วันเสาร์, กรกฎาคม 27, 2024

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรก บล็อก หน้า 1865

“อภิวัฒน์” หวังคว้าแชมป์ประจำปี “โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์” ซ้อมฝ่าสายฝน “รัฐพงษ์” รั้งหัวแถว

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ ดาวบิดไทยระดับเอเชียจาก ยามาฮ่า เพาเวอร์สปีด วีไอพี 123 เรซซิ่ง ทีม ตั้งเป้าเถลิงบัลลังก์แชมป์ประจำปี ศึก โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2020 โดยมีแต้มนำทีมเมทอย่าง “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ 5 คะแนน แชมป์เก่า “ติ๊งโน๊ต” ฐิติพงศ์ วโรกร คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม พร้อมสู้เต็มที่แม้ตามถึง 16 แต้ม ขณะการซ้อมวันแรกโดนฝนถล่มอย่างหนัก “โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ แชมป์เอเชียจาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม รั้งจ่าฝูง รุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี หลังเฉือนคู่แข่งตัวฉกาจ “แชมป์” ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ เพียง 0.058 วินาที ชี้ชะตาวันอาทิตย์นี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2020 (OR BRIC Superbike Championship 2020) เข้าสู่สนามสุดท้ายของฤดูกาล ดวลความเร็ว วันที่ 16-18 ตุลาคมนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นสนามตัดสินแชมป์ประจำปีของทุกคลาส
ล่าสุดเพิ่งผ่านการซ้อมครั้งแรก วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีฝนเทลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การซ้อมของหลายๆ รุ่นต้องล่าช้าออกไป รุ่นใหญ่อย่าง ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี เอสบี1 ที่นักบิดได้ลงซ้อมกันในช่วงเย็นเลย
โดยสถานการณ์ลุ้นแชมป์คลาสสูงสุดอย่าง ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี เอสบี1 ต้องตัดสินแชมป์ประจำปีกันถึงสนามสุดท้าย “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ อดีตแชมป์เอเชีย ยามาฮ่า เพาเวอร์สปีด วีไอพี 123 เรซซิ่ง ทีม ที่เก็บโพเดี้ยมครบ 3 สนาม และคว้าชัยชนะ 1 เรซ รั้งตำแหน่งจ่าฝูงโดยมี 61 คะแนน เหนือทีมเมทอย่าง “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ ที่ฝืนเจ็บลงบิดในสนามที่ผ่านมาเพียง 5 แต้มเท่านั้น
ด้านแชมป์เก่า “ติ๊งโน๊ต” ฐิติพงศ์ วโรกร คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม สู้ยิบตาแม้จะไม่มีแต้มจากสนามแรก แต่การกลับมาขึ้นโพเดี้ยมสนาม 2 และชัยชนะสนามที่ผ่านมา ทำให้เขาตีตื้นขึ้นมาตามหลังจ่าฝูง 16 คะแนน “ซีเค” ชัยวิชิต นิสกุล ทีมเมท ที่ตามหลังจ่าฝูงอยู่ 18 คะแนน มีลุ้นคว้าแชมป์ได้ “ตี” อนุภาพ ซามูล จีเอ็มที94 หมดลุ้นแชมป์ไปแล้ว มีเพียง 27 คะแนน จาก 3 สนาม
ผลการซ้อมช่วงแรกท่ามกลางแทร็กที่ฉ่ำไปด้วยฝน ปรากฏว่า อภิวัฒน์ กดเวลามาเป็นอันดับ 1 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 47.943 วินาที เฉือนทีมเมทอย่าง นครินทร์ เพียง 0.189 วินาที ขณะที่นักบิด เอสบี1 คนอื่นๆ อย่าง ฐิติพงศ์, ชัยวิชิต และ อนุภาพ ไม่ได้ลงซ้อมในสภาพแทร็กเช่นนี้
อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ จ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพ กล่าวว่า “ในสนามสุดท้ายผมจะพยายามทำผลงานให้ดีที่สุด และหวังที่จะคว้าแชมป์ประจำปีนี้ให้ได้ครับ”
ส่วน ฐิติพงศ์ แชมป์เก่าที่รั้งอันดับ 3 และคะแนนตามหลังจ่าฝูงถึง 16 คะแนน เผยว่า “สนามที่ผ่านมาเราตั้งใจมาก เพื่อเอาชัยชนะให้ได้เพราะต้องการกลับเข้าสู่เส้นทางลุ้นแชมป์ให้ได้ครับ และเราเองก็ทำได้ซึ่งนั่นก็เรียกความมั่นใจให้ตัวเองได้มากทีเดียว แฮปปี้มากครับที่สามารถกลับมาคว้าอันดับ 1 ได้จากสนามที่ 3 ทำให้เรามีโอกาสลุ้นแชมป์มาถึงสนามสุดท้าย”

ขณะที่ผลการซ้อมรุ่นไฮไลต์อีกคลาสอย่าง ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี เอสเอส1 มีดาวดังระดับเอเชียลงบิดหลายคน “โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ อดีตแชมป์เอเชียจาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ผู้ชนะสนามที่ผ่านมา กดเวลามาเป็นอันดับ 1 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 39.679 วินาที เฉือน “แชมป์” ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ คู่แข่งจาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์เพียง 0.058 วินาทีเท่านั้น ส่วนอันดับ 3 เป็นของ นิติพงษ์ แสงสว่าง ดาวรุ่งจาก ยามาฮ่า ทีเอส เรซซิ่ง ทีม ตามหลังหัวแถว 0.866 วินาที
ด้านจ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพอย่าง “ฟอง” คณาทัต ใจมั่น ยามาฮ่า พิเรลลี ไฮสปีด ดี.ไอ.ดี. เออห์ลิน กิ๊กะไบค์ ลิควิโมลี ทำเวลามาเป็นอันดับ 4 ตามหลัง 0.987 วินาที ขณะที่ “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ ดาวรุ่งจาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ที่ลงแข่งขันแทนนักบิดสาวแกร่งอย่าง “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช ที่มีอาการบาดเจ็บ ประเดิมสนามด้วยการรั้งอันดับ 5 ตามหลังจ่าฝูง 1.378 วินาที
ทั้งนี้ แฟนความเร็วสามารถเชียร์ติดขอบสนามไปพร้อมกัน 17-18 ต.ค.นี้ บัตรที่นั่ง Grandstand ราคา 100 บาท / 1 วัน ซื้อได้ที่จุดจำหน่ายบัตรหน้าทางขึ้น Grandstand (จำหน่ายบัตรวันเสาร์-อาทิตย์ เท่านั้น) สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต บุรีรัมย์
ส่วนผู้ชมทางบ้าน รับชมถ่ายทอดสด วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม ทาง TRUE4U ช่อง 24 เวลา 14.30-17.00 น. หรือ Online Live Streaming ทางเพจ Chang Circuit Buriram หรือทาง Youtube ช่อง BRIC Channel เวลา 08.00 น. แฟนๆ AEC ชมได้เวลา 14.25 – 17.25 น. ( สปป.ลาว รับชมทางช่อง MVL, เมียนมาร์ รับชมทางช่อง MVM, กัมพูชา รับชมทางช่อง TV3 ) ส่วนช่องทางออนไลน์ รับชมผ่าน Application MVTV และ Facebook Fanpage : MVM , MVL , TV3HD

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“ฉลามสาว” บุกถล่ม เกษมบัณฑิตคืนรองจ่าฝูง โกแฮร์ยูลีก บัณฑิตเอเซีย ยำ ปทุมธานี ทำสถิติชนะร้อยเปอร์เซนต์

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // “ไดโนเสาร์พิฆาต” เดินหน้าคว้าชัยชนะแบบร้อยเปอร์เซนต์ เป็นนัดที่ 8 ติดต่อกัน หลังบุกไปเยือน “แข้งสาวเมืองดอกบัว” แถล่มชนะ 10 ประตูต่อ 1 ฟุตบอลโกแฮร์ยูลีกหญิง ชิงถ้วยพระทาน “กรมหมื่นสุทธนารีนาถ” นำเดี่ยวแต่เพียงทีมเดียวบนตารางสรุปคะแนน ส่วน “ฉลามสาว” เตะนัดตกค้าง บุกไปชนะ “แข้งสาวสิงห์ร่มเกล้า” 5 ประตูต่อ 0 แซงเกษตรศาสตร์กลับมาเป็นที่ 2
​การแข่งขันฟุตบอลโกแฮร์ลีกอุดมศึกษาหญิงแห่งประเทศไทย ประจำปี 2563 ชิงถ้วยประทานพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ นัดที่ 8 ของฤดูกาล เมื่อวันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม ,มีผลดังนี้

ที่ สนามมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต วิทยาเขตร่มเกล้า “แข้งสาวสิงห์ร่มเกล้า” ม.เกษมบัณฑิต เปิดสนามเตะนัดตกค้างกับ “ฉลามสาว” มกช.ชลบุรี เกมนี้ เจ้าบ้านส่ง “ไอซ์” ศิริวรรณ ศรีมงคล, “แอม” จันทกานต์ พรมใจรักษ์ และ “แอน” ปิยะธิดา หล้าธรรม 3 ดาวเด่นของทีมลงรับมือ ส่วนทีมเยือนจัดชุดใหญ่ ลงสนามนำโดย “รูนีย์” จิราภรณ์ มงคลดี กองหน้าทีมชาติไทย, “ยี” เสาวลักษณ์ เพ็งงาม และ “เวฟ” สุชาวดี ชมแพง แต่เป็นทีมเยือนที่เล่นได้นิ่ง และแน่นอนกว่า ถล่มเจ้าบ้าน 5 ประตูต่อ 0 โดย “ยี”เสาวลักษณ์ เพ็งงาม กัปตันทีม เหมาคนเดียว 4 ประตู นาทีที่ 5, 18, 61 และ 78 อีกลูกหนึ่ง ได้จาก “รูนีย์” จิราภรณ์ มงคลดี นาทีที่ 60
​ชนะนัดนี้ มกช.ชลุบรี มี 21 คะแนน จาก 8 นัด เท่ากันกับเกษตรศาสตร์ แต่เฮดทูเฮดดีกว่า ชลบุรีอยู่ที่ 2 ของตาราง ส่วนเกษมบัณฑิตมี 12 คะแนน จาก 8 นัด อยู่ที่ 4 เดิม

​ที่สนามราชคราม “แข้งสาวเมืองดอกบัว” ม.ปทุมธานี เปิดบ้านรับ “ไดโนเสาร์พิฆาต” วิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย เกมนี้ เจ้าบ้าน ไม่มีทั้ง “ไหม”ธนีกานต์ แดงดา และ “ส้มโอ”ยาดา เซ่งย่อง 2 ผู้เล่นทีมชาติลงเล่นด้วย ทำให้ชื่อชั้น และผลงานการแข่งขันที่เป็นรองอยู่แล้ว ห่างไกลกันเข้าไปใหญ่ เกมนี้ บัณฑิตเอเซีย เล่นสบาย บดเอาชนะไปได้ 10 ประตูต่อ 1 โดยบัณฑิตเอเซีย ได้ประตูจาก “มิ้น”กัญญาณัฐ เชษฐบุตร นาทีที่ 3,13 “อองรี”ธนากร จันทะวัน นาทีที่ 4 “เป๊กกี้” อุไรพร ยงกุล นาทีที่ 18,20,26 และ 77 “จีน” สุภารัตน์ สุนสุรัตน์ นาทีที่ 41 “พลอย” พลอยชมพู สมนึก นาทีที่ 43 และ 79 ส่วนผู้ทำประตูให้ม.ปทุมธานี “หมวย” สุธัญญา ลำเพ็ง นาทีที่ 44 ​ชนะนัดนี้ บัณฑิตเอเซีย มี 24 คะแนน จาก 8 นัด นำเป็นจ่าฝูงแต่เพียงทีมส่วนปทุมธานีมี 7 แต้ม จาก 8 นัด อยู่ที่ 8 ตามเดิม

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

แอร์ฯ ลิงก์ ร่วมงานสัมนาเสนอผลการดำเนินโครงการยกระดับสมรรถนะบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ร่วมงานสัมนานำเสนอผลการดำเนินโครงการยกระดับสมรรถนะบุคคลตามมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ กลุ่มอุตสาหกรรมต่อเนื่องจากการพัฒนาระบบคมนาคม สาขาวิชาชีพรถไฟความเร็วสูงและระบบราง และมอบประกาศนียบัตรแก่ผู้ผ่านการฝึกอบรม และการประเมินจากโครงการ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2563 ณ โรงแรมปริ๊นซ์พาเลซดร.สุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด พร้อมด้วยนายกิตติพงษ์ เรืองแสน รักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กลุ่มสายงานบริหาร เข้าร่วมงานสัมนานำเสนอผลการดำเนินโครงการยกระดับสมรรถนะบุคคลตามมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ กลุ่มอุตสาหกรรมต่อเนื่องจากการพัฒนาระบบคมนาคม สาขาวิชาชีพรถไฟความเร็วสูงและระบบราง และมอบประกาศนียบัตรแก่ผู้ผ่านการฝึกอบรม และการประเมินจากโครงการ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2563 ณ โรงแรมปริ๊นซ์พาเลซ โดยโครงการดังกล่าวมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เป็นหน่วยงานผู้รับผิดชอบจัดทำชุดฝึกอบรมตามมาตรฐานอาชีพ ซึ่งประกอบด้วย 5 หลักสูตร ได้แก่
– หลักสูตรความปลอดภัยในการปฏิบัติงานซ่อมบำรุงระบบราง
– หลักสูตรการซ่อมบำรุงระบบอาณัติสัญญาณไฟสีและโทรคมนาคม ชั้น 4
– หลักสูตรการซ่อมบำรุงระบบช่วงล่างรถไฟฟ้าด้านระบบเครื่องกล ชั้น 4
– หลักสูตรการซ่อมบำรุงทางรถไฟชั้น 3
– หลักสูตรการซ่อมบำรุงโครงสร้างรองรับทางรถไฟ ชั้น 3โดยทั้ง 5 หลักสูตรได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานในอุตสาหกรรมระบบรางส่งบุคลากรเข้าร่วมเป็นคณะทำงาน
ซึ่งบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนโครงการฯดังกล่าว โดยส่งบุคลากรเข้าร่วมเป็นคณะทำงานจัดทำชุดฝึกอบรม และเป็นวิทยากรดำเนินการอบรมอาชีพช่างเทคนิคซ่อมบำรุงระบบช่วงล่างรถไฟฟ้าด้านระบบเครื่องกล ชั้น 4 ให้แก่ผู้เข้าอบรมในระหว่างวันที่ 11 – 13 , 18 กันยายน 2563 และเข้ารับการประเมินเพื่อทดสอบสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพระหว่างวันที่ 19 – 20 กันยายน 2563 ณ ศูนย์ควบคุมการเดินรถ และโรงซ่อมบำรุงบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด:Cr;มณสิการ รามจันทร์

“ดีป้า” เนรมิตงาน “Thailand Smart City Week 2020” หนุนประชาชนสัมผัสเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เปิดงาน Thailand Smart City Week 2020 มหกรรมแสดงเทคโนโลยีด้านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในรูปแบบ Real Digital Event ครั้งแรกของประเทศไทยที่มาพร้อมแนวคิด REAL Solutions for REAL People in the REAL Smart Cities เพื่อผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะระดับโลก พร้อมสานต่อการพัฒนาเครือข่ายเมืองอัจฉริยะ ทั้งภายในประเทศและระดับสากล ก่อนรับมอบ UK Thailand Smart City Handbook จาก เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย เพื่อเพิ่มโอกาสและสานต่อความร่วมมือด้านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะระหว่างทั้งสองประเทศ ด้านผู้เข้าร่วมงานจะได้สัมผัสประสบการณ์เกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในมิติต่าง ๆ และตื่นตาตื่นใจไปกับสาระความรู้ รวมถึงกิจกรรม 4 โซนหลักตลอดระยะเวลาของการจัดงาน ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 22 ตุลาคมนี้นายธีรนันท์ ศรีหงส์ ประธานกรรมการกำกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เป็นประธานเปิดงาน Thailand Smart City Week 2020 มหกรรมแสดงเทคโนโลยีด้านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในรูปแบบ Real Digital Event ครั้งแรกของประเทศไทยที่มาพร้อมแนวคิด REAL Solutions for REAL People in the REAL Smart Cities จัดโดย สำนักงานเมืองอัจฉริยะประเทศไทย ดีป้า ภายใต้สังกัด กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)
โดย นายธีรนันท์ เปิดเผยว่า งาน Thailand Smart City Week 2020 มีวัตถุประสงค์ที่จะผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะระดับโลก พร้อมสานต่อการพัฒนาเครือข่ายเมืองอัจฉริยะ ทั้งภายในประเทศและระดับสากล อีกทั้งเป็นสะพานเชื่อมให้ประชาชนเข้าถึงและสัมผัสเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะได้ง่ายขึ้น เพื่อให้เกิดการต่อยอด และประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม ก่อนนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอย่างยั่งยืน“การพัฒนาเมืองอัจฉริยะถือเป็นหัวข้อหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ทั่วโลกให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งการขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะเกิดจากการทำงานร่วมกันระหว่างประชาชนเจ้าของพื้นที่ รัฐ และเอกชน เพื่อเป้าหมายเดียวกันคือ การเป็นเมืองน่าอยู่ ทันสมัย ตลอดจนส่งผลให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยที่ผ่านมา ดีป้า ได้ดำเนินนโยบายการพัฒนาเมืองอัจฉริยะให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ขณะเดียวกัน กระทรวงดิจิทัลฯ ได้วางโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพสูงให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อเป็นแนวทางสู่ประเทศไทย 4.0 ดังนั้นการพัฒนาเมืองอัจฉริยะจึงถือเป็นกลไกสำคัญของรัฐบาลที่จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำ และกระจายความเจริญสู่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ” ประธานกรรมการกำกับ ดีป้า กล่าวจากนั้น นายธีรนันท์ ได้ให้เกียรติมอบใบประกาศเขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ 13 พื้นที่ เพื่อเป็นการตอกย้ำความสำคัญและผลสำเร็จในการขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะประเทศไทย ตามที่ คณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ซึ่งมี
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน รวมถึง คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนและบริหารโครงการเมืองอัจฉริยะ ที่มี นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ เป็นประธาน ตั้งเป้าให้ประเทศไทยเกิดการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ 100 เมืองในประเทศไทย และมีเมืองอัจฉริยะที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก 3 เมือง ก่อนรับมอบ UK Thailand Smart City Handbook จาก H.E. Mr Brian Davidson เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทยโดย H.E. Mr Brian Davidson กล่าวว่า ด้วยสภาวะสังคมที่เปลี่ยนไป การหาโซลูชันเพื่อการพัฒนาเมืองจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยที่ผ่านมา อังกฤษมีความร่วมมือกับไทยในการพัฒนามิติต่าง ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนไทยมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น UK Thailand Smart City Handbook จึงเป็นส่วนช่วยสำคัญในการเพิ่มโอกาสและสานต่อความร่วมมือด้านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะระหว่างทั้งสองประเทศด้าน ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าวว่า ดีป้า โดย สำนักงานเมืองอัจฉริยะประเทศไทย เล็งเห็นถึงความสำคัญของการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ โดยเน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง จึงได้จัดงาน Thailand Smart City Week 2020 ในรูปแบบ Hybrid Event ขึ้นเป็นครั้งแรกของประเทศที่เปิดโอกาสให้ประชาชนได้สัมผัสและเข้าถึงวิถีชีวิตในเมืองอัจฉริยะผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ได้จากทั่วทุกภูมิภาค ตอบรับชีวิตวิถีใหม่ (นิวนอร์มอล)

“การจัดงานครั้งนี้เปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้าถึงและสัมผัสประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ก่อนต่อยอดสู่การประยุกต์ใช้ ควบคู่กับการแสดงให้ต่างชาติได้เห็นถึงความพร้อมของประเทศไทยที่จะก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และนำไปสู่การลงทุนในประเทศในที่สุด สอดคล้องกับคำว่า “เมืองอัจฉริยะ” หรือเมืองที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลที่ทันสมัยและชาญฉลาด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการและการบริหารจัดการเมือง ลดค่าใช้จ่ายและการใช้ทรัพยากรของเมืองและประชากรเป้าหมาย โดยเน้นการออกแบบที่ดี ภาคธุรกิจและภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาเมือง ภายใต้แนวคิดการพัฒนาเมืองน่าอยู่ เมืองทันสมัย ให้ประชาชนในเมืองมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุขอย่างยั่งยืน” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว

สำหรับไฮไลท์ในงาน Thailand Smart City Week 2020 ประกอบด้วย 4 โซนกิจกรรมหลัก ได้แก่
1. Smart City PLAYs จุดจัดแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล เพื่อให้ประชาชนได้สัมผัสประสบการณ์การใช้งาน เพื่อแก้ปัญหาคนเมือง พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิต ไม่ว่าจะเป็น (1) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่นำนวัตกรรมมาสร้างสรรค์คุณค่าร่วมแก่ชุมชนและสังคม โดยชูแนวคิดการยกระดับคุณภาพชีวิตเคียงคู่ธุรกิจ เพื่อการใช้ชีวิตที่ดีและยั่งยืน ตอบสนองความเป็น Smart Energy, Smart Environment และ Smart Mobility (2) Flower Hub Space ปากคลองตลาด ซึ่งประชาชนจะได้เรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนผ่าน AR Experience (3) Creator Space (NEXT) ชั้น 6 ทรู ดิจิทัล พาร์ค สัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ในพื้นที่แห่งการบ่มเพาะนวัตกรสู่การเป็นผู้ประกอบการดิจิทัลสตาร์ทอัพ
2. Smart City LEARNs กิจกรรมแบ่งปัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และองค์ความรู้ด้านการพัฒนาเมืองด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลจากผู้เชี่ยวชาญรวม 24 เซสชัน ผ่านการสัมมนาในรูปแบบออนไลน์ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลาต่อยอดการเรียนรู้อย่างไม่รู้จบ (Lifelong Learning)
3. Smart City HACKs กิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ประชาชนร่วมค้นหาแนวทางและโซลูชัน เพื่อแก้ไขปัญหาของ
ประเทศผ่านการทำเวิร์คชอป โดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์และองค์ความรู้จากหลากหลายสาขาที่มาร่วมให้ข้อเสนอแนะและคำแนะนำ เพื่อให้เกิด 12 โซลูชันที่สามารถนำไปใช้แก้ไขปัญหาของประชาชนได้อย่างตรงจุด และสามารถต่อยอดเชิงพาณิชย์ต่อไป
4. Smart City MEETs การจัดแสดงนิทรรศการจากผู้ประกอบการกว่า 50 รายเกี่ยวข้องกับการพัฒนาเมืองผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่คนไทยจะได้สัมผัสกับเทคโนโลยีด้านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะครั้งแรกจากทั่วทุกภูมิภาค พร้อมสร้างโอกาสในการเจรจาจับคู่ธุรกิจผ่านระบบสนทนาแบบเรียลไทม์

งาน Thailand Smart City Week 2020 เปิดให้ผู้สนใจเข้าชมงานโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตั้งแต่วันนี้ – 22 ตุลาคม 2563 ผ่านเว็บไซต์ scw.smartcitythailand.or.th โดยติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.smartcitythailand.or.th และ Facebook.com/smartcitythailand หรือสอบถามที่ ฝ่ายส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ ดีป้า โทรศัพท์ 0 2026 2333 ส่วนผู้ที่มีโครงการหรือมีแผนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ทั้งภาครัฐและเอกชน และต้องการสมัครเป็นส่วนหนึ่งของเขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะสามารถลงทะเบียนรับคำปรึกษาได้ที่ https://bit.ly/36slCyL….;Cr;มณสิการ รามจันทร์

แนะรัฐเร่งสร้าง “แพลตฟอร์ม OTT” รับศก.ยุคดิจิทัล

0

http://www.natethip.com/news.php?id=3164
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

“ศุภาพิชญ์-ภาวินี” คว้าแชมป์หญิงคู่ เทนนิส “เจ5 นนทบุรี”

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // สองสาวนักหวด “ศุภาพิชญ์ เกือรัมย์ – ภาวินี ร่วมรักษ์” ผนึกกำลังคว้าแชมป์หญิงคู่ไปครอง การแข่งขันเทนนิสเยาวชนนานาชาติ รายการ “เจ5 นนทบุรี” (ไอทีเอฟ เวิลด์ เทนนิส ทัวร์) เก็บคะแนนสะสมเยาวชนโลก ของสหพันธ์เทนนิสนานาชาติ (ITF) ที่ ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2563 ผลทั้งหมดมีดังนี้
รอบชิงชนะเลิศ ประเภทหญิงคู่ ศุภาพิชญ์ เกือรัมย์ คู่กับ ภาวินี ร่วมรักษ์ คว้าแชมป์ไปครอง หลังหวดชนะ ตปณีย์ บุญวัฒน์ คู่กับ วิจิตราภรณ์ วิมุกตานนท์ ไปด้วยสกอร์ 6-1, 6-2 และประเภทชายคู่ ศิวณัฎฐ์ อุ้ยตยะกุล คู่กับ กันตินันท์ สูตินันท์โอภาส คว้าแชมป์ไปครอง หลังหวดชนะ ศุภวัฒน์ แซ่อุ้ย คู่กับ แม็กซิมัส ภราพล โจนส์ ไปด้วยสกอร์ 2-6, 6-4, 10-4 (ซุปเปอร์ไทเบรก)

มอบรางวัล.…นายธานี แสนยาอุโฆษ กรรมการบริหาร ฝ่ายพัฒนาเยาวชน สมาคมกีฬาเทนนิสฯ เป็นประธานมอบถ้วยรางวัลให้กับนักกีฬาที่ชนะเลิศ และรองชนะเลิศ ประเภทหญิงคู่และชายคู่ เทนนิสเยาวชนนานาชาติ รายการ “เจ5 นนทบุรี” (ไอทีเอฟ เวิลด์ เทนนิส ทัวร์) ที่ ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม

สำหรับรอบรองชนะเลิศ มือวาง 1 ของรายการ พิมพ์รดา จัตวาพรวนิช ชนะ มือวาง 4 สลักทิพย์ อุ่นเมือง 7-5, 6-2 พิมพ์รดา เข้ารอบชิงชนะเลิศ โดยจะพบกับ มือวาง 2 ลัลนา ธาราฤดี ที่ชนะ มือวาง 3 พัณณิน โควาพิทักษ์เทศ 6-3,7-6 (10) / ประเภทชายเดี่ยว มือวาง 1 ของรายการ ธนภัทร นิรันดร หวดชนะ มือวาง 3 แทนตะวัน ทัดเดโอ มายอลิ แม็คจิโอลิ 6-3, 7-6 (5) ธนภัทร เข้ารอบชิงชนะเลิศ โดยจะพบกับ มือวาง 2 กันตินันท์ สูตินันท์โอภาส ที่ชนะ มือวาง 4 ศุภวัฒน์ แซ่อุ้ย 6-3, 3-1 (ศุภวัฒน์ ขอยอมแพ้ เนื่องจากเจ็บข้อมือขวา)

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

บริษัทโพธิ์หยก สมุนไพรฯ บินลัดฟ้ามาเซ็นต่อสัญญา “บัวขาว บัญชาเมฆ” ร้านกาแฟน้องใหม่ ย่านหนองหอย เชียงใหม่

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // คุณภควัต เกาก่อสกุล ประธานบริษัท โพธิ์หยก สมุนไพร จำกัดได้เดินทางมาเซ็นต่อสัญญา กับ แบรนด์แอมบาสเดอร์ ประจำบริษัท “บัวขาว บัญชาเมฆ” แชมป์โลกมวยไทยที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันดีของชาวไทยและชาวต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีนที่ถือว่าเป็นกลุ่มลูกค้าสำคัญของบริษัท โพธิ์หยก สมุนไพร จำกัด ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ด้วยภาพลักษณ์นักมวยมืออาชีพของบัวขาวผสมผสานกับยาหม่องสมุนไพร ที่น้องชาวจีนนิยม สามารถสร้างภาพจำให้แก่ผู้บริโภคถึงแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์ได้อย่างชัดเจน เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จในการสร้าง Brand Awareness ได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้การเข้ามาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของบัวขาว ทำให้บริษัทฯ ได้มีโอกาสร่วมสนับสนุนผลงานและกิจกรรมเพื่อสังคมในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ ภาพยนตร์ เรื่อง “ทองดีฟันขาว”, MuayThai Training Camp, Buakaw Country Marathon ครั้งที่ 4 เป็นต้น ด้วยความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อกันเสมอมาร่วมถึงความผูกพันระหว่าง “บัวขาว” กับ “โพธิ์หยก สมุนไพร” บริษัทฯ จึงคิดว่าการต่อสัญญาให้ “บัวขาว บัญชาเมฆ” เป็น
แบรนด์แอมบาสเดอร์ต่อไปนั้นจะช่วยให้สร้างความแข็งแกร่งและสร้างการรับรู้ให้แก่ผู้บริโภคอย่างชัดเจนถึงความเป็นผลิตภัณฑ์จากบริษัท โพธิ์หยก สมุนไพร จำกัดได้อย่างแน่นอน

