วันอังคาร, ธันวาคม 31, 2024

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรก บล็อก หน้า 2058

“พลกฤต”คว้าแชมป์โบว์ลิ่งสิงห์ วาง “ฌาน อารีย์กุล” ลุยศึกยช.3รายการใหญ่

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// การแข่งขันรายการ สิงห์ ไทยแลนด์ ซีรีส์ 2020 ประเภทโอเพ่น บวกแต้มต่อ ชาย และหญิง เมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่ บลูโอ ริธึ่ม แอนด์ โบว์ล เมเจอร์รัชโยธิน สมาคมฯจัดขึ้นเพื่อเปิดให้นักกีฬาได้มีกิจกรรมการแข่งขัน เป็นการแข่งขันระบบแต้มจริง โดยไม่กำหนดแต้มเฉลี่ย และใช้ระบบแต้มต่อเป็นหลัก โดยประเภทเดี่ยวคะแนนจริง แข่งขันทั้งหมด 6 เกมส์ จำนวน 1 รอบ นักกีฬาทั้งหมด 56 คน เพื่อคัดนักกีฬาทั้งหมด 20 คน ประกอบด้วย ชาย 14 คน และหญิง 6 คน เพื่อไปโยนอีกคนละ 3 เกมเพื่อหาแชมป์
สำหรับรอบแรก หลังจากจบ 6 เกม 20 คนที่เข้ารอบสอง มีดังนี้ กิ่งกมล สารทอง, วัชรพงษ์ อึ้งตระกูลศ์, พลกฤต ธนะสังข์, อัจฉริยะ เช็ง, วาสนา สกุลรัตน์, ณัฐวัฒน์ รสิเสฎฐ์กุล, นภัสภรณ์ ฉัตรไชยศิริ, ชนาธิป เปรมปรีด์, ชนสรณ์ วุฒิ, นิสานาถ ทาสีทอง, รัฐณพัฒน์ ฉัตรไชยศิริ, อรรณพ อารมณ์สราญนนท์, วงศกร พรมสูงยาง, ปิ่นมนัส คำชัยภูมิ, ลภัสดนัย ชูแสง, ณภัทร บุษปนิกรกุล, เทวกร อ่างเงิน,นริศ สมสุข, ญาณพล ลาภอาภารัตน์?, ศริยา ช่องวารินทร์

รอบชิงชนะเลิศนักกีฬาทั้ง 20 คนแข่งขันทั้งหมด 3 เกม เพื่อหาแชมป์ ปรากฎว่า ทีมชาติรุ่นเก๋า พลกฤต ธนะสังข์ ซึ่งเดินทางไปแข่งขันเวิล์ด โบว์ลิ่ง ซีเนียร์ ที่ลาสเวกัส อเมริกา เมื่อปี 2562 โยนได้ 678 คะแนน คว้าแชมป์ไปครองพร้อมเงินรางวัล 20,000 บาท อันดับ 2 ณัฐวัฒน์ รสิเสฎฐ์กุล 649 คะแนน รับเงินรางวัล 10,000 บาท, อันดับ 3 อัจฉริยะ เช็ง 638 คะแนน รับเงินรางวัล 6,000 บาท, อันดับ 4 นิสานาท ทาสีทอง 630 คะแนน รับเงินรางวัล 5,000 บาท และอันดับ 5 ณภัทร บุษปนิกรกุล 625 คะแนน รับเงินรางวัล 4,000 บาท
สำหรับการแข่งขันครั้งต่อไป ของ สิงห์ ไทยแลนด์ ซีรีส์ 2020 ประเภทอาวุโส และเยาวชนอายุไม่เกิน 21 ปี แข่งขันในวันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคมนี้ ที่ ทีพีดี บางบอน เริ่มเวลา 13.00 น.
ด้านนางสุวลัย ศัตรูลี้ เลขาธิการสมาคมกีฬาโบว์ลิ่งแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า รายการนี้สมาคมฯ จัดขึ้นมาเพื่อชดเชยการแข่งขันที่หายไปโดยเฉพาะการแข่งขันระบบนานาชาติ ซึ่งนักกีฬาไม่สามารถไปแข่งขันรายการนานาชาติได้ เลยนำแมตช์เข้ามาเพื่อเป็นการกระตุ้นนักกีฬาให้อยากจะฝึกซ้อม และสร้างประสบการณ์การแข่งขัน หลังจาก

รายการนี้จะมีสิงห์ไทยแลนด์ทัวร์ ที่จะตามมา ก็จะเป็นทัวร์ที่จัดมาทดแทนเวิล์ดโบว์ลิ่งทัวร์ของปีนี้ เรื่องการเก็บตัวนักกีฬานั้นทางสมาคมฯ มีการเก็บตัวมาโดยตลอดตั้งแต่เดือนมกราคม แม้ว่าจะมีสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ก็มีการสอนกันทางออนไลน์ ยังเก็บตัวครบทีม รูปแบบการแข่งขันครั้งนี้จะเป็นการแข่งขันที่นักกีฬาไม่เคยเจอมาก่อน ครั้งนี้ใช้จับสลากแพทเทรินน้ำมันโดยที่นักกีฬาไม่ทราบล่วงหน้า และรอบสุดท้ายจะมีการจับสลากแพทเทรินน้ำมันอีกครั้ง สำหรับระบบนิวนอร์มอลของโบว์ลิ่งต้องบอกว่ากีฬาโบว์ลิ่งเป็นกีฬาที่ควบคุมง่ายที่สุดเข้ามาเรามีการตรวจอุณภูมิ และมีการแจกหน้ากากให้นักกีฬา นักกีฬาที่แข่งขันจะรักษาระยะห่าง ไม่มีการเปลี่ยนเลน ระหว่างการแข่งขันก็จะมีกระจกกั้น สำหรับผู้ชมก็ให้ความรร่วมมือมากทำตามระเบียบอย่างเคร่งครัด
เลขาธิการสมาคมกีฬาโบว์ลิ่งแห่งประเทศ กล่าวถึง ฌาน อารีย์กุล ดาวรุ่งที่กำลังมาแรงในรุ่นเยาวชน ได้รับสิทธิ์เป็นตัวยืนในรายการเวิล์ด ยูธแชมป์เปี้ยนชิพส์,เวิล์ดจูเนียร์ และเอเชียน จูเชียร์ในปี 2564 ว่า ปีนี้ถือเป็นโอกาสทองของ ฌาน ได้รับสิทธิ์เป็นตัวยืนระดับนานาชาติถึง 3 รายการใหญ่ ที่จริง ฌาน แววออกมากเมื่อ 2-3 ปีแล้วแต่ตอนนั้น ฌาน ยังเด็กและตอนนี้ฌาน ก็น่าจะเป็นอนาคตที่ดีของกีฬาโบว์ลิ่ง ซึ่งเชื่อว่า ฌาน จะไปได้ไกลกับกีฬานี้

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

ห้องเรียนธรรมชาติ ที่ “หมู่บ้านเขาเต่า”

0

http://www.natethip.com/news.php?id=2860
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

สำนักข่าวเนตรทิพย์-ท้องกินข้าว สมองกินข่าว!

0

https://timeline.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1159822810910057993
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

หัวหน้าผู้ตรวจฯ พม. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วยงานในสังกัดเมืองสองแคว

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//ในวันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม 2563 นางจินตนา จันทร์บำรุง หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พร้อมด้วย หัวหน้าหน่วยงาน พม. ในจังหวัดพิษณุโลก (One Home) ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วยงานของ พม. ได้แก่ นิคมสร้างตนเองบางระกำ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์บ้านสองแคว และนิคมสร้างตนเองทุ่งสาน โดยมี หัวหน้าหน่วยงาน พม. ประกอบด้วย นางปัทมา อินทร์ชู พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก (พมจ.) พร้อมด้วย นางสาวโสพิญฐ์ สุวรรณหงส์ ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองบางระกำ นางอัญชรินทร์ กลิ่นศิริ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพิษณุโลก นายโสภณ แก้วล้อมทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวจังหวัดพิษณุโลก นางสาวจามีกร ปิ่นสุข ผู้อำนวยการสถานคุมครองสวัสดิภาพฯ บ้านสองแคว และ นางสายสมร อ่อนแก้ว ผู้ปกครองนิคมทุ่งสาน ตลอดจนข้าราชการและเจ้าหน้าที่ ให้การต้อนรับและเข้าร่วมรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะในการตรวจราชการดังกล่าว ในการนี้ หัวหน้าผู้ตรวจราชการ พม. ได้เยี่ยมชมโครงการท่องเที่ยววิถีชุมชนของนิคมฯ บางระกำ “จุด Check-in ทุ่งปอเทือง” ซึ่งกำลังออกดอกชูช่อเหลืองอร่ามเชิญชวนให้ประชาชนมาท่องเที่ยวถ่ายภาพเก็บไว้ในความทรงจำ ทั้งนี้ ได้ใช้พื้นที่จุด Check-in ดังกล่าว ในการประชุมเสวนาแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นการดำเนินงานของนิคมฯ ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติในที่โล่งแจ้ง Outdoor ตลอดจนเยี่ยมชม “กิจกรรมการทำกรอบรูป” ของสมาชิกบ้านน้อยในนิคมฯ บางระกำ ตามโครงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพคนไร้ที่พึ่งและคนขอทาน อีกด้วย:Cr;มณสิการ รามจันทร์

ปทุมธานีเชือดชลบุรี 2-0 เฮ2นัดติด ตะกร้อไทยแลนด์ลีก

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// การแข่งขันตะกร้อไทยแลนด์ ลีก ฤดูกาล 2563 เมื่อวันเสาร์ที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา เกมนัดที่ 2 ที่สนามเจเว นิว นวนคร “อินทรีเจ้าเวหา” ปทุมธานี พบกับ “สิงห์บูรพา” ชลบุรี เกมนัดแรก ชลบุรี เสมอไทเลย 1-1 ทีม ส่วน ปทุมธานี บุกไปชนะ อำนาจเจริญ 2-0 ทีม
ทีม ก เจ้าบ้าน ประกอบด้วย ธนวัฒน์ ชุ่มเสนา ทำหน้าที่เสิร์ฟ และคู่หน้า ภูตะวัน โสภา ตัวทำ ส่วนชง เป็น อภิรักษ์ โสภา ฝั่งชลบุรี เสิร์ฟเป็น รณกฤต ผลฉัตร์ ,ตัวทำ สุริยน กุลพิมล, ภานุพงศ์ เพชรลือ เป็นตัวชง

เซตแรก ต้นเซตเกมสุดสูสีจนสกอร์ไปเสมอกันที่ 15-15 ก่อนเจ้าถิ่นมาได้ 3 แต้มรวดจากลูกเสิร์ฟของ ธนวัฒน์ ชุ่มเสนา และจากนั้นเบรกเกมรุกชลบุรี เก็บอีกสามแต้มเอาชนะไป 21-15 คะแนน ออกนำ 1-0 เซต
เซตสอง ปทุมธานี ยังเดินเกมได้เหนือกว่าทำแต้มนำตลอด และปทุมธานี ชนะ 21-16 คะแนน จบเกมทีม ก เจ้าบ้าน ชนะ 2-0 เซต
ทีม ข ปทุมธานี เสิร์ฟเป็น ณิชกุล สีหะไกร และทำ “เอฟ 16”กิตติพงษ์ ใจบุญ โดยมี ปรเมศ์ ศิริสวัสดิ์ เป็นตัวชง ขณะที่ทีมเยือน สุภกิจ แก้วทุ่ง มำหน้าที่เสิร์ฟ ส่วน คู่หน้า พายุ สังน้อย ตัวทำ และชง ทินกร แก้วทุ่ง ทำหน้าที่ชง
เริ่มเกมการแข่งขันในเซตแรก เจ้าบ้านทำแต้มนำห่างถึง 12-6 คะแนน ชลบุรี มีได้ลุ้นเหมือนกันในช่วงปลายเซตฮึดขึ้นมากดดันแต่เนื่องจากโดนนำไปเยอะจึงไล่ไม่ทัน จบเซตแรกปทุมฯ ชนะ 21-17 คะแนน และเซตต่อมา เจ้าบ้านชนะ 21-16 คะแนน จบเกมทีม ข ปทุมธานี ชนะ 2-0 เซต

เมื่อจบเกมปทุมธานี เอาชนะ ชลบุรี ไปได้ 2-0 ทีม เก็บชัยชนะได้เป็นนัดที่สองติดต่อกัน มี 4 คะแนนเท่ากับ “สิงห์ไก่ชน”พิษณุโลก ที่แข่งขันเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 22 ส. ค. ที่โรงฝึกกีฬาเอนกประสงค์ มหาวิทยาลัยการกีฬแห่งชาติชัยภูมิ “กระเรียนพิฆาต” ชัยภูมิ น้องใหม่ พบ “สิงห์ไก่ชน” พิษณุโลก จ่าฝูง ที่นัดแรกบุกไปชนะ แพร่ มา 2 ทีมรวด ขณะที่ ชัยภูมิ ลงสนามเป็นเกมแรก
โดยผลการแข่งขันปรากฏว่า “สิงห์ไก่ชน” ยังระเบิดฟอร์มได้อย่างร้อนแรงบุกไปชนะ ชัยภูมิ ได้ถึงถิ่น 2-0 ทีมทีม ก สิงห์ไก่ชน คว้าชัยชนะ 2-0 เซต 21-17 , 21-8 และ ทีม ข พิษณุโลก เอาชนะ 2-0 เซต 21-10, 21-13 ทำให้ พิษณุโลก เก็บชัยชนะได้เป็นนัดที่ 2 ติดต่อกัน มี 4 คะแนน
ส่วนคู่ระหว่าง “เป็ดสายฟ้า” ศรีสะเกษ เปิดบ้านพบกับ “พญาไก่ฟ้า” แพร่ เป็นเกมนัดที่สองของทั้งคู่ โดยนัดแรกเจ้าบ้านออกไปแพ้ให้กับ นครปฐม 0-2 ทีม ส่วน แพร่ เล่นในบ้านตัวเองปราชัยให้กับ พิษณุโลก

โดยทีม ก ศรีสะเกษ ประกอบด้วย กฤษฎา สังข์วัง ลงเสิร์ฟ และคู่หน้า มงคล ปัทวงศ์ (ชง) กับ จักรกฤษณ์ สิงขรอาจ (ทำ) ฝั่งแพร่ ตัวเสิร์ฟเป็น กฤตนัย สมุดรีรัม และคู่หน้า ธีรศักดิ์ โท่นขัด(ชง) กับ สุขวัตร ศรัทธารัตน์ (ทำ) ผลการแข่งขัน ทีม ก ศรีสะเกษ เอาชนะ 2-0 เซต 21-14, 21-19 เก็บแต้มแรกไปก่อน
ส่วนทีม ข เป็ดสายฟ้า ส่ง ภาณุพงษ์ วงษาทุม ลงเสิร์ฟ พร้อมคู่หน้า พุฒินาท คำเภา(ชง) กับ สุทธิเกียรติ พันแสนแก้ว(ทำ) ด้านทีมเยือน สมรัชต์ วิสุทธิ์ (เสิร์ฟ), สุพศิน บุญเรือน(ชง), ธีรวัฒน์ ประกอบ(ทำ) ซึ่งทีม ข เจ้าถิ่นเกือบพลาดเฉือนชนะหวุดหวิด 2-1 เซต 21-17, 10-21, 21-18
จบเกม “เป็ดสายฟ้า” ศรีสะเกษ เอาชนะ “พญาไก่ฟ้า” แพร่ ไปได้ 2-0 ทีม เก็บ 2 แต้มแรกสำเร็จ ขณะที่ทีมเยือนปราชัยเป็นนัดที่สองติดต่อกัน

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“ฉลามพลังเพลิง” ถล่ม สุราษฎร์ธานี 6-1 โต๊ะเล็กไทยลีก 2020

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// “ฉลามพลังเพลิง” ดุได้ มูฮัมหมัด ซัดเบิ้ลนำทีมคว้าชัยนัดที่ 5 ถล่ม สุราษฏร์ธานี 6-1 นำจ่าฝูงต่อไป ด้านการท่าเรือ รอดตายได้ มาร์กอส ซัดนาทีท้ายช่วยให้ทีมเจ๊า ราชนาวี 3-3
การแข่งขันฟุตซอลไทยลีก 2020 เกมเมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่สนามบางกอก อารีนา เป็นเกมนัดที่ 5 แชมป์เก่า การท่าเรือ เอเอสเอ็ม ที่ลงเตะไป 4 นัดมี 9 แต้ม พบกับ ราชนาวี ที่ชนะมารวดมี 12 แต้ม
เกมนี้ “สิงห์คลองเตย” ได้ไรอัน โกเมส ดาวยิงชาวบราซิลลงสนามเป็นนัดแรก แต่น.17 ราชนาวี ได้ฟรีคิกใกล้เส้นฝั่งซ้าย อิทธิชา ประภาพันธ์ ซัดเต็มข้อบอลแฉลบขา วรกานต์ นุชลออ แล้วเสียบโคนเสาให้ทีมนำ 1-0 น.18 การท่าเรือ ตีเสมอทันควัน เลิศชาย อิสราสุวิภากรณ์ กึ่งยิงกึ่งผ่านจากด้านขวา อิทธิชา ประภาพันธ์ แหย่เท้าจะสกัดแต่ผิดเหลี่ยมบอลเปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเองเป็น ครึ่งแรกเสมอกัน 1-1
ครึ่งหลัง นาทีแรก ไรอัน โกเมส หลุดทางขวายิงมุมแคบยังติดเซฟ พู่กานต์ โด่งดัง จากนั้น น.24 มาร์กอส ตัดบอลที่หน้าประตูราชนาวีได้ ก่อนใจกว้างเปิดให้ ไรอัน โกเมส ซัดโล่งๆ การท่าเรือพลิกนำ 2-1 น.37 วิภูษณะ เปี่ยมสวัสดิ์ ได้บอลทางซ้ายอัดเต็มข้อเข้าประตูให้ราชนาวีตีเสมอ 2-2 นาทีต่อมา มาร์กอส ทำให้เสียจุดโทษจุดที่สองพรพจน์ พรหมตระกูล ซัดได้อย่างเฉียบขาดเข้าสามเหลี่ยมบน “ตะหานน้ำ” นำ 3-2 การท่าเรือ เร่งเกมด้วยการใช้ เพาเวอร์เพลย์ และ น.39 มาร์กอส มาแก้ตัวให้ทีม ได้บอลทางซ้ายจิ้มยิงเสาแรกบอลรอดขา พู่กานต์ โด่งดัง เข้าไปสกอร์ 3-3 ก่อนจบเกมเสมอแบ่งแต้มกันไป

พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี 6 – สุราษฏร์ธานี 1
“ฉลามพลังเพลิง” พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ที่ทำผลงานสุดยอดชนะมา 4 นัดรวดมี 12 แต้มเต็ม ลงเจอกับ “กุ้งสายฟ้า” สุราษฏร์ธานี ที่มีอยู่ 3 คะแนน
ลงสนามมายังไม่ถึงนาที มูฮัมหมัด อุสมานมูซา ได้บอลนอกกรอบกดเต็มแรง ปรเมธ ลิมนภาพวัลย์ พยายามปัดแต่เอาไม่อยู่ลูกปริ้นเข้าประตูไป พีทีที บลูเวฟ นำเร็ว 1-0 น.3 เอกพงษ์ สุรัตน์สว่าง กดจากนอกกรอบบอลเบียดเสาโคนเสาเข้าไปให้สุราษฏร์ธานีตีเสมอ 1-1 แต่ น.14 บลูเวฟ เจาะทางซ้าย ปาณัสม์ กิตติภานุวงศ์ เปิดเข้ากลาง จิรวัฒน์ สอนวิเชียร สอดขึ้นมาล้มตัวยิงเป็น 2-1 ให้ทีมนำในครึ่งแรก
ครึ่งหลังทัพฉลามยังดุ น.28 กฤษณ์ อรัญสัญลักษณ์ พลิกยิงนอกเขตเป็น 3-1 น.35 มูฮัมหมัด มากดประตูที่สองให้ตัวเองและทีมนำห่าง 4-1 น.36 กฤษดา วงษ์แก้ว ยิงโล่งๆเป็น 5-1 และ น.38 ปาณัสม์ กิตติภานุวงศ์ ก็มาบวกสกอร์สุดท้ายให้ พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ชนะไปขาดลอย 6-1 เก็บ 15 แต้มเต็มนำจ่าฝูงต่อไป
“ฉลามพลังเพลิง” ยังดุได้ มูฮัมหมัด ซัดเบิ้ลนำทีมคว้าชัยนัดที่ 5 ถล่ม สุราษฏร์ธานี 6-1 นำจ่าฝูงต่อไป ด้านการท่าเรือ รอดตายได้ มาร์กอส ซัดนาทีท้ายช่วยให้ทีมเจ๊า ราชนาวี 3-3 ส่วนแบงค็อก อัด มอภาคฯ 8-4 ส่วนคู่อื่นๆ การท่าเรือ เอเอสเอ็ม เสมอกับ ราชนาวี 3-3 ครึ่งแรก 3-2 พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ชนะ สุราษฏร์ธานี 6- 1 ครึ่งแรก 2-1 เก็บ 15 แต้มเต็มนำจ่าฝูงต่อไป อีกคู่ แบงค็อก บีทีเอส คืนฟอร์ม ชนะ มอภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8-4 ทำให้มีเพิ่มเป็น 7 คะแนน

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“พรเทพ” คว้าถ้วยพระราชทาน “มิสเตอร์ ไทยแลนด์” นาร์แล็บส์ ชนะเลิศถ้วยคะแนนรวม

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// พรเทพ สุขเกษม จากนาร์แล็บส์ แชมป์เพาะกายชายรุ่นน้ำหนักไม่เกิน 85 กก.คว้าแชมป์ออฟแชมป์ “มิสเตอร์ ไทยแลนด์” ครองถ้วยรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ด้าน นาร์แล็บส์กวาดแชมป์ 10 รุ่น ชนะเลิศถ้วยคะแนนรวม
การแข่งขันกีฬาเพาะกายชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ถ้วยรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี “มิสเตอร์ ไทยแลนด์” ครั้งที่ 40 ที่ห้องไอส์แลนด์ฮอลล์ ศูนย์การค้าแฟชั่น ไอสมแลนด์ รามอินทรา เอวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา วันสุดท้าย โดยมี นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เป็นประธานปิดการแข่งขันและมอบรางวัลแก่นักกีฬา

เพาะกายชายรุ่นน้ำหนักไม่เกิน 65 กก.ที่ 1 ไอดี มีซายะลง (สมาคมกีฬาจ.ปัตตานี) ที่ 2 จรัสพรรณ บุญมี (บ้านนักกล้าม จ.พะเยา) ที่ 3 ณัฐพงษ์ เอกา (อุลตร้า โปร) ที่ 4 พรามณ์ชนก เตชะทวีกิจกุล (สามย่านยิม)
เพาะกายชายรุ่นน้ำหนักไม่เกิน 75 กก.ที่ 1 กิตติพงษ์ จันสุวรรณ (นาร์แล็บส์) ที่ 2 ชัยวัฒน์ เครือคำมูล (นาร์แล็บส์) ที่ 3 ธวิทย์ พวงเพชร (นาร์แล็บส์) ที่ 4 วีรพงษ์ สมุทรพิพัฒน์ (ชมรมเพาะกายสมาคมกีฬาจ.เชียงใหม่)
เพาะกายชายรุ่นน้ำหนักไม่เกิน 85 กก.ที่ 1 พรเทพ สุขเกษม (นาร์แล็บส์) ที่ 2 ฉัตรชัย เกษามูล (ชมรมเพาะกายสมาคมกีฬาจ.เชียงใหม่) ที่ 3 ไพรัช พะเนาว์ศรี (นาร์แล็บส์) ที่ 4 สุรัติ อินทรีย์ (วี.เอ็ม.ยิม) ที่ 5 กรษณ วังศาบุตร (ชมรมเพาะกายฟิตเนส จ.ภูเก็ต)

เพาะกายชายรุ่นน้ำหนักเกิน 85 กก.ที่ 1 ชัยวัฒน์ เอี่ยมรัศมีกุล (สุรินทร์ มัสเซิล ยิม) ที่ 2 รัตนพล หน่อทอง (บริษัท ปานะโปยยิม จำกัด) ที่ 3 พงศ์เทพ รักสนิท (ยักษ์คลับ ฟิตเนส แอนด์ ยิม) ที่ 4 พลช เพ็ชรนาวี (ชมรมเพาะกาย จ.นนทบุรี) ที่ 5 สุรดง เสาร์คำ (อุลตร้า โปร)
เพาะกายชาย สเปเชียล รุ่นทั่วไป ที่ 1 ฐิติวัฒน์ เลี่ยมสืบเชื้อ (นาร์แล็บส์) ที่ 2 วิชัย บุญญาขุ (กายวี่ เฮลท์ตี้ ฟู้ด) ที่ 3 อุกฤต ยินดีน้อย (สตรอง ฮาร์ท ยิม)
เพาะกายชาย แชมป์ออฟแชมป์ ที่ เอาแชมป์ เพาะกายทั้ง 4 รุ่น มาแข่งขัน ผลปรากฏว่า พรเทพ สุขเกษม (นาร์แล็บส์) แชมป์ เพาะกายชายรุ่นน้ำหนักไม่เกิน 85 กก. คว้าแชมป์ออฟแชมป์ ไปครอง ถ้วยรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

สรุป ในวันสุดท้าย 5 รุ่น และแชมป์ออฟแชมป์ รวม 6 รุ่น นาร์แล็บส์ คว้าแชมป์ไป 4 รุ่น โดยมี สุรินทร์ มัสเซิล ยิม, สมาคมกีฬาจ.ปัตตานี ได้แชมป์คนละรุ่น รวม 3 วันทั้งหมด ทั้งหมด 22 รุ่นนาร์แล็บส์ ได้แชมป์ไปแล้ว 10 รุ่น ฟิตสโตน คว้าแชมป์ไป 3 รุ่น โดยมี เอ็มวีพี, เอส.เค.ฟิตเนส, กายวี่ เฮลท์ตี้ ฟู้ดได้แชมป์ 2 รุ่น วัน มอร์ ยิม, สุรินทร์ มัสเซิล ยิม, สมาคมกีฬาจ.ปัตตานี ได้แชมป์ 1 รุ่น
ส่วนสโมสรที่ชนะเลิศ ถ้วยคะแนนรวม ได้แก่ นาร์แล็บส์ 715 คะแนน ที่ 2 ได้แก่ ฟิตสโตน 255 คะแนน ที่ 3 กายวี่ เฮลท์ตี้ ฟู้ด 160 คะแนน ที่ 4 เอ็มวีพี 145 คะแนน ที่ 5 เอส.เค.ฟิตเนส 120 คะแนน

 

 Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

ยัดห่วง ไฮ-เทค อัดบ้านบึงฯ 85:61 คว้าชัยเกมแรกรอบตัดเชือก ศึกชู้ต “ทีบีแอล”

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// ทัพยัดห่วง ไฮ-เทค แข็งปึ้ก อัด บ้านบึง เดวิล เรย์ส ไม่ยาก 85-61 คว้าชัยเกมแรกของรอบเพลย์ออฟ ฝรองชนะเลิศ ศึกไทยแลนด์ บาสเกตบอล ลีก 2020 หรือ “ทีบีแอล”
การแข่งขันบาสเกตบอลรายการ “ไทยแลนด์ บาสเกตบอล ลีก 2020” หรือ “ทีบีแอล” จัดโดยสมาคมกีฬาบาสเกตบอลอาชีพไทย การชิงชัยเข้าสู่รอบเพลย์ออฟรองชนะเลิศ แข่งขันระบบชนะ 2 ใน 3 เกม เป็นการดวลกันระหว่าง ไฮ-เทค พบ บ้านบึง เดวิล เรย์ส และ ไทยเครื่องสนาม พบ เอ็มยูบีซี โดยเมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่สนามบาสเกตบอลศูนย์กีฬาประชานิเวศน์ สปอร์ต เซนเตอร์ เป็นเกมแรกของทั้งสองคู่

ไฮไลต์ในเกมระหว่าง ไฮ-เทค รองแชมป์เก่า เข้าสู่รอบตัดเชือกด้วยผลงานสุดแกร่ง เป็นทีมแชมป์ของรอบแรก หลังจากการแข่งขันจบไป 14 เกม ชนะคู่แข่งได้13 เกม และแพ้แค่เกมเดียว เป็นเต็งหนึ่งของรายการที่จะคว้าถ้วยแชมป์ในปีนี้ ลงสนามดวลกับ บ้านบึง เดวิล เรย์ส ทัพยัดห่วงหน้าใหม่ที่เพิ่งจะเปิดตัวในปีนี้ แต่กลับทำผลงานได้น่าประทับใจแข่งขันไป 14 เกม ชนะ 9 แพ้ 5 ได้ไป 23 คะแนน เข้ามาในรอบนี้ด้วยการเป็นทีมอันดับที่ 4 ของตารางคะแนนรอบแรก จากฝีมือของบรรดาผู้เล่นมากประสบการณ์ชื่อดังมากมายของประเทศไทยที่อุดมอยู่ล้นทีม โดยผลทั้งสองทีมในรอบแรก ไฮ-เทคเก็บชัยรวด 84-70 และ 90-48
ไฮ-เทค บุกเข้าทำได้ก่อนจากเข้าโกยสกอร์ “โอม” ชนาธิป จักรวาฬ ขึ้นนำ 6-0 บ้านบึงฯ ตอกกลับด้วยการใช้ผู้เล่นในตำแหน่งเซนเตอร์เช่นกันนั่นคือ “บิ๊ก” ธีรวัฒน์ จันทะจร ตัวใหญ่และตั๊นหนัก สู้กับ ชนาธิป ของไฮ-เทคได้ดุเดือดและสามารถทำคะแนนไล่ขึ้นมา 6-8 จากนั้น ไฮ-เทค ได้ทีเด็ดจากลูกสามคะแนนของผู้เล่นอย่าง “อ็อฟ” ณัฐพล กุประดิษฐ์ ส่งลงไปหนึ่งลูกและจาก “เฟรดดี้” เฟรเดริค โจนส์ อีกสองลูก รองแชมป์เก่าขยับหนี 16-6 ทว่า บ้านบึงฯ ไม่ยอมง่าย “เป้” ชิดชัย อนันติ และ อนัสวีย์ ใช้ความสามารถเฉพาะตัวข้ามบอลเข้าไปดวลวงในและเอาแต้มมาได้ไล่มาที่ 13-16

