พิมพ์ไทยออนไลน์ // บาสเกตบอลระดับเยาวชน ร่วม 200 คน แห่เข้าคัดเลือกไปศึกษาต่อสหรัฐอเมริกา กับ 4 สถาบันใหญ่ ประธานโครงการชื่นชมเห็นแววโดดเด่นกว่า 20 คน ยืนยันน่าจะมีประมาณ 10 คน ได้สิทธิ์ในชุดแรก
ล่าสุด นายอัตนันท์ อัศวธเรศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอทเลติโก้ จำกัด จับมือร่วมกับ นายอังกูร ศรีกัลยาณบุตร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ Chief Marketing Officer บริษัทไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดโอกาสให้นักบาสเกตบอลของไทย ระดับเยาวชนรุ่นอายุ 16-18 ปี ร่วมแสดงความสามารถแข่งขันในรอบคัดเลือก เพื่อชิงทุนการศึกษาต่อต่างประเทศ โครงการ “Sports Showcase 2020 #5: AES Basketball Showcase Thailand x Thai Life Insurance” ที่ สนามบาสเกตบอล วิทยาลัยเทคโนโลยีไทยบริหารธุรกิจ บางเขน กรุงเทพฯ

สำหรับโครงการคัดเลือกนักกีฬาบาสเกตบอลครั้งนี้ มีผู้แห่สมัครมากถึง 200 คน คณะกรรมการคัดเลือกเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่มีความสูงไม่ต่ำกว่า 175 เซนติเมตรขึ้นไป จำนวน 80 คน จัดลงทีมแบบผสมในแต่ละตำแหน่ง สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป คนละไม่ต่ำกว่า 4 รอบ ตลอดทั้งวัน เพื่อให้เกิดความแน่ใจ และเกิดความโปร่งใส ด้วยการเปิดโอกาสให้ผู้สมัครแสดงความสามารถในเวลาเท่าเทียมกันทุกคน ภายใต้มาตรการ การป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสโควิด -19 ตามนโยบายของ ศูนย์ ศบค. ซึ่งมีทีมงานคัดเลือกมืออาชีพจากต่างประเทศที่ไม่สามารถมาเมืองไทยได้ ดำเนินการคัดเลือกแบบออนไลน์ ผ่านระบบ Zoom Conference ตลอดทั้งวัน โดยที่คณะกรรมการจากเมืองไทยมีสิทธิ์เพียงแค่ให้ข้อมูลและแสดงความคิดเห็นเท่านั้น แต่สิทธิ์ชี้ขาดอยู่ที่ทีมงานคัดเลือกจากต่างประเทศ

นายอัตนันท์ อัศวธเรศ ประธานโครงการ “Sports Showcase 2020 #5: AES Basketball Showcase Thailand x Thai Life Insurance” โดยร่วมกับ บริษัทไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เผยว่า การเปิดทำการคัดเลือกนักบาสเกตบอลครั้งนี้ ประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากผู้สมัครร่วมคัดเลือกไม่น้อยกว่า 200 คน แต่คณะกรรมการฯเจาะจงคุณสมบัติผู้ที่มีความสูงไม่ต่ำกว่า 175 เซนติเมตร เป็นเกณฑ์ที่มาตรฐาน ผนวกกับพื้นฐานการเล่นบาสเกตบอลที่ค่อนข้างดี เหลือจำนวน 80 คน จากนั้นเฟ้นคนที่เก่งแต่ละแหน่งเหลือ 20 คน ก่อนจะส่งให้คณะกรรมการคัดเลือกมืออาชีพจาก4 สถาบัน ได้แก่ Missouri Valley College / Lindsey Wilson College / Campbellsville University และ Central Methodist University ฯลฯ เป็นผู้ตัดสินใจจะเลือกว่าใครได้รับสิทธิ์เป็นนักเรียนทุน ปีการศึกษาที่ 2564 และ ปีการศึกษาที่ 2565 ซึ่ง แอทเลติโก้ จำกัด และ บริษัทไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)​ มีทุนรวมอยู่แล้วมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท พร้อมที่จะส่งผู้ที่ถูกคัดเลือกจากสถาบันต่างประเทศตลอดเวลา

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // “แข้งสาวสิงห์ร่มเกล้า” พลาดโอกาสทองที่จะทำแต้มแซง มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทากลับขึ้นไปเป็นที่ 4 ของตารางอย่างน่าเสียดาย หลังเปิดบ้านพ่าย “ลูกพระพิรุณ” 1-4 เกมเตะนัดที่ 13 ของฤดูกาล ศึกลูกหนังโกแฮร์ยูลีกหญิงชิงถ้วยประทาน “กรมหมื่นสุทธนารีนาถ” เกษตรยังคงอยู่อันดับ 3 และ เกษมบัณฑิตอยู่ที่ 5 ตามเดิม
​การแข่งขันฟุตบอลโกแฮร์ลีกอุดมศึกษาหญิงแห่งประเทศไทย ประจำปี 2563 ชิงถ้วยประทานพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ นัดที่ 13 ของฤดูกาล เมื่อวันรที่ 17 พ.ย. “แข้งสาวสิงห์ร่มเกล้า” มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ทีมอันดับ 5 ของตาราง เปิดบ้านรับการไปเยือน “ลูกพระพิรุณ” มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทีมอันดับ 3 ของตาราง เจ้าบ้านตั้งความหวังที่จะจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 4 ของตาราง จัดเต็ม ต้อนรับทีมเยือน หวังเอาคืนทั้งต้นและดอก จากที่ไปแพ้ในนัดเยือนสนามอินทรี จันทรสถิตย์ 0-2

นัดนี้ “โค้ชดิว” โกรวิทย์ วงศ์คำปวน ส่งนักเตะที่ดีที่สุดลงสนาม มี“แอม”จันทกานต์ พรมใจรักษ์ และ “ไอซ์”ศิริวรรณ ศรีมงคล เป็นตัวหลัก ส่วน “ลูกพระพิรุณ” เกษตรศาสตร์ โดย “โค้ชหน่อง”ณัฐชนนท์ ซังพุก ลอยตัวเข้าป้ายในอันดับที่ 3 เกมนี้ มี “หนูดี” อิรวดี มาครีส, “จี”จิรภาพร ดำหาย,“กันต์” กาญจนา สระทองเอก รวมทั้ง “หมวย” ปณิฏฐา จีรัตนะภวิบูล และ “มุก” ชัชวัลย์ รอดทอง ดาวยิงตัวเก่งยกพลไปเยือนแบบครบทีม

​ครึ่งแรกเจ้าบ้านเปิดเกมสู้กับทีมเยือน ไม่หวั่นเกรงศักดิ์ศรี แต่เกมนี้ “ลูกพระพิรุณ”เอาจริง เปิดเกมใสตั้งแต่นาทีแรก ๆ และปิดครึ่งแรก 0-3 เกษตรศาสตร์ได้ประตูจาก “บี” โศจิรัตน์ ประดิษฐษร นาทีที่ 3 “หมวย” ปณิฏฐา จิรัตนะภวิบูล นาทีที่ 5 และ 12 ครึ่งหลังเกษมบัณฑิต ไล่มาเป็น 1-3 จาก“เติ้ล” ทิพาพร สวัสดิ์นะที นาทีที่ 58 แต่เกษตรไม่ยอมง่าย ๆ ยิงหนีไปเป็น 4-1 จาก “จี”จิรภาพร ดำหาย นาทีที่ 72 จบเกมเกษตรศาสตร์ย้ำชัยเหนือ เกษมบัณฑิตอีกครั้ง4 ประตูต่อ 1
​แพ้นัดนี้ส่งผลให้เกษมบัณฑิตยังมี 18 คะแนนเท่าเดิมจาก 13 นัด อยู่อันดับที่ 5 “ลูกพระพิรุณ” ชนะเป็นเกมที่ 10 จาก 13 นัด มี 30 คะแนน อยู่อันดับที่ 3 ตามเดิม ตามหลัง มกช.ชลบุรี ทีมอันดับ 2 อยู่ 3 แต้ม และตามหลังวิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย ทีมอันดับ 1 อยู่ 6 คะแนน ตามลำดับ
​

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“เฉลิมชัย” เดินหน้าช่วยเหลือชาวนา 3 โครงการกว่า5หมื่นล้าน เร่งประสาน “ธกส.” โอนเงินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวรอบที่ 1 กว่า 8 แสนราย ให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แถลงวันนี้ (17พ.ย.) ว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา อนุมัติโครงการและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2563/64 วงเงินรวม 51,858 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย 3 โครงการหลัก คือ
1. โครงการประกันรายได้ ปี 2 กำหนดราคาและปริมาณประกันรายได้เกษตรกรเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาประกันตันละ 15,000 บาท ปริมาณไม่เกิน 14 ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ราคาประกันตันละ 14,000 บาท ปริมาณไม่เกิน 16 ตัน ข้าวเปลือกเจ้า ราคาประกันตันละ 10,000 บาท ปริมาณไม่เกิน 30 ตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ราคาประกันตันละ 11,000 บาท ปริมาณไม่เกิน 25 ตัน ข้าวเปลือกเหนียว ราคาประกันตันละ 12,000 บาท ปริมาณไม่เกิน 16 ตัน ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่ ตุลาคม 2563 – พฤษภาคม 2564
​2. มาตรการคู่ขนานควบคู่กับโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 ได้แก่ (1) โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี (ระยะเวลาดำเนินการ 1 พฤศจิกายน 2563 – 29 กุมภาพันธ์2564) โดยนอกจากเกษตรกรจะได้รับสินเชื่อและไม่ต้องเสียดอกเบี้ยแล้ว เกษตรกรที่มียุ้งฉางจะได้รับค่าฝากเก็บตันละ 1,500 บาท กรณีสหกรณ์จะได้รับตันละ 1,000 บาท และสมาชิกจะได้รับตันละ 500 บาท (2) โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร (ระยะเวลาดำเนินการ 1 ตุลาคม 2563 – 30 กันยายน 2564 ) โดยสหกรณ์เสียดอกเบี้ยร้อยละ 1 และ (3) โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อก ระยะเวลาดำเนินการ 1 พฤศจิกายน 2563 -31 มีนาคม 2564 ให้ผู้ประกอบการเก็บข้าวไว้ระยะเวลา 2 – 6 เดือน และจะได้รับชดเชยดอกเบี้ยร้อยละ 3 จะสามารถดูดซับอุปทานในช่วงที่ข้าวเปลือกออกสู่ตลาดมากเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ 7 ล้านตันข้าวเปลือก จะส่งผลให้ราคาข้าวมีเสถียรภาพช่วยให้รัฐบาลประหยัดงบประมาณในการชดเชยตามโครงการประกันรายได้
และ 3. โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2563/64 จะเริ่มเดือน พฤศจิกายน 2563 เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ช่วยให้เกษตรกรมีกำลังใจในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว โดยในช่วงแรกเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการบริหารงบประมาณของรัฐบาล จะจ่ายเงินให้เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2563/64 ในรอบแรกเบื้องต้น อัตราไร่ละ 500 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 20 ไร่ก่อน และในช่วงต่อไปจะได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และนำเสนอ ครม. เพื่อขอรับจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมต่อไปนั้น
ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มอบนโยบายให้หน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯ ทำงานร่วมกับกระทรวงพาณิชย์และ ธกส. อย่างใกล้ชิด เพื่อให้การดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวรวมทั้งมาตรการคู่ขนานและโครงการอื่น ๆ เป็นไปโดยรวดเร็วและโปร่งใส เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวและป้องกันความเสี่ยงด้านราคาไม่ให้ประสบปัญหาขาดทุน ตลอดจนลดภาระค่าใช้จ่ายภาครัฐในการแก้ไขปัญหาราคาข้าวโดยกลไกตลาดยังคงทำงานเป็นปกติ
นายอลงกรณ์กล่าวต่อไปว่า สำหรับความคืบหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต2563/64รอบที่ 1 ธกส. รายงานล่าสุดว่า ได้โอนเงินส่วนต่างให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวแล้ว ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2563 จำนวน 786,380 ราย เป็นเงิน 8,387 ล้านบาท ซึ่งเป็นเกษตรกรชาวนาที่ลงทะเบียนปลูกข้าวชนิดเดียวและจะโอนส่วนที่เหลือให้กับเกษตรกรชาวนาที่ปลูกข้าวมากกว่า 1 ชนิด ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2563 หรืออย่างช้าภายในสัปดาห์นี้ เนื่องจากยังมีเกษตรกรชาวนาที่มีปัญหา 161 ราย ที่มีปัญหาทางบัญชีธนาคารเช่นบัญชีเงินฝากปิดบัญชีไปแล้วหรือบัญชีถูกอายัด ซึ่ง ธกส. จะได้เร่งแก้ไขเพื่อโอนเงินส่วนต่างให้เสร็จสิ้นทุกรายโดยเร็ว ส่วนกรณีที่ ธกส. โอนเงินเกินโอนเงินขาดบางส่วนนั้น ธกส. แจ้งว่าเป็นปัญหาทางเทคนิค ซึ่ง ธกส. จะดำเนินการแก้ไขจ่ายเงินส่วนที่ขาดให้เรียบร้อยอย่าได้กังวล สำหรับจำนวนเกษตรกรชาวนารอบที่ 1 ซึ่งขึ้นทะเบียนกับกระทรวงเกษตรฯ มีจำนวน 839,682 รายซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ได้ส่งข้อมูลให้กับ ธกส. เพื่อโอนเงินส่วนต่าง
ทั้งนี้การโอนเงินตามโครงการประกันรายได้ปีที่ 2 รอบที่ 1 เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี 3 พฤศจิกายน 2563 และประกาศคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว เรื่องหลักเกณฑ์เงื่อนไขและวิธีการการดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2563/64 รอบที่ 1 ลงวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เพื่อใช้ในการชดเชยส่วนต่างตามโครงการฯ ความชื้น ข้าวเปลือกแต่ละชนิด ไม่เกิน 15% โดยชดเชยส่วนต่างราคาประกันข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 2,911.17 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 2,137.45 บาท ข้าวเปลือกเจ้า 1,222.36 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 1,066.96 บาท และข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 2,084.34 บาท จากนั้นจะประกาศราคาอ้างอิงทุก ๆ 7 วัน จนถึงวัน สิ้นสุดโครงการฯ ซึ่งเกษตรกรผู้ปลูกข้าวแต่ละชนิดรับเงินส่วนต่าง ถ้าปลูกข้าวเปลือกหอมปทุมธานี จะได้รับเงินส่วนต่างสูงสุดถึง 26,674 บาท ข้าวเหนียวจะได้รับเงินส่วนต่างสูงสุด 33,349 บาท ข้าวเปลือกเจ้า ได้รับเงินส่วนต่างสูงสุด 36,670 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ได้รับเงินส่วนต่างสูงสุด 34,199 บาท และข้าวหอมมะลิจะได้รับเงินส่วนต่างสูงสุดถึง 40,756 บาทต่อครัวเรือน

พิมพ์ไทยออนไลน์ // 3 นักชกโควตาโอลิมปิก โชว์ฟอร์เหนือชั้น “น้องแต้ว” สุดาพร สีสอนดี รุ่น 60 กก.ชกให้ราชนาวี ชนะอาร์เอสซียก2, “น้องครีม”ใบสน มณีก้อน รุ่น 69 กก. สำนักงานตำรวจแห่งชาติไล่ยำคู่ชกเอาชนะอาร์เอสซียก 2 ,”เจ้าเหลิม” ธิติสรรค์ ปั้นโหมด รุ่น 52 กก. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไล่ตะบันชนะอาร์เอสซียก 2 พาเหรดคว้าชัยสบาย ๆ
การแข่งขัน มวยสากลชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2563 รอบแรก ที่ เวทีมวย โรงยิมฝึกซ้อม 2 ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา วันที่สอง คู่ที่น่าสนใจ
เริ่มคู่แรกรุ่น 60 กก.หญิง “น้องแต้ว” สุดาพร สีสอนดี นักชกทีมชาติไทยที่คว้าโควตาไปโอลิมปิก 2020 สโมสร ราชนาวี ต้นสังกัด พบ รัตนาธร เสาร์ตอ อดีตกำปั้นทีมชาติสังกัดสโมสรลูกประดู่ เกมการชกยกแรกเป็นสุดาพรที่ชกได้เหนือชั้นกว่าจิ้มซ้ายเข้าเป้าเน้น ๆ ได้อย่างจะแจ้ง ต้นยกที่ 2 ทางรัตนธร ไม่ยอมออกจากมุม สุดาพรเอาชนะอาร์เอสซีไปอย่างง่ายดายในยกที่ 2

รุ่น 69 กก.หญิง “น้องครีม”ใบสน มณีก้อน นักชกทีมชาติไทย ที่คว้าโควตาไปแข่งมวยโอลิมปิก 2020 ที่ กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น สโมสรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบกับ แก้วฤดี คำถากระปุ้ม สโมสร ผู้ครองฟ้า เริ่มยกแรกยังดูเชิงกันอยู่ เป็นใบสน ที่ใช้จังหวะฝีมือยิงหมัดซ้ายเข้าเป้าได้อย่างจะแจ้ง ยกที่ 2 ใบสนออกมาเร่งเดินบนยิงหมัดชุดเข้าที่หน้า โดยเฉพาะหมัดซ้ายเข้าจัง ๆ จนกรรมการนับ แลกไล่อัดจนได้อีกสองนับเป็นสามนับ เป็นฝ่ายเอาชนะอาร์เอสซีในยกที่ 2
“เจ้าเหลิม”ธิติสรรค์ ปั้นโหมด รุ่น 52 กก. นักชกโควตาโอลิมปิก 2020 สโมสร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบกับ ขวัญชัย เปลี่ยนขุนทด สโมสรจกีฬาจ.อ่างทอง เริ่มยกแรก ธิติสรรค์ เป็นฝ่ายออกมาโชว์ฟอร์มไล่ยิงหมัดใส่ ขวัญชัย ชนิดที่เลือกชก บน- ล่างจนหมดยก ยกที่ 2 ขวัญชัย ไม่ยอมออกจากมุม ธิติสรรค์ เป็นฝ่ายเอาชนะอาร์เอสซีไปอย่างสบาย ๆยกที่ 2

ผลคู่อื่น ๆ รุ่น 60 กก.หญิง จีระพักตร อินคำ (ตำรวจ)แพ้คะแนน พรชิตา สีหาบุราณ (ผู้ครองฟ้า),กิตติยา นามไฟร (พิทักษ์สันติราษฎร์) แพ้คะแนน ประณิดา แก้วแก่นคูณ((โรงเรียนกีฬาอบจ.พิษณุโลก) ,นริศรา ผูกพัน (มวยสากลจ.ศรีสะเกษ) แพ้อาร์เอสซียก 2 ทิพวรรณ นิลทองอยู่(กองทัพบก),พรทิพย์ บัวป่า (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ) ชนะคะแนน นพาพร เขียวน้อย(ทหารอากาศ)
รุ่น 69 กก.หญิง ณัฐวดี โสมนัส (ลูกประดู่) ชนะอาร์เอสซียก 1 สุนิสา สิงห์สาย (มวยสากลจ.ศรีสะเกษ),จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง(ตำรวจ)ชนะอาร์เอสซียก 2 พันธิวา บุญตะนัย(มหาวิทยาลัยแห่งชาติสุโขทัย),วรรณกานต์ แซ่ตัน(สโมสรกีฬาจชุมพร) แพ้อาร์เอสซียก 1 จันทิดา สุขาเขิน(กองทัพอากาศ),แก้วกัลยา แสนแก้ว(โรงเรียนกีฬาจ.ศรีสะเกษ) แพ้คะแนน พรธีรา เพชรขุ้ม(ภานุรังสี)
รุ่น 57 กก. ชาย รณชัย แสวงทรัพย์ (กองทัพภาค 1) ชนะอาร์เอสซียก 2 วันฉลอง หนูชัยแก้ว(ราชทัณฑ์)

รุ่น 69 กก. ชาย ปฏิภาณ นามโครต (บ่อน้ำมันฝาง)แพ้คะแนน อุสมาน เสสูงเนิน (ราชทัณฑ์) , รุ่น 52 กก. วุฒิชัย ยุระชัย (กองทัพบก) ชนะคะแนน อธิราช วุฒิพันธ์ (กองทัพอากาศ),กฤษฏา ดาลาศ (กองทัพภาค 1 )แพ้อาร์เอสซียก 2 อภิชาต ฉายแก้ว(สโมสรกีฬาจ.ชัยนาท) ,ภาคภูมิ มโหธร (โรงเรียนกีฬาจ.อ่างทอง),แสนชัย ห้องแก้ว(ภานุรังสี) ชนะผ่าน ภาคภูมิ มโหธร (โรงเรียนกีฬาอ่างทอง)
วันเฉลิม แซ่หาญ(ราชนาวี) ชนะอาร์เอสซียก 2 เลิศชาย ไชยเวช(สโมสรกีฬาจ.สิงห์บุรี),สุรสิทธิ์ หลวงโปธา (กองทัพภาค 2) ชนะอาร์เอสซียก 2 วชิระ จอมมะเริง(หนองน้ำใส),สุเมธ พันสุข (มหาลัยกีฬาแห่งชาติสุพรรณบุรี) แพ้อาร์เอสซียก2 ฉลองชัย มีนิลดี(กองทัพภาค 3),สาธิต แก้วเกษม(สโมสรกีฬาจ.ตรัง)ชนะอาร์เอสซียก 2 อานันท์ กัณหาชาลี(สโมสรกีฬาหนองน้ำใส),ขวัญชัย ห้องแก้ว(โรงเรียนกีฬาอบจ.พิษณุโลก) ชนะคะแนน ฐิติศักดิ์ หอยทอง(กองทัพภาค 4),ปฏิภาณ อุทัยดา (ตำรวจ)ชนะอาร์เอสซียกแรก พัชรพงศ์ จันทร์ศิริ(สโมสรกีฬาจ.ชุมพร)

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // วิกลุมพินี เวทีมวยมาตรฐานเมืองไทย แถลงเปิดตัวเป็นทางการ พร้อมคืนชีพ ชุบชีวิตวงการมวยอีกครั้ง หลังเป็นจำเลย ตำบลกระสุนตก ล่อเป้าให้สังคมโจมตีจากช่วงวิกฤตไวรัสโควิด นายสนามคนใหม่ ประกาศนโยบายชัดเจนปฏิรูปครบวงจร เฝ้าระวังเข้มงวด เตรียมแนวทางให้ เวทีลุมพินี กลับมาเป็นแบรนด์ระดับโลก ช่อง 5 ททบ.ยิงสดสัปดาห์ละ 3 วัน
นับตั้งแต่ ปลายเดือนต.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก และประธานบอร์ดสนามมวยลุมพินี แต่งตั้ง “บิ๊กแดง” พล.ท.สุชาติ แดงประไพ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองบัญชาการกองทัพไทย เป็นนายสนามมวยลุมพินี มีวาระดำรงตำแหน่งเป็นเวลา 1 ปี

ล่าสุดเมื่อ 17 พ.ย. ที่ เวทีมวยลุมพินี รามอินทรา พล.ท.สุชาติ แดงประไพ ในฐานะนายสนามฯคนใหม่ พร้อมทีมงาน ได้แก่ พล.ต.รณวุธ เรืองสวัสดิ์ รองนายสนามคนที่ 1,ดร.กชพร เผื่อนกลาง ตัวแทน บ.เทพมงคลเงินล้าน จำกัด ,นายสุรพล อุทินทุ ผู้บริหาร บ.ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และ “ชุ้น เกียรติเพชร” พีรพงศ์ ธีรเดชพงศ์ โปรโมเตอร์ ร่วมแถลงข่าวเป็นทางการ
นายสนามมวยฯ กล่าวเปิดตัวว่า เวทีมวยลุมพินี เริ่มสร้างชื่อปี 2503 สร้าง โผน กิ่งเพชร จนกลายเป็นแชมเปี้ยนโลกคนแรกของไทย ในความหมายใครขึ้นมาชกบนเวทีมาตรฐานแห่งนี้ ถือเป็นเกียรติประวัติจะจดจำไปจนตาย อยากสร้างภาพลักษณ์ให้สมกับคำว่า “เวทีลุมพินี เป็นแบรนด์ของ มวยไทย”
หลังจากเข้ามารับหน้าที่ ปลายเดือนต.ค. จัดระเบียบใหม่หมดทุกด้าน พร้อมเปิดการแข่งขัน และที่สำคัญเตรียมมาตรการเรื่องการป้องกันไวรัสอย่างเข้มงวด จะเปิดแข่งขันทุกวัน อังคาร ศุกร์ และ เสาร์ สัปดาห์ละ 3 วัน เริ่มวันที่ 24 พ.ย.โดย ศึก แกแล็คซี่+เกียรติเพชร พร้อมถ่ายทอดสด ช่อง 5 ททบ. ตั้งแต่ 20.30-22.30 น. นับเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน 10 วัน นับจากปิดสนามหลังจัดมวยนัดสุดท้าย เมื่อ 14 มี.ค.63 ปัญหาเนื่องจากไวรัสโควิด นอกจากการถ่ายทอดสด จะเปิดให้มีผู้เข้าชมได้ราวๆ 1,050 คน หรือ 30 % จากความจุของเวทีทั้งหมด

“บิ๊กแดง” พล.ท.สุชาติ กล่าวอีกว่า “ตามนโยบายของท่านผู้บัญชาการ ผมพร้อมรับทุกโปร์โมเตอร์เข้าร่วมงานและหารือกัน ทุกอย่างจะลงตัวแล้วเสร็จทุกด้าน ก่อนสิ้นเดือนพ.ย. เวทีลุมพินี ยุคใหม่นี้ ไม่เพียงแต่จะรับรายได้จาก ยอดผู้เข้าชม และ ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด แต่จะลดค่าเช่าสนามเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระให้โปรโมเตอร์ด้วย นอกจากนั้น ยังมีแผนจัดมวยไทยนัดสัญจร รวมทั้งใช้เวทีจัดการแข่งขันมวยสากลอาชีพ ประสานกับกรมราชทัณฑ์ และมวยทหารภายในกองทัพ พร้อมเปิดให้เยาวชนผู้สนใจเข้าชมฟรี ดึงอดีตนักมวยมีชื่อ เป็นครูถ่ายทอดวิชาการต่อสู้ ตั้งสถาบันครูมวยฯ ให้เกิดขึ้นให้ได้ รวมทั้งรูปแบบการถ่ายทอดสดออนไลน์ในอนาคต ทั้งนี้ทุกอย่างจะเห็นเป็นรูปร่างเด่นชัดขึ้น ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ปีหน้า”
ในส่วนของกรรมการผู้ตัดสิน มอบหมายให้ อ.อุดม ดีกระจ่าง เป็นหัวหน้าคณะรับผิดชอบกรรมการทั้งหมด 15 คน นโยบายหลักประการเดียว คือ ใช้มาตรฐานตัดสินตามแนวทางมวยของลุมพินี หากไปทำหน้าที่แห่งใด ต้องปฏิบัติตามแนวทางเดียวกัน หากมีเรื่องขัดแย้งถึงคดีความผมพร้อมรับผิดชอบ แต่ อ.อุดม ต้องพ้นจากตำแหน่ง
ส่วนเรื่องข่าวลือคณะจะเข้ามาบริหารงานเวทีก่อนหน้านี้ จนมีการสับสนไปทั่ววงการมวย ขอยืนยันว่า ผมมีหน้าที่เด็ดขาดรับผิดชอบและทำตามหน้าที่กองทัพบก พร้อมปฏิบัติด้านนโยบายตามคำสั่ง จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น”

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

http://www.natethip.com/news.php?id=3311
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

http://www.natethip.com/news.php?id=3310
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

http://www.natethip.com/news.php?id=3309
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

https://timeline.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1160557461910051527
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน