วันพฤหัสบดี, กันยายน 11, 2025

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรก บล็อก หน้า 2058

ชมรมคนพิการทางการเคลื่อนไหวหรือร่างกายจังหวัดอุบลราชธานี จัดโครงการส่งเสริมการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกให้คนพิการเข้าถึงและประโยชน์ได้ Universal Design (UD)

0

ชมรมคนพิการทางการเคลื่อนไหวหรือร่างกายจังหวัดอุบลราชธานี จัดโครงการส่งเสริมการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกให้คนพิการเข้าถึงและประโยชน์ได้ Universal Design (UD)

เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2563 เวลา 08.00 น . ถึง 16.00 น .ณ โรงแรมกิจตรงวิลล์รีสอร์ท ตำบลขามใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี นายวิชัย สายมั่น รองประธานชมรมคนพิการทางการเคลื่อนไหวหรือร่างกายจังหวัดอุบลราชธานี จัดโครงการ “ส่งเสริมการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกให้คนพิการเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้”โดยได้รับเกียรติจาก นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยตีฆ้อง เพื่อเปิดพิธี พร้อมทั้งนางสาวนภาพร เมฆาผ่องอำไพ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุบลราชธานี ได้กล่าวรายงานต่อท่านประธานในพิธีฯ ถึงวัตถุประสงค์ในการจัดฝึกอบรมโครงการนี้ขึ้นมา

ทั้งนี้โครงการยังได้รับความสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ หลายหน่วยงาน อาทิเช่น สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานอุบลราชธานี และยังมห้เกียรติบรรยายพิเศษความสำคัญของอารยสถาปัตย์ต่อสังคมไทย และได้รับเกียรติจาก นายชัยพร ภูผารัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย บรรยายเรื่องการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นประโยชน์ต่อคนทุกคน และเปิดเวทีแสดงความคิดเห็น “ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะต่อการขับเคลื่อนให้เกิดสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นประโยชน์ต่อคนทุกคน” อย่างนั้งยืนต่อไป
โดยการจัดฝึกอบรมในครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นประโยชน์ต่อคนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาสในการเข้าถึง สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ยังเป็นปัญหาและอุปสรรค จัดการฝึกอบรมในครั้งนี้ทำให้หน่วยงานภาครัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้มีความรู้และความเข้าใจถึงกฎหมายและสิทธิของคนพิการ และยังเป็นการส่งเสริมให้ทุกๆพื้นที่ในจังหวัดอุบลราชธานี สามารถอำนวยความสะดวกและให้การต้อนรับกับประชาชนทั่วไปที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวหรือมาดำเนินกิจการใดๆภายในจังหวัดอุบลราชธานีได้อย่างสะดวก ต่อไป

“บีบีจี” จับมือ สมาคมแบดมินตัน ผนึกกำลังพันธมิตร เพิ่มโอกาสเยาวชน สู่นักตบลูกขนไก่อาชีพ

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // พิธีลงนามความร่วมมือ (MOU) โครงการ BBG Young Badminton หรือ โครงการ “ให้โอกาสสร้างคน” ระหว่างสโมสรกีฬาบีบีจี ร่วมกับกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ที่ ห้องอโนมา 1 ชั้น 3 โรงแรมอโนมาแกรนด์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา
นายเอกภพ เดชเกรียงไกรสร ประธานสโมสรกีฬาบีบีจี กล่าวว่า โครงการ BBG Young Badminton หรือโครงการ “ให้โอกาส สร้างคน” เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ดำเนินงานโดยสโมสรกีฬาบีบีจี ในพระราชดำริของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา
​ปัจจุบัน โครงการ BBG Young Badminton ได้ดำเนินงานเข้าสู่ ปีที่ 5 มีเด็กและเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ ภายใต้การดำเนินงานของสโมสรกีฬาบีบีจี จำนวนทั้งสิ้น 197 คน มีเด็กและเยาวชนที่ผ่านโครงการนี้ถูกคัดเลือกเข้ามาเป็นนักกีฬาของสโมสรกีฬาบีบีจี ทีม A จำนวน 2 คน มียิมกีฬา 1 แห่ง ที่ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนฯ บ้านกรุณา จ.สมุทรปราการ โดยได้ฝึกอบรมทักษะกีฬาแบดมินตัน เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้มีทักษะทางด้านกีฬาแบดมินตัน ทั้งนี้ ยังได้ส่งเสริมเส้นทางอาชีพทางด้านกีฬาให้กับเด็กและเยาวชนที่มีความสนใจ โดยมีการจัดโครงการฝึกอบรมกรรมการผู้ตัดสินหรือผู้กำกับเส้น ซึ่งส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนที่ผ่านการฝึกอบรมได้ฝึกปฏิบัติหน้าที่เป็นกรรมการผู้กำกับเส้นจริง ในรายการแข่งขันต่าง ๆ ของสมาคมด้วย

นายเอกภพ เดชเกรียงไกรสร ขอขอบคุณทุก ๆ ภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม ที่มีส่วนร่วมทำให้โครงการของสโมสรกีฬาบีบีจี ดำเนินการมาได้โดยสำเร็จและต่อเนื่อง
​ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการดำเนินโครงการของสโมสรกีฬาบีบีจี จะผลักดันเด็กและเยาวชนที่ยังขาดโอกาสในกลุ่มต่าง ๆ ทั่วประเทศ ให้ได้มีโอกาสในการพัฒนาทักษะด้านกีฬา สร้างองค์ความรู้ใหม่ ๆ และต่อยอด สานความมุ่งหวังไปสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพ และดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขต่อไป
คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ​เป็นพระกรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ที่ทรงมีพระเมตตาริเริ่มโครงการ ด้วยทรงตระหนักถึงความสำคัญของการให้โอกาสแก่เด็กและเยาวชนผู้กระทำผิด และเสี่ยงต่อการกระทำผิดซ้ำ โดยใช้กีฬาแบดมินตันเป็นเครื่องมือหนึ่งในการพัฒนาพฤตินิสัยของเยาวชน เพื่อช่วยให้สามารถกลับคืนสู่สังคมได้อย่างสง่างาม สามารถยืนหยัดเป็นนักกีฬาในระดับประเทศได้ ตลอดจนสามารถประกอบสัมมาอาชีพที่เกี่ยวข้องกับกีฬาได้อย่างเต็มภาคภูมิ และเป็นการคืนเยาวชนกลับสู่ครอบครัวและสังคมอย่างมีคุณค่า
สมาคมฯ มีส่วนร่วมในการจัดสรรและสนับสนุนงบประมาณ สำหรับอุปกรณ์กีฬาแบดมินตัน การฝึกซ้อม การประเมินผล การส่งเด็กและเยาวชนขึ้นเป็นนักกีฬาได้เข้าร่วมแข่งขัน ส่งเสริมให้เข้ารับการฝึกอบรมเพื่อเป็นกรรมการผู้ตัดสิน หรือผู้กำกับเส้น และจัดหาบุคลากรที่มีประสบการณ์สูงในกีฬาแบดมินตัน มาให้ความรู้และสร้างแรงบันดาลใจให้กับน้อง ๆ อย่างต่อเนื่อง

กีฬาตอบความต้องการของเด็กและเยาวชนได้ทุกข้อ เด็กและเยาวชนต้องการรับความรัก การยอมรับ อิสระ ต้องการความโดดเด่น ความสบายใจ คำชื่นชม ต้องการเพื่อนที่ดี เหล่านี้ น้องๆ หาได้จากการฝึกฝนกีฬาและการแข่งขันกีฬา
​กีฬาเป็นเครื่องมือและเป็นเกราะป้องกันอันทรงประสิทธิภาพที่สามารถลดโอกาสการกระทำผิดของเด็กและเยาวชน กีฬาดึงน้อง ๆ ออกมาให้ห่างไกลจากสื่อที่ไม่สร้างสรรค์ จากกิจกรรมที่ไม่ปลอดภัย จากยาเสพติด จากการใช้ความรุนแรง และจากอาชญากรรม
พ.ต.ท. วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กล่าวว่า ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่วันนี้ได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างสโมสรกีฬาบีบีจีอันเนื่องมาจากโครงการ ในพระดำริ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณี สิริพัชรมหาวัชรราชธิดา ร่วมกับสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย และกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นการสานต่อความร่วมมือ ในโครงการให้โอกาส สร้างคน หรือ BBG Young Badminton ซึ่งความร่วมมือดังกล่าว ได้ดำเนินการมาแล้ว กว่า 4 ปี ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2559 และปัจจุบันก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 ซึ่งผลจากการดำเนินโครงการดังกล่าวที่ผ่านมา มีเด็กและเยาวชนเข้าร่วมโครงการฝึกอบรมทักษะทางด้านกีฬาแมดมินตัน ฝึกอบรมเป็นผู้ตัดสินหรือผู้กำกับเส้นกีฬาแบดมินตัน การสร้างแรงบันดาลใจและสอนกีฬาแบดมินตันจากนักกีฬาทีมชาติ ทั้งสิ้นกว่า 197 คน และมีเด็กและเยาวชนที่ผ่านการฝึกอบรมฯ ได้รับคัดเลือกเป็นนักกีฬาในสโมสรกีฬาบีบีจี จำนวน 2 คน ซึ่งนับเป็นสิ่งที่น่าพึงพอใจอย่างมาก

การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในวันนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนพัฒนาศักยภาพทักษะด้านกีฬาเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง ห่างไกล จากยาเสพติดและเป็นแนวทางในการสร้างโอกาส สร้างอาชีพอย่างยั่งยืนแก่เด็กและเยาวชนในอนาคต อันเป็นการลดการกระทำผิดซ้ำของเด็กและเยาวชน
ในนามของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ขอขอบคุณสโมสรกีฬาบีบีจีฯ สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ที่ให้การสนับสนุน และส่งเสริมเด็กและเยาวชนอย่างต่อเนื่อง เป็นเครือข่ายความร่วมมือ ที่มีศักยภาพของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนเสมอมา หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ด้วยความอุตสาหะ วิริยะและเจตนารมณ์อันดีในความร่วมมือ ผนวกกับความมุ่งมั่น ทุ่มเทในการทำงาน ของผู้ฝึกสอนและบุคลากรของกรมพินิจฯ จะทำให้เด็กและเยาวชนที่เคยก้าวพลาดกลุ่มนี้ ได้พัฒนาศักยภาพตนเอง สร้างโอกาสในการมีอนาคต และคุณภาพชีวิตที่ดี สร้างเด็กและเยาวชนดีกลับคืนสู่สังคม และไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำ ภายหลังปล่อยตัว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม คุณจิรายุ ศรีวิชัย ( เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์และสื่อสารภาพลักษณ์องค์กร สโมสรกีฬาบีบีจี ) โทร. 062-9191649 E-mail : jirayu.s@nabha.or.th

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

ปิ๊กมี่ ครวญพิษศก. ใกล้อดตาย อยากคืนเวที เป็นด่านสกัดดาวรุ่ง

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // ปิ๊กมี่ ก่อเกียรติยิม อดีตแชมป์ “เงา” สหพันธ์มวยโลก WBF ครวญสภาพเศรษฐกิจกระทบชีวิต และครอบครัวรอวันตาย จำต้องหวนคืนสังเวียนอีกครั้ง เชื่อสภาพร่างกายยังไหว แม้วัย 39 ปี แต่ขอให้ได้ชกในพิกัด 115 ปอนด์ เป็นด่านสกัดรุ่นน้องดาวรุ่ง
ปิ๊กมี่ เพิ่งหวนคืนสังเวียนครั้งล่าสุด โดนล้วงลำตัวแพ้น็อก ธนันท์ชัย จรูญภักดิ์ ยก 4 ที่ เวิร์คพอยท์ สตูดิโอ เมื่อ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าตัวเผยหลังชกไฟต์ล่าสุดว่า การพ่ายแพ้ให้แก่ดาวรุ่งรุ่นน้องซึ่งอายุอ่อนกว่าถึง 19 ปี เพราะเรื้อสังเวียนไปนาน ซ้ำยังต้องรีดลดน้ำหนักในช่วงระยะเวลาอันสั้น เพื่อให้ได้ในพิกัด 112 ปอนด์ แต่หากได้มีเวลาเก็บตัวให้มากขึ้น และได้ชกในพิกัด 115 ปอนด์ขึ้นไป เชื่อมั่นด้วยกระดูกมวย ความเก๋าประสบการณ์ ยังพอจะเป็นด่านสกัดให้กับนักชกรุ่นน้องดาวรุ่งทั้งหลายได้อยู่
“ทุกวันนี้ ผมทำสวนอยู่ที่ชัยภูมิ การดำรงชีพอยู่ ด้วยสภาพเศรษฐกิจแร้นแค้น ช่วงนี้มีวิกฤตไวรัสโควิดด้วย นับว่ายากลำบากไม่น้อยครอบครัวรอวันอดตาย จึงจำเป็นต้องหวนคืนสังเวียนกลับมาชกมวยอีกครั้ง แต่มั่นใจว่า ขอให้ได้มีระยะเวลาเตรียมตัว ยังสามารถจะกลับมาชกมวยได้อีกแม้จะอายุถึง 39 ปีแล้ว ไฟต์ล่าสุดได้

ค่าตัว 5 หมื่นบาท ขอบคุณผู้ใหญ่ที่ให้โอกาส พร้อมจะคืนสังเวียนเป็นด่านวัดฝีมือให้กับมวยสร้างทุกค่าย ทุกสังกัด เรื่องค่าตัวนั้นคุยกันได้ สารภาพตามตรงว่า ผมมีความจำเป็นจริงๆที่ต้องกลับมาชกอีกครั้ง เพื่อหาเงินเลี้ยงดูครอบครัว วอนแฟนๆอย่าด่าว่าผมเลย พยายามติดต่อกลับไปหาเสี่ยโก้ลูกพี่เก่า ไม่สามารถติดต่อได้ ปัจจุบันผมเป็นอิสระไม่มีสังกัดใด หากโปรโมชันทีมงานใดสนใจ พร้อมชก หากเป็นพิกัด 115 ปอนด์ขึ้นไป ฝากบอกต่อด้วย”
ปิ๊กมี่ เคยเป็นมวยสร้างของ “เสี่ยโก้” ก่อเกียรติ พาณิชยารมณ์ มีสถิติสากลอาชีพ ชนะ 61 แพ้ 12 เสมอ 2 อดีตแชมป์”เงา”สหพันธ์มวยโลก WBF ,อดีตแชมป์สภามวย แห่งเอเชีย WBC Asia เคยชิงแชมป์ สมาคมมวยโลก WBA รุ่นมินิมั่มเวต แพ้คะแนน ขวัญไทย ศิษญ์หมอเส็ง และไปชิงแชมป์โลก WBA เส้นเดิม ที่ โมนาโก แพ้น็อก เฮคกี้ บัสเลอร์ ยก 8 ปี2557 ก่อนแขวนนวมในอีกสองปีต่อมา และเพิ่งหวนคืนสังเวียนไฟต์ล่าสุด เมื่อ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา ด้วยความจำเป็นจากสภาพความเป็นอยู่อันแร้นแค้นในปัจจุบัน

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

ส.ว่ายน้ำ ผลักดันดาวรุ่งระดับภูมิภาค ให้ก้าวสู่เส้นทางสายทีมชาติ

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // นายธนาวิชญ์ โถสกุล ”โค้ชตึก” รักษาการเลขาธิการสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย กล่าวถึง การเปิดโอกาสให้นักกีฬาว่ายน้ำ ระดับเยาวชนจากทั่วประเทศมีโอกาสประลองฝีมือเพื่อสานฝันการเป็นนักกีฬาทีมชาติว่า ขณะนี้สมาคมกีฬาว่ายน้ำฯ พยายามกระจายการเเข่งขันออกไปตามต่างจังหวัดให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับนักว่ายน้ำเยาวชนในทุกภูมิภาคเเสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทาง เฟ้นหาช้างเผือกของสมาคมฯอีกด้วย ซึ่งไม่อยากให้คนเก่งๆกระจุกตัวอยู่เเต่ในเมืองกรุงเท่านั้น
โดยเฉพาะการเเข่งขันกีฬาว่ายน้ำ รายการ ”ไทยออยล์ชิงชนะเลิศ” ประจำปี 2563 ระหว่างวันที่10-11ธ.ค. ที่ จ.ชลบุรี สมาคมฯจับมือกับภาคเอกชน ในโครงการ “ไทยออยล์สานฝันเยาวชนสู่นักกีฬาอาชีพ” เปิดโอกาสให้กับนักว่ายน้ำในเขตพื้นที่ จ.ชลบุรี จำนวน 500 คน ได้ลงประชันฝีมือ พร้อมเก็บสถิติการคัดเลือกตัวนักกีฬาสู่ทีมชาติในอนาคต

นอกจากนี้ตลอดเดือนพ.ย.สมาคมกีฬาว่ายน้ำจัดโครงการ“ช่วยชีวิต ลดวิกฤติการจมน้ำ” นำผู้เชี่ยวชาญของสมาคมฯว่ายน้ำและนิสิตจากมหาวิทยาลัยบูรพา เปิดสอนทักษะการว่ายน้ำให้แก่เยาวชนในพื้นที่เทศบาลนครแหลมฉบัง จำนวน 500 คน มีการมอบประกาศนียบัตรให้เเก่เยาวชนที่เข้าเรียนครบ 10 ชั่วโมง พร้อมเฟ้นหาเยาวชนที่มีความสามารถผลักดันขึ้นสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพต่อไป

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

สทป.จับมือกองเรือยุทธการ ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมมือพัฒนาต้นแบบอุตสาหกรรมเรืออเนกประสงค์เพื่อความมั่นคงทางทะเล

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ หรือ สทป. ในฐานะหน่วยงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีป้องกันประเทศที่มีองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญในการวิจัยและพัฒนาต้นแบบเทคโนโลยีป้องกันประเทศขั้นสูง เพื่อสนับสนุนการใช้งานของกองทัพและภาคพลเรือนเพื่อการพึ่งพาตนเอง ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือพัฒนาจัดสร้างต้นแบบอุตสาหกรรมเรืออเนกประสงค์เพื่อความมั่นคงทางทะเล ร่วมกับกองเรือยุทธการ กองทัพเรือ เพื่อสนับสนุนภารกิจของหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ หรือ นสร.กร. ซึ่งเป็นหน่วยขึ้นตรงของกองเรือยุทธการ กองทัพเรือ และในนามของ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย (พธท.) โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) อีกด้วย

ทั้งนี้เพื่อให้สามารถตอบสนองภารกิจที่สำคัญดังกล่าว กองเรือยุทธการ เล็งเห็นถึงศักยภาพด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีป้องกันประเทศของสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ในการวิจัยและพัฒนาจัดสร้างต้นแบบอุตสาหกรรมเรืออเนกประสงค์เพื่อความมั่นคงทางทะเล ที่สามารถตอบสนองภารกิจของ นสร.กร. ดังนี้
1.) ด้านความมั่นคงทางทหาร ได้แก่ 1.1) สนับสนุนภารกิจหลักสูตรต่าง ๆ ของ นสร. เช่น นักทำลายใต้น้ำจู่โจม, ปฏิบัติงานใต้น้ำ และลาดตระเวน 1.2) ขนส่งในพื้นที่ที่เรือใหญ่เข้าไม่ถึง (เข้าเกยหาด)
2.) ด้านความมั่นคงทางทรัพยากรธรรมชาติ ได้แก่ การเก็บขยะลอยน้ำในพื้นที่โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) และพื้นที่รับผิดชอบของ นสร.กร.
3.) ด้านความมั่นคงทางสังคม การมีส่วนร่วมตอบสนองความรับผิดชอบต่อสังคมเพื่อสร้างการตระหนักถึงปัญหาที่เกิดจากขยะในทะเลให้แก่ประชาชนร่วมกันแก้ไขปัญหาขยะให้หมดไป
โดยมีกำหนดระยะเวลาในการดำเนินการโครงการฯ 2 ปี จนแล้วเสร็จ พร้อมส่งมอบให้ นสร.กร. ใช้งาน
สทป. ได้เสนอโครงการเรืออเนกประสงค์เพื่อความมั่นคงทางทะเลต่อคณะกรรมการ สทป. เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2562 โดยคณะกรรมการฯ ได้มีมติเห็นชอบและพิจารณาอนุมัติให้ สทป. วิจัยและพัฒนาสร้างต้นแบบอุตสาหกรรมเรืออเนกประสงค์เพื่อความมั่นคงทางทะเล ร่วมกับ นสร.กร. และบริษัทเอกชนที่มีศักยภาพภายในประเทศ และได้กำหนดระยะเวลาในการดำเนินการโครงการฯ 1-2 ปี จนแล้วเสร็จ ประโยชน์ที่จะได้รับจากการดำเนินโครงการฯ ในครั้งนี้ ได้แก่ 1.) สทป. ได้นําแนวคิดในเรื่องแผนพัฒนาทางลัดมาดําเนินการให้เป็นรูปธรรม 2.) เพิ่มขีดความสามารถในงานวิจัยต่อยอดองค์ความรู้สําหรับแพลตฟอร์มทางน้ำของ สทป. 3.) การพัฒนาต่อยอดการจัดสร้างต้นแบบอุตสาหกรรมเรืออเนกประสงค์ทางทะเล 4.) ส่งเสริมอุตสาหกรรมการต่อเรือของไทย 5.) ตอบสนองความรับผิดชอบต่อสังคม 6.) การร่วมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่ได้ดําริโครงการเพื่อให้สาธารณชนเรียนรู้และตระหนักถึงความสําคัญของพันธุกรรมพืช และ สทป. เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยอนุรักษ์พันธุ์พืช เพื่อสร้างการตระหนักถึงปัญหาที่เกิดจากขยะ ในทะเลให้แก่ประชาชนร่วมกันแก้ไขปัญหาขยะให้หมดไป
พลอากาศเอก ดร.ปรีชา ประดับมุข ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการพัฒนาจัดสร้างต้นแบบอุตสาหกรรมเรืออเนกประสงค์เพื่อความมั่นคงทางทะเลระหว่าง สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ กับ กองเรือยุทธการ กองทัพเรือ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของความร่วมมือในการพัฒนาจัดสร้างต้นแบบอุตสาหกรรมเรืออเนกประสงค์เพื่อความมั่นคงทางทะเลให้สำเร็จเป็นรูปธรรม เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการพึ่งพาตนเอง ในการสนับสนุนภารกิจของกองเรือยุทธการ กองทัพเรือ และสามารถสนับสนุนการดำเนินการโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ กองทัพเรือ อย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงต่อยอดองค์ความรู้ในการวิจัยและพัฒนาต้นแบบอุตสาหกรรมเรือเพื่อความมั่นคงทางทะเลไปจนถึงขั้นการผลิต และส่งเสริมสู่อุตสาหกรรมตามพระราชบัญญัติเทคโนโลยีป้องกันประเทศ พ.ศ. 2562
นอกจากนี้โครงการเรืออเนกประสงค์เพื่อความมั่นคงทางทะเล ยังถือเป็นโครงการแรกของ สทป. ตั้งแต่ก่อตั้งสถาบันฯ มา ที่จะได้มีโอกาสนำผลงานวิจัยพัฒนาต้นแบบสนับสนุนการดำเนินงานตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ร่วมกับหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ หรือ นสร.กร. ซึ่งถือเป็นมหามงคลอย่างยิ่งต่อ สทป. เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการพึ่งพาตนเองสามารถสนับสนุนกระทรวงกลาโหม ในการดำเนินกิจการด้านการวิจัยพัฒนา และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศเพื่อความมั่นคง รวมถึงต่อยอดผลการวิจัยและพัฒนาไปจนถึงขั้นการผลิต และจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ตามพระราชบัญญัติเทคโนโลยีป้องกันประเทศ พ.ศ. 2562 ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของ สทป. มาตรา 22 (1) (2) ว่าด้วยการศึกษาค้นคว้า วิจัย และพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีป้องกันประเทศและดำเนินการอื่นที่เกี่ยวข้องหรือต่อเนื่อง เพื่อนำไปสู่อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ส่งเสริมและสนับสนุนกิจการอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของกระทรวงกลาโหม หน่วยงานอื่นของรัฐ และภาคเอกชน และมาตรา 23 (6) ทำความตกลงและร่วมมือกับองค์การหรือหน่วยงานอื่นทั้งภาครัฐและเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศในกิจการที่เกี่ยวกับการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของสถาบันที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ. เทคโนโลยีป้องกันประเทศ พ.ศ. 2562 นอกจากนั้นการดำเนินโครงการฯ ยังก่อให้เกิดความคุ้มค่าด้านต่าง ๆ ดังนี้
1. ความคุ้มค่าด้านเศรษฐกิจ
– ลดการนำเข้า และ/หรือการใช้เทคโนโลยีจากต่างประเทศที่มีต้นทุนสูง
– เพิ่มมูลค่าของผลงานวิจัยและพัฒนาทางด้านความมั่นคงในอนาคต
2. ความคุ้มค่าด้านความมั่นคง
– ตอบสนองยุทธศาสตร์ของ กห. และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมกิจการอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ
– สามารถตอบสนองต่อความต้องการของหน่วยผู้ใช้งานได้อย่างเป็นรูปธรรม
3. ความคุ้มค่าด้านการเมือง
– ก่อให้เกิดพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ รวมถึงการบูรณาการ/พัฒนาเครือข่ายความร่วมมือตามแผนยุทธศาสตร์ของ สทป.
– ตอบสนองตามนโยบายของรัฐบาลในการผลักดันให้เกิดการพึ่งตนเองในด้านการวิจัยและพัฒนา

4. ความคุ้มค่าด้านเทคโนโลยี
– มีความคุ้มค่าในการใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ในโครงการร่วมวิจัยของหน่วยงานรัฐ
– เปิดโอกาสให้บุคลากรของหน่วยงานรัฐในการร่วมวิจัยและพัฒนา

ทั้งนี้เมื่อสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศสามารถสร้างต้นแบบเรืออเนกประสงค์เพื่อความมั่นคงทางทะเลสำเร็จเป็นรูปธรรม และส่งมอบให้หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ เพื่อใช้งานสำเร็จเรียบร้อยแล้ว สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศมีแผนที่จะนำองค์ความรู้ในการสร้างต้นแบบเรืออเนกประสงค์เพื่อความมั่นคงทางทะเล ดังกล่าว ต่อยอดองค์ความรู้สู่การผลิตในเชิงอุตสาหกรรมที่มีเทคโนโลยีสูงขึ้นต่อไปในอนาคต:Cr;มณสิการ รามจันทร์

มว.ยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยสู่มาตรฐานสากล

0

http://www.natethip.com/news.php?id=3315
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

ส่งมอบข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ สู่ครัวโลก

0

http://www.natethip.com/news.php?id=3314
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

“น้องเมษา” โชว์ฟอร์มสราคา ไล่ถลุง ณัฐภัทรา จอดป้ายยกแรก

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // “น้องเมษา” นิลาวัลย์ เตชะสืบ นักชกสาวทีมชาติไทย เหรียญทองแดงเอเชี่ยนเกมส์2018 กับ เหรียญทองซีเกมส์ 2019 ชกให้สโมสรราชนาวี ไล่ตะบัน ณัฐภัทรา ปกรณ์ไชยโรจน์ สโมสรโรงเรียนกีฬาอุบลราชธานีชนะอาร์เอสซี ยกแรก รุ่น 57 กก.ผ่านเข้ารอบสบาย ๆ ด้าน สมัคร แซ่หาญ กำปั้นทีมชาติ รุ่น 49 กก.สังกัดกองทัพบก ชกรอบ 16 คนฟอร์มยังแรงเป็นชนะอาร์เอสซียกแร การแข่งขัน มวยสากลชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2563 ณ เวทีมวย โรงยิมฝึกซ้อม 2 ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา ผลคู่ที่น่าสนใจ ดังนี้
รุ่น 57 กก.หญิง “น้องเมษา”นิลาวัลย์ เตชะสืบ นักชกทีมชาติไทยเหรียญเงินเอเชี่ยนเกมส์ 2018 กับเหรียญทองซีเกมส์ 2019 ชกให้ สโมสร ราชนาวี พบ ณัฐภัทรา ปกรณ์ ไชยโรจน์กุล โรงเรียนกีฬาอุบลราชธานี เป็นฉากมาเป็น นิลาวัลย์ ที่สูงยาวกว่าเป็นฝ่ายเดินหน้าออกหมัดใส่ ณํฐภัทรา ไปได้อย่างจะแจ้งก่อนจะยิงหมัดชุดเข้าที่หน้าจัง ๆ จนกรรมการนับแล้วชูมือให้นิลาวัลย์เอาชนะอาร์เอสซีไปในยกแรกหลังชกไปแค่นาทีกว่า ๆ

รุ่น 49 กก. รอบ 2 (16คน) สมัคร แซ่หาญ นักชกทีมชาติ สโมสรกองทัพบก พบกับ จตุรงค์ มุทาพร สโมสรไทรน้อย เริ่มยกแรกเป็นสมัครที่เดินหน้ายิงหมัดตัดลำตัวสลับใบหน้าก่อนที่จะยิงหมัดเข้าที่หน้าของจตุรงค์ จัง ๆ จนกรรมการนับ 8 เป็นหนแรก จากนั้นสมัครก็ไล่ชกจนได้นับที่ 2 กรรมการยุติการชกแล้วชูมือให้สมัครเป็นฝ่ายเอาชนะ อาร์เอสซีไปในยกแรกอ เข้ารอบชิงเหรียญทองแดงในรอบต่อไป
คู่อื่น ๆ รอบแรก รุ่น 48 กก. กนกวรรณ ไชยแก้ว(โรงเรียนกีฬาจ.ศรีสะเกษ) ชนะคะแนน เมวิกา เพิ่มสุวรรณ(โรงเรียนกีฬาจ.อ่างทอง),จันทกานต์ มโนบาล(พิทักษ์สันติราษฏร์)แพ้คะแนน ปานประดับ ปลอดสัย(ราชนาวี),ลลิตา แงวกุดเสือ(สมาคมกีฬาจ.สมุทรปราการ) แพ้อาร์เอสซียก 1 ธนวรรณ ทองดวง( กองทัพอากาศ),อัญมณี มีตัวตน(มหาลัยกีฬาแห่งชาติจ.สุโขทัย) แพ้คะแนน สรรพศิริ แช่มละออ(สโมสรกีฬาจ.ชุมพร) ,ฐิติมา ศรีบุญเรือง(ภานุรังสี) สมฤทัย สิริปทุม(ผู้ครองฟ้า),ศุภ ฟ้าธรณีแสง(ลูกประดู่) ยุภาพร ยั่งยืน(โรงเรียนกีฬาจ.อุบลราชธานี),ณัชชา ศิลปะกิจ(กองทัพบก) แพ้คะแนน ศิริวรรณ พึ่งปัญญา(ตำรวจ),นพรัตน์ บุญปลื้ม(โรงเรียนกีฬาอบจ.พิษณุโลก) แพ้คะแนน รัชนีกร สีกระโดน(สำนักงานตำรวจแห่งชาติ)

รุ่น 57 กก.หญิง รอบแรก วิมลศิริ แสงพรม (สโมสรกีฬาจ.ชุมพร) แพ้อาร์เอสซียก 1 เนรัญชญา เชื้อคำจันทร์(ภานุรังสี),จุฑามาศ ทองแท่ง(มวยสากลจ.ศรีสะเกษ)แพ้อาร์เอสซียก 1 ธารทิพย์ วรรณพรม (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ),รุ่งฉัตร ขาวพันธุ์ (มหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติสุพรรณบุรี) แพ้อาร์เอสซียก 1 นพเกตุ ศรีสวัสดิ์(โรงเรียนกีฬาอบจ.พิษณุโลก),ปรีดากมล ถิ่นทับไทย(ตำรวจ) ชนะคะแนน สุธิตา กลิ่นลูกอิน (ลูกประดู่),ศิริโสภา ศิริศักดิ์(ผู้ครองฟ้า)ชนะคะแนน สุภาพร ทวีถิ่น(มหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติสุโขทัย),อุมาวดี คงสันเทียะ(กองทัพบก)แพ้คะแนน อภิษฏา ทันท่าหว้า(กองทัพอากาศ),ประภาพร โฉมดง(โรงเรียนกีฬาอ่างทอง) ภูวราภัทร ม้าชัย(พิทักษ์สันติราษฏร์)
รุ่น 49 กก. รอบ 2 กลวัชร บุญละ(กองทัพภาค3)ชนะอาร์เอสซียก 1 เถกิงเดช แก้วประเสิรฐ(ราชทัณฑ์), กันตศักดิ์ สมกันผม(หนองน้ำใส)แพ้อาร์เอสซียกแรก สืบพงษ์ พรมเดื่อ(สำนักงานตำรวจแห่งชาติ),ณัฐวุฒิ บัวใหญ่ (โรงเรียนกีฬาจ.อ่างทอง) ชนะคะแนน วิเจ็ส โอ๊ต(โรงเรียนกีฬาจ.สุพรรณบุรี),ฤทธิอมร แสงสว่าง(โรงเรียนกีฬาอบจ.พิษณุโลก) ชนะคะแนน รติพงษ์ คำท้าว(ลูกประดู่),ธนรัช แสงเพชร (ตำรวจ) ชนะผ่าน เสกสรร คุ้มดี(สโมสรกีฬาจ.อ่างทอง),ณัฐพงษ์ ท้วมเจริญ(ราชนาวี) ชนะอาร์เอสซียก 3 ภานุวัฒน์ จันทระ(สโมสรกีฬาจ.ชุมพร),พงศกร ไพโรจน์วิรุฬห์(มาบตาพุด) ชนะอาร์เอสซียก 1 วัชรินทร์ บัวเจริญ(มวยสากลจ.ศรีสะเกษ)

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

สหพันธ์แบดมินตันโลก เลือกไทย จัดศึกขนไก่คนพิการโลก ปี 2023

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก เผย ที่ประชุมสหพันธ์แบดมินตันโลก มีมติเลือก ประเทศไทย ให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันแบดมินตันคนพิการชิงแชมป์โลก ปี 2023 โดย เอา ชนะแคนาดา ไปได้ ส่วน ญี่ปุ่น ได้รับเลือก ให้จัดในปี 2021 หลังเอาชนะ เปรู คู่แข่งสำคัญ
คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า นับเป็นข่าวดีของวงการกีฬาไทย อีกครั้ง เมื่อที่ประชุม สหพันธ์แบดมินตันโลก มีมติเลือก ประเทศไทย ให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันแบดมินตันคนพิการชิงแชมป์โลก ปี 2023 โดย เอา ชนะแคนาดา ไปได้ ส่วน ญี่ปุ่น ได้รับเลือก ให้จัดในปี 2021 หลังเอาชนะ เปรู คู่แข่งสำคัญ

“ การนำเสนอความพร้อมการเป็นเจ้าภาพ ต่อสหพันธ์แบดมินตันโลก ในรอบสุดท้าย ปัทมา และสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย รวมถึง สมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย ทำงานร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง และนำเสนอความพร้อมในด้านต่าง ๆ ให้สหพันธ์แบดมินตันโลก ได้รับทราบว่าเรามีวิธีการเตรียมการอย่างไรบ้าง จนชนะใจสหพันธ์แบดมินตันโลกในที่สุด” คุณหญิงปัทมา กล่าว
รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก กล่าวต่อว่า ปัทมา หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การจัดการแข่งขันครั้งนี้ ไทยจะได้รับประโยชน์ เช่นเดียวกับนักกีฬาแบดมินตันคนพิการทีมชาติ ก็จะได้รับประโยชน์ เนื่องจากรายการนี้ เป็นการเก็บคะแนนสะสมอันดับโลก ที่ใหญ่ที่สุด เพื่อการควอลิฟาย ไปพาราลิมปิก ปารีส 2024 ที่กรุงปารีส ฝรั่งเศส

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์