วันอังคาร, กรกฎาคม 15, 2025

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรก บล็อก หน้า 1998

กมธ.-มูลนิธิฯ ขู่ฟ้อง กขค. ดีลควบค้าปลีก”ซีพี-โลตัส”

0

กมธ.เศรษฐกิจ หนุนมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เป็นหัวหอกไล่ฟ้อง กก.แข่งขันทางการค้า หลังอนุมัติควบรวมค้าปลีก ซีพี-เทสโก้ โลตัส ทำประชาชนมีทางเลือกน้อยลง เชื่อในอนาคต ประชาชนถูกบีบซื้อของแพง ชี้ ขนาดกล้วยที่ไทยผลิตได้เอง วันนี้ยังต้องซื้อแพงกว่าผู้ดีอังกฤษแล้ว

ขณะที่ทุกฝ่ายกำลังรอคำวินิจฉัยกลางของ คณะกรรมการแข่งขันทางการค้าต่อมติของคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า (กขค ) เสียงข้างมากที่เห็นชอบการควบรวมธุรกิจค้าปลีก ระหว่างกลุ่มบริษัท ซีพี กับห้างเทสโก้ โลตัสไปตั้งแต่ต้นเดือนพ.ย.63

แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีคำวินิจฉัยกล่างออกมาแม้จะผ่านมาร่วมเดือนแล้วก็ตาม ทำให้สังคมต่างเฝ้ารอว่า เมื่อไหร่คณะกรรมการกลางจะมีคำวินิจฉัยกลางออกมา แม้จะมีกระแสข่าวว่า จะมีคำวินิจฉัยกลางออกมาในช่วงบ่ายวันนี้(16 ธ.ค.63)แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ

นางสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวในระหว่างการให้สัมภาษณ์ในงานเสวนา”ควบรวมธุรกิจค้าปลีก ..ประชาชนได้หรือเสีย เป็นโอกาสหรือวิกฤติ และโฉมหน้าธุรกิจค้าปลีกจะไปทางไหน” ว่า เท่าที่ติดตามมติ กขค.ที่ออกมานั้น คิดว่าเป็นมติที่มีปัญหาชัดเจน ดังเช่นที่กรรการเสียงข้างน้อยให้เหตุผลว่าการตัดสินใจของกรรมการเสียงข้างมากครั้งนี้ จะส่งผลร้ายแรงต่อเศรษฐกิจของประเทศตามมาอย่างแน่นอน เพราะประกาศหลักเกณฑ์อำนาจเหนือตลาดกำหนดไว้ชัดเจน กรณีที่ผู้ประกอบการมีส่วนแบ่งตลาดเกิน 50%และมียอดขายเกิน 1,000 ล้านบาทขึ้นไปย่อมเข้าข่ายการมีอำนาจเหนือตลาดอยู่แล้ว แต่การควบรวม 2 ยักษ์ค้าปลีกในครั้งนี้ ครองส่วนแบ่งตลาดไปถึง 87.97% เกิน 50% และเกิน 1,000 ล้านบาทแต่แรกอยู่แล้ว

ทั้งนี้ยอมรับว่า หลังจากคณะกรรมการ กขค.มีมติออกมาโดยเห็นว่ามีอำนาจเหนือตลาดแต่ไม่ถือเป็นการผูกขาดและไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจนั้น ถือเป็นมติที่ตลกและประหลาดที่สุดเท่าที่เครือข่ายได้ยินมา เพราะข้อเท็จจริงนั้นมติดังกล่าวจะส่งผลต่อการผูกขาด ส่งผลต่อธุรกิจโดยรวมของประเทศ ความมั่นคงด้านอาหาร สุดท้ายจำกัดทางเลือกผู้บริโภคอย่างแน่นอน

“แม้กระทั่งวันนี้ เราได้เห็นชัดกันแล้ว กล้วยหอมที่ทางมูลนิธีชีววิถีศึกษาพบว่า ของเราแพงกว่าอังกฤษ มันเป็นไปได้อย่างไรที่ผู้บริโภคเรากินกล้วยหอมแพงกว่าต่างประเทศทั้งที่เราเป็นผู้ผลิตเอง”

เลขามูลนิธิเพื่อผู้บริโภคยืนยันว่า ทางมูลนิธิฯ กำลังรอดูคำวินิจฉัยกลางของคณะกรรมการกลางที่จะออกมาว่า จะเป็นอย่างไร แต่ก็อยากเห็นสมาคมค้าปลีกจะได้ออกโรงเคลื่อนไหวในเรื่องนี้เช่นเดียวกับทางมูลนิธิที่จะคงจะดำเนินการพิจารณาฟ้องร้องคดีเช่นกัน แต่จะต้องรอมติคณะกรรมการกลางแข่งขันทางการค้าที่ชัดเจนก่อน จึงจะดำเนินการได้ เพราะจะอาศัยแต่ข่าวที่ออกมาก่อนหน้าคงลำบาก และหากผู้ประกอบธุรกิจรายใดที่เห็นว่าเดือดร้อนอยากจะฟ้องร่วมกับทางมูลนิธิก็ขอให้ยื่นเรื่องมา

นางสาวสิริกัญญา ตันสกุล ประธานกรรมาธิการ(กมธ.)การพัฒนาเศรษฐกิจ จากที่กมธ.ได้เชิญบอร์ด กขค.เข้ามาให้ข้อมูลนั้นยอมรับว่าข้อมูลที่ได้รับ ยังขาดความชัดเจนอยู่มาก โดยกขค.ได้ซอยตลาดค้าปลีกออกเป็น 3 ตลาดคือ ไฮเปอร์มาร์เก็ต ซูเปอร์มาร์เก็ต และคอนวีเนี่ยนสโตร์และอ้างว่า หลังอนุมัติควบรวมไปแล้ว ตลาดที่จะกระทบคือคอนวีเนียนสโตร์เท่านั้น ส่วน อีก 2 ตลาดคือไฮปเอร์มาร์เก็ตและซูเปอร์มาร์เก็ตไม่เปลี่ยนแปลงเพราะกขค.ไม่ได้เอาห้างแมคโครเข้ามาอยู่ในตลาดด้วย ซึ่งก็เป็นเรื่องประหลาดอีก โดยกขค.อ้างว่าไม่มีเวลาศึกษา ทั้งที่ดิลควบรวมซีพีและเทสโก้ โลตัสนั้นมีการยื่นมาตั้งแต่ปลายปี 62 แต่กลับไม่มีการศึกษาอะไรเอาไว้เลย

นอกจากนี้ กมธ.ยังตั้งคำถามเรื่องผลกระทบกับคู่แข่ง ซึ่งสำนักงาน กขค.อ้างไม่มีปัญหา เพราะค้าปลีกขนาดย่อมยังมีอีกเยอะ ยังสามารถเข้าสู่ตลาดได้ด้วยเงินลงทุน 5-10 ล้านบาท แต่พอไปดูด้านซัพพลายเออร์ ทางกขค.กลับให้ข้อมูลค่อนข้างน้อย

“สังคมมการตั้งคำถามต่อการอนุมัติ กขต. ในครั้งนี้มาก เพราะดูจะเป็นโอกาสทองของธุรกิจยักษ์ใหญ่ ที่จะกลายเป็นเรือธงของธุรกิจใหญ่ไปสู่ตคลาดโลก แต่ก็เป็นวิกฤติสำหรับร้านค้าย่อย คู่ค้าและผู้บริโภค สะท้อนความเหลื่อมล้ำ ทำให้โอกาสของธุรกิจรายย่อยแข่งขันลำบาก หรือไม่มีทางแจ้งเกิดได้เลย”

ทั้งนี้ทาง กมธ.พร้อมสนับสนุนสมาคมค้าปลีก หรือองค์กรผู้บริโภคให้ยื่นเรื่องไปยังศาลปกครองขอให้ระงับคำสั่ง กขค.นี้ เพราะกมธ.ยื่นเองไม่ได้ เพราะไม่ได้เป็นผู้มีสวนได้เสียโดยตรง คนที่จะร้องต้องเป็นผู้บริโภคหรือองค์กรของผู้บริโภค

ด้านนายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าปลีก กล่าวว่าการอนุมัติควบรวมซีพีและเทสโก้ โลตัสครั้งนี้ถือเป็นโอกาสของยักษ์ใหญ่ค้าปลีกเสียมากกว่า คณะกรรมการมักมองด้านเดียวตลอด ไม่เคยเห็นคนจนข้างล่างโหยหาทุนต่างประเทศเข้ามาตลอด ด้านโครงสร้างราคาหลังควบรวม พอเหลืออยู่น้อยราย หรือเหลืออยู่รายเดียว เขาครองหมดแล้ว การที่จะมาเยียวยา จะมาเยียวยาอย่างไร จะมาแจกเงิน 200-300 บาท เยียวยาหรือ

“ส่วนเงื่อนไข 7 ข้อ ที่กขค.ออกมานั้น เป็นแค่เงื่อนไขเด็ก ๆ น้ำจิ้มเท่านั้น ไม่มีทางที่จะสู้ได้ ใครจะไปตรวจสอบการทำงานว่า ทำตามเงื่อนไขได้หรือไม่ ทุกวันนี้รายใหญ่ต้องการอะไร ทุบโต๊ะ ใครจะกล้าหือ ไม่มีสิทธิ์จะต่อรอง สินค้าที่ต้องการขายเข้าไปต้องทำโปรโม่ชั่น เพิ่มความเหลื่อมล้ำ”

 

 

 

หุ้น Banpu พุ่งรับข่าวดี.. COD โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ญี่ปุ่น

0

http://www.natethip.com/news.php?id=3443
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

ทส.จับมือเอไอเอส ร่วมแก้ต้นตอฝุ่น PM2.5

0

http://www.natethip.com/news.php?id=3442
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

BAM ครบรอบ 1 ปี เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ชูนโยบายโตแบบยั่งยืน ยึดหลัก ESG

0

http://www.natethip.com/news.php?id=3441
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

สำนักข่าวเนตรทิพย์-ท้องกินข้าว สมองกินข่าว!

0

https://timeline.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1160816716810052066
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

สมศักดิ์ เผย ยังไม่เซ็น ปล่อย”ณัฐวุฒิ”

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // “สมศักดิ์”เผยยังไม่เซ็นปล่อยตัว”ณัฐวุฒิ” คาดน่าจะภายในเร็วๆนี้เพราะถูกขังเกินเวลาพักโทษกรณีพิเศษได้แล้ว

วันที่ 17 ธ.ค.63 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงมีกระแสข่าวว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ  แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)  ที่ถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 2 ปี 8 เดือน ในคดีชุมนุมหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ เมื่อปี 2550 ผ่านขั้นตอนการพิจารณาหลักเกณฑ์พักโทษครบถ้วนแล้ว และจะมีการปล่อยตัวออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครในวันนี้ (17 ธ.ค.) ว่า การปล่อยตัวนายณัฐวุฒิคงยังไม่ได้ปล่อยตัวในวันนี้ เนื่องจากตนยังไม่ได้เซ็นลงนาม แต่คาดว่าน่าจะเป็นเร็วๆ นี้ ในคดีที่เขาถูกจำคุกอยู่ เกินเวลาที่สามารถพักโทษในกรณีพิเศษได้แล้ว ส่วนความพร้อมในด้านอื่นๆ จะต้องมีเอกสารหลักฐานให้พร้อม เมื่อถามว่านักโทษทางการเมืองคนอื่นมีใครอีกหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่ามีรายใดอีกบ้าง คงต้องดูให้รอบคอบ

Cr :  นายทวีศักดิ์ ชิตทัพ  ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“ตลาดนัดนักข่าว” เพื่อการกุศลสุดคึกคัก มหกรรม “ของดี-ของใช้-ของกิน-สายมู” ห้ามพลาด!

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//เริ่มแล้วจ้าตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2563 ชมรมเว็บคลับ ไทยแลนด์ ร่วมกับ ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์,ชมรมปันน้ำใจ อุ่นไอรัก,สำนักข่าวบางกอกทูเดย์ และกัลยาณมิตร ผนึกพลังจัดงาน “Media Fair…นักข่าวเปิดช็อป ชวนช้อปตลาดแตก” เป็นครั้งแรก ณ บริเวณลานกิจกรรมชั้น 2 ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ โดยคุณฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นประธานในพิธีเปิด โดย คุณเชิดชัย กมลเนตร รองกรรมการผู้จัดการบริหารงานโรงแรมในเครือฟอร์จูน บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) ร่วมเปิดงาน
พร้อมด้วย ดร.นฤเทพ สิทธิชาญคุณะ เลขาอดีตประธานองคมนตรี พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ คุณนาริฐา จ้อยเอม ประธานชมรมเว็บคลับ ไทยแลนด์ คุณกฤต สุวรรณวิไลกุล ประธานชมรมปันน้ำใจ อุ่นไอรัก ดร.จุมพล โพธิสุวรรณ บรรณาธิการข่าวบางกอกทูเดย์ คุณปิ่นศิริ ศิริปิ่น ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาศิลปิน SMD 1987 โจนัส แอนเดอร์สัน และกัลยาณมิตร ร่วมงาน โดยมีคุณ จิรัฏฐวัฒน์ ศิริบุตร และคุณภัทรมน ภุมรินทร์ ดำเนินรายการ พร้อมการแสดงจากสมาคมเยาวชนจิตอาสาพัฒนา ตีกลองสะบัดชัย ด.ญ.ศิริญาพร กุนสง ฟ้อนสาวไหม น.ส.ณัฐริกา เทินสระเกษ
ซึ่งงานจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 16-18 ธันวาคม 2563 พร้อมกับสินค้า อาหารการกิน ตรวจดวงชะตา ประมูลสินค้าคนดังและอื่น ๆอีกมากมาย โดยรายได้หักหลังค่าใช้จ่ายเป็นกองทุนเพื่อสวัสดิการและกิจกรรมสร้างสรรค์ชมรม “ชมรมเว็บคลับ ไทยแลนด์” พร้อมทั้งมอบให้กับ “ชมรมปันน้ำใจ อุ่นไอรัก” เพื่อเด็กนักเรียนด้อยโอกาสในต่างจังหวัด
คุณฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยวการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “เป็นครั้งแรกที่มาร่วมงานโดยสื่อเป็นเจ้าภาพ ต้องบอกว่า ในฐานะที่เป็นสื่อกลางด้านการท่องเที่ยวดูแลเรื่องสินค้า กิจกรรมใหม่ๆ มีเดีย แฟร์ นี้ ถือเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า เมื่อการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดงานอีเวนท์ เช่น งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทยในต้นปีหน้า หากงานครั้งนี้ทำได้ดี อาจมีโซนสำหรับมีเดีย แฟร์ ได้ร่วมงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทยด้วยกัน
นักข่าวเป็นคนที่สื่อข่าว สื่อคอนเทนต์ดีดีให้กับพวกเรา ให้กับชาวต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นเรื่องดีมาก ๆ ที่เราจะช่วยนักข่าวเหมือนกัน ซึ่งงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทยจัดขึ้นในต้นปีหน้าแน่นอน”
“การจัดงานอีเวนท์ มีเดีย แฟร์ เป็นการนำของมาจำหน่าย เป็นการช่วยกันขายของเพื่อคนไทย ช่วยขายสินค้าของไทยให้ดังไกลไปทั่วโลก ขณะนี้ทราบกันดีว่า คนต่างชาติเข้ามาในเมืองไทยไม่ได้ เราต้องช่วยกัน ช่วยกันขายให้คนไทยก่อน
งานจำหน่ายสินค้า “มีเดีย แฟร์” นักข่าวเปิดช็อป ชวนช้อปตลาดแตก ขอให้ตลาดแตกและขายดีดังวัตถุประสงค์ ททท.ขอเป็นพลังใจในการจัดงานครั้งนี้ให้ประสบความสำเร็จ” คุณฐาปนีย์ กล่าวในตอนท้าย
คุณเชิดชัย กมลเนตร รองกรรมการผู้จัดการบริหารงานโรงแรมในเครือฟอร์จูน บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าว การจัดงานครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างขวัญและกำลังใจ ให้กับพี่น้องชาวสื่อมวลชน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์วิกฤตในปัจจุบัน ที่ส่งผลด้านเศรษฐกิจและกระทบไปทุกภาคส่วน เรารู้สึกยินดีที่ได้ร่วมให้การสนับสนุนพื้นที่ ให้พี่น้องชาวสื่อมวลชนมาเปิดบูธจำหน่ายสินค้า เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริม คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ ได้ให้ความสำคัญในการเข้าไปช่วยเหลือทุก ๆ ด้านของสังคมอย่างเป็นรูปธรรมอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น การรับบริจาคเลือด ของสภากาชาดไทย ที่เราให้การสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 15 ปี, กิจกรรม ธรรมะข้างถนน ในการช่วยเหลือวัดพระบาทน้ำพุ รวมถึง กิจกรรม ร่วมใจแบ่งปันรอยยิ้ม เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ที่เราให้การสนับสนุนและจัดกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำต่อเนื่องทุกปี
นางสาวนาริฐา จ้อยเอม ประธานชมรมเว็บคลับ ไทยแลนด์ กล่าวว่า ชมรมเว็บคลับ ไทยแลนด์ เป็นชมรมที่ตั้งขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นศูนย์กลางในการติดต่อประสานงาน เสริมสร้างความรัก ความสามัคคี โดยเป็นการรวมตัวของคนในแวดวงสื่อสารมวลชน ทั้งสายโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ สื่อออนไลน์ วิทยุ คนทำงานเบื้องหลังอันเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจสื่อสารมวลชนต่าง ๆ ที่มีความพร้อมในการทำหน้าที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องให้กับสังคม ให้ได้รับความรู้ ได้รับประโยชน์ พร้อมทั้งดำเนินกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือสังคมเมื่อมีโอกาส
การจัดงาน Media Fair ครั้งที่ 1 เป็นการจัดจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ทั้งของที่ระลึก และสินค้ามือสอง ระหว่างวันที่ 16-18 ธันวาคม 2563 เพื่อหาทุนสนับสนุน สวัสดิการชมรมเว็บคลับ ไทยแลนด์ ขณะเดียวกัน ก็เพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งมอบให้กับชมรมปันน้ำใจ อุ่นไอรัก เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์การศึกษาและการกีฬา รวมทั้งเครื่องกันหนาวมอบให้กับเด็กและผู้ยากไร้บนพื้นที่สูง โดยครั้งนี้จะนำไปมอบให้กับโรงเรียนที่จังหวัดเพชรบูรณ์ในวันที่ 23-24 มกราคม 2564
“ทั้งนี้งานจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ใจดี เหล่ากัลยาณมิตรที่ให้ความร่วมมือจนเกิดงานในวันนี้ขึ้น แต่สิ่งที่พิเศษที่สุดของการจัดกิจกรรม คือ การได้พบเจอ… คนดี คิดดี ทำดี พูดดี เหมือนกัน”:Cr;มณสิการ รามจันทร์

เอ.พี. ฮอนด้า เดินหน้าจัด แข่งรถประหยัดเชื้อเพลิง ครั้งที่ 23

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // จุดพลังฝันเยาวชนไทยพัฒนาศักยภาพด้านวิศวกรรมยานยนต์ ร่วมพิสูจน์ “น้ำมัน 1 ลิตร วิ่งได้ไกลแค่ไหน” ผ่านประสบการณ์จริงในสนามระดับโลก
เอ.พี. ฮอนด้า จุดพลังฝันให้เยาวชนไทยเติบโตสู่การเป็นวิศวกรที่มีคุณภาพ ผนึกกำลังร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาและจังหวัดบุรีรัมย์ สานต่อกิจกรรมที่มีมากว่า 2 ทศวรรษกับการแข่งขัน “ฮอนด้าประหยัดเชื้อเพลิง” Honda Eco Mileage Challenge ครั้งที่ 23 ประจำปี 2563 เปิดโอกาสให้เยาวชนที่กำลังศึกษาอยู่ในสายอาชีวศึกษาและอุดมศึกษา ได้แสดงความสามารถในการออกแบบและประดิษฐ์ยานพาหนะที่ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากที่สุด ภายใต้โจทย์สุดท้าทาย “น้ำมัน 1 ลิตร จะวิ่งได้ไกลแค่ไหน” ท้าพิสูจน์ผ่านการสัมผัสประสบการณ์จริงในสนามระดับโลก ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์

เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2563 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา, พลตำรวจตรี รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์, ดร.อารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด คณะผู้บริหารจาก บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด และผู้ร่วมสนับสนุน ร่วมเปิดกิจกรรม “ฮอนด้าประหยัดเชื้อเพลิง” Honda Eco Mileage Challenge ครั้งที่ 23 อย่างเป็นทางการ ปีนี้มีสถาบันเข้าแข่งขัน 264 สถาบัน รวมจำนวนทีมแข่งขันทั้งสิ้น 355 ทีม จัดขึ้นภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไวรัส COVID-19 อย่างเคร่งครัด

ดร.อารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า “การแข่งขันฮอนด้าประหยัดเชื้อเพลิง ภายใต้โครงการ “เอ.พี. ฮอนด้าจุดพลังฝัน” มีเป้าหมายพัฒนาเยาวชนไทยสู่การเป็นวิศวกรที่มีคุณภาพ โดยมุ่งพัฒนาศักยภาพ ทางด้านทักษะวิศวกรรมยานยนต์ ควบคู่กับการสร้างจิตสำนึกรักษ์พลังงาน ผ่านการออกแบบและประดิษฐ์ตัวรถ รวมถึงศึกษาการทำงานเชิงลึกของเครื่องยนต์ระบบหัวฉีด PGM-FI ของฮอนด้า ภายใต้โจทย์สุดท้าทาย “น้ำมัน 1 ลิตร จะวิ่งได้ไกลแค่ไหน” ซึ่งนอกจากจะทำให้เยาวชนไทยได้พัฒนาความสามารถ โดยนำความรู้จากในห้องเรียนมาต่อยอดผ่านการทดลองและปฏิบัติจริงแล้ว ยังถือเป็นการเสริมสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กันอีกด้วย”
สำหรับการแข่งขันรถประหยัดเชื้อเพลิง Honda Eco Mileage Challenge จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ประกอบด้วยประเภทรถประดิษฐ์ และประเภทรถตลาด โดยในประเภทรถประดิษฐ์จะแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ระดับอาชีวศึกษา ระดับอุดมศึกษา และระดับประชาชนทั่วไป กำหนดกติกาให้รถทุกคันใช้ตัวถังที่มาจากการประดิษฐ์ขึ้นเองเท่านั้น และติดตั้งเครื่องยนต์ระบบหัวฉีด PGM-FI ที่ฮอนด้าให้การสนับสนุน

