วันศุกร์, พฤศจิกายน 21, 2025

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรก บล็อก หน้า 2058

3 ศูนย์การค้าเครือMBK เชิญชวนพสกนิกรร่วมพิธีจุดเทียนน้อมรำลึก วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ ในหลวงรัชกาลที่9

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
๓ ศูนย์การค้าในเครือเอ็ม บี เค ขอเชิญชวนเหล่าพสกนิกรแต่งกายด้วยเสื้อสีเหลือง ร่วมพิธีจุดเทียนเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๓ เวลา ๑๙.๑๙ น. (ลงทะเบียนรับโคมเทียนโดยพร้อมเพรียงกัน ตั้งแต่เวลา ๑๘.๐๐ น.) บริเวณพื้นที่จัดกิจกรรม ดังนี้· ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ บริเวณลานสกายวอล์ค ชั้น ๒

· ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค บริเวณ หน้าร้าน Jaspal ชั้น ๑

· ศูนย์การค้าเดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม ๙ บริเวณ ลานไนน์สแควร์ ชั้น ๑ขณะเดียวกันทั้ง ๓ ศูนย์ฯ ปฏิบัติตามมาตรการตรวจคัดกรองป้องกันโควิด-๑๙ อย่างเคร่งครัด อาทิ การตรวจวัดอุณหภูมิ จุดบริการ เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ และขอความร่วมมือผู้ร่วมงานสวมหน้ากากอนามัย ยืนรักษาระยะห่างตามจุดที่กำหนดเพื่อลด ความแออัด เป็นต้น:Cr;มณสิการ รามจันทร์

“บิ๊กป้อม” กำชับทุกฝ่ายพร้อมจัด “เอเชี่ยนอินเดอร์-มาร์เชียลอาร์ทเกมส์” ไทยเจ้าภาพ เน้นย้ำเจ้าทองซีเกมส์

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประชุมคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 4/63 ที่ ห้องประชุมคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ มีสรุปที่สำคัญดังนี้
ความก้าวหน้าการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์ และมาร์เชียลอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 6 พ.ศ. 2564 ที่ประเทศไทยะเป็นเจ้าภาพ ระหว่าง 21-30 พ.ค. 64 ซึ่งนักกีฬาเข้าแข่งขัน 29 ชนิดกีฬา กว่า 10,000 คน โดย ทุกภาคส่วนยืนยัน ถึงความพร้อมการจัดการแข่งขัน. ทั้งนี้ที่ประชุมยังมีความกังวลถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอก 2 ที่อาจเกิดขึ้น จึงได้พิจารณาห้วงเวลาที่เหมาะสม เป็น ก.ย.- ส.ค. หากมีความจำเป็นต้องเลื่อนการแข่งขัน ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร’ ได้ย้ำ ขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการให้เรียบร้อยตามมาตรฐานที่กำหนดทุกประการ โดยเฉพาะสิ่งอำนวยความสะดวกและสถานที่จัดการแข่งขันต่างๆ และให้ประสานกับสภาโอลิมปิคแห่งเอเชียอย่างต่อเนื่อง เตรียมความพร้อมนักกีฬาไทยให้พร้อมทุกสถานการณ์

ความก้าวหน้าการแก้ไขปัญหา “ศูนย์ตรวจสอบสารต้องห้ามในนักกีฬา” มหาวิทยาลัยมหิดล ได้แก้ไขตามคำแนะนำและอยู่ระหว่างรอรับตรวจจาก “องค์กรต่อต้านการใช้สารกระตุ้นโลก( WADA )”
ในอีก 6 เดือน จากสถานการณ์ COVID-19 พร้อมทั้งอยู่ระหว่างจัดเตรียมแก้ไขระเบียบการลงโทษนักกีฬา และจัดทำแนวทางป้องกันและควบคุมการใช้สารต้องห้ามแก่นักกีฬาและสมาคมกีฬา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในเวทีโลก ซึ่ง พล.อ.ประวิตร กำชับ ขอให้ทุกสมาคมกีฬาให้ความสำคัญกับการกำกับ มิให้เกิดขึ้นกับนักกีฬาไทยในทุกสมาคม ซึ่งถือเป็นความเสียหายและกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ
ที่ประชุมรับทราบการแต่งตั้ง พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ เป็นประธานกรรมการการคัดเลือกชนิดกีฬานักกีฬาและเจ้าหน้าที่ไปแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนบีชเกมส์ ครั้งที่ 6 และมอบหมายให้ นายธนา ไชยประสิทธิ์เป็นหัวหน้าคณะนักกีฬาไทย

ตอนท้าย พล.อ.ประวิตร ได้กำชับที่ประชุมถึงการแข่งขันกีฬาที่สำคัญในปี 2564 มีมากถึง 5 การแข่งขัน ประกอบด้วย โอลิมปิกเกมส์ ที่ ญี่ปุ่น ซีเกมส์ ที่ เวียดนาม เอเชี่ยนบีสเกมส์และอาเซียนยูธเกมส์ ที่ จีน รวมทั้ง เอเชี่ยนอินดอร์ และมาร์เชียลอาร์ทเกมส์ ที่ ประเทศไทย ขอให้เตรียมพร้อมแผนฝึกซ้อมนักกีฬาให้พร้อม ในส่วนของคณะทำงานร่วมระหว่างคณะกรรมการโอลิมปิกฯ ในกกท.ขอให้ติดตามการฝึกซ้อมและคัดเลือกนักกีฬาเข้าแข่งขันอย่างจริงจัง เพื่อให้มีผลงานเป็นไปตามคาดหวังเป็นเจ้าเหรียญทองซีเกมส์
พร้อมทั้งย้ำ ขอให้ความสำคัญด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา ขอให้เร่งปรับปรุงอาคารและติดตั้งอุปกรณ์พร้อมเครื่องมือต่างๆให้เรียบร้อยโดยเร็ว โดยขอให้กกท.และสมาคมกีฬาต่างๆประสานการใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์การกีฬาให้เกิดประโยชน์สูงสุดนทุกด้าน ทั้งนี้ ขอให้ระมัดระวังการปนเปื้อนสารต้องห้ามด้านพัฒนาการและอาหารเสริม

พร้อมกันนี้ ขอให้พิจารณาจัดกิจกรรมกีฬาต่างๆที่เกี่ยวข้อง สนับสนุนการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศให้มากขึ้นในแต่ละภูมิภาค เพื่อสนับสนุนการกระจายรายได้ และขอให้ทุกสมาคมกีฬา มีการจัดการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทยให้มากขึ้น เพื่อเปิดกว้างให้มีการพิจารณานักกีฬาที่มีศักยภาพ ตามความต้องการของสมาคมกีฬาต่างๆอย่างแท้จริง

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

แบดมินตันไทย ซ้อมเข้ม “คุญหญิงปัทมา” ลุ้นโควต้าโอลิมปิกเพิ่ม

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // นายกองเอก ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ พร้อมคณะ เข้าตรวจเยี่ยมและติดตามการเก็บตัวฝึกซ้อมของ นักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทย ชุดเตรียมเข้าแข่งขันกีฬาโอลิมปิก “โตเกียว 2020” โดยมี คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ในฐานะนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยคณะกรรมการสมาคมฯ ผู้ฝึกสอน และนักแบดมินตันทีมชาติไทย ให้การต้อนรับ ที่ ศูนย์ฝึกนักกีฬาทีมชาติไทย สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประทศไทยฯ สวนลุมพินี เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ที่ผ่านมา

คุณหญิงปัทมา กล่าวว่า “ขอขอบพระคุณคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยทีมงานจากกกท.ที่สละเวลามาเยี่ยมชมการฝึกซ้อม พร้อมทั้งให้กำลังใจ นักแบดมินตัน ที่ฝึกซ้อมเตรียมความพร้อม สำหรับการแข่งขันโอลิมปิกโตเกียว 2020 ภายใต้สถานการณ์โควิด -19 ที่ทำให้มหกรรมกีฬาโอลิมปิก ถูกเลื่อนออกไป เป็นระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม-8 สิงหาคม ปี 2021”
“จากสถานการณ์โรคระบาด การคัดเลือกนักกีฬาแบดมินตัน เข้าแข่งขันโอลิมปิก ไม่สามารถคัดเลือกนักกีฬาเพื่อผ่านการคัดเลือกเข้าแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ได้ทั้งหมด โดยเหลือการแข่งขันเก็บคะแนน อีก 6 รายการ ซึ่งจะต้องทำการคัดเลือกสรุปรายชื่อนักกีฬาที่ผ่านการคัดเลือก ภายในวันที่ 30 เมษายน 2021”
“สำหรับการคัดเลือกเก็บคะแนนสะสม เพื่อเข้าสู่โอลิมปิกเกมส์ จนถึงขณะนี้ นักแบดมินตันทีมชาติไทย ผ่านการคัดเลือกค่อนข้างแน่นอนแล้ว จำนวน 6 คน ได้แก่ ชายเดี่ยว 1 คน กันตภณ หวังเจริญ หญิงเดี่ยว 1 คน รัชนก อินทนนท์ หญิงคู่ 1 คู่ รวินดา ประจงใจ กับ จงกลพรรณ กิตติธารากุล และ คู่ผสม เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย โดยสมาคมฯ มีความมั่นใจว่า ทีมไทยจะได้โควต้า ประเภทหญิงเดี่ยว เพิ่มอีก 1 คน ระหว่าง บุศนันท์ อึ้งบำรุงพันธ์ หรือ พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ คนใดคนหนึ่ง และประเภทชายเดี่ยวไม่ทิ้งความหวังเสียทีเดียว ที่อาจจะมีโอกาสได้เพิ่มอีก 1 คน คือ สิทธิคมน์ ธรรมศิลป์ กับ กุลวุฒิ วิทิตศานต์”

 

อย่างไรก็ตาม นักกีฬาทุกคนฝึกซ้อมตลอดเวลา มีความพร้อมเต็มที่ทั้งสภาพร่างกาย และพัฒนาเทคนิคเกมการเล่น จากการที่มีเวลาฝึกซ้อมระยะยาว เชื่อว่า เมื่อกีฬาโอลิมปิกเกมส์เริ่มขึ้น นักแบดมินตันไทย มีโอกาสอย่างมาก ที่จะสร้างความสุขให้แก่คนไทยทั้งประเทศ คว้าเหรียญใดเหรียญหนึ่ง ซึ่งจะเป็นเหรียญประวัติศาสตร์เหรียญแรกในโอลิมปิกเกมส์ สำหรับกีฬาแบดมินตันของไทย”
นายกองเอก ชัยพัฒน์ ศิริวัฒน์ กล่าวว่า “หลังจากที่ได้เยี่ยมชมการฝึกซ้อม และให้กำลังใจนักแบดมินตันไทยแล้ว รู้สึกดีใจมากและขอบขอบคุณมากที่ได้คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล เป็นแม่ทัพใหญ่แห่งวงการมินตันไทย รวมไปถึงไอโอซีหญิงเมมเบอร์ชาวไทย ที่เปลี่ยนแปลงและปฏิวัติวงการแบดมินตันของไทย จนนำไปสู่ระดับนานาชาติได้ ส่วนการจัดแข่งขันแบดมินตันทั้ง 3 รายการใหญ่ ปีหน้ายอมรับเลยว่า ไม่ใช่เรื่องง่าย ถือเป็นที่โชคดีมากของแฟนๆกีฬาที่เปิดศักราชในปี 2021 ด้วยแบดมินตัน 3 รายการใหญ่ตลอดเดือนมกราคม”

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

จับติ้วฟุตบอลชายหาดปทท.กกท.ฟาดแข้ง บีคิว โอกาเนะ 7 ธ.ค.

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // ระเบิดศึก ฟุตบอลชายหาดโอเพ่น ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย มี 8 ทีมเท้าเปล่าร่วมประชันแข้ง 7-12 ธ.ค.นี้ ที่สนามทรายภายใน กกท. แชมป์รับ 5 หมื่นบาท คู่เปิดเจ้าถิ่น การกีฬาแห่งประเทศที่ฟอร์มทีมส่งร่วมครั้งแรก ปะทะ แชมป์ลีก 3 สมัย บีคิว โอกาเนะ เพจ futsalthailand ยิงสดวันเปิดกับวันปิด พล.ท.อิสระ วัชรประทีป ประธานจัดหวังเป็นอีกทัวร์นาเม้นท์ให้นักกีฬาโชว์ฝีเท้า ก่อนคัดแข้งเจ๋งสู่ทีมชาติ ศึกไทยแลนด์ไฟว์ปลายปีนี้ รวมทั้งตั้งเป้าป้องกันแชมป์อาเซียน และหวังผ่านคัดเลือกเอเชียไปชิงแชมป์โลกให้ได้
เที่ ห้องประชุมชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ การกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการจัดการแถลงข่าวพร้อมพิธีจับสลากแบ่งสายการแข่งขัน ฟุตบอลชายหาดโอเพ่น ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2563 โดยมี พล.ท.อิสระ วัชรประทีป ที่ปรึกษาผู้ว่าการกกท. และประธานดำเนินการจัดการแข่งขัน เป็นประธานรวมถึงผู้แทน บริษัท ฟุตซอลไทยลีก จำกัด และตัวแทนจากสโมสรต่างๆที่เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้

พล.ท.อิสระ วัชรประทีป เผยถึงวัตถุประสงค์การจัดการแข่งขันรายการนี้ว่า ที่ผ่านมาฟุตบอลชายหาดถือว่ามีเกมแข่งขันในระดับนานาชาติทั้งชิงแชมป์อาเซียน ชิงแชมป์เอเชีย เอเชียนบีชเกมส์ และชิงแชมป์โลก แต่ในเมืองไทย มีทัวร์นาเม้นท์การแข่งขันน้อยมาก ที่ผ่านเป็นฟุตบอลชายหาดลีก ได้ร่วมมือกับสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ กกท.กองทุนพัฒนากีฬาชาติจัดรายการนี้ขึ้น เพื่อให้นักกีฬาได้มีการแข่งขันที่มากขึ้น เป็นการเพิ่มพูนประสบการณ์ รวมถึงจะเป็นเวทีการคัดเลือกนักกีฬาเข้าสู่ทีมชาติ ปลายปีนี้ จะมีการแข่งขันฟุตบอลชายหาด ไทยแลนด์ ไฟว์ และทีมชาติแบ่งเป็นทีม เอ และทีม บี คัดเลือกนักกีฬาเข้าสู่ทีมชาติไปในตัว รวมทั้งเป็นการจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองในวันกีฬาแห่งชาติ 16 ธ.ค.ของกกท.และประชาสัมพันธ์ให้ฟุตบอลชายหาดรับรู้ในวงกว้างมากขึ้น

พล.ท.อิสระ วัชรประทีป ผู้จัดการทีมชาติไทย กล่าวถึงเป้าหมายทีมชาติด้วยว่า “ขณะนี้ทีมชาติได้มีการเรียกเก็บตัวฝึกซ้อม เตรียมไปแข่งเอเชียนบีซเกมส์ ที่ จีน ปีหน้า แต่ต้องดูนักกีฬาฝีเท้าดี และฟอร์มดีๆเข้ามาเสริมอย่างต่อเนื่อง นอกจากจะมีไทยแลนด์ไฟว์ปลายปีนี้แล้ว ต้นปีหน้าก็จะมีชิงแชมป์เอเซียน ไทยเป็นแชมป์เก่าหวังจะป้องกันแชมป์อีกสมัย และมีรายการขิงแชมป์เอเชียตั้งเป้าจะผ่านรอบคัดเลือกไปชิงแชมป์โลกให้ได้”
สำหรับพิธีจับสลากแบ่งสายการแข่งขัน ฟุตบอลชายหาดโอเพ่น ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2563 มี 8 ทีมเข้า แข่งขัน ระหว่างวันที่ 7-12 ธ.ค.นี้ ที่สนามทรายกกท. แบ่งเป็น 2 สาย แข่งขันพบกันหมดในสาย คัดเอาที่ทีมอันดับ 1 และ 2 เข้าสู่รอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศต่อไป ซึ่งทีมชนะเลิศจะได้รับถ้วย พร้อมเงินรางวัล 5 หมื่นบาท รองชนะเลิศ 3 หมื่นบาท และอันดับ 3 รับเงินรางวัล 1 หมื่นบาท

ซึ่งผลการแบ่งสายมีดังนี้ สาย เอ -กกท. บีคิว โอกาเนะ เกษมบัณฑิต เอฟซี โอนลี่ ลอฟท์ แอนด์ วินเทจ สไตล์ สาย บี- อินมายเพลส กองเรือยุทธการ ประตูน้ำ บีเอสบี ทีทีบี ธนบุรี เอฟซี สำหรับรอบแรกทีมชนะในเวลาจะได้ 3 คะแนน ชนะช่วงต่อเวลาพิเศษได้ 2 คะแนน ชนะในการยิงจุดโทษได้ 1 คะแนน ทีมแพ้ไม่ได้คะแนน กรณีที่มีคะแนนเท่ากันให้พิจารณาทีมเข้ารอบจากผลต่างประตูได้เสีย จากนั้นพิจารณาประตูได้ และเฮดทูเฮด ตามลำดับ
โปรแกรมวันแรกนัดเปิดสนามวันที่ 7 ธ.ค. เพจ futsalthailand ถ่ายทอดสด เวลา 11.30 น. สาย เอ การกีฬาแห่งประเทศไทย พบ บีคิว โอกาเนะเวลา 13.00 น. สาย เอ เกษมบัณฑิต เอฟซี พบ โอนลี่ ลอฟท์ แอนด์ วินเทจ สไตล์ เวลา 14.30 น. สาย บี อินมายเพลส พบ กองเรือนยุทธการ เวลา 16.00 น.สาย บี ประตูน้ำ บีเอสบี พบ ทีทีบี ธนบุรี เอฟซี

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“ธนภัทร-ศุภวัฒน์” คว้าแชมป์ชายคู่ เทนนิส “แอลทีเอที ไอทีเอฟ เกรด 5”

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // การแข่งขันเทนนิสเยาวชนนานาชาติ “แอลทีเอที ไอทีเอฟ เกรด 5” เก็บคะแนนสะสมเยาวชนโลก ของสหพันธ์เทนนิสนานาชาติ (ITF) ที่ ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2563 รอบชิงชนะเลิศ ประเภทชายคู่ สองนักหวดหนุ่มดีกรีเยาวชนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ธนภัทร นิรันดร คู่กับ ศุภวัฒน์ แซ่อุ้ย คว้าแชมป์ไปครอง หวดชนะ แม็กซิมัส ภราพล โจนส์ (ลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย) คู่กับ ชิษณุพงศ์ โภคินเศรษฐ์ศิริ 2 เซตรวด 6-4, 6-3 ส่วนประเภทหญิงคู่ รอบชิงชนะเลิศ คู่มือวาง 1 ของรายการ ตปณีย์ บุญวัฒน์ คู่กับ วิจิตรภรณ์ วิมุกตานนท์ คว้าแชมป์ไปครอง หวดชนะ คู่มือวาง 2 ของรายการ กมลวรรณ ก้อนศิลา คู่กับ ไทร่า ลิธิบี (ลูกครึ่งไทย-อังกฤษ) ไปด้วยสกอร์ 2-1 เซต 7-5, 1-6, 10-7 (ซุปเปอร์ไทเบรก)

ประเภทหญิงเดี่ยว รอบรองชนะเลิศ มือวาง 2 สลักทิพย์ อุ่นเมือง ชนะ มือวาง 3 นาตาชา แสงพระจันทร์ (แคนาดา) 6-0, 6-4 สลักทิพย์ อุ่นเมือง เข้ารอบชิงชนะเลิศ โดยพบกับ มือวาง 1 ลัลนา ธาราฤดี ชนะ ไทร่า ลิธิบี (ลูกครึ่งไทย-อังกฤษ) 6-2, 6-0 / ประเภทชายเดี่ยว รอบรองชนะเลิศ มือวาง 1 ธนภัทร นิรันดร ชนะ ศิวณัฎฐ์ อุ้ยตยะกุล 6-3, 6-4 ธนภัทร นิรันดร เข้ารอบชิงชนะเลิศ พบกับ มือวาง 2 ศุภวัฒน์ แซ่อุ้ย ชนะ มือวาง 3 แทนตะวัน ทัดเดโอ มายอลิ แม็คจิโอลิ (ลูกครึ่งไทย-อิตาลี) 6-0, 6-3
ภายหลังการแข่งขัน นายธานี แสนยาอุโฆษ กรรมการบริหาร ฝ่ายพัฒนาเยาวชน สมาคมกีฬาเทนนิสฯ มอบถ้วยรางวัลให้กับนักกีฬาชนะเลิศ และรองชนะเลิศ ทั้งประเภทหญิงคู่และชายคู่ โดยนักกีฬาชนะเลิศ ได้คะแนนสะสมเยาวชนโลก ของสหพันธ์เทนนิสนานาชาติ (ITF) 25 คะแนน และรองชนะเลิศ ได้ 13 คะแนน

มอบรางวัล….นายธานี แสนยาอุโฆษ กรรมการบริหาร ฝ่ายพัฒนาเยาวชน สมาคมกีฬาเทนนิสน เป็นประธานมอบถ้วยรางวัลให้กับนักกีฬาชนะเลิศ และรองชนะเลิศ ประเภทหญิงคู่-ชายคู่ เทนนิสเยาวชนนานาชาติ แอลทีเอที ไอทีเอฟ เกรด 5 ที่ ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

รมต.กีฬา เยี่ยมชมนิทรรศการ “พลังมหัศจรรย์ มิ่งขวัญกีฬาไทย”

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // เยี่ยมชมนิทรรศการ…นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยนายเขมพล อุ้ยตยะกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวง การท่องเที่ยวและกีฬา , ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการ กกท. เข้าชมนิทรรศการ “พลังมหัศจรรย์ มิ่งขวัญราชันกีฬาไทย” ซึ่งนำเสนอพระอัจฉริยะภาพด้านกีฬาของในหลวงรัชกาลที่ 9 และในหลวงรัชกาลที่ 10 ที่ บริเวณถนนสนามไชย เมื่อวันศุกร์ที่ 4 ธันวาคม ที่ผ่านมา

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

ฉลองค่ำคืนส่งท้ายปีที่โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส ร่วมฉลองส่งท้ายปีกับเมนูสุดอลังการ จากเชฟแพทริค วิทที้ เอ็กเซ็กคิวทีฟเชฟ จากลยานะ รีสอร์ท แอนด์ สปา “สุดยอดเชฟผู้พิชิต” จากรายการ “เชฟกระทะเหล็ก” ในงาน “Seafood Extravaganza Dinner” ทั้งซีฟู้ด, เนื้อสัตว์ หรือ เซิร์ฟ แอนด์ เทิร์ฟ ให้เลือกพร้อมอิ่มอร่อยกับบุฟเฟต์เมนูเรียกน้ำย่อยและของหวานแบบไม่อั้น ริมสระว่ายน้ำชั้น 8 โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส ราคา 2,021 บาทสุทธิต่อท่าน พร้อมร่วมงานเคานต์ดาวน์ “Glow Go 21” ฟรี รับส่วนลด20% สำหรับ 4 ท่าน และ 10 % สำหรับ 2 ท่าน สำรองที่นั่งโทร. 02 216 3700 Line: @PPrincess:Cr;มณสิการ รามจันทร์

“วราวุธ” นำทีม ทส. บุก สามย่าน ชู “ชีวิตวิถีใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” รับวันสิ่งแวดล้อมไทย’63

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2563 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว. ทส.) พร้อมด้วย นายนพดล พลเสน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงฯ นายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีฯ นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ เลขานุการรัฐมนตรีฯ และนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงฯ นำทีมผู้บริหารระดับสูงและเจ้าหน้าที่ในสังกัดฯ ลงพื้นที่สามย่าน ตอกย้ำแนวคิด “ชีวิตวิถีใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม”
Theme รณรงค์เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมไทยฯ ประจำปีนี้ ซึ่งจัดขึ้น ณ สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ เขตปทุมวัน กทม. เชิญชวนพี่น้องประชาชนเห็นถึงคุณค่าและความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่แม้ต้องใช้ชีวิตแบบ New Normal ก็สามารถรักษ์โลก รักษาสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไปได้ เริ่มได้ที่ตัวเอง ขอเพียงมีสติ คิดถึงสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้น แล้วค่อยๆ ปรับเปลี่ยนจนเป็นนิสัย เชื่อว่า ทุกคนทำได้ ซึ่งจะเป็นพลังสำคัญในการช่วยดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของไทยให้คงอยู่อย่างยั่งยืน เพื่อส่งต่อไปยังรุ่นลูกรุ่นหลานต่อไป
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว. ทส. เปิดเผยว่า ทุกวันที่ 4 ธ.ค. ของทุกปี เป็นวันสิ่งแวดล้อมไทย ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2534 สืบเนื่องจากพระราชดำรัสของในหลวง รัชกาลที่ 9 พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้าถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2532 ใจความเกี่ยวกับสถานการณ์สิ่งแวดล้อมของประเทศและของโลก ที่ทรงห่วงใยต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ประชาชนชาวไทยกำลังประสบอยู่และให้ถือเป็นหน้าที่ที่ทุกคนต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว จึงนับเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการดำเนินงานเพื่อการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม และต่อมา เมื่อวันที่ 27 พ.ย.2550 ครม.ได้มีมติให้เป็น “วันอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้านแห่งชาติ” หรือ “วัน ทสม. แห่งชาติ” อีกวาระหนึ่ง เพื่อเชิดชู ทสม.ที่มีจิตอาสารวมพลังกันสร้างคุณความดีพิทักษ์รักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของชาติ
ซึ่งกระทรวงฯ โดยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ได้จัดกิจกรรมวันสิ่งแวดล้อมไทย และวัน ทสม. แห่งชาติ เป็นประจำทุกปี โดยปีนี้ รณรงค์ภายใต้แนวคิด “ชีวิตวิถีใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” สืบเนื่องจากสถานการณ์ COVID – 19 ที่ทำให้เกิดการใช้ชีวิตวิถีใหม่ หรือ New Normal อาทิ การสั่งซื้อสินค้าออนไลน์และการใช้บริการเดลิเวอรี่ที่มีมากขึ้น ซึ่งสิ่งที่ตามมา คือ “ขยะ” โดยเฉพาะขยะพลาสติกในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว จึงจำเป็นต้องสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมกับพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม กระทรวงฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อปัญหาที่เกิดขึ้น ได้มีการริเริ่มกิจกรรม/โครงการความร่วมมือต่างๆ กับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน เช่น โครงการเปลี่ยนพลาสติกเป็นบุญ (เมื่อคุณหมุนเวียน) การทำ MOU การลดใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวจากการบริการส่งอาหาร (Food Delivery) และ MOU ส่งเสริมการผลิตบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มที่สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ (RECYCLABLE 100%) รวมถึง การใช้มาตรการท่องเที่ยวสวนสัตว์วิถีใหม่ หรือ “Zoo New Normal” เป็นต้น จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกคนมาร่วมกันดูแลโลกใบนี้ร่วมกัน โดยเริ่มต้นที่ตัวเอง มีสติ คิดถึงสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้น แล้วค่อยๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสู่การเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการดูแลสุขภาพแบบนิวนอร์มอล มาร่วมกันใช้ชีวิตวิถีใหม่ ทีใส่ใจสิ่งแวดล้อม เช่น ลด ละ เลิก การใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วและพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง หรือนำกลับมาใช้ซ้ำ ใช้ทรัพยากรหมุนเวียนให้คุ้มค่ามากที่สุด รวมทั้งเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมและสนับสนุนผลิตภัณฑ์หรือการให้บริการต่างๆ ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ทส. ได้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง ทำให้ปริมาณถุงพลาสติกลดลงมากกว่า 1 หมื่นล้านใบหรือมากกว่า 1 แสนตัน (11,958 ล้านใบ ประมาณ 108,220 ตัน ณ วันที่ 30 กันยายน 2563) นับตั้งแต่การใช้มาตรการงดให้บริการถุงพลาสติกหูหิ้ว เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2563 ด้วยความร่วมมืออย่างดีจากภาคีเครือข่ายภาคเอกชน ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ กว่า 76 บริษัท ตลอดจนพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ซึ่ง ทส. จะยังคงเดินหน้ารณรงค์สร้างการรับรู้และสร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นมากยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการเร่งรัดการออกกฎหมาย/มาตรการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องขอย้ำว่า ปัญหาสิ่งแวดล้อมไม่ใช่ปัญหาของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นปัญหาของเราทุกคนที่จะต้องร่วมมือกัน ช่วยกันจัดการ และแก้ไขปัญหาดังกล่าวร่วมกัน เพื่อลูกหลานของเราในอนาคต และเพื่อการคงอยู่ของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ด้าน นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส. กล่าวเสริมว่า วันสิ่งแวดล้อมไทยและวัน ทสม. แห่งชาติ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวง รัชกาลที่ 9 พระผู้ทรงเป็นบิดาแห่งการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนรณรงค์ให้ประชาชนเห็นคุณค่าและความสำคัญของการทำความดีในเรื่องของจิตอาสา ตามพระราชดำริของในหลวง รัชกาลที่ 10 อีกทั้งเป็นการเสริมสร้างจิตสำนึกและส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจากทุกภาคส่วน รวมทั้งเพื่อยกย่อง เชิดชูเกียรติบุคคล ชุมชน และองค์กรต้นแบบด้านการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งในปีนี้ จัดขึ้น ภายใต้แนวคิด “ชีวิตวิถีใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” ณ สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ เขตปทุมวัน กทม. ตั้งแต่เวลา 09.00 น. กิจกรรมภายในงาน มีทั้ง การมอบรางวัลเชิดชูเกียรติบุคคล องค์กร และชุมชนที่มีผลงานด้านสิ่งแวดล้อมดีเด่น รวม 46 รางวัล ได้แก่ รางวัลถ้วยพระราชทานฯ โครงการชุมชนปลอดขยะ zero waste ระดับประเทศ รางวัล ทสม. และเครือข่าย ทสม. ดีเด่น ระดับประเทศ รางวัลเชิดชูเกียรติองค์กรดีเด่นด้านสิ่งแวดล้อม รางวัลอุทยานธรณีประเทศไทย และผู้ทำคุณประโยชน์ต่อการอนุรักษ์แหล่งมรดกธรณีและการดำเนินการอุทยานธรณี รวมทั้ง การจัดกิจกรรมและนิทรรศการ ภายใต้แนวคิด “ชีวิตวิถีใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม”ของหน่วยงานสังกัดกระทรวงฯ และภาคีเครือข่ายด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เป็นต้น:Cr;มณสิการ รามจันทร์

“แม่ศรีเรือน” ปรับกลยุทธ์สานต่อตำรับความอร่อยยุค New Normal เปิดตัวเมนูทางเลือกใหม่เพื่อสุขภาพ ก้าวสู่ปีที่ 60 อย่างมั่นคง

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//จากตำนาน “ร้านก๋วยเตี๋ยวไก่แม่ศรีเรือน” เตรียมสานต่อต้นตำรับความอร่อยสู่ปีที่ 60 ปรับกลยุทธ์ธุรกิจผ่านวิกฤตรับยุค New Normal จับมือ เวลเนส แคร์ เปิดร้าน “เวลเนส กรีน ช็อป (Wellness Green Shop)” สาขาแม่ศรีเรือน สุขาภิบาล3 เพิ่มเมนูทางเลือกใหม่เพื่อสุขภาพ ภายใต้สโลแกน “ทำด้วยใจ..ดีต่อสุขภาพ” มื้ออร่อยสูตร 2:1:1 พร้อมเพิ่มสินค้า 2 ทางเลือกตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ “น้ำแกงปรุงสำเร็จ” สะดวก อร่อย ง่ายๆ สไตล์แม่ศรีเรือน ตอบรับกลุ่ม Home Cooking และ “สำรับแม่ศรีเรือน” 30 วันไม่ซ้ำเมนู รับกลุ่มวัยทำงานและผู้สูงอายุ รองรับสังคมของผู้สูงวัย มั่นใจปรับตัวตรงจุด พร้อมส่งแม่ศรีเรือนก้าวข้ามวิกฤตได้อย่างมีคุณภาพนายชาณ เรืองรุ่ง กรรมการบริหาร บริษัท ครัวแม่ศรีเรือน จำกัด, บริษัท แม่ศรีเรือนไทยฟู้ดส์ จำกัด และบริษัท แม่ศรีเรือนอินเตอร์ฟู้ดโปรดักส์ จำกัด เปิดเผยเล่าย้อนไปถึงความเป็นมาของร้านก๋วยเตี๋ยวไก่แม่ศรีเรือน ว่า แม่ศรีเรือนเริ่มจากธุรกิจร้านก๋วยเตี๋ยวไก่เล็กๆ ทำกันในครอบครัวที่พัทยากลาง แต่ต่อมาเมื่อร้านเริ่มเป็นที่กล่าวขวัญกันปากต่อปากจากลูกค้าต่างจังหวัด ถึงรสชาติที่แสดงออกถึงความรักและความใส่ใจในทุกขั้นตอน นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นการเปิดสาขาแรกของ ‘ก๋วยเตี๋ยวไก่แม่ศรีเรือน’ ที่กรุงเทพฯ ในปี พ.ศ. 2521 หลังจากการเปิดสาขาขึ้นที่กรุงเทพฯ ร้านแม่ศรีเรือนก็พัฒนาตัวเอง และเติบโตขึ้นต่อเนื่องมาโดยตลอด จากแนวคิดที่ว่า ‘แม่ศรีเรือนจะเป็นสำรับกับข้าวที่สองของครอบครัวไทย’ จากนั้นเมนูก๋วยเตี๋ยวไก่ต้นตำรับ ก็ขยายมาเป็นอาหารจานเดียว และอาหารไทยที่มีความหลากหลายมากขึ้น ที่สำคัญเรายังได้นำความรักและความใส่ใจในวันแรกที่เปิดร้าน มาใช้กับการเปิด ‘ครัวกลาง’ เพื่อรักษามาตรฐานของวัตถุดิบ ให้มีคุณภาพใกล้เคียงกันในทุกจาน โดยเน้นเรื่องรสชาติและความปลอดภัยของผู้ทานเป็นสำคัญ เรียกว่าถ้าใครไม่อยากยุ่งยากในการทำอาหารที่บ้านให้นึกถึงแม่ศรีเรือนเป็นที่แรก

“ระยะเวลารวมกว่า 60 ปีที่เปิดร้านมา ร้านแม่ศรีเรือนเจออุปสรรคมามากมาย แต่ในปีนี้ที่ทุกคนต่างปรับวิถีการดำเนินชีวิตในเรื่องการกินไปอย่างมาก ผู้คนตระหนักถึงการดูแลสุขภาพตัวเองและครอบครัว ทั้งยังเน้นถึงคุณค่าทางโภชนาการของอาหารที่ทานเข้าไปในแต่ละวันด้วย ร้านแม่ศรีเรือนจึงมีแนวคิดที่จะนำแก่นแท้ของของความเป็นแม่ศรีเรือน ที่เราให้ความสำคัญกับคุณภาพของวัตถุดิบ และมีความละเมียดละไม ประณีตใส่ใจในทุกขั้นตอนการปรุง ให้ได้รสชาติอาหารอร่อยตำรับไทยแท้ที่ทุกคนคุ้นเคยและเข้าถึงได้ง่าย มาพัฒนาเข้ากับ ‘เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ’ เพิ่มเติมจากเมนูอาหารปกติของร้าน เพื่อเพิ่มทางเลือกใหม่ให้ผู้ที่รักสุขภาพ ทั้งยังส่งเสริมนโยบายรัฐ (สสส.) รณรงค์ให้คนไทยใส่ใจสุขภาพ ลดอัตราการเจ็บป่วยจากกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ภายใต้สโลแกน ‘ทำด้วยใจ..ดีต่อสุขภาพ’ มื้ออร่อยสูตร 2:1:1”

เมนูอาหาร “ทำด้วยใจ..ดีต่อสุขภาพ” เป็นการวางทางเลือกใหม่เพื่อสุขภาพจากร้านแม่ศรีเรือน ทั้งยังเป็นหนึ่งในความร่วมมือครั้งสำคัญของก๋วยเตี๋ยวไก่แม่ศรีเรือน กับ ศูนย์ธรรมชาติบำบัด เวลเนส แคร์ โดย “นายแพทย์บุญชัย อิศราพิสิษฐ์” ศูนย์ทางเลือกสุขภาพที่ใช้แนวทางวิถีทางธรรมชาติบำบัด ปรับพฤติกรรมการบริโภคและการใช้ชีวิต ด้วยการประยุกต์ใช้อาหารเป็นยาและทดแทนการใช้วิตามิน เพื่อสร้างสมดุลทางด้านสุขภาพกายและสุขภาพใจควบคู่กัน ต่อยอดเพื่อ ‘ลด’ จำนวนผู้เจ็บป่วยด้วยกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ในสังคมไทย ซึ่งเมนูอาหารทางเลือกเพื่อสุขภาพนี้ ได้เริ่มพัฒนาและวางจำหน่ายที่ร้านแม่ศรีเรือน สาขาสุขาภิบาล3 ทางเลือกใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้รักสุขภาพในพื้นที่ใกล้เคียง ใช้บริการได้ง่าย สะดวกรวดเร็ว และประหยัดเวลาในการเดินทาง ที่เดียวทานครบจบทุกสำรับเมนูอาหาร

สำหรับเมนู “ทำด้วยใจ..ดีต่อสุขภาพ” ของร้านแม่ศรีเรือน จะให้ความสำคัญในการคัดสรรวัตถุดิบเพื่อความปลอดภัยกับผู้บริโภค โดยการล้างผักผลไม้ด้วยเครื่องล้างผักโอโซน และเลือกใช้วัตถุดิบจากผู้ผลิตที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน (ผักปลอดสาร / ผักอินทรีย์ 70%) ปรุงตามสูตร 2:1:1 คือ ผัก 2 ส่วน, ข้าว 1 ส่วน และเนื้อ 1 ส่วน ภายใต้แนวคิดการพัฒนาเมนูอาหารที่ เพิ่มกากใย (HIGH FIBER), ไม่ใส่ผงชูรส (NO MSG), ลดหวาน (LOW SUGAR), ลดเค็ม (LOW SODIUM), ลดมัน (LOW FAT), งดแป้งขัดขาว, งดเนื้อแดง และแสดงปริมาณแคลอรี่ต่อจาน ให้คุณค่าทางโภชนาการครบทั้ง 5 หมู่ จากเมนูที่มีความหลากหลาย อาทิ ก๋วยเตี๋ยวไก่สุขภาพ, ข้าวกะเพราไก่, ข้าวผัดกุ้ง, ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ, ผัดไทยกุ้ง, ราดหน้าเส้นหมี่ข้าวกล้องไก่, ยำทูน่า, สลัดโรล และอื่นๆ อีกมากมาย

นายชาณ กล่าวต่อไปว่า “นอกเหนือจากเมนูอาหารเพื่อสุขภาพแล้ว ร้านแม่ศรีเรือนยังมีการวางแนวคิดธุรกิจใหม่ๆ ในด้านต่างๆ เพื่อปรับตัวเองให้เข้ากับการดำเนินงานในวิกฤตโควิด-19 ในรูปแบบ New Normal โดยที่ผ่านมา ร้านแม่ศรีเรือนได้ใช้มาตรการเพื่อความปลอดภัยในการปรุงอาหารเพื่อลูกค้ามาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐาน 7 ขั้นตอนสำหรับพนักงาน ตามแนวทาง Social Distancing เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อและสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าในการสั่งอาหารที่ร้านแม่ศรีเรือนทุกสาขา รวมไปถึงให้บริการ Cashless เพิ่มช่องทางชำระเงินอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า ทั้งจากการโอนชำระผ่าน Banking Application, การชำระผ่าน QR Code และการชำระด้วยเครดิตการ์ด อีกทั้งในช่วงปลายปีนี้ แม่ศรีเรือนจะเพิ่มสินค้า 2 ตัวเลือกใหม่ อย่าง น้ำแกงปรุงสำเร็จ และ สำรับแม่ศรีเรือน ที่มีความโดดเด่น ตอบโจทย์เข้ากับชีวิตวิถีใหม่ของทุกคน”

การเพิ่มสินค้า 2 ตัวเลือกใหม่ของร้านแม่ศรีเรือน ถือเป็นการใช้แนวทางความใส่ใจในการปรุงอาหาร มาเป็นการแก้โจทย์ชีวิตวิถีใหม่หรือ New Normal ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย “น้ำแกงปรุงสำเร็จ” เป็นการนำเอา Pain point ผู้บริโภคที่ไม่สามารถทำงานประจำได้เหมือนเคย ให้หันมาลงมือทำอาหารที่บ้าน (Home Cooking) ได้ง่ายขึ้น ภายใต้แนวคิด “สะดวก อร่อย ง่ายๆ สไตล์แม่ศรีเรือน” เพียงเพิ่มเติมเนื้อและผักลงในน้ำแกงไทยปรุงสำเร็จ ก็จะได้แกงไทยรสชาติอร่อยในทันที ไม่ว่าจะเป็น น้ำแกงส้ม, น้ำแกงเขียวหวาน, น้ำแกงพะแนง, น้ำแกงเลียง ฯลฯ สำหรับในส่วนของ “สำรับแม่ศรีเรือน” เป็นเมนูในรูปแบบของปิ่นโต สำรับกับข้าวปรุงสดใหม่ ส่งถึงบ้านได้โดยตรง โดดเด่นด้วยแนวคิด “30 วันไม่ซ้ำเมนู” เพื่อเป็นทางเลือกให้กลุ่มวัยทำงานที่ไม่มีเวลาทำอาหาร ที่สำคัญยังเป็นทางเลือกให้กับการดูแลกลุ่มผู้สูงอายุ รองรับการเข้าสู่สังคมของผู้สูงวัย (Aging Society) ได้เป็นอย่างดี

“ปัจจุบันร้านก๋วยเตี๋ยวไก่แม่ศรีเรือนมีสาขาที่กรุงเทพและปริมณฑล 27 สาขา ที่พัทยา 4 สาขา และที่หัวหินอีก 1 สาขา รวมทั้งหมด 32 สาขา ด้วยจำนวนสาขาในการดูแลที่มาก เราถือเป็นเรื่องของความท้าทาย ที่แม่ศรีเรือนต้องก้าวข้ามวิกฤตการแข่งขันที่รุนแรงไปให้ได้ ท่ามกลางโจทย์ทางธุรกิจที่มากมายทั้งในส่วนของรายได้และต้นทุนรอบด้าน แต่ในอีกมุมยังมีข้อบวกคือธุรกิจร้านอาหารถือเป็นธุรกิจที่ยังสามารถเติบโตได้อยู่แม้ไม่สูงมากนัก ทั้งนี้เพราะอาหารคือหนึ่งในปัจจัยสี่ที่จำเป็น อีกทั้งพฤติกรรมของคนไทยที่เคยนิยมทานอาหารนอกบ้านในห้างสรรพสินค้า ก็เปลี่ยนไปเป็นการทานที่ร้าน Stand Alone หรือศูนย์การค้าขนาดเล็กแทน หรือแม้แต่การเลือกปรุงอาหารรับประทานกันเองที่บ้านก็มีเพิ่มขึ้น นั่นเพื่อหลีกเลี่ยงความไม่แน่นอนของวิกฤตโควิด-19

“อย่างไรก็ตามด้วยแนวโน้มที่เติบโตเห็นได้ชัดของกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสนใจเรื่องสุขภาพ รวมถึงกลุ่มที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว ความหลากหลาย ภายใต้ราคาที่สมเหตุสมผล ถือเป็นโจทย์ที่ท้าทายของร้านแม่ศรีเรือนในการที่จะตอบรับกับผู้บริโภคกลุ่มนี้ได้อย่างลงตัว เพราะอาหารที่เราปรุงด้วยความใส่ใจจะถูกส่งไปถึงบ้าน ด้วยบริการดิลิเวอรี่จากผู้ให้บริการอย่าง Grab, Line Man, Gojek, Lalamove รวมถึงช่องทางดิลิเวอรี่ของร้านแม่ศรีเรือนเอง เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่างๆ และการเปิดตัวเมนูทางเลือกใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น อาหารเพื่อสุขภาพ, น้ำแกงปรุงสำเร็จ หรือแม้แต่สำรับแม่ศรีเรือน คือบททดสอบว่าเรากำลังปรับตัวไปในทิศทางเดียวกันกับผู้บริโภคอย่างตรงจุด และจะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะช่วยให้ร้านแม่ศรีเรือนสามารถก้าวข้ามวิกฤตครั้งนี้ไปได้” นายชาณ สรุปทิ้งท้าย  :Cr;มณสิการ รามจันทร์