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

เอ.พี.ฮอนด้า ส่ง “ปิยวัฒน์” ลุยศึกบีอาร์ไอซี ซูเปอร์สปอร์ต 600 แทน “มุกข์ลดา” สุดสัปดาห์นี้

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ทีมแข่งชั้นนำของไทย ปรับแผนส่งดาวรุ่งไฟแรง “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ หมายเลข 188 ลงสนามแทนที่ “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช ที่ร่างกายมีอาการบาดเจ็บ เตรียมจับคู่กับดาวบิดรุ่นพี่ “แชมป์” ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ หมายเลข 123 ลุยศึกสองล้อระดับประเทศ รายการโออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2020 รุ่นซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี SS1 สนามปิดฤดูกาล ที่ช้างฯ เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ สุดสัปดาห์นี้
ปิยวัฒน์ กล่าวว่า “ขอบคุณต้นสังกัดที่ให้โอกาสผม ได้มีส่วนร่วมในรายการใหญ่ครั้งนี้ จะตั้งใจทำผลงานอย่างสุดความสามารถ ตั้งเป้าเรียนรู้ประสบการณ์ให้มากที่สุด เพื่อต่อยอดไปสู่เวทีระดับทวีปอย่าง เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง ที่ตัวเองกำลังเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันในปีหน้า”
“ปัจจุบันถึงแม้ว่าผมจะลงแข่งในรุ่นเอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี แต่ก็มีความคุ้นเคยกับรถแข่ง Honda CBR600RR เป็นอย่างดี เพราะปี 2019 เคยสร้างประวัติศาสตร์ร่วมกับพี่มุกข์ คว้าแชมป์ศึกเอ็นดูรานซ์ระดับนานาชาติ รายการ ซูซูกะ 4 ชั่วโมง ที่ ญี่ปุ่น มาแล้ว อีกทั้งสนามนี้พี่มุกข์ก็มาช่วยแนะนำไลน์การขับขี่ให้อีกด้วย เชื่อว่ามีลุ้นทำผลงานได้ดีแน่นอน ฝากแฟนมอเตอร์สปอร์ตช่วยติดตามเชียร์ด้วยครับ” ดาวรุ่งนักบิดเจ้าของหมายเลข 188 กล่าว

สำหรับการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย รายการโออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2020 สนามที่ 4 และสนามสดท้ายฤดูกาล วันที่ 17-18 ตุลาคมนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทย สามารถส่งกำลังใจเชียร์สองนักบิด จาก เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ในรุ่นซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี SS1 ผ่านการรับชมการถ่ายทอดสด วันอาทิตย์ที่ 18 ต.ค.นี้ ทาง TRUE4U ช่อง 24 14.30-17.00 น. หรือ Online Live Streaming ทางเพจ BRIC Superbike และ Chang Circuit Buriram หรือทาง Youtube ช่อง BRIC Channel เวลา 08.00 น.พร้อมติดตามความเคลื่อนไหวของทีมแข่ง เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม fb.com/aphondaracingth

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“จุฑาธิป” ผงาดคว้าแชมป์ ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ ได้ครองถ้วยพระราชทาน สมัยที่ 2 ติดต่อกัน

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // การแข่งขันจักรยานทางไกลสตรีนานาชาติ “วีเมนส์ ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2020” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ New Normal เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม สเตจที่ 3 และเป็นสเตจสุดท้าย เส้นทางเริ่มจากศาลหลักเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี ไปเข้าเส้นชัยและจบการแข่งขันที่บริเวณหน้าวัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร อำเภอไชยา ระยะทาง 80.40 กม. ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข เป็นประธานการปล่อยตัวนักกีฬา พร้อมด้วย นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี, “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ร่วมในพิธี

ผลปรากฏว่า “ไก่” สิบตรีหญิง ศุภักษร นันตะนะ เปิดเกมเร็วพุ่งเข้าเส้นชัยก่อนเป็นคนแรก คว้าแชมป์ประจำสเตจที่ 3 ไปอย่างสวยงาม ตามมาด้วย “บีซ” ร้อยโทหญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์ และ “บีม” น.ส.ชนิภรณ์ บัตริยะ เข้าเป็นอันดับที่ 3 ด้วยเวลา 2.05.20 ชั่วโมงเท่ากัน ส่วนรางวัลชนะเลิศผู้นำเวลารวม จุฑาธิป ด้วยเวลา 6.51.24 ชั่วโมง ได้รับเสื้อชมพูเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน พร้อมได้ครองถ้วยพระราชทาน ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นับว่าเป็นการป้องกันแชมป์ได้อย่างสมศักดิ์ศรี
ส่วนรางวัลชนะเลิศคะแนนรวมเจ้าความเร็ว ศุภักษร มี 49 คะแนน ได้ครองเสื้อเขียว, รางวัลเจ้าความเร็ว (IS) ประจำจุดที่ 1 และ 2 “ลอร่า” น.ส.อภิญญา เทียงแก้ว จากทีมชาติไทย กวาดไปคนเดียวทั้ง 2 จุด พร้อมกับได้รับรางวัลนักบู๊ยอดเยี่ยมประจำสเตจที่ 3 ไปด้วย ขณะที่แชมป์ประจำสเตจที่ 3 รุ่นยู-23 น.ส.ชนิภรณ์ บัตริยะ ทีมไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง เวลา 2.05.20 ชั่วโมง พร้อมกันนี้ ชนิภรณ์ คว้ารางวัลชนะเลิศวลารวมรุ่นยู-23 ด้วยเวลา 6.51.35 ชั่วโมง ได้ครองเสื้อสีม่วง, ชนะเลิศประเภททีมเวลารวม ทีมไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง เวลา 20.35.36 ชั่วโมง

ดร.สาธิต กล่าวว่า แต่กว่าจะประสบความสำเร็จได้เช่นนี้ สมาคมกีฬาจักรยานฯ จะต้องประสานกับหลาย ๆ หน่วยงาน และเป็นไปตามขั้นตอนิ ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. อย่างเคร่งครัด เช่น การที่นักกีฬาต่างชาติเดินทางเข้ามาประเทศไทยต้องถูกกักตัวเป็นเวลา 14 วัน รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่พี่น้องประชาชนจังหวัดต่าง ๆ ที่เป็นเส้นทางผ่านของขบวนนักกีฬา หลังจากสมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ดำเนินมาตรการต่าง ๆ ตามขั้นตอนแล้ว กระทรวงการต่างประเทศก็ออกวีซ่าพิเศษให้กับนักกีฬาทีมจากต่างประเทศให้เดินทางเข้าได้
“หากมองในภาพรวม สมาคมกีฬาจักรยานฯ สอบผ่านตั้งแต่ก่อนจัดการแข่งขันจักรยานทางไกล ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ แล้ว เนื่องจากมีการจัดแข่งขันรายการชิงแชมป์ประเทศไทยมาหลายรายการ ผมมีโอกาสไปชมด้วยตัวเอง ก็เห็นว่าสมาคมกีฬาจักรยานฯ มีมาตรการสูงเกินกว่าที่ ศบค. และกระทรวงสาธารณสุข กำหนด ขอชื่นชม และขอบคุณ พลเอกเดชา เหมกระศรี ที่ต่อสู้จนนาทีสุดท้าย จนกระทั่งสามารถจัดการแข่งขันได้ นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก”

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขอขอบคุณ พลเอกเดชา เหมกระศรี และสมาคมกีฬาจักรยานฯ ที่เลือกจังหวัดของเราเป็นเส้นทางการแข่งขันจักรยานทางไกล “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์” ประเภทชาย 1 สเตจ และประเภทหญิงทั้ง 3 สเตจ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในจังหวัดให้ฟื้นฟู หลังจากซบเซามานานเพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่เป็นเส้นทางการแข่งขันให้แพร่ภาพไปสู่สายตาชาวไทยและชาวโลก โดยชมผ่านการถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กไลฟ์ และยูทูป ของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกท่านด้วยความยินดียิ่ง
พลเอกเดชา กล่าวว่า ภาพรวมของการแข่งขันรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก เมื่อวันก่อน มร.เฟดเดอริก ชาน หัวหน้าผู้ตัดสินชาวฮ่องกง ผู้แทนจากสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) เชิญคณะกรรมการบริหารสมาคมกีฬาจักรยานฯ และคณะกรรมการจัดการแข่งขันฯ เข้าไปพบ เพื่อฟังการประมวลผลการจัดการแข่งขันทั้งประเภททีมชาย และทีมหญิง ซึ่ง มร.เฟดเดอริก ชื่นชมว่าเป็นที่น่าอัศจรรย์มาก ในสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด แต่ประเทศไทยสามารถจัดการแข่งขันในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ New Normal ได้อย่างยอดเยี่ยม

สำหรับการแข่งขันรายการต่อไปคือ การแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานฯ สนามที่ 5 สนามสุดท้าย วันที่ 7-8 พฤศจิกายน ที่สนามเขาขยาย จังหวัดชัยนาท ผู้ที่สนใจสมัครเข้าแข่งขัน สมัครได้ที่เว็บไซต์ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ www.thaicycling.or.th เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 5 พฤศจิกายน ก่อนเวลา 12.00 น. (ไม่รับสมัครที่หน้างาน) หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ โทร.0-2719-3340-2

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์