วันศุกร์, กันยายน 20, 2024

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรกข่าวกีฬา"บางจาก"-กลุ่มพันธมิตร อัดฉีด10 ล้าน กำปั้นไทย คว้าทองโอลิมปิก

“บางจาก”-กลุ่มพันธมิตร อัดฉีด10 ล้าน กำปั้นไทย คว้าทองโอลิมปิก

พิมพ์ไทยออนไลน์ // “บิ๊กบางจาก” พิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย ประกาศอัดฉีด นักกีฬามวยสากลทีมชาติไทย หากคว้าเหรียญทองรับ 10ล้านบาท แบ่งเป็น เงินจาก บ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) 5 ล้านบาทและกลุ่มพันธมิตร อีก 5 ล้านบาท ส่วนเหรียญเงิน รับ 3 ล้าน และเหรียญทองแดง 2 ล้านบาท
ความเคลื่อนไหวของทัพกำปั้นไทยที่ผ่านเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ(รอบ 8 คน) กีฬาโอลิมปิกเกมส์2020 ที่ญี่ปุ่น ได้ 3 รุ่น ประกอบด้วย รุ่น 51 กก.หญิง จุฑามาศ จิตรพงษ์ พบ Naz Buse Cakiroglu(ตุรกี) รุ่น 57 กก. ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี พบ Lazaro Alvarez(คิวบา) แข่งขันวันที่ 1 ส.ค. และ รุ่น 60กก.หญิง สุดาพร สีสอนดี พบ Caroline Dubois(สหราชอาณาจักร) วันที่3ส.ค.นี้
ล่าสุด นาย พิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย เผยว่าได้หารือกับกลุ่มพันธมิตร และบ.บางจาก คอร์ปอเรชั่นจำกัด(มหาชน) ตั้งเงินรางวัลอัดฉีดเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจนักมวยทีมชาติไทยที่ฝึกซ้อมมาอย่างหนัก และสามารถเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศได้ถึง 3 คน ตอนนี้ทุกคนมีโอกาสลุ้นเหรียญรางวัล ผู้ที่ได้เหรียญทอง จะได้รับเงินอัดฉีดจำนวน10 ล้านบาท แบ่งเป็น2 ภาคส่วน จาก บ.บางจาก คอร์ปอเรชั่นจำกัด(มหาชน) จำนวน 5 ล้านบาท กลุ่มพันธมิตรที่ยังไม่เปิดเผยรายชื่ออีก 5 ล้านบาท เหรียญเงิน บ.บางจาก คอร์ปอเรชั่นจำกัด(มหาชน) มอบเงินอัดฉีด 3 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 2 ล้านบาท

นายใหญ่กำปั้นไทย เผยอีกว่า ในรอบที่ผ่านมา นักชกทั้ง 3 คน ทำผลงานได้น่าประทับใจ มีหัวใจนักสู้ มีการพัฒนาด้านการชกที่ดี รวมทั้งมีความแข็งแกร่ง ไม่ว่า ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี ที่มีคิวพบ นักชกคิวบา ที่ดูชื่อชั้นนักชกคิวบารายนี้จะเหนือกว่า แต่เชื่อว่าหาก”เจ้าสด”ชกได้อย่างมั่นใจเหมือนรอบที่ผ่านมา ก็มีโอกาสเข้ารอบต่อไป สุดาพร สีสอนดี เตรียมตัวมาดีในทัวรืนาเมนต์นี้ บวกกับประสบการณ์การชกระดับชาติ น่าจะเอาความเก๋า ชนะนักมวยสหราชอาณาจักรได้ ส่วน จุฑามาศ จิตรพงษ์ พบ นักชกตุรกี มีโอกาสมากที่สุด เพราะนักมวยหญิงจากประเทศอิสลาม ส่วนใหญ่มีตัวเลือกไม่มาก น่าจะมีลุ้นมากขึ้น
สำหรับแผนในอนาคต หลังจากจบกีฬาโอลิมปิกเกมส์2020 สมาคมฯหวังจะเป็นเลิศทางด้านกีฬามวยสากล ตั้งเป้าติด 1ใน 5ของเอเชีย สร้างนักมวยทุกระดับชั้น ทั้งยุวชน-เยาวชนและประชาชน เพื่อเป็นตัวเลือกในทีมชาติ
ส่วนเรื่องโค้ชต่างชาติ คงเป็นที่ปรึกษาเรื่องแทคติกหรือเทคนิกมากกว่า เป็นหัวหน้าสตีาฟโค้ช โค้ชไทยก็ทำหน้าที่ได้ดี เนื่องจากสมาคมฯส่งนักมวยไปแข่งขันทัวร์นาเนต์ระดับนานาชาติมากขึ้น ช่วง4-5 ปี ที่ผ่านมา ทำให้โค้ชไทยมีโอกาสเรียนรู้จากประสบการณ์เหล่านี้ และนำพัฒนาต่อยอดจนเป็นโค้ชที่มีฝีมือเป็นที่ต้องการของหลายชาติในอาเซียน

Cr..วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวใหม่