค์กร ช่วยรับมือโควิด-19 ระบาดระลอกใหม่ โดย กลุ่มมิตรผล สนับสนุนเอทานอล 95% กว่า 30,000 ลิตร สารตั้งต้นสำคัญ ร่วมผลิตเจลอนามัย “น้ำใจ” กฟผ. และสเปรย์แอลกอฮอล์ มอบโรงพยาบาล แจกจ่ายบุคลากรทางการแพทย์ และประชาชน เอาชนะโควิด-19

นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รับมอบเอทานอล 95% จำนวน 30,000 ลิตร จากนายบรรเทิง ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการบริษัท และประธานกรรมการบริหาร กลุ่มมิตรผล เพื่อนำมาผลิตเจลอนามัย “น้ำใจ” กฟผ. และสเปรย์แอลกอฮอล์ ซึ่งมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดโดยไม่ใช้น้ำ แจกจ่ายสนับสนุนการทำงานบุคลากรทางการแพทย์ ตลอดจนประชาชนทั่วไป ใช้ดูแลสุขภาพอนามัยและฆ่าเชื้อโรคในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ระบาดระลอกใหม่ ที่ อาคารเคมี สำนักงานใหญ่ กฟผ. จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 7 มม.ค.ที่ผ่านมา
สำหรับ กฟผ.จับมือกับพันธมิตรภายนอก กลุ่มมิตรผล ซึ่งมีศักยภาพการผลิตเอทานอล จากวัตถุดิบอ้อย สารตั้งต้นสำคัญการผลิตเจลอนามัยและสเปรย์แอลกอฮอล์ โดยเอทานอล 95% จำนวน 30,000 ลิตร จะถูกนำไปใช้ สำหรับผลิตสเปรย์แอลกอฮอล์บรรจุขวดแบบพกพา จำนวนประมาณ 200,000 ขวด สเปรย์แอลกอฮอล์บรรจุขวดใหญ่ จำนวนประมาณ 30,600 ขวด เจลอนามัย แบบขวดปั๊ม จำนวนประมาณ 10,000 ขวด และเจลอนามัย แบบบรรจุแกลลอน จำนวนประมาณ 1,700 แกลลอน ซึ่งที่ผ่านมาทั้ง 2 องค์กร ได้ให้ความร่วมมือและสนับสนุนกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมกันดูแลและช่วยเหลือสังคมในทุกช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างเต็มที่

โดยก่อนหน้านี้ กฟผ. ได้ส่งมอบอุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 ประกอบด้วย หน้ากาก KN95 หมวกทางการแพทย์ เจลอนามัย “น้ำใจ” กฟผ. และเสากดแอลกอฮอล์เจลแบบเท้าเหยียบ ให้แก่ โรงพยาบาลบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี สถาบันบำราศนราดูร จังหวัดนนทบุรี โรงพยาบาลศูนย์บริการการแพทย์นนทบุรี จังหวัดนนทบุรี โรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า จังหวัดสมุทรสงคราม สถาบันราชประชาสมาสัย จังหวัดสมุทรปราการ โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี กรุงเทพมหานคร โรงพยาบาลสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร สาธารณสุขจังหวัดระยอง และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของบุคลากรทางการแพทย์

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

http://www.natethip.com/news.php?id=3523
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

พิมพ์ไทยออนไลน์ // ไทยสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ แข่งนกพิราบนานาชาติพัทยา เริ่มขึ้นแล้วในเมืองไทย มีนกพิราบแข่งกว่า 7 พันตัว จาก 39 ประเทศ ร่วมประลองความเร็วทางอากาศ การแข่งขันนกพิราบแข่งนานาชาติพัทยา ครั้งที่ 5 ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 พร้อมชิงเงินรางวัลรวม 35.3 ล้านบาท
มร.อีทส์วาน บาร์โดส ประธานสมาพันธ์นกพิราบแข่งนานาชาติ (FCI) ชื่นชม และยกกรงนกพิราบแข่งขันพัทยา คือสนามที่ดีที่สุดของโลก ทึ่งทีมงานไทยแลนด์ สามารถดูแลนกทุกตัวอย่างดี นกที่ปล่อยจากจุดเริ่มต้นสามารถกลับสู่จุดหมายเกือบ 100%

การแข่งขันนกพิราบแข่งนานาชาติพัทยา ครั้งที่ 5 (The 5th Pattaya International Pigeon Race) ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 พร้อมเงินรางวัลรวม 35.3 ล้านบาท โดยเป็นการผนึกกำลังกันระหว่าง เมืองพัทยา ร่วมกับ กระทรวงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และพัทยา อินเตอร์เนชั่นแนล พีเจ้น เรซ (PIPR) โดยเมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา มีพิธีนำนกพิราบขึ้นแข่งขัน จำนวน 3,653 ตัว จากจำนวนทั้งหมด 7,401 ตัวที่เข้าร่วมแข่งขัน จาก 39 ประเทศ นำมาประทับตราโลโก้การแข่งขันนานาชาติพัทยา ก่อนจะนำขึ้นรถจาก สำนักงานใหญ่ บริษัท พัทยา อินเตอร์เนชั่นแนล พีเจ้น จำกัด อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อนำไปยังที่จุดปล่อย ภายใต้มาตรการ New Normal ที่รัฐบาลกำหนดอย่างเคร่งครัด ซึ่งมี นายสิริเดช โรจนารุณ กรรมการบริษัท พัทยา อินเตอร์เนชั่นแนล พีเจ้น จำกัด และ มร.อีทส์วาน บาร์โดส ประธานสมาพันธ์นกพิราบแข่งนานาชาติ (FCI) มาร่วมประทับตราและส่งนกพิราบเข้าสู่สนามแข่งขัน
นายสิริเดช โรจนารุณ กล่าวว่า นับว่าวันนี้ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่อีกครั้ง การแข่งขัน นกพิราบแข่งนานาชาติพัทยา เพราะปีนี้ มีนกพิราบเข้าแข่งขันมากถึง 7,401 ตัว ซึ่งมากที่สุดตั้งแต่มีการจัดการแข่งขันขึ้นมาตลอด 4 ครั้ง ถึงแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิค-19 จะส่งผลกระทบไปทั่วโลก แต่มีผู้สนใจและได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งการจัดแข่งขันในปีนี้ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ตามที่รัฐบาลกำหนด ห้ามมิให้ชาวต่างชาติเข้าไทย แต่มีขั้นตอนต่างๆการส่งนกพิราบเข้าแข่งขัน

“โดยเริ่มตั้งแต่ ให้ผู้เข้าแข่งขันตรวจสุขภาพนกพิราบโดยสัตวแพทย์ที่ได้รับการรับรองของประเทศนั้นๆ ก่อนนำส่งทางเครื่องบินมาไทย ต่อด้วยเข้ากรงกักกันที่กรมปศุสัตว์ เป็นเวลา 21 วัน ซึ่งตลอดระยะเวลาการเลี้ยงและฝึกซ้อมนกพิราบแข่ง จะมีสัตวแพทย์ผู้ควบคุมฟาร์มที่ได้รับการรับรองจากกรมปศุสัตว์เข้าตรวจสุขภาพนกพิราบแข่งตามโปรแกรม ที่สำคัญได้ใช้อุปกรณ์และระบบอิเล็กทรอนิกส์ในการอ่านห่วง
ขาอิเล็กทรอนิกส์ที่ติดไว้กับนกพิราบทุกตัวการตัดสิน ผู้ส่งนกพิราบแข่งตรวจผลข่งขันได้เรียลไทม์ผ่านทางเว็บไซต์ รวมทั้งติดตามการถ่ายทอดสดการปล่อยนกและภาพนกบินกลับกรงอีกด้วย มั่นใจว่าการแข่งขันครั้งนี้ถึงแม้สถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะทำให้ผู้เลี้ยงนกไม่ได้ร่วมชมในสนามจริง แต่ทุกคนสามารถลุ้นนกพิราบตลอดเวลาตั้งแต่การปล่อยนกจนถึงจุดหมาย” สิริเดช กล่าว
มร.อีทส์วาน บาร์โดส ประธาน FCI กล่าวว่า เป็นการเริ่มต้นปีที่ดี กับการแข่งขันนกพิราบนานาชาติ ถึงแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะทำให้ทุกอย่างในโลกนี้หยุดชะงัก แม้แต่วงการกีฬาทุกชนิดก็แข่งขันแทบไม่ได้ มีเพียงแต่นกพิราบแข่งขันนานาชาติ ที่แข่งขันได้ ซึ่งโควิด-19 ไม่ส่งผลกระทบต่อนกพิราบ งานนี้ถือว่าประสบความสำเร็จมากที่สุด ซึ่งต้องขอชื่นชม สนามแข่งขันนกพิราบพัทยา เป็นสถานที่
ดีที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง ตนมาสัมผัสการดูแลนกพิราบของเจ้าหน้าที่ทุกคน ต้องยอมรับว่าสนามแห่งนี้มีมาตราฐานที่สูงมาก นกพิราบทุกตัวได้รับการดูแลอย่างดี เจ้าของนกสามารถดูความเคลื่อนไหวผ่านการไลฟ์สดได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งนกที่ร่วมแข่งขันสามารถกลับเข้าสู่กรงจุดหมายเกือบ 100% นับว่าเป็นรายการที่ดีที่สุดของโลกในตอนนี้

สำหรับการแข่งขันจะเริ่มวันที่ 9 ม.ค.64 มีการชิงชัยเป็น 3 ประเภทได้แก่ ระยะทาง 530 กิโลเมตร ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 เริ่มต้นที่ อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี, ระยะทาง 430 กิโลเมตร ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เริ่มต้นที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ, ระยะทาง 330 กิโลเมตร ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เริ่มต้นที่ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ โดยทั้ง 3 ระยะทาง จะถึงจุดสิ้นสุด ณ สำนักงานใหญ่ บริษัท พัทยา อินเตอร์เนชั่นแนล พีเจ้น เรซจำกัด อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และการแข่งขันนกยอดเยี่ยม ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ระยะทางสะสมตั้งแต่ 330 – 530 กิโลเมตร สำหรับผู้สนใจ สามารถติดตามชมการแข่งขันได้ทาง www.pattayaoneloftrace.com

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์