ท้ายควอเตอร์ไฮ-เทคเปลี่ยนตัวเอา “บาส” มณเฑียร วงศ์สว่างธรรม และ “หรั่ง” ณกรณ์ ใจสนุก ลงเปลี่ยนเกมที่ดูอึดอัดซึ่งทั้งคู่ก็ทำผลงานได้ดีส่องสามคะแนนกันไปคนละลูกทำให้จบควอเตอร์แรก ไฮ-เทค นำ 24-13
รองแชมป์เก่าไฮ-เทคแก้ไขการรับมือ ธีรวัฒน์ ที่ทำผลงานได้ดีด้วยการส่ง “เดฟ” สุขเดฟ โคเคอร์ ลงมาประกบแทน “อาร์ต” ชัชพล จึงแย้มปิ่น ซึ่ง สุขเดฟ ทำผลงานได้ค่อนข้างดี ทำเอา ธีรวัฒน์ โชว์ผลงานลำบากจนบ้านบึงฯ ต้องเปลี่ยนออกไปพัก อย่างไรก็ดีพวกเขายัง ชิดชัย ที่ฟอร์มสุดจี๊ดจ๊าดในวันนี้ หาจังหวะพาบอลเข้าไปโซโล่เดี่ยวคนเดียวใต้แป้นได้อย่างต่อเนื่อง ทว่าท้ายควอเตอร์ ณัฐพล กุประดิษฐ์ กับ ณัฐกานต์ เมืองบุญ มายิงสามแต้มสุดสวยให้ไฮ-เทค จบควอเตอร์สอง 44-30
เกมรับของบ้านบึงฯ เริ่มหลวมในควอเตอร์สาม ไฮ-เทค ที่มีเกมรุกที่เฉียบคมและหลากหลายเริ่มรัวแต้มได้เรื่อยๆ วงในมี ชนาธิป และ สุขเดฟ ที่เริ่มเอาชนะคู่แข่งได้ไม่ยาดในบริเวณพื้นที่ใต้แป้น ส่วนวงนอกได้ “เตเต้” อรรถพงษ์ ลีลาพิพัฒน์กุล ที่ลงมาเป็นซูเปอร์ซับยังไงยังงั้น ยิงสามแต้มลงไปสองลูกในควอเตอร์นี้ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลได้การปั้นบอลอันแยบยลจาก อาร์ม-ณัฐกานต์ พอยนต์การ์ดอัจฉริยะทีมชาติไทย ฝั่งบ้าานบึงฯ ที่เกมรุกเหลือเพียง เป้-ชิดชัย ที่น่ากลัวอยู่คนเดียวทำให้ในควอเตอร์จึงโดนไฮ-เทคสร้างช่องว่างของคะแนนกระจายไปที่ 70-48

ควอเตอร์สี่บ้านบึงฯ พยายามบุกแหลกแต่โมเมนตั้มของเกมไปอยู่ทางฝั่งไฮ-เทคหมดแล้ว ผู้เล่นของรองแชมป์เก่ามั่นใจและแข็งแกร่ง แม้จะเริ่มผัดเปลี่ยนส่งสำรองลงมาก็ไม่ได้ทำให้ทีมตกไปอยู่ในสภาวะคับขัน และด้วยที่บ้านบึงฯ ยังคงยึดใช้ผู้เล่นแกนหลักอยู่เป็นส่วนใหญ่ตลอดทำให้ความฟิตและลูกฮึดดูเป็นรอง สุดท้ายหมดเวลาการแข่งขัน ไฮ-เทค เก็บชัยชนะไปก่อนในเกมแรกของรอบเพลย์ออฟรองชนะเลิศเหนือ บ้านบึง เดวิล เรย์ส 85-61 ส่วนเกมอีกคู่ระหว่าง ไทยเครื่องสนาม พบ เอ็มยูบีซี จะมีขึ้นในช่วงค่ำของวันเดียวกัน

 

 Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“อธิพงษ์-ยลธนันท์” สุดเจ๋งผงาดแชมป์ปทท.ได้ครองถ้วยพระราชทาน

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// “อธิพงษ์ สุวรรณสิงห์” และ “ยลธนันท์ พลกล้า” สองนักปั่นดาวรุ่งทีมฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ วัดดงน้อย ทำผลงานสุดเจ๋งผงาดแชมป์ประเทศไทย เสือภูเขาครอสคันทรี่ รุ่นเยาวชนชาย-หญิง ได้ครองถ้วยพระราชทาน พร้อมคว้ารางวัลนักกีฬายอดเยี่ยม รับถ้วยเกียรติยศ “ปรีดา จุลละมณฑล” ขณะที่ “วิภาวี ดีคาบาเลส” ไร้เทียมทาน เป็นแชมป์ดาวน์ฮิล 10 สมัยติดต่อกัน
ศึกสองล้อเสือภูเขา ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปี 2563 แบบชีวิตวิถีใหม่ New Normal สนามสุดท้าย ที่ อ.ทองผาภูมิ
การแข่งขันจักรยานประเภทถนน ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์ภูมิพล” และการแข่งขันจักรยานประเภทเสือภูเขา ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปี 2563 แบบชีวิตวิถีใหม่ New Normal สนามที่ 3 และเป็นสนามสุดท้าย ที่ภายในเขื่อนวชิราลงกรณ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 23 สิงหาคมนี้ วันสุดท้าย ประเภทเสือภูเขา ทั้งครอสคันทรี่ และ ดาวน์ฮิล

ผลการแข่งขันครอสคันทรี่ คลาส A รุ่นที่น่าสนใจมีดังนี้ รุ่นเยาวชนอายุ 17-18 ปีหญิง ปั่น 3 รอบ (14.7 กม.) ที่ 1 น.ส.ยลธนันท์ พลกล้า (ฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ วัดดงน้อย) เวลา 1.11.12 ชั่วโมง พร้อมทั้งคว้าแชมป์ประเทศไทย ด้วยคะแนนรวม 56 คะแนน ได้ครองถ้วยพระราชทาน พร้อมรับเงินรางวัล 4,000 บาท, ที่ 2 น.ส.จริญญา สืบจากถิ่น (Samui MTB Bangkok Airways and Tongsai Bay) เวลา 1.14.02 ชั่วโมง, ที่ 3 น.ส.ธีรรัตน์ พิทยานุรักษ์ (จักรยานสิงห์บุรี Trinx Chaoyang) เวลา 1.34.00 ชั่วโมง
รุ่นเยาวชนอายุ 17-18 ปีชาย ปั่น 4 รอบ (19.6 กม.) ที่ 1 นายอธิพงษ์ สุวรรณสิงห์ (ฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ วัดดงน้อย) เวลา 1.59.07 ชั่วโมง พร้อมทั้งคว้าแชมป์ประเทศไทย ด้วยคะแนนรวม 60 คะแนน ได้ครองถ้วยพระราชทาน พร้อมรับเงินรางวัล 4,000 บาท, ที่ 2 นายภูริช รอดวิลัย (Air Force -School of Sharks) เวลา 2.00.34 ชั่วโมง, ที่ 3 นายภาณุพงศ์ ศรีสังข์ (แม่น้ำไบค์สมุย) 2.01.48 ชั่วโมง
รุ่นทั่วไปหญิง ปั่น 3 รอบ (14.7 กม.) ที่ 1 “น้องพลอย” น.ส.วรินทร เพ็ชรประพันธ์ (Walailak University) เวลา 1.41.22 ชั่วโมง พร้อมทั้งคว้าแชมป์ประเทศไทย ด้วยคะแนนรวม 56 คะแนน ได้ครองถ้วยพระราชทาน พร้อมรับเงินรางวัล 6,000 บาท, ที่ 2 น.ส.สุรัตติยา บุบผา (รร.อำนาจเจริญวิทยาคม-สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดอำนาจเจริญ) เวลา 1.45.14 ชั่วโมง, ที่ 3 น.ส.นาตาลี ปัญญาวัน (BG) เวลา 1.46.33 ชั่วโมง

รุ่นทั่วไปชาย ปั่น 5 รอบ (24.5 กม.) ที่ 1 “โดด” ส.อ.กีรติ สุขประสาท เหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ ฟิลิปปินส์ สังกัดทีม KAZE CUSTOM FACTORY Team เวลา 2.08.11 ชั่วโมง พร้อมทั้งคว้าแชมป์ประเทศไทย ด้วยคะแนนรวม 56 คะแนน ได้ครองถ้วยพระราชทาน พร้อมรับเงินรางวัล 8,000 บาท, ที่ 2 อส.ทพ.อดิศักดิ์ ไตลังคะ (ราชนาวี) เวลา 2.13.09 ชั่วโมง, ที่ 3 นายเดวิด เอสโคลาร์ (PCS. Cannondale Madradar Cycling Team) เวลา 2.15.20 ชั่วโมง
รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีชาย ปั่น 5 รอบ แข่งขันพร้อมกับรุ่นทั่วไป ที่ 1 “โตมร” นายพูนศิริ ศิริมงคล (ฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ วัดดงน้อย) เวลา 2.20.34 ชั่วโมง, ที่ 2 นายรังสิมันต์ ฮังการ์ด (KOM KOM) เวลา 2.25.07 ชั่วโมง, ที่ 3 นายเดชธนสิทธิ์ ไกรสิงห์ (อบจ.ปราจีนบุรี-สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดปราจีนบุรี) เวลา 2.29.02 ชั่วโมง สำหรับแชมป์ประเทศไทย ได้แก่ จ.ต.อธิชนันท์ กล้าหาญ (สโมสรทหารอากาศ) คะแนนรวม 44 คะแนน ได้รับถ้วยเกียรติยศไปครอง
รุ่นอายุ 30-39 ปีชาย ปั่น 3 รอบ (14.7 กม.) ที่ 1 นายจันทรบูรณ์ เกรียงชัยไพรพนา (Infinity) เวลา 1.54.40 ชั่วโมง พร้อมทั้งคว้าแชมป์ประเทศไทย ด้วยคะแนนรวม 60 คะแนน ได้ครองถ้วยพระราชทาน พร้อมรับเงินรางวัล 2,000 บาท, ที่ 2 จ.อ.ธีรวุฒิ หลงห่วง (ราชนาวี) เวลา 1.56.42 ชั่วโมง, ที่ 3 นายศิวะ สกุลพันธ์ (สนง.ตำรวจแห่งชาติ Singha-GOGI) เวลา 2.12.29 ชั่วโมง

รุนอายุ 40-49 ปีชาย ปั่น 3 รอบ (14.7 กม.) ที่ 1 นายสุรเชษฐ์ สิงห์จุ้ย (EK KKU) เวลา 1.29.17 ชั่วโมง, ที่ 2 จ.อ.เสรี เรืองศิริ (ราชนาวี) เวลา 1.36.41 ชั่วโมง, ที่ 3 นายขุนแผน ตุ้มทองคำ (PCS. Cannondale Madradar Cycling Team) เวลา 1.39.57 ชั่วโมง สำหรับแชมป์ประเทศไทย ได้แก่ จ.อ.เสรี เรืองศิริ คะแนนรวม 58 คะแนน ได้ครองถ้วยพระราชทาน พร้อมเงินรางวัล 2,000 บาท
รุ่นอายุ 50 ปีขึ้นไปชาย ปั่น 3 รอบ (14.7 กม.) ที่ 1 นายประเสริฐ ชิดมาตย์ (Beach Boy Phuket) เวลา 1.36.13 ชั่วโมง พร้อมทั้งคว้าแชมป์ประเทศไทย ด้วยคะแนนรวม 60 คะแนน ได้ครองถ้วยพระราชทาน พร้อมรับเงินรางวัล 2,000 บาท, ที่ 2 พ.ต.สุรพล สุขช่วย (กองทัพบก ศูนย์การทหารม้าสระบุรี) เวลา 1.51.05 ชั่วโมง, ที่ 3 นายธงชัย เบียดนอก (Infinity) เวลา 1.54.11 ชั่วโมง ส่วนผลการแข่งขันประเภทคลาส B และ C สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ของสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ www.thaicycling.or.th

รางวัลนักกีฬายอดเยี่ยมประเภทเสือภูเขา ครอสคันทรี่ ประจำปี 2563 ได้รับถ้วย ปรีดา จุลละมณฑล นักกีฬาหญิง น.ส.ยลธนันท์ พลกล้า (ฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ วัดดงน้อย), ยอดเยี่ยมชาย นายอธิพงษ์ สุวรรณสิงห์ (ฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ วัดดงน้อย) ขณะที่ผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยม ได้รับถ้วยเ เสรี ไตรรัตน์ ปรากฏว่า ผู้ฝึกสอนฝ่ายหญิง พ.ต.ท.จิระศักดิ์ นนทะแก้ว และผู้ฝึกสอนฝ่ายชาย นายสมยศ ศิริมงคล จากทีมฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ วัดดงน้อย ทั้ง 2 คน
ส่วนการแข่งขันดาวน์ฮิล เส้นทางภายในเขื่อนวชิราลงกรณ ผลรุ่นที่น่าสนใจ มีดังนี้ รุ่นทั่วไปชาย ที่ 1 “ตั้ง” นายชินพัฒน์ สุขจรรยา (Bike Zone Veetire Co) เวลา 2.43.065 นาที, ที่ 2 “แสน” นายสืบสกุล สุขจรรยา (Bike Zone Veetire Co) เวลา2.49.065 นาที, ที่ 3 นายบุณยวัทน์ ปราโมทย์ (LOMOCYCLE DOCYCLING) เวลา 2.51.258 นาที ขณะที่ “เบส” นายเมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์ (LOMOCYCLE ชลบุรี) แชมป์เก่าปีที่แล้ว เกิดอุบัติเหตุล้มถึง 2 ครั้ง ทำเวลา 3.22.430 นาที ได้อันดับที่ 5 สำหรับแชมป์ประเทศไทย นายสืบสกุล สุขจรรยา คะแนนรวม 54 คะแนน ได้ครองถ้วยพระราชทาน พร้อมรับเงินรางวัล 8,000 บาท
รุ่นทั่วไปหญิง ที่ 1 จ.ท.หญิง วิภาวี ดีคาบาเลส (สโมสรทหารอากาศ) แชมป์เก่า 9 สมัย ทำเวลา 3.16.473 นาที คว้าแชมป์ประเทศไทยเป็นสมัยที่ 10 ติดต่อกัน ด้วยคะแนนรวม 60 คะแนน ได้ครองถ้วยพระราชทาน พร้อมรับเงินรางวัล 6,000 บาท, ที่ 2 น.ส.ศิรภัสสร ชาติกำเหนิด (Polichem Vee Tire CO Mojo) เวลา 3.37.675 นาที, ที่ 3 น.ส.ธิดา ปัญญาวัน (Singha Samui MTB) เวลา 3.41.600 นาที
รุ่นเยาวชนอายุ 17-18 ปีชาย ที่ 1 นายกิตติธร ศิริจัด (Lomo Cycle MICHELIN วิทยาลัยเทคโนโลยีแหลมฉบัง) เวลา 2.49.959 นาที พร้อมทั้งคว้าแชมป์ประเทศไทย ด้วยคะแนนรวม 60 คะแนน ได้ครองถ้วยพระราชทาน พร้อมรับเงินรางวัล 4,000 บาท, ที่ 2 นายปัณณวิชญ์ เพ็ชรสังหาร (รร.ปราจิณราษฎรอำรุง) เวลา 3.03.469 นาที, ที่ 3 นายบรรณวิชญ์ นาควงศ์ (Samui MTB Bangkok Airways and Tongsai Bay) เวลา 3.10.432 นาที

รุ่นยุวชนอายุ 15-16 ปีชาย ที่ 1 ด.ช.วิชิตพงษ์ มงคลศิริ (รร.กีฬากรุงเทพมหานคร & IDEMITSU อบจ.สุพรรณบุรี อีซูซุอึ้งง่วนไต๋) เวลา 2.50.282 นาที พร้อมทั้งคว้าแชมป์ประเทศไทย ด้วยคะแนนรวม 60 คะแนน ได้ครองถ้วยพระราชทาน พร้อมรับเงินรางวัล 3,200 บาท, ที่ 2 ด.ช.พงศธร คัตทะจันทร์ (สิงห์ไบค์เน็ต) เวลา 3.05.781 นาที, ที่ 3 ด.ช.ศรัณย์วิทย์ รัศมี (IDEMITSU อบจ.สุพรรณบุรี อีซูซุอึ้งง่วนไต๋) เวลา 3.14.438 นาที
รางวัลนักกีฬายอดเยี่ยมประเภทเสือภูเขา ดาวน์ฮิล ประจำปี 2563 ได้รับถ้วย ปรีดา จุลละมณฑล นักกีฬายอดเยี่ยมหญิง จ.ท.หญิง วิภาวี ดีคาบาเลส (สโมสรทหารอากาศ), ยอดเยี่ยมชาย นายสืบสกุล สุขจรรยา ผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยม ได้รับถ้วย เสรี ไตรรัตน์ ฝ่ายหญิง นางเมตตา นิลเพชร และผู้ฝึกสอนฝ่ายชาย นายสุระพงศ์ กลุ่มในเมือง
พลเอกเดชา เหมกระศรี กล่าวว่า การแข่งขันสนามที่ 3 นี้ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว เราได้แชมป์ประเทศไทย ได้นักกีฬายอดเยี่ยมแต่ละประเภทครบเรียบร้อย เดิมจะจัดครบทั้ง 5 สนาม แต่เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ลดเหลือ 3 สนาม ส่วนในปี 2564 สมาคมกีฬาจักรยานฯ เตรียมจัดการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์ประเทศไทย ทั้งประเภทลู่, ถนน, เสือภูเขา, บีเอ็มเอ็กซ์ รวมทั้งการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) และการแข่งขันจักรยาน “ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” ครบทุกสนาม แต่ต้องประเมินสถานการณ์ว่าไวรัสโควิด-19 จะหมดไปหรือไม่ ถึงแม้ไวรัสโควิด-19 ยังไม่หมด สมาคมฯ ก็ยืนยันที่จะจัดการแข่งขันครบทั้ง 5 สนาม เพราะได้ทดลองระบบการจัดแข่งขันในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ New Normal จนได้รับการรับรองและคำชื่นชมจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ว่าเป็นสมาคมต้นแบบให้แก่สมาคมกีฬาอื่น ๆ
พลเอกเดชา กล่าวอีกว่า ในส่วนของนักกีฬาจักรยานเสือภูเขา ที่ชนะเลิศคะแนนรวม ได้แชมป์ประเทศไทย ได้ครองถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งครอสครันทรี่ และดาวน์ฮิล สมาคมกีฬาจักรยานฯ จะกราบบังคมทูลถวายรายงานผลการแข่งขัน และขอพระบรมราชานุญาตนำนักกีฬาที่ชนะเลิศเข้าเฝ้าฯ เพื่อรับถ้วยพระราชทาน สำหรับการแข่งขันจักรยานประเภทถนนและเสือภูเขาชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2564 สมาคมฯ กำหนดจังหวัดเจ้าภาพเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ได้แก่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา, อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี, จ.จันทบุรี, จ.ระยอง และ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ ก็ครบ 5 สนามเช่นกัน แต่จัดแข่งขันในจังหวัดที่มีสนามพร้อม ได้แก่ สนามเสมอกัน เซอร์กิต อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี, สนามเทศบาลเมืองศรีสัชนาลัย อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย และที่สนามเขาขยาย อ.เมือง จ.ชัยนาท หมุนเวียนกันไป

 

 Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์