http://www.natethip.com/news.php?id=3525
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
http://www.natethip.com/news.php?id=3525
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
พิมพ์ไทยออนไลน์ // กฟผ. ร่วมกับจังหวัดยะลา ระดมกำลังลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ จังหวัดประสบอุทกภัย พร้อมชี้แจงเหตุฝนตกหนักสุดในรอบ 33 ปี ทำให้ปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนบางลางอย่างรวดเร็ว จนระดับน้ำสูงเกินกว่าระดับกักเก็บปกติ จำเป็นต้องระบายน้ำเพื่อรักษาความปลอดภัยของตัวเขื่อน ทั้งนี้ได้มีการวางแผนร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด และยังคงเฝ้าระวังต่อไปจนกว่าจะหมดฤดูมรสุมในพื้นที่
นายประเสริฐ อินทับ ผู้ช่วยผู้ว่าการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำเขื่อนบางลางหลังจากได้รับอิทธิพลฝนตกหนักในช่วงวันที่ 4 – 6 มกราคม 2564 ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนบางลางอย่างรวดเร็ว จนระดับน้ำสูงเกินกว่าระดับกักเก็บปกติ
กฟผ. จึงมีความจำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำผ่านประตูระบายน้ำฉุกเฉิน เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 เวลา 06.46 น. เพื่อรักษาความปลอดภัยของตัวเขื่อน และควบคุมปริมาณน้ำไหลเข้าและระบายออกให้อยู่ในสภาวะที่สมดุล โดยน้ำไหลหลากเข้าเขื่อนสูงสุดถึง 137 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน หรือ 2,940 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และได้ระบายออกเพียง 798 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ประมาณ 1 ใน 4 ของน้ำที่ไหลเข้าเขื่อน)
เมื่อปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนสูงสุดผ่านพ้นไปแล้ว เขื่อนบางลางได้ทยอยปรับลดการระบายน้ำลงอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบัน เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2564 เวลา 00.00 น.) ระบายน้ำอยู่ที่ 531 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และจะปรับลดการระบายน้ำลงอีกเมื่อปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนลดลง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยในจังหวัดยะลาและปัตตานี
ทั้งนี้ ปริมาณน้ำในอ่างสูงสุด 1,505 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 103.5% เมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา ปัจจุบันลดลงเหลือ 1,444 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 99.23% โดย กฟผ. ได้ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง ร่วมกับกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กรมชลประทาน เพื่อควบคุมการระบายและการผลักดันน้ำที่ปากแม่น้ำปัตตานีให้ไหลลงทะเลได้รวดเร็ว เพื่อลดระดับน้ำที่ท่วมขังบริเวณจังหวัดยะลาและปัตตานี
สำหรับความช่วยเหลือในเบื้องต้น กฟผ. ได้ลงพื้นที่ชุมชนที่ได้รับความเดือดร้อน โดยแจกจ่ายถุงยังชีพและน้ำดื่ม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ครอบครัวผู้ประสบอุทกภัย
อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนเตรียมความพร้อมและติดตามสถานการณ์น้ำเขื่อนบางลางอย่างใกล้ชิดได้ทางเว็บไซต์ WATER.EGAT.CO.TH หรือ www.banglang.egat.co.th และแอปพลิเคชัน EGAT Water
Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์
https://timeline.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1161032684310056641
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
พิมพ์ไทยออนไลน์ // นายผล ขวัญนุ้ย ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการภาคใต้ (อปต.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) พร้อมด้วย ผู้บริหาร ผู้ปฏิบัติงาน อปต. เป็นผู้แทน กฟผ. มอบถุงยังชีพและน้ำดื่ม จำนวน 350 ชุด ให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดยะลา ได้แก่พื้นที่ บ้านกูแบปุโรง ม.3 บ้านตราแดะ ม.5 และบ้านกะตูปะ ม.6ต.บันนังสาเรง อ.เมือง จ.ยะลา และบ้านลิมุด ม.3 บ้านสาคอ ม.4 ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา
และในวันที่ 10-11 มกราคม 2564 คณะผู้บริหารผู้ปฏิบัติงานฝ่ายปฏิบัติการภาคใต้ จะลงพื้นที่มอบถุงยังชีพและน้ำดื่มอีก 550 ชุด ในพื้นที่จังหวัดยะลา นราธิวาส และปัตตานี
เหตุอุทกภัยในครั้งนี้ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศมาเลเซีย ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนัก ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2564 บริเวณจังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ฝ่ายปฏิบัติการภาคใต้ ได้มอบถุงยังชีพให้กับประชาชนรวมแล้วจำนวน 900 ชุด ใน 3 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ แบ่งเป็น จังหวัดยะลา 500 ชุด จังหวัดปัตตานี 200 ชุด และจังหวัดนราธิวาส 200 ชุด
Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์
พิมพ์ไทยออนไลน์ // นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมความพร้อมและให้กำลังใจคณะเจ้าหน้าที่ การจัดการแข่งขันแบดมินตัน 3 รายการครั้งประวัติศาสตร์ที่อิมแพค อารีน่า โดยมี คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย เป็นผู้นำคณะเข้าชมความพร้อม ที่ ห้องคอมมานด์ เซ็นเตอร์ อาคารอิมแพค ฟอรั่ม เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ กล่าวว่า “จากการที่เรามีการเตรียมความพร้อม นักกีฬาเริ่มเข้ามาสู่ที่ อิมแพค อารีน่า และที่โรงแรมไอบิสกับโนโวเทล นักกีฬาชาติต่างๆ รวมไทยมี 22 ประเทศ ตั้งแต่มีการกักตัวในบับเบิ้ลตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. ทางกระทรวงสาธารณสุขและศบค. ได้มีการตรวจหาเชื้อเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทุกท่านทุก 4 วัน จนถึง 31 ม.ค. คือวันสุดท้ายของทัวร์นาเมนท์ ขอขอบคุณกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงคุณหมอทุกท่านที่เข้าไปอยู่ในบับเบิ้ล กรมแพทย์ทหารอากาศ เจ้าหน้าที่จัดการแข่งขันทุกท่าน บริษัท Index เจ้าหน้าที่โรงแรม สมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ที่สำคัญที่สุดคือท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงต่างๆ และที่ต้องขอบคุณมากที่สุดคือท่านนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ได้อนุมัติงบประมาณและตัดสินใจไม่ยุติการแข่งขันทั้ง 3 รายการ ให้ดำเนินการแข่งขันต่อไปได้”
“การแข่งขันแบดทั้ง 3 รายการนี้จะเป็นการพิสูจน์ถึงศักยภาพของการจัดการแข่งขันกีฬาในไทย ภายใต้วิกฤติโควิด-19 ถ้าการจัดการแข่งขัน ประสบความสำเร็จจนสิ้นสุดคือวันที่ 31 ม.ค. จะเป็นการตอบโจทย์ว่า ไทยมีความสามารถจัดการแข่งจัน คนไทยมีวินัยในการอยู่ร่วมกัน และแสดงให้เห็นว่าขณะที่ไทยมีกิจกรรมการจัดการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ รัฐบาลให้กกท.สนันสนุน สมาคมแบดมินตัน กระทรวงต่างๆ ช่วยกันดูแลว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น”
“จากการชมการฝึกซ้อมและสภาพภายในสนามแข่งขันผ่านทางจอมอนิเจอร์ในห้องนี้ ขณะนี้ ทุกคนในบับเบิ้ลสะอาดและปลอดภัย ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน เราที่อยู่ภายนอก แต่จะมีการติดต่อสื่อสารผ่านทางออนไลน์เข้าไปเรื่อยๆ สำกรับความพร้อมจัดการแข่งขัน ขณะนี้ร้อยเปอร์เซ็นต์ พรุ่งนี้ถ้ามีการตรวจหาเชื้ออีกครั้งแล้วไม่มีเคสเกิดขึ้น ทุกอย่างจะเดินหน้าไปจนถึงวันที่ 31 มกราคมได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งสามารถจัดการแข่งขันท่ามกลางสถานการณ์ที่วิกฤติเช่นนี้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นนี้ นักกีฬาทั้งโลกจะมั่นใจว่าประเทศไทยจะสามารถจัดการแข่งขันได้อย่างดียิ่ง”
ทางด้าน คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล เผยว่า “ในนามของคณะกรรมการจัดการแข่งขัน ขอขอบคุณรัฐบาลไทย ท่านนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุข และทุกภาคส่วน ที่ให้การสนับสนุนจัดการแข่งขันแบดมินตัน 3 รายการครั้งประวัติศาสตร์นี้ แม้จะเป็นการจัดการแข่งขันแบบปิด แต่จะสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ ผ่านการถ่ายทอดสู่ผู้ชม 3000 ล้านครัวเรือน ซึ่งเป็นการเปิดประเทศให้คนทั่วโลกได้ชม เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมื่อสถานการณ์โรคระบาดผ่อนคลาย และยังเป็นต้นแบบจัดการแข่งขันกีฬาทั่วโลกแบบนิวนอร์มอล ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะนี้”
“รายการนี้ไม่เป็นเพียงแค่สนับสนุนการแข่งขันกีฬาเท่านั้น แต่เป็นการส่งเสริมประเพณี วัฒนธรรม และการแสดงของไทย โดยจะมีการแสดงวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของไทยในพิธีมอบรางวัล และความพิเศษอยู่ที่การมอบรางวัลแบบนิวนอมอล ทุกท่านที่เป็นคนมอบรางวัลนั้นจะไม่ได้อยู่ภายในพื้นที่ แต่พิธีการวันนั้นจะถูกจัดให้มีความเสมือนจริง
เพื่อแสดงศักยภาพของประเทศไทยสู่เวทีโลก ที่สามารถจัดกิจกรรมระดับโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยมาตรการคุมเข้มเพื่อความปลอดภัยระดับสูงสุดในช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 ยังระบาดทั่วโลก ”
“ในฐานะคณะกรรมการจัดการแข่งขันไม่มีความกังวล ตามที่ท่านรัฐมนตรีได้กล่าวแล้วว่าทุกคนในบับเบิ้ลสะอาดที่สุด นอกจากนี้ทางโอลิมปิกได้ส่งบุคลากรมาสังเกตการณ์ว่าไทยทำได้อย่างไร มีการบริหารจัดการอย่างไร เพื่อจะนำไปเป็นต้นแบบ รวมถึงคุณโธมัส บาค ประธานไอโอซี กล่าวชมประเทศไทยว่าเป็นประเทศที่เสียสละให้นานาประเทศในโลก และกล้าหาญ มีความมุ่งมั่นแน่วแน่ที่จะทำให้เกิดแบบอย่างการจัดการแข่งขันกีฬาชนิดอื่นๆ ให้แก่วงการกีฬาโลก”
สำหรับการแข่งขันแบดมินตันเวิลด์ทัวร์ 3 รายการใหญ่ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี เปิดฉากศึก “โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น” เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ชิงเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญสหรัฐ วันที่ 12 – 17 มกราคม ต่อด้วยรายการ “โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น” เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ชิงเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญสหรัฐ วันที่ 19 – 24 มกราคม และ เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2020 ชิงเงินรางวัลรวม 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ วันที่ 27 – 31 มกราคม โดยทรูวิชั่นส์จะถ่ายทอดสดให้แฟนกีฬาในประเทศไทยได้รับชมทุกวันๆ ละ 2 สนามๆ ละ 10 คู่
Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์
พิมพ์ไทยออนไลน์ // สมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย ทำความสะอาดศูนย์ฝึกทีมชาติแบบวันเว้นวัน ขณะที่นักกีฬาเก็บตัวซ้อมเข้ม หวังพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ส่วนโควิด ไม่มีผลกระทบต่อยิมนาสติกชิงแชมป์โลก มั่นใจ “ฑิฆัมพร สุรินทรทะ” มีโอกาสสูงเกิน 70 เปอร์เซ็นต์ คว้าโควตาโอลิมปิกเกมส์ กลางปีนี้
ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับ สมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย หลังจากเกิดวิกฤตไวรัสโควิด -19 กลับมาระบาดอีกครั้ง ทำให้กำหนดมาตรการเข้มงวด ด้วยการพ่นน้ำยาทำความสะอาดแค้มป์เก็บตัวแบบวันเว้นวัน ขณะที่นักกีฬาซ้อมกันอย่างหนักในลักษณะ คนในห้ามออก-คนนอกห้ามเข้า วันละ 8 ชั่วโมง ( ยกเว้นวันจันทร์ เพื่อให้นักกีฬาได้หยุดพัก) ทำให้นักกีฬาได้มีเวลาในการฝึกซ้อมกันอย่างเต็มที่
ดร.กุสุมาลย์ ประเสริฐศรี อุปนายกสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้จัดการทีมชาติไทย กล่าวว่า ได้ปรับวิกฤติให้เป็นโอกาสด้วยการปิดศูนย์ฝึกเฉพาะกิจ มีนักกีฬาเพียงแค่ 10 กว่าคน และผู้ฝึกสอนอีก 2 คน ซ้อมกันอย่างต่อเนื่อง ช่วงเช้า 4 ชั่วโมง และ ช่วงบ่ายอีก 4 ชั่วโมง ซ้อมแบบกระจาย เว้นระยะห่างตามมาตรการของ ศบค. ไม่แออัด ขณะที่ยิมแอโรบิก ผู้ฝึกสอนเป็นคนนอก ไม่สามารถเข้ามาได้ ก็จัดให้สอนแบบออนไลน์ ส่งผลให้นักกีฬามีสมาธิและการพัฒนาอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่คาดหวัง ไว้มาก
ทางด้าน น.ต.ศรายุทธ พัฒนศักดิ์ นายกสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ถึงแม้การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะกลับมาอีกครั้ง แต่ไม่ได้มีผลกระทบต่อกีฬายิมนาสติกเหมือนที่กังวล เนื่องจาก การแข่งขันยิมนาสติกแอโรบิก ชิงแชมป์เอเชีย เดือนตุลาคม 2564 ที่ ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันไม่เปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกับการประชุมสหพันธ์ยิมนาสติกสากล (FIG) เดือนกันยายน 2564 ที่ตุรกี เหมือนเดิม รวมทั้ง การแข่งขันกีฬายิมนาสติกศิลป์ชิงแชมป์โลก เพื่อลุ้นโควต้ากีฬาโอลิมปิกเกมส์ กลางปีนี้ ที่ ญี่ปุ่น วันที่ 10-13 มีนาคม 2564 ที่กรุงโดฮา กาตาร์ยังไม่เปลี่ยนแปลง ดังนั้น ไวรัสโควิด -19 จึงไม่มีผลกระทบต่อการแข่งขันกีฬายิมนาสติกแต่อย่างใด
สำหรับการแข่งขันยิมนาสติกชิงแชมป์โลก สมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย ส่ง “บีม” ฑิฆัมพร สุรินทรทะ เหรียญเงินประเภทฟลอร์เอ็กเซอร์ไซส์กีฬาซีเกมส์ เมื่อปี 2562 ไปแข่งขันเพียงคนเดียว จากการทดสอบครั้งล่าสุด มีการพัฒนาความสามารถจนเป็นที่น่าพอใจ ทำคะแนนได้เกือบถึง 15.00 ทำให้มั่นใจว่าหากไม่บาดเจ็บก่อนแข่งขัน โอกาสได้สิทธิ์ไปเข้าแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ มีไม่น้อยกว่า 70 เปอร์เซ็นต์
Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์
พิมพ์ไทยออนไลน์ // “สองล้อ” ยกระดับการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2564 ของผู้ตัดสินทั่วประเทศ ด้วยแอปพลิเคชั่นซูม (Zoom) ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาด “โควิด-19” อย่างเคร่งครัด ด้าน “เสธ.หมึก” เผยสมาคมกีฬาจักรยานฯ ไม่เคยหยุดพัฒนาบุคลากร แม้เจออุปสรรคต่าง ๆ มากมาย พร้อมทั้งกำชับให้ผู้ตัดสิน นักกีฬา และเจ้าหน้าที่ทุกคน ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น “หมอชนะ” เพื่อให้สามารถติดตามข้อมูลได้ อีกทั้งเป็นการดูแลและป้องกันตนเองจากการระบาดของ “โควิด-19”
“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย เผยว่า จากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ที่กระจายไปทั่วประเทศ ส่งผลกระทบต่อเนื่องจนทำให้สมาคมกีฬาจักรยานฯ ต้องเลื่อนการแข่งขันจักรยานในปฏิทิน 2 รายการ เดือนมกราคม ได้แก่ การแข่งขันจักรยานประเภทถนน และเสือภูเขา ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานฯ สนามที่ 1 ที่จังหวัดสงขลา วันที่ 15-17 มกราคม และจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานฯ สนามที่ 1 ที่สนามเสมอกัน เซอร์กิต จังหวัดสุพรรณบุรี วันที่ 30-31 มกราคม ซึ่งต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด
นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมด้านอื่น ๆ สมาคมฯต้องปรับหรือเลื่อนออกไปก่อน การอบรมผู้ฝึกสอนกีฬาจักรยานประเภทเสือภูเขา ระดับชาติขั้นพื้นฐาน ประจำปี 2564 วันที่ 20-24 มกราคม ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ก็ต้องเลื่อนออกไปโดยไม่มีกำหนดเช่นเดียวกัน
“เสธ.หมึก” กล่าวต่อไปว่า ปี 2564 สมาคมฯจะยกระดับการใช้เทคโนโลยีสื่อสารทางไกลมาใช้ดำเนินกิจกรรมของสมาคมฯ ให้ครอบคลุมในทุกภาคส่วน เตรียมความพร้อมของนักกีฬาจักรยาน ที่อยู่ในโครงการสำคัญทั้งโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น, การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่เวียดนาม ปี 2564 จนถึงการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่หางโจว ปี 2565
นายกสองล้อไทย กล่าวว่า การประชุมใหญ่สามัญประจำปีของชมรมผู้ตัดสินในครั้งนี้ สมาคมกีฬาจักรยานฯมอบนโยบายให้ผู้ตัดสินทุกคนดาวน์โหลดแอปพลิเคลชั่น “หมอชนะ” ลงในโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน เพื่อสามารถติดตามข้อมูลการเดินทาง หรือการเข้าไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยงได้ อีกทั้งเป็นการดูแลและป้องกันตนเองจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมไปถึงนักกีฬาทีมชาติ และเจ้าหน้าของสมาคมกีฬาจักรยานฯ ทุกคนก็จะต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น “หมอชนะ” ด้วยเช่นกัน เป็นการสนองนโยบายของรัฐบาลในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19
Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์
พิมพ์ไทยออนไลน์ // ไทยขึ้นแท่นเบอร์ 1 ของโลก จัดนกพิราบแข่งนานาชาติ สมาพันธ์นกพิราบแข่งนานาชาติและนักเลี้ยงนกทั่วโลกต่างยกย่อง ด้านพัทยาอินเตอร์เนชั่นแนล พีเจ้น เรซ เตรียมขยายกรงนกเพิ่มอีก 120% เพื่อรองรับนกแข่งจากทั่วโลกที่หลั่งไหลเข้ามาร่วมในปีหน้ากว่า 1 หมื่นตัว ชิงเงินรางวัลรวมสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ 55.6 ล้านบาท
สมาพันธ์นกพิราบแข่งนานาชาติ (FCI) ยกย่อง ไทยจัด การแข่งขันนกพิราบแข่งนานาชาติพัทยา ครั้งที่ 5 (The 5th Pattaya International Pigeon Race) ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ได้ดีที่สุดในโลก พร้อมมอบโล่เกียรติคุณยืนยันความยิ่งใหญ่ โดยมร.อีทส์วาน บาร์โดส ประธาน FCI ชูจุดเด่น 3 ข้อ ที่เหนือกว่าทุกชาติ ทั้งมีนกเข้าร่วมแข่งขันมากที่สุดในโลก, เงินรางวัลสูงสุด และนกบินกลับกรงได้เป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงมาก ด้าน สิริเดช โรจนารุณ กรรมการบริษัท พัทยา อินเตอร์เนชั่นแนล พีเจ้น เรซ จำกัด ยืนยันการแข่งขันครั้งต่อไป จะเกิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ เตรียมขยายกรงนกพัทยา รองรับนกพิราบแข่งจากทั่วโลกกว่า 15,000 ตัว พร้อมเพิ่มยอดเงินรางวัลสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ถึง 55.6 ล้านบาทในปีหน้า
ล่าสุด นายสิริเดช โรจนารุณ กรรมการบริษัท พัทยา อินเตอร์เนชั่นแนล พีเจ้น เรซ จำกัด กล่าวว่า การแข่งขันนกพิราบแข่งนานาชาติ ปีนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก นักเลี้ยงนกทั่วโลกต่างชื่นชมการจัดการแข่งในครั้งนี้ ถึงแม้จะเกิดสถานการณ์ การแพร่
ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นไปทั่วโลก ตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว ทำให้เราคิดว่า ผู้เลี้ยงนกจากทั่วโลกน่าจะส่งนกพิราบมาแข่งขันไม่มากเหมือนครั้งปีที่ผ่านมา แต่พอเปิดรับสมัครจริง กลับตรงกันข้าม จำนวนนกที่เข้าแข่งขันมีมากขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งเรื่องนี้ มร.อีทส์วาน บาร์โดส ประธานสมาพันธ์นกพิราบแข่งนานาชาติ (FCI) ที่เดินทางมาดูการทำงาน พัทยา อินเตอร์เนชั่นแนล พีเจ้น เรซ มานานเกือบ 1 เดือน เห็นการดูแลเอาใจใส่ของเจ้าหน้าที่สัตวบาล ต่อนกทุกตัวทำได้ดีมาก ทำให้ มร.อีทส์วาน ชื่นชมและยกย่องว่ามาตราฐานการดูแลเลี้ยงนก การจัดการแข่งขันของไทยสูงมากกว่าทุกแห่งทั่วโลก ทำให้ผู้เลี้ยงนกจากนานาชาติเชื่อมั่นส่งนกมาแข่งขันจำนวนมาก
มร.อีทส์วาน บาร์โดส ประธาน สมาพันธ์นกพิราบแข่งนานาชาติ FCI ซึ่งเป็นองค์กรที่รับรองการจัดการแข่งขันนกพิราบแข่งนานาชาติพัทยา ยัง กล่าวชื่นชมอีกว่า รายการนี้ถือว่าเป็นการแข่งขันที่ดีที่สุดของโลก ทั้งเรื่องยอดนกพิราบที่แข่งขันที่มากกว่าการจัดการแข่งขันระดับนานาชาติทุกประเทศ รวมถึงเงินรางวัลที่สูงมากเป็นประวัติศาสตร์ และที่สำคัญนกพิราบที่นำไปปล่อยจากจุดสตาร์ทแต่ละระยะทาง สามารถบินกลับมายังกรงได้เป็นจำนวนเปอร์เซ็นที่สูงมาก ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของไทย พร้อมกันนี้ มร.อีทส์วานมอบโล่เกียรติคุณการจัดการแข่งขันนกพิราบแข่งนานาชาติพัทยา ครั้งที่ 5 อีกด้วย เป็นการการันตีว่าประเทศไทยจัดแข่งได้ดีที่สุดในโลก
นายสิริเดช กล่าวต่อไปว่า หลังจากจัดการแข่งขันเสร็จ เตรียมขยายกรงนกเพิ่มขึ้นทันที เพื่อรองรับนกแข่งให้มากขึ้นกว่า 15,000 ตัว โดยจะก่อสร้างพื้นที่กรงนกเพิ่มขึ้นอีกกว่า 120% จากเดิมรองรับนกได้ 7,000 ตัว การขยายกรงในครั้งนี้จะสามารถรองรับนกแข่งได้ถึง 15,000 ตัว เชื่อว่าปีหน้าจะมีนกพิราบแข่งจากทั่วโลกมาแข่งขันมากขึ้นอย่างต่ำ 10,000 ตัว และที่สำคัญได้มีการเพิ่มเงินรางวัลมากเป็นประวัติศาสตร์ในวงการนกพิราบแข่งนานาชาติ ด้วยเงินรางวัลรวมสูงสุดถึง 55.6 ล้านบาท แต่ค่าสมัครยังคงเก็บเท่าเดิม ในเดือนมีนาคมนี้จะเปิดรับสมัครนกเข้าเตรียมตัวสู่การแข่งขันปีหน้า และเตรียมสร้างประวัติศาตร์หน้าใหม่ให้วงการนกพิราบแข่งนานาชาติกันอีกครั้ง ผู้สนใจ สามารถติดตามรายละเอียดได้ทาง www.pattayaoneloftrace.com
Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์
https://timeline.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1161023946110051836
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)