ส่วนในประเภทรถตลาด จะเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปเข้าแข่งขันได้ โดยใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 110 ไอ, ฮอนด้า ซูเปอร์คับ, ฮอนด้า ซีแซดไอ และฮอนด้า ดรีม 110 ไอ โดยสามารถปรับแต่งเครื่องยนต์ได้ตามกติกาที่กำหนดไว้ และลงแข่งขันโดยใช้น้ำมันแก๊ซโซฮอลล์ E20 และใช้ความเร็วเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 30 กม./ชม สำหรับการวัดค่าประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง จะคำนวณจากน้ำหนักของน้ำมันที่ใช้ไปในระหว่างการแข่งขัน ทีมที่มีอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงน้อยที่สุด จะเป็นผู้ชนะ ซึ่งทีมชนะเลิศสถิติสูงสุดจะได้รับถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมร่วมแข่งขันระดับนานาชาติที่ประเทศญี่ปุ่น
ทั้งนี้ การแข่งขัน “ฮอนด้าประหยัดเชื้อเพลิง” Honda Eco Mileage Challenge ครั้งที่ 23 ประจำปี 2563 เมื่อวันที่ 15-16 ธันวาคม 2563 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.hondaeconothai.com

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

ชลบุรี เอฟซี ปล่อยยืม “ลีซอ” ร่วมทัพ อยุธยา ยูไนเต็ด ครึ่งฤดูกาล

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // ชลบุรี เอฟซี ประกาศปล่อยตัว ธีรเทพ วิโนทัย หอกจอมเก๋า ที่มีต้องการหาความท้าทายในเส้นทาง การค้าแข้งฟุตบอลอาชีพ รวมถึงโอกาสในการลงสนามอย่างต่อเนื่อง กับ สโมสร อยุธยา ยูไนเต็ด ทีมในศึก ไทยลีก 2 ด้วยสัญญายืมตัวครึ่งฤดูกาล เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดย “ลีซอ” ได้ให้สัมภาษณ์ถึงรายละเอียดการย้ายไปร่วมทัพ “นักรบอโยธยา” ว่า “ก่อนอื่นเลยผผมต้องขอขอบคุณ สโมสร ชลบุรี เอฟซี ที่อนุญาตให้ผม ย้ายไปร่วมทีม อยุธยา ยูไนเต็ด ในเลกที่ 2 นี้ การย้ายทีมในครั้งนี้ เกิดขึ้นเพราะความต้องการของตัวผมเอง ที่ยังมีไฟในการลงเล่นฟุตบอลอาชีพอยู่เต็มเปี่ยม ผมต้องการไปหาความท้าทายใหม่ และ โอกาสในการลงสนามให้มากขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจ และ ฟอร์มการเล่นที่ดี ก่อนจะกลับมาช่วย ชลบุรี เอฟซี อีกครั้ง เพราะผมยังมีสัญญาเหลืออยู่กับที่นี่”
“เวลานี้ ชลบุรี เอฟซี กำลังมีนักเตะดาวรุ่งสายเลือดใหม่ๆก้าวขึ้นมาสู่ทีม ทุกคนทำผลงานได้ดี และ ต้องการโอกาสในการลงสนาม จึงเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน ที่ผมจะหลีกทาง ให้กับ ดาวรุ่งเหล่านี้ได้รับโอกาสมากยิ่งขึ้น”
“ท้ายที่สุดนี้ ขอขอบคุณแฟนบอล ชลบุรี เอฟซี ทุกๆคนที่ให้การต้อนรับและสนับสนุนตัวผมเป็นอย่างดีเสมอมา ผมมีความสุขมากๆกับการลงสนาม เล่นฟุตบอลที่นี่ ซึ่งผมเองก็จะทำงานให้หนักขึ้น กับการย้ายทีมครั้งนี้ เพื่อเรียกฟอร์มการเล่นที่ดี รวมถึงความมั่นใจต่างๆกลับมา แล้วพบกันครับ” “ลีซอ” กล่าว
สำหรับ ธีรเทพ วิโนทัย จะลงสนามให้กับ ชลบุรี เอฟซี ในเกมนัดส่งท้ายฟุตบอล ไทยลีก 2020 เลกแรก วันศุกร์ที่ 18 ธ.ค.นี้ โดยจะออกไปเยือน สุโขทัย เอฟซี ที่สนาม ทุ่งทะเลหลวง เวลา 18.30 น. ก่อนจะเดินทางไปร่วมทำการฝึกซ้อม กับ สโมสร อยุธยา ยูไนเต็ด ในเลกที่ 2 ต่อไป

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์