วันอาทิตย์, กันยายน 8, 2024

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรก บล็อก หน้า 1772

สมาคมบอล-ไทยลีก ประชุมร่วมกับ ศบค. ชุดเล็ก ไฟเขียวไทยลีก พร้อมฟาดแข้งก.พ.นี้

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// ที่ ห้องประชุมตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา ตัวแทนจากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และ บริษัท ไทยลีก จำกัด นำโดย กรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เข้าประชุมร่วมกับคณะกรรมการเฉพาะกิจ พิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการ การป้องกัน และยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) โดยมี พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ เป็นประธาน และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วม
การประชุมดังกล่าว ตัวแทนจากไทยลีก ได้นำเสนอมาตรการแข่งขันแบบปิด ในรูปแบบเหย้า-เยือน โดยมีรายละเอียด 3 ส่วนสำคัญ ได้แก่ การแข่งขันแบบไม่มีผู้เข้าชม การเพิ่มมาตรการเดินทางข้ามจังหวัด และการตรวจเชื้อโควิด-19 เพื่อติดตามผลในระหว่างการแข่งขัน ซึ่งในที่ประชุมเห็นชอบให้ดำเนินการเริ่มแข่งขันได้อย่างเต็มรูปแบบ ต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยมีข้อจำกัดบางประการ สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (แดงเข้ม) ซึ่งจะมีการชี้แจงให้ทราบโดยทั่วกันในที่ประชุมสโมสรไทยลีก 1-2 วันศุกร์ที่ 22 มกราคมนี้
กรวีร์ ปริศนานันทกุล กล่าวว่า “ผมในฐานะตัวแทนของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และไทยลีก ขอขอบคุณ ศบค. รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่เห็นความสำคัญของฟุตบอลไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีผลต่อเศรษฐกิจระดับจังหวัด และร่วมกันผลักดันให้กลับมาแข่งขันได้อีกครั้ง โดยในวันศุกร์นี้ ไทยลีกจะมีการประชุมกับสโมสรไทยลีก 1-2 เพื่อแจ้งรายละเอียด เกี่ยวกับมาตรการแข่งขันแบบปิด”
“ ทาง ศบค. ได้ฝากข้อคิดเห็น ให้สโมสร นักกีฬา และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ต้องให้ความร่วมมือการปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีต่อสาธารณชน รวมถึงกีฬาประเภทอื่นๆ และป้องกันไม่ให้เป็นแหล่งแพร่กระจาย ของเชื้อไวรัสโควิด-19 ดังนั้น ขอให้ทุกๆ คน ร่วมมือร่วมใจกันอย่างเต็มที่ เพื่อให้ฟุตบอลไทยฝ่าวิกฤติในครั้งนี้ไปพร้อมๆกันได้ ”

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

เพาะกาย คลอดแผนปี 64 เน้นซีเกมส์ พร้อมนำจิตวิทยากีฬา เข้าเสริมทัพ

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เผยว่า โปรแกรมการดำเนินงานของสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย ปี 2564 เน้นไปที่ การเก็บตัวนักกีฬา ชุด ซีเกมส์ ที่ เวียดนาม ปลายปีนี้ ซึ่งเพาะกายมีชิงชัย 10 เหรียญทอง ได้รายชื่อนักกีฬาทั้งหมด 15 คน เป็นตัวจริงและสำรองรวมกัน วันที่ 29 มกราคมนี้ จะนำเสนอไปที่การกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อจะนำแผนมาปฎิบัติให้สอดคล้องกับกกท. เริ่มเก็บตัวนักกีฬา เดือนกุมภาพันธ์ โดยการเก็บตัวครั้งนี้ เราจะมีการบันทึกข้อตกลง และนำวิทยาศาสตร์การกีฬาที่เขียนแบบเรื่องจิตวิทยากีฬา โดยม.บูรพา มาใช้ควบคู่กับการฝึกซ้อมของนักกีฬาชุดซีเกมส์ แบบเต็มรูปแบบ และจะนำแบบแผนนี้มาใช้กับนักกีฬารายการอื่นๆอีกด้วย

นอกจากซีเกมส์แล้ว ปีนี้lสมาคมฯจะมี การจัดการแข่งขัน ไทยแลนด์ มัสเซิล แอนด์ ฟิสิค แชมเปี้ยนชิพ 2021 ระหว่างวันที่ 12-13 มิ.ย.64 ที่ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี, เพาะกายและฟิสิคสปอร์ต แชมเปี้ยนชิพ ไทยแลนด์ อีสาน คลาสสิค 2021 ระหว่างวันที่ 14-15 ส.ค. 64 ที่ จ.ขอนแก่น, ไทยแลนด์โอเพ่นมาสเตอร์เกมส์ ครั้งที่ 2 เดือนกันยายน 2564, ไทยแลนด์อินเตอร์เนชั่นแนล อิลิท ฟิสิค แชมเปี้ยนชิพ 2021 ระหว่างวันที่ 16-17 ต.ค. ที่จ. พังงา, หนุ่มกายงามสาวกล้ามสวย ระหว่างวันที่ 18-19 ธ.ค. 64 รอกำหนดสถานที่
กิจกรรมการจัดอบรม ประกอบด้วย อบรมผู้ฝึกสอนกีฬาเพาะกายระดับชาติ ครั้งที่ 7 ที่ โรงแรมอเล็กซานเดอร์ 17-19 ก.พ. โครงการเพาะกายทุกวัยสดใสทุกวัน ม.นเรศวร จ.พิษณุโลก วันที่ 18-19 มี.ค. อบรมผู้ตัดสินเพาะกาย ประจำปี 2564 ที่ โรงแรมอเล็กซานเดอร์, การแข่งขันเพาะกายชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 41 มิสเตอร์ไทยแลนด์ วันที่ 9-11 เม.ย. อบรมผู้ฝึกสอนกีฬาเพาะกายระดับนานาชาติ ครั้งที่ 3 ที่ โรงแรมอเล็กซานเดอร์ วันที่ 12-14 พ.ค. 64
ส่วนรายการที่สหพันธ์เพาะกายและฟิตเนสโลก กำหนด มี 3 รายการ ประกอบด้วย เพาะกายและฟิสิค สปอร์ต แชมป์เปี้ยนชิพส์ ดับเบิลยูบีพีเอฟ ลาว อินเตอร์เนชั่นเนล 2021 วันที่ 23-28 มิ.ย. ที่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว,เพาะกายและฟิสิคสปอร์ต ชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 54 วันที่ 31 ส.ค. 64 ที่ มัลดีฟส์ และเพาะกายและฟิสิค สปอร์ต ชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 12 เดือนพฤจิกายน 2564 ที่ อุซเบกิสถาน ซึ่งทั้ง 3 รายการนี้สหพันธ์ต้องรอดูสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ก่อน ว่าสามารถจัดได้หรือไม่ ถ้าจัดไม่ได้ก็คงต้องเลื่อนต่อไปอีก แต่รายการชิงแชมป์โลกอาจจะมีการเสนอการเป็นเจ้าภาพ จัดการแข่งขันใหม่ ซึ่งสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย อาจจะเสนอการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันแทน ประเทศอุซเบกิสถาน แต่เราก็ต้องดูเรื่องมาตรการการเฝ้าระวังโรคโควิด-19 ด้วย

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“สองล้อ” หารือ “ศบค.” ขออนุมัติ จัดแข่งขัน เยียวยาช่วยเหลือนักกีฬา-บุคลากร “เสธ.หมึก” ชี้กระตุ้นเศรษฐกิจ

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย เผยว่า จากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้แพร่ระบาดระลอกใหม่ในไทย รัฐบาลต้องประกาศให้บางจังหวัดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด 28 จังหวัด รวมทั้งพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดอีก 5 จังหวัด ซึ่งจังหวัดที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ จะไปจัดการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี 2564 ส่งผลให้ต้องเลื่อนการแข่งขันตามโปรแกรมเดิมออกไปหลายรายการ
อย่างไรก็ตาม สมาคมกีฬาจักรยานฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ ล่าสุด สมาคมฯจัดทำคู่มือเตรียมจัดการแข่งขันภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อนำเสนอให้ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ชุดเล็ก พิจารณาอนุมัติให้มีการจัดการแข่งขัน เมื่อปี 2563 สมาคมกีจักรยานฯจัดการแข่งขันแบบ New Normal คือแข่งขัน “แบบปิด” ไม่อนุญาตให้มีผู้ชมเข้าสนาม พร้อมวางมาตรการต่าง ๆ อย่างเข้มงวด จนได้รับการชื่นชมจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะ ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ได้ยกย่องว่าสมาคมกีฬาจักรยานฯ จัดการแข่งขันสูงกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ และเป็นสมาคมต้นแบบให้แก่สมาคมอื่น ๆ นำมาตรการนี้ไปปรับใช้ให้เข้ากับกีฬาชนิดนั้น ๆ

“เสธ.หมึก” กล่าวว่า หาก ศบค. พิจารณาอนุมัติให้สมาคมกีฬาจักรยานฯ จัดการแข่งขัน ประเดิมแข่งขันจักรยานประเภทลู่ ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน “ควีนส์สิริกิติส์” ประจำปี 2564 สนามที่ 1 ระหว่างวันที่ 12-14 กุมภาพันธ์ โดยสมาคมฯ จะจัดการแข่งขัน “แบบปิด” ไม่อนุญาตให้ประชาชนเข้าชม แต่จะให้ชมการแข่งขันผ่านการถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กไลฟ์ Thaicycling Association รวมทั้งการจำกัดจำนวนนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ตามอัตราส่วน โดยนักกีฬา 3 คน จะอนุญาตให้มีเจ้าหน้าที่ประจำทีมได้ 1 คน ซึ่งนักกีฬากับเจ้าหน้าที่ต้องลงทะเบียนล่วงหน้าทางออนไลน์ และจะต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีการ Rapid test ภายใน 72 ชั่วโมง ก่อนเดินทางมาแข่งขัน

พลเอกเดชา กล่าวเพิ่มเติมว่า สมาคมกีฬาจักรยานฯ กำหนดจัดการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2021” ระหว่างวันที่ 1-10 เมษายน เส้นทางในจังหวัดสงขลา-พัทลุง-ตรัง-สตูล-ปัตตานี และการแข่งขันจักรยานประเภทลู่นานาชาติรายการ “แทร็ค เอเชีย คัพ 2021” ระหว่างวันที่ 25-29 สิงหาคม ที่เวลโลโดรม สนามกีฬาแห่งที่ 2 โรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งทั้ง 2 รายการ ได้รับการบรรจุลงในปฏิทินประจำปี 2021 ของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยสมาคมกีฬาจักรยานฯจัดทำคู่มือจัดการแข่งขันเพื่อกำหนดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อนำเสนอให้ ศบค. พิจารณาอนุมัติเช่นเดียวกัน โดยมีมาตรการสำคัญคือการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ในโรงแรมสถานที่กักตัวทางเลือก หรือ ASQ รวมทั้งการทำประกันโควิด-19 ในวงเงินคนละ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3,000,000 บาท

“การจัดการแข่งขันจักรยานทั้งรายการชิงแชมป์ประเทศไทย และการแข่งขันในระดับนานาชาติ นอกจากจะเป็นการเยียวยาช่วยเหลือนักกีฬา เจ้าหน้าที่ บุคลากรให้มีรายได้แล้ว ยังเป็นการช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของจังหวัดต่าง ๆ ทำให้พ่อค้าแม่ค้าระดับรากหญ้ามีรายได้เพิ่มมากขึ้น โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร มีคนไปใช้บริการกันเนืองแน่น อีกทั้งเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ เนื่องจากากรแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ มีการถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กไลฟ์ของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เผยแพร่ออกไปทั่วโลก ชาวต่างชาติเห็นสถานที่ท่องเที่ยวอันสวยงามของแต่ละจังหวัด ที่เป็นเส้นทางผ่าน อยากมาท่องเที่ยวเมืองไทย และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ชาติต่าง ๆ ทั่วโลกได้เห็นว่าไทยมีมาตรฐานด้านสาธารณสุข และการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ยอดเยี่ยมเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก”

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

แม็คยีนส์ จับมือพันธมิตรระดับโลก ลุยพรีเมียร์ลีกอังกฤษ รุดก้าวโกอินเตอร์!

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม็คยีนส์ จับมือพันธมิตรระดับโลก ลุยพรีเมียร์ลีกอังกฤษ รุดก้าวโกอินเตอร์!
ครั้งแรกที่แบรนด์แฟชั่นไทยอย่างแม็คยีนส์จับมือกับอินเตอร์เนชั่นแนลพาร์ทเนอร์ (International Partner) ลุยพรีเมียร์ลีกอังกฤษ สร้างสรรค์แคมเปญการตลาดร่วมกัน ในชื่อ Legend on Legend กับคอนเซปต์ “Mc Jeans, Everyday is a match day เพราะทุกวันคือการแข่งขัน” ในครั้งนี้เราจะได้เห็นโลโก้แบรนด์แม็คยีนส์ปรากฏในเกมส์การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกของบรรดาทีมชั้นนำของลีก รวมทั้งการได้ตำนานนักฟุตบอลระดับโลกอย่างไมเคิล โอเว่น และดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ มาร่วมในแคมเปญด้วย
นางชนัญญารักษ์ เพ็ชร์รัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด(มหาชน) หรือ “Mc” องค์กรธุรกิจค้าปลีก ประเภทสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ กล่าวว่า “พรีเมียร์ลีกอังกฤษ เป็นลีกฟุตบอลยอดนิยมที่สุดในประเทศไทยและเป็นลีกฟุตบอลที่มีมูลค่าสูงสุดในโลก ซึ่งนับเป็นความร่วมมือระหว่างตำนานของวงการลูกหนังระดับโลก กับตำนานยีนส์ไทยอย่างแม็คยีนส์ ในครั้งนี้แม็คยีนส์จะได้ปรากฏโลโก้แบรนด์ในแมตช์การแข่งขันของทีมชั้นนำ เช่น แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ลิเวอร์พูล เชลซี อาร์เซนอล แมนเชสเตอร์ซิตี้ เป็นต้น โดยภาพโฆษณาของแบรนด์จะปรากฏที่ด้านข้างสนามแข่งขันซึ่งจะถ่ายทอดสดไปทั่วทวีปเอเชีย รวมทั้งสิ้น 10 แมตช์การแข่งขัน ตั้งแต่ 16 ม.ค. 64 เป็นต้นไปจนกระทั่งจบฤดูกาล รวมทั้งการได้ตำนานนักฟุตบอลระดับโลกอย่างไมเคิล โอเว่น และดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ มาร่วมเป็น Campaign Influencer พร้อมให้คนทั่วโลกได้เห็นตำนานแห่งวงการฟุตบอลของโลกสวมใส่เสื้อผ้าของแบรนด์ระดับตำนานของไทยอย่างแม็คยีนส์”
นอกจากนี้ แม็คยีนส์ยังได้ Exclusive Item เป็นลูกฟุตบอลและเสื้อบอลพร้อมลายเซ็นต์ของไมเคิลโอเว่น และดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ที่ส่งตรงจากประเทศอังกฤษมาทำกิจกรรมออนไลน์ ( Online Activity) เอาใจสาวกลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดรวมถึงแฟนฟุตบอลชาวไทยให้ได้ร่วมสนุกกัน
โดยครั้งนี้แม็คยีนส์ได้สร้างสรรค์เสื้อผ้าคอลเลคชั่นพิเศษเพื่อแคมเปญนี้โดยเฉพาะ ด้วยแรงบันดาลใจจากโลกฟุตบอลสู่โลกแฟชั่นผสานกับคอนเซปต์ที่ว่า “เพราะทุกวันคือการแข่งขัน” สร้างสรรค์ไอเท็มพิเศษทั้งฮู้ดดี้ สเวตเตอร์ เสื้อยืด หมวก ผ้าเช็ดหน้า ที่ดีไซน์ด้วยสีหลักคือแดง น้ำเงิน ขาว สื่อถึงอารมณ์ของการแบ่งสีตามทีมในเกมส์การแข่งขันต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีไอเท็มสุดเอ็กซ์คลูซีฟกับ Customize Jacket ที่สามารถสั่งปักตัวอักษรได้ตามที่ลูกค้าต้องการ ทั้งด้านหน้าที่เลือกปักเลขใดก็ได้และด้านหลังที่เลือกปักตัวอักษรได้สูงสุด 12 ตัวอักษร เสมือนว่าเราเป็นหนึ่งในนักแข่งที่มีชื่อบนเสื้อแข่งและมีเบอร์ประจำตัว โดย Customize Jacket นี้ ทำจากผ้ายีนส์ริมแดง 14.5 Oz. พร้อมปักโลโก้ Mc Jeans และโลโก้แคมเปญ Legend on Legend สีดาร์คโกลด์ที่ โดยเปิดให้สั่งซื้อผ่าน www.mcshop.com ได้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป
สามารถติดตามข่าวสารกิจกรรมและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.facebook.com/mcjeans :Cr;มณสิการ รามจันทร์

สมศักดิ์ รับเรื่องเยียวยาเด็กและสตรีผู้เสียหายในคดีอาญา

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // นายสมศักดิ์ รมว.ยุติธรรม พร้อมผู้บริหารกระทรวงยุติธรรมรับเรื่องขอรับการช่วยเหลือเยียวยา เด็กและสตรีผู้เสียหายในคดีอาญา จากมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี จำนวน 7 ราย

วันที่ 21 ม.ค.64 เวลา 13.30 น. ณ ห้องสนฉัตร 1-2 ชั้น 3 อาคารกระทรวงยุติธรรมแห่งใหม่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยธ.) พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยธ. นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ พร้อมด้วย นางทัศนีย์ เปาอินทร์ รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและสรีภาพ รับเรื่องร้องเรียนจาก นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้นำผู้เสียหาย จำนวน 7 ราย เพื่อขอรับความช่วยเหลือจากกระทรวงยุติธรรม

นางปวีณา กล่าวว่า สำหรับผู้เสียหายทั้ง 7 คน ประกอบด้วย 1.เด็กหญิงนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดนเพื่อน 5 คน กระทำชำเราในห้องเรียนคอมพิวเตอร์ เหตุเกิดในกรุงเทพฯ 2.กรณีพี่เลี้ยงเด็กโหดทำร้ายเด็กหญิง 2 พี่น้อง คนโตเจ็บ คนเล็กโคม่า เหตุเกิด จ.ปทุมธานี 3.สาวบริษัทเงินกู้ถูกอดีตสามี ควักปืนขู่ ก่อนลักพาตัวไปทำร้ายร่างกาย เหตุเกิดในกรุงเทพฯ 4.หญิงสาวถูกอดีตสามีทำร้ายใช้มีดคัตเตอร์กรีดที่แขนขา และใช้กรรไกรแทงที่หัว เย็บ 300 เข็ม เหตุเกิดใน จ.นนทบุรี 5.หญิวสาวถูกคัตเตอร์กรีดหน้าเหวอะ 91 เข็ม สามีโมโหเหตุถูกขอหย่า ในพื้นที่ จ.ชลบุรี 6.สาวถูกสามีหึงหวงทำร้ายร่างกาย และบังคับขายบริการ เหตุเกิด จ.นนทบุรี และ 7.น้องสาวร้องขอความเป็นธรรมให้พี่สาวที่เสียชีวิตผู้ตาย หลังถูกสามีติดยาทำร้ายร่างกายอาการโคม่า เหตุเกิดในกรุงเทพฯ โดยส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด

ด้าน นายสมศักดิ์ เผยว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวให้ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ตกเป็นผู้เสียหายในคดีอาญา โดยที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดต่อไป ทั้งนี้ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2559 ผู้เสียหายมีสิทธิขอรับเงินเยียวยา อาทิ กรณีบาดเจ็บ แบ่งเป็น ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการรักษาพยาบาลให้เท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 40,000 บาท , ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจให้จ่ายเท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 40,000 บาท , ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ตามอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของจังหวัด ตามวันที่ไม่สามารถประกอบการงานได้ตามปกติ , ค่าตอบแทนความเสียหายอื่นให้จ่ายเป็นเงินตามจำนวนที่ คณะกรรมการเห็นสมควรแต่ไม่เกิน 50,000 บาท 

“ส่วนกรณีเสียชีวิต จะได้ค่าตอบแทนกรณีถึงแก่ความตาย จำนวน 50,000 บาท , ค่าจัดการศพ 20,000 บาท และ ค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู 40,000 บาท ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะอนุกรรมการฯ  ประจำจังหวัดที่เกิดเหตุเป็นสำคัญ” นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ รมว.กระทรวงยุติธรรม และนางปวีณา ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้ไปทักทายพร้อมให้กำลังใจกับผู้เสียหาย ที่มาพบ นายสมศักดิ์และคณะผู้บริกหารกระทรวงยุติธรรมเพื่อขอความช่ใยเหลือที่ห้องรับรอง

Cr. :  นายทวีศักดิ์  ชิตทัพ ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

 

“แม็คยีนส์” เดินเครื่องลุยตลาดผู้หญิงเต็มที่

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “แม็คยีนส์” ปล่อยกางเกงยีนส์ McME รุ่น Save My Ass กางเกงยีนส์เพื่อผู้หญิงทุกหุ่นทุกวัