วันพฤหัสบดี, กันยายน 11, 2025

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรก บล็อก หน้า 2059

“โป๊ยเซียน” กวาดเรียบ 3 ทอง ศึกยกน้ำหนัก “อีแกท”​

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // โป๊ยเซียน ยอดสาร โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์สุราษฎร์ธานี กวาดเรียบ 3 เหรียญทอง รุ่น 59 กิโลกรัมหญิง รายการ EGAT (อีแกท) ยกน้ำหนักเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2563 ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ จังหวัดนครสวรรค์ ส่วนรุ่น 67 กิโลกรัมชาย แย่งเหรียญกันสนุก ธนโชติ พรมชาติ สมาคมกีฬายกน้ำหนักจังหวัดศรีสะเกษ เอ ทำได้ 1 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน
การแข่งขัน EGAT (อีแกท) ยกน้ำหนักเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2563 ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่ง จังหวัดนครสวรรค์ ร่วมกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และ สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย จัดขึ้นภายใต้มาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด ที่โรงยิมเนเซียม 4,000 ที่นั่ง สนามกีฬาจังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

ผลปรากฎว่า รุ่น 67 กิโลกรัมชาย แย่งเหรียญทองกันอย่างสนุก เริ่มจากท่าสแนทช์ พิพัฒน์ บุรีคำ ชมรมยกน้ำหนักจังหวัดสุรินทร์ คว้าเหรียญทอง ยกได้ 113 กิโลกรัม ส่วนท่าคลีนแอนด์เจิร์ก สถิติ 110 กิโลกรัม ได้อันดับ 18 น้ำหนักรวม 223 กิโลกรัม ได้อันดับ 8 ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก อนุชา อินทรักษา ม้ามืดโรงเรียนกีฬาจังหวัดอ่างทอง คว้าเหรียญทอง ยกได้ 145 กิโลกรัม พร้อมกับทุบสถิติเยาวชนประเทศไทยของ ธนโชติ พรมชาติ ทำไว้ 142 กิโลกรัม ส่วนท่าสแนทช์ สถิติ 106 กิโลกรัม ได้อันดับ 8 น้ำหนักรวม 251 กิโลกรัม ได้เหรียญเงิน และ น้ำหนักรวม เหรียญทอง ธนโชติ พรมชาติ สมาคมกีฬายกน้ำหนักจังหวัดศรีสะเกษ เอ ทำได้ 251 กิโลกรัม โดยท่าสแนทช์ สถิติ 112 กิโลกรัม ได้เหรียญเงิน น้ำหนักรวม 139 กิโลกรัม ได้เหรียญเงิน

รุ่น 59 กิโลกรัมหญิง โป๊ยเซียน ยอดสาร โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์สุราษฎร์ธานี กวาดเรียบ 3 เหรียญทอง จากท่าสแนทช์ 83 กิโลกรัม คลีนแอนด์เจิร์ก 100 กิโลกรัม น้ำหนักรวม 183 กิโลกรัม ส่วน ศิรดา ดีพุดซา โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครราชสีมา คว้า 2 เหรียญเงิน จากท่าสแนทช์ 72 กิโลกรัม น้ำหนักรวม 161 กิโลกรัม 1 เหรียญทองแดง ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 89 กิโลกรัม ขณะที่ ปริฉัตร กุนรา จากโรงเรียนบึงมะลูวิทยา ได้ 1 เหรียญเงิน ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 96 กิโลกรัม และ รจนา ไหมทอง สมาคมกีฬายกน้ำหนักจังหวัดศรีสะเกษ เอ ได้ 2 เหรียญทองแดง ท่าสแนทช์ 71 กิโลกรัม น้ำหนักรวม 159 กิโลกรัม ส่วนท่าคลีนแอนด์เจิร์ก สถิติ 88 กิโลกรัม ได้อันดับ 4
ด้าน รุ่น 64 กิโลกรัมหญิง ชลธิชา สีหาทับ จอมพลังโรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครสวรรค์ เอ โชว์ฟอร์ม ยอดเยี่ยม กวาด 3 เหรียญทอง จากท่าสแนทช์ 82 กิโลกรัม คลีนแอนด์เจิร์ก 98 กิโลกรัม น้ำหนักรวม 180 กิโลกรัม ส่วน กาญจนา ไหมทอง สมาคมกีฬายกน้ำหนักจังหวัดศรีสะเกษ เอ คว้า 3 เหรียญเงิน จากท่าสแนทช์ 81 กิโลกรัม คลีนแอนด์เจิร์ก 97 กิโลกรัม น้ำหนักรวม 178 กิโลกรัม
“โป๊ยเซียน” กวาดเรียบ 3 ทอง ศึกยกน้ำหนัก “อีแกท”​

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

สมศักดิ์ ยัน โคเคน ฝิ่น มอร์ฟิน ยังเป็นยาเสพติด มีแผนปลดล็อคพืชกระท่อม

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // สมศักดิ์ รมว.ยุติธรรม ยันไม่มีนโยบายยกเลิก โคเคน-ฝิ่น-มอร์ฟีน ออกจากยาเสพติด มีแผนปลดล็อกพืชกระท่อมให้ใช้ตามวิถีชาวบ้านเท่านั้น ชี้พืชกัญชา เพื่อเพิ่มโอกาสทางการแพทย์ ให้ปชช.มีหวังสู้โรคร้าย

วันที่ 18 พ.ย.63 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณี เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่กฎกระทรวงอนุญาตจำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (เช่น โคเคน-มอร์ฟีน-ฝิ่น) เพื่อใช้ในการรักษา การศึกษา และประโยชน์ของทางราชการ ว่าขณะนี้ยังไม่มีนโยบายในการประกาศยกเลิกโคเคน หรือฝิ่นจากยาเสพติดให้โทษ มีเพียงนโยบายยกเลิกพืชกระท่อม ออกจากยาเสพติดเท่านั้น เนื่องจากพืชกระท่อมมีฤทธิ์ในการเสพติดน้อยมาก หากบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม เช่น ไม่เกิน 20 ใบต่อวัน จะไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกายและสุขภาพ ใช้ในวิถีชีวิตชาวบ้านทำให้มีแรงทำงานหนักได้ ส่วนการปลดยาเสพติดเพื่อประโยชน์ของทางราชการ มีเพียงกระท่อมที่ต้องการให้ประชาชนสามารถใช้ในวิถีชีวิตพื้นบ้านได้  และจะให้เป็นพืชเศรษฐกิจในอนาคต

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า การปลดพืชกระท่อม ไม่มีการเอื้อประโยชน์ใคร แต่ต้องการให้สามารถใช้ในวิถีชาวบ้านได้ และส่งเสริมการใช้ประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจ พึ่งพาตนเองในการใช้เป็นยาสมุนไพร พืชกระท่อมมีสรรพคุณทางยาสมุนไพรของหมอพื้นบ้านและแพทย์แผนไทย โดยเมื่อมีการถอดพืชกระท่อมจากยาเสพติดแล้ว จะมี กฎหมายดูแลการขออนุญาตปลูก การป้องกันการขายแก่เด็กนักเรียนเยาวชน ไม่มีวัตถุประสงค์มอบเมาแต่อย่างใด ส่วนกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เห็นชอบให้พื้นที่นำร่อง 135 หมู่บ้าน/ชุมชน เป็นท้องที่ที่ให้เสพพืชกระท่อมได้โดยไม่เป็นความผิดนั้น ประกาศ 135 พื้นที่เสพและครอบครองพืชกระท่อม เป็นการผ่อนปรนให้ใช้ด้วยวิธีเคี้ยวใบสด ชงชาตามวิถีชาวบ้านเท่านั้น

“การออกกฎหมายต่างๆจะต้องมีกฎเกณฑ์ที่เหมาะสม พืชกระท่อมนี้ เราไม่ได้เปิดให้มีการใช้อย่างเสรี แต่จะเป็นการผ่อนปรนให้ใช้ตามวิถีชาวบ้าน ส่วนการน้ำมาต้มแล้วผสมเป็น 4×100 เราไม่มีการปล่อยให้ทำเช่นนั้นเด็ดขาด รวมทั้งต้องมีการควบคุมและไม่ขายให้แก่เด็กและเยาวชนโดยเด็ดขาด หากใครฝ่าฝืนเราจะลงโทษหนักตามกฎหมาย” นายสมศักดิ์ กล่าว

ข้อเสนอเปลี่ยนแปลงการควบคุมกัญชาและสารที่เกี่ยวข้องกับกัญชา ของ WHO ให้ใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และทางการวิจัย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ประเทศไทยตระหนักถึงความพยายามของ WHO ในการให้ข้อเสนอแนะที่จะปรับเปลี่ยนขอบเขตการควบคุมกัญชาและสารที่เกี่ยวข้องกับกัญชา เป็นการสร้างสมดุลในการบริหารจัดการพืชกัญชาแทนการควบคุมอย่างเข้มงวดเพียงอย่างเดียวทำให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการดำเนินการตามอนุสัญญาฯ เพื่อตอบสนองต่อองค์ความรู้ใหม่ที่พัฒนาขึ้นในห้วงที่ผ่านมา รวมถึงแนวโน้มใหม่ของโลกที่เปิดกว้างมากขึ้นในเรื่องการใช้ประโยชน์จากกัญชา แม้ว่าเรื่องประโยชน์ทางการแพทย์ของกัญชายังเป็นประเด็นอ่อนไหวที่มีความคิดเห็นขัดแย้งกันอยู่มากและน่าจะยังหาข้อยุติไม่ได้โดยง่าย

“เราควรมองพืชกัญชาและสารสกัดจากกัญชาอย่างแยกส่วนโดยไม่เหมารวม ในส่วนที่เป็นโทษ ออกฤทธิ์ทำลายจิตและประสาทยังจำเป็นต้องควบคุมอย่างเข้มงวดภายใต้กรอบแนวคิดตามที่ไทยและประเทศสมาชิกอาเซียนยึดมั่นมาโดยตลอด ส่วนสารที่นำมาใช้ประโยชน์ ควรเปิดกว้างในการเข้าถึงและทำให้ง่ายต่อการนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และการวิจัย เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกและมีความหวังในการต่อสู้กับโรคร้าย”นายสมศักดิ์ กล่าว

Cr.:  นายทวีศักดิ์ ชิตทัพ ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทวออนไลน์

“วรัท”ปรับโฉมกศน.สู่ยุคไอที ปรับหลักสูตรยืดหยุ่นสะสมหน่วยกิต-เน้นเข้าถึงชุมชน

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//ายวรัท พฤกษาทวีกุล เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ให้สัมภาษณ์ว่า ได้เน้นบทบาทสำคัญลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาตามข้อกำชับของนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เพื่อให้ผู้ที่ขาดโอกาสทางการเรียนรู้ได้เข้าสู่ระบบการศึกษามากขึ้น นอกจากนี้จะมีการปรับหลักสูตร กศน.จะต้องเชื่อมโยงกับการเรียนต่อระดับอุดมศึกษา โดยเบื้องต้นจะทำความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี จัดการเรียนรูปแบบเครดิตแบงก์หรือธนาคารหน่วยกิต เพื่อเอื้อประโยชน์แก่ผู้เรียนมากขึ้นเพื่อนักศึกษากศน.ที่ต้องการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา

พร้อมกันนี้จะปรับปรุงระบบสารสนเทศ กศน.ทั้งระบบให้ทันสมัย เชื่อมโยงกับศูนย์พัฒนาศักยภาพบุคคลเพื่อความเป็นเลิศ (Human Capital Excellence Center : HCEC)เนื่องจาก กศน.มีข้อมูลออนไลน์จำนวนมาก ซึ่งรื่องนี้เป็นความท้าทายที่จะปรับโฉม กศน.ให้เป็นยุคข้อมูลไอที 4.0  สามารถคลิกผ่านโทรศัพท์มือถือเครื่องเดียวก็สามารถค้นข้อมูลที่ต้องการ
อีกทั้งกศน.จะต้องทำงานเชิงรุกใกล้ชิดกับชุมชนให้มากขึ้น สร้างโอกาสทางการศึกษาให้เกิดขึ้นแก่ประชาชนทุกช่วงวัย โดยเฉพาะการเก็บเด็กตกหล่นที่อยู่นอกระบบการศึกษา และการทำให้ผู้พิการมีอาชีพและช่องทางการเรียนรู้มากขึ้น รวมถึงได้ชู “โคกหนองนาโมเดล”ให้ กศน.จังหวัดเรียนรู้และนำไปเป็นต้นแบบขยายผลสู่พื้นที่อื่นๆ เนื่องจากโมเดลดังกล่าวเป็นการบริหารจัดการน้ำด้วยการเกษตรทฤษฎีใหม่ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของรัชกาลที่ 9

“ผมได้มอบหมายแก่ กศน.จังหวัด ให้ดำเนินการขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาตามคำสั่งการของท่านรมว.ศธ. และการมอบหมายของท่านกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศธ.ที่ได้มอบแนวทางการฝึกอาชีพต่างๆเช่น โครงการ 1 อำเภอ 1 อาชีพด้วยการยกระดับสินค้าของชุมชนให้มีคุณภาพ หรือ โคกหนองนา โมเดล”เลขาธิการ กศน.กล่าวในตอนท้าย :Cr;มณสิการ รามจันทร์

วันแห่งมหากัลยาณมิตร โบว์ลิ่งการกุศล “บางกอกทูเดย์ โอเพ่น 2020 : รวมมิตรเพื่อนชีวิตใหม่” หาทุนช่วย รพ.จักษุบ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//นอกจากจะเป็นสื่อกลางในการนำเสนอข่าวสารในด้านต่าง ๆ มากว่า 18 ปีแล้ว “สำนักข่าวบางกอกทูเดย์” ยังได้สร้างสรรค์กิจกรรมต่าง ๆ ล่าสุดคือการจับมือร่วมกับภาคีเครือและกัลยาณมิตรทั้งหลายจัดแข่งขันโบว์ลิ่งการกุศล “BANGKOK TODAY OPEN 2020 : โบว์ลิ่งรวมมิตรเพื่อชีวิตใหม่” เพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งหลังหักค่าใช้จ่าย สมทบทุนซื้อครุภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็นให้กับ โรงพยาบาลจักษุบ้านแพ้ว อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร ณ บลูโอ ริธึม แอนด์ โบว์ล เมเจอร์ฯรัชโยธิน กรุงเทพฯ โดยมี ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานเปิดงาน ซึ่งได้มอบเงินสมทบทุน 100,000 บาท และ ดร.จุมพล โพธิสุวรรณ รองบรรณาธิการบริหาร สำนักข่าวบางกอกทูเดย์ เป็นประธานจัดงาน ซึ่งได้ยอดเงินถึงจำนวน 403,030 บาท โดยภาพในงานมีการเซอร์ไพรส์วันคล้ายวันเกิดให้กับคุณไพวงษ์ เตชะณรงค์ ประธานบางกอกทูเดย์ด้วย
ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า สังคมไทยเป็นสังคมแห่งการช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะเวลาเกิดภัยพิบัติต่าง ๆ รวมถึงคนที่เจ็บไข้ได้ป่วย ผู้ยากไร้ก็เช่นกัน ซึ่งทางโรงพยาบาลในส่วนของภาครัฐก็ได้มีการช่วยกันระดมทุนเพื่อจัดหาซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ตลอดครุภัณฑ์ ให้เพียงพอและทันต่อการรักษาผู้เจ็บป่วยที่มีจำนวนมาก ดังเช่นกิจกรรมโบว์ลิ่งการกุศล “BANGKOK TODAY OPEN 2020 : โบว์ลิ่งรวมมิตรเพื่อชีวิตใหม่” ที่บางกอกทูเดย์จัดร่วมกับกัลยาณมิตรทั้งหลาย ในครั้งนี้ก็เป็นการจัดระดมทุนซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์และครุภัณฑ์ให้กับโรงพยาบาลจักษุบ้านแพ้ว ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ออกนอกระบบและเป็นโรงพยาบาลรักษาตาโดยเฉพาะแห่งแรกของประเทศไทย “ผมขอเป็นตัวแทนคนไทยและโรงพยาบาลจักษุบ้านแพ้วขอบคุณบางกอกทูเดย์และกัลยาณมิตรทุกท่าน ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การจัดงานในครั้งนี้จะบรรลุตามวัตถุประสงค์ ด้วยพลังจิตแห่งกุศลของทุกฝ่ายและทุกท่าน”
นายไพวงษ์ เตชะณรงค์ ประธานบางกอกทูเดย์ กรุ๊ป กล่าวว่า หนึ่งในการให้ที่ยิ่งใหญ่คือ “การให้ชีวิต” เพื่อให้เขาเหล่านั้นสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขหรือใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเสมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ ที่ไม่เพียงแค่คนที่ได้รับความทุกข์หรือมีความเจ็บป่วยเท่านั้น หากรวมถึงคนรอบข้างด้วย ดังนั้นเพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสในการช่วยเหลือชีวิตผู้คน “บางกอกทูเดย์” สื่อสร้างสรรค์ที่นำเสนอข่าวสารเพื่อประโยชน์ต่อสังคมไทยมาเกือบสองทศวรรษ จึงได้ร่วมกับกัลยาณมิตรซึ่งเป็นภาคีเครือข่ายต่างๆ จัดงานแข่งขันโบว์ลิ่ง “BANGKOK TODAY OPEN 2020 : โบว์ลิ่งรวมมิตรเพื่อชีวิตใหม่” เพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งหลังหักค่าใช้จ่ายมอบให้กับโรงพยาบาลบ้านแพ้ว อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อรองรับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น ซึ่งยังมีความต้องการครุภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์อีกจำนวนมาก
“งานนี้ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ของคนใดคนหนึ่งหรือองค์กรใดองค์กรหนึ่งเท่านั้น แต่เป็นงานของกัลยาณมิตรทุกท่าน และทีมงานบางกอก ทูเดย์ ที่ได้ผนึกกำลังร่วมกันขับเคลื่อนงานนี้ให้เกิดอย่างเป็นรูปธรรม แล้วเชื่อว่างานนี้จะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน เพราะด้วยพลังแห่งบุญ ความรัก ความสามัคคีของทุกคน เราจะก้าวไปพร้อมกันต่อไป และขอขอบคุณผู้ให้การส่งเสริมสนับสนุนบางกอก ทูเดย์ มาโดยตลอด ด้วยจิตคารวะครับ”
นายแพทย์พรเทพ พงศ์ทวิกร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจักษุบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร ท่านขึ้นต้นด้วยคำถามว่า “เคยถามตัวเองไหมครับว่าต้องเสียขาสองข้าง กับตาบอดสองข้างจะเลือกแบบไหนหรือแม้แต่เสียแขนทั้งสองข้างกับตาบอดจะเลือกอะไร ผมเชื่อว่า เราทุกคนยอมเสียแขนเสียขา แต่ไม่อยากตาบอด ถึงจะเดินไม่ได้แต่ก็ยังอยากมองเห็น”พร้อมระบุว่า การสูญเสียแขนหรือขามันน่ากลัว แต่การอยู่โดยมองไม่เห็นมันน่ากลัวกว่ามาก อย่าปล่อยให้ใครต้องตาบอดอีกต่อไป ทั้งนี้ประเทศไทยมีผู้ป่วยที่ต้องทนทุกข์กับภาวะตาบอดจำนวนมาก โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ชนบท ซึ่งจากการสำรวจพบว่า สาเหตุส่วนใหญ่มาจากภาวะต้อกระจก รวมทั้งภาวะอื่นๆ เช่น ต้อหิน ปัญหาจอประสาทตา และกระจกตา สำหรับโรงพยาบาลจักษุบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) มีคนไข้มารับการรักษาโรคตาเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยทางโรงพยาบาลได้พยายามจัดการตรวจและรักษาให้อย่างรวดเร็วที่สุด แม้จะมีจักษุแพทย์ มีห้องตรวจและมีห้องผ่าตัดที่จำกัด
“แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ของเราทุกคน อยากให้คนไข้กลับมามองเห็นอีกครั้งหนึ่ง ให้ได้รับการรักษาดูแลที่ดีที่สุดและรวดเร็วที่สุด จึงอยากฝากทุกคนช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่มีใจเมตตาที่อยากจะมาช่วยเรา ช่วยหมอ ช่วยผู้ป่วยที่มีปัญหาโรคตาให้เขากลับมามองเห็นอีกครั้งหนึ่ง และขอขอบคุณสำนักข่าวบางกอกทูเดย์และกัลยาณมิตรทุกท่านที่ร่วมจัดกิจกรรมในครั้งนี้”
นางสาวมณสิการ รามจันทร์ ผู้แทนชมรมเว็บคลับ ไทยแลนด์ กล่าวว่า ในฐานะที่เราเป็นสื่อด้วยกัน ยินดีที่จะสนับสนุนกันแลัวกันอยู่ เชื่อว่าพลังสื่อมวลชนเป็นอีกหนึ่งพลังที่จะสามารถช่วยกันขับเคลื่อนสังคมไทยไปสู่สังคมแห่งการแบ่งปันและน่าอยู่ หวังว่ากิจกรรมสร้างสรรค์และช่วยเหลือสังคมในวันนี้เป็นการชักนำให้คนดี ๆ มีจิตใจงามมาพบกันเพื่อต่อยอดกิจกรรมสังคมอื่นๆต่อไปในอนาคตแล้ว ยังเป็นการมอบแสงสว่างให้กับผู้ป่วยทางสายตาอีกด้วย:Cr;มณสิการ รามจันทร์

 

คลังกู้ ADB 1,500 ล้านเหรียญฯ สู้โควิด

0

http://www.natethip.com/news.php?id=3312
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

สำนักข่าวเนตรทิพย์-ท้องกินข้าว สมองกินข่าว!

0

https://timeline.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1160565918410056992
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน

 

 

“สองล้อ” หนุนผู้จัดเอกชน จัดช่วงที่ปิดฤดูกาล ที่ แก่งกระจาน เพชรบุรี “เสธหมึก” ไฟเขียว

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย เผยว่า หลังจากที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้จัดการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี 2563 ประเภทต่าง ๆ ทั้งประเภทลู่, ถนน, เสือภูเขา, บีเอ็มเอ็กซ์ รวมทั้งจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) และ “ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” เสร็จสิ้นครบทุกสนามแล้ว อย่างไรก็ตาม มีชมรม สโมสรสมาชิก หรือผู้จัดเอกชนบางราย มีความประสงค์จัดการแข่งขัน ช่วงที่ปิดฤดูกาล ซึ่งสมาคมกีฬาจักรยานฯ ยินดีให้การสนับสนุน แต่ขอให้ยื่นเรื่องขอจัดการแข่งขันมาให้ถูกต้องตามขั้นตอนและระเบียบของสมาคมฯ

พลเอกเดชา กล่าวว่า ล่าสุด บริษัท สปอร์ต ฟอร์ ไลฟ์ จำกัด ได้ติดต่อขออนุญาตจัดการแข่งขันจักรยานรายการ “CLUB RACE THAILAND 2020 Special Edition” มาตามระเบียบถูกต้องตามขั้นตอนทุกประการ สมาคมกีฬาจักรยานฯอนุญาตให้จัดได้ พร้อมให้การสนับสนุนด้านบุคลากร ด้วยการจัดผู้ตัดสินไปทำหน้าที่การแข่งขัน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายคัดกรองการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ทั้งนี้ เพื่อเป็นการยกระดับการแข่งขันของภาคเอกชนให้มีมาตรฐาน และป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19

นายธริษตรี จุลกทัพพะ ผู้บริหารบริษัท สปอร์ต ฟอร์ ไลฟ์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการแข่งขัน เปิดเผยว่า การแข่งขันจักรยานรายการ “CLUB RACE THAILAND 2020 Special Edition” ระหว่างวันที่ 5-6 ธันวาคม ที่แก่งกระจาน เซอร์กิต จังหวัดเพชรบุรี โดยโปรแกรมการแข่งขันวันที่ 5 ธันวาคม สเตจที่ 1 ในแบบแมสสตาร์ต (MASS START) เริ่มเวลา 14.00 น. ปล่อยตัวประเภททีมหญิง ปั่น 12 รอบ ระยะทาง 34.8 กม. มีจุดเจ้าความเร็ว (IS) 2 จุด จากนั้นเวลา 16.00 น. จะปล่อยตัวทีมชาย ปั่น 21 รอบ ระยะทาง 60.9 กม. มีจุดเจ้าความเร็ว (IS) 3 จุด
โปรแกรมการแข่งขันวันที่ 6 ธันวาคม แข่งรวมทีเดียว 2 สเตจ สเตจที่ 2 แบบไทม์ไทรอัลบุคคล แข่งขัน 1 รอบ ระยะทาง 2.2 กม. เริ่มปลอ่ยตัวเวลา 07.00 น. ส่วนสเตจที่ 3 แข่งขันรูปแบบไครทีเรียม (Criterium) เวลา 12.00 น. ปล่อยตัวประเภทหญิง ปั่น 12 รอบ ระยะทาง 34.8 กม. มีจุดเจ้าความเร็ว (IS) 3 จุด เวลา 14.00 น. ปล่อยตัวประเภทชาย ปั่น 21 รอบระยะทาง 60.9 กม. มีจุดเจ้าความเร็ว (IS) 7 จุด

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“กรุงไทย-แอกซ่า” ลิเวอร์พูลชวน แฟนหงส์แดง วิ่งเวอร์ชวลรัน

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // “กรุงไทย-แอกซ่า” และ สโมสรลิเวอร์พูล ฟุตบอล คลับ ชวนนักวิ่งแฟนหงส์แดง “ลิเวอร์พูล” ร่วมกิจกรรม The Kop Run presented by AXA “เดอะ ค็อป รัน พรีเซ็นเต็ด บาย เอเอ็กซ์เอ” (กรุงไทย-แอกซ่า) ในรูปแบบเวอร์ชวลรัน สามารถวิ่งหรือเดิน ระยะ 5 ก.ม. 10 ก.ม. 100 ก.ม. วันที่ 22 พ.ย.2563-17 ม.ค.2564 เพื่อลุ้นรางวัลสุดพิเศษจากสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล และ กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต
บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ร่วมกับ สโมสรลิเวอร์พูล ฟุตบอล คลับ จัดกิจกรรมวิ่ง The Kop Run presented by AXA “เดอะ ค็อป รัน พรีเซ็นเต็ด บาย เอเอ็กซ์เอ” (กรุงไทย-แอกซ่า)
สำหรับฤดูกาล 2563-2564 เปิดโอกาสให้แฟนๆ หงส์แดง ได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมเวอร์ชวลรัน (Virtual Run) ซึ่งถือเป็นครั้งแรก ในไทย แฟนๆ ลิเวอร์พูลสามารถเลือกได้ว่า จะเดิน จ๊อกกิ้ง หรือ วิ่ง ในระยะทาง 5 ก.ม. 10 ก.ม. หรือ 100 ก.ม. ระหว่างวันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน 2563 จนถึง วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม 2564
ในแต่ละสัปดาห์ นักวิ่งสามารถบันทึกระยะทางผ่านแอปพลิเคชัน LFC Official และจะได้รับคะแนนจากการพิชิตระยะทางให้สำเร็จ พร้อมปลดล็อคถ้วยรางวัลและเหรียญรางวัลดิจิทัล เพื่อลุ้นรับรางวัลสุดพิเศษจากสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล และ กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต และเมื่อจบกิจกรรม นักวิ่งจะได้รับเหรียญและเสื้อที่ระลึกจากงาน The Kop Run presented by AXA “เดอะ ค็อป รัน พรีเซ็นเต็ด บาย เอเอ็กซ์เอ” (กรุงไทย-แอกซ่า)

การวิ่งในครั้งนี้ แฟนๆ หงส์แดงสามารถช่วยระดมทุนโครงการระหว่าง มูลนิธิสโมสรลิเวอร์พูล และ Right to Play “Side by Side” (ไรท์ ทู เพลย์ “ไซด์ บาย ไซด์”) กรุงเทพมหานคร โดยโครงการใช้พลังการเล่นกีฬา เปลี่ยนแปลงชีวิตเด็กด้อย ให้ก้าวพ้นความทุกข์ยาก และบรรลุศักยภาพสูงสุด รวมถึงจะช่วยเหลือเด็กและครอบครัวให้มีเครื่องมือและทักษะที่จำเป็น เอาชนะความยากจน ความขัดแย้ง การได้รับการศึกษาน้อยหรือไม่ได้รับการศึกษา โดยเงินช่วยเหลือของท่าน เพียง 200 บาท เปิดโอกาสให้เด็ก 1 คน ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรม “Play Day” (เพลย์ เดย์) สร้างความสนุกสนาน ปลอดภัย และให้ความรู้แก่ชุมชนอีกด้วย
นางแซลลี่ โอฮาร่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต กล่าวว่า “กลุ่มแอกซ่า และ กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมจัดงาน The Kop Run presented by AXA “เดอะ ค็อป รัน พรีเซ็นเต็ด บาย เอเอ็กซ์เอ” (กรุงไทย-แอกซ่า) ในปีนี้อีกครั้ง และจากความสำเร็จในปีที่ผ่านมา กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ตื่นเต้นกับกิจกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งจะสนับสนุนทุกคนให้มีสุขภาพที่ดีผ่านการออกกำลังกาย เนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้มีแนวทางและข้อจำกัดในปัจจุบัน จัดงานจึงตัดสินใจจัดงานเวอร์ชวลรันขึ้นในปีนี้ โดยนักวิ่งเลือกเวลา และสถานที่วิ่ง ได้ตามความสะดวก
ทั้งนี้ The Kop Run presented by AXA “เดอะ ค็อป รัน พรีเซ็นเต็ด บาย เอเอ็กซ์เอ” (กรุงไทย-แอกซ่า) เปิดให้ลงทะเบียนได้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีจำนวนบัตรทั้งสิ้น 8,000 ใบ ถามข้อมูลได้ที่ https://www.runlah.com/events/kopvr20 การลง
สำหรับผู้ที่สนใจโครงการที่สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล ร่วมกับ Right to Play “Side by Side” (ไรท์ ทู เพลย์ “ไซด์ บาย ไซด์”) สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://righttoplay.com/en/landing/axa-kop-run/

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

เด็กไทยไม่ธรรมดา ยัดห่วงเข้าตาสถาบันฯ มั่นใจ10 คน เรียนต่อ ตปท.

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // บาสเกตบอลระดับเยาวชน ร่วม 200 คน แห่เข้าคัดเลือกไปศึกษาต่อสหรัฐอเมริกา กับ 4 สถาบันใหญ่ ประธานโครงการชื่นชมเห็นแววโดดเด่นกว่า 20 คน ยืนยันน่าจะมีประมาณ 10 คน ได้สิทธิ์ในชุดแรก
ล่าสุด นายอัตนันท์ อัศวธเรศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอทเลติโก้ จำกัด จับมือร่วมกับ นายอังกูร ศรีกัลยาณบุตร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ Chief Marketing Officer บริษัทไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดโอกาสให้นักบาสเกตบอลของไทย ระดับเยาวชนรุ่นอายุ 16-18 ปี ร่วมแสดงความสามารถแข่งขันในรอบคัดเลือก เพื่อชิงทุนการศึกษาต่อต่างประเทศ โครงการ “Sports Showcase 2020 #5: AES Basketball Showcase Thailand x Thai Life Insurance” ที่ สนามบาสเกตบอล วิทยาลัยเทคโนโลยีไทยบริหารธุรกิจ บางเขน กรุงเทพฯ

สำหรับโครงการคัดเลือกนักกีฬาบาสเกตบอลครั้งนี้ มีผู้แห่สมัครมากถึง 200 คน คณะกรรมการคัดเลือกเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่มีความสูงไม่ต่ำกว่า 175 เซนติเมตรขึ้นไป จำนวน 80 คน จัดลงทีมแบบผสมในแต่ละตำแหน่ง สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป คนละไม่ต่ำกว่า 4 รอบ ตลอดทั้งวัน เพื่อให้เกิดความแน่ใจ และเกิดความโปร่งใส ด้วยการเปิดโอกาสให้ผู้สมัครแสดงความสามารถในเวลาเท่าเทียมกันทุกคน ภายใต้มาตรการ การป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสโควิด -19 ตามนโยบายของ ศูนย์ ศบค. ซึ่งมีทีมงานคัดเลือกมืออาชีพจากต่างประเทศที่ไม่สามารถมาเมืองไทยได้ ดำเนินการคัดเลือกแบบออนไลน์ ผ่านระบบ Zoom Conference ตลอดทั้งวัน โดยที่คณะกรรมการจากเมืองไทยมีสิทธิ์เพียงแค่ให้ข้อมูลและแสดงความคิดเห็นเท่านั้น แต่สิทธิ์ชี้ขาดอยู่ที่ทีมงานคัดเลือกจากต่างประเทศ

นายอัตนันท์ อัศวธเรศ ประธานโครงการ “Sports Showcase 2020 #5: AES Basketball Showcase Thailand x Thai Life Insurance” โดยร่วมกับ บริษัทไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เผยว่า การเปิดทำการคัดเลือกนักบาสเกตบอลครั้งนี้ ประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากผู้สมัครร่วมคัดเลือกไม่น้อยกว่า 200 คน แต่คณะกรรมการฯเจาะจงคุณสมบัติผู้ที่มีความสูงไม่ต่ำกว่า 175 เซนติเมตร เป็นเกณฑ์ที่มาตรฐาน ผนวกกับพื้นฐานการเล่นบาสเกตบอลที่ค่อนข้างดี เหลือจำนวน 80 คน จากนั้นเฟ้นคนที่เก่งแต่ละแหน่งเหลือ 20 คน ก่อนจะส่งให้คณะกรรมการคัดเลือกมืออาชีพจาก4 สถาบัน ได้แก่ Missouri Valley College / Lindsey Wilson College / Campbellsville University และ Central Methodist University ฯลฯ เป็นผู้ตัดสินใจจะเลือกว่าใครได้รับสิทธิ์เป็นนักเรียนทุน ปีการศึกษาที่ 2564 และ ปีการศึกษาที่ 2565 ซึ่ง แอทเลติโก้ จำกัด และ บริษัทไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)​ มีทุนรวมอยู่แล้วมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท พร้อมที่จะส่งผู้ที่ถูกคัดเลือกจากสถาบันต่างประเทศตลอดเวลา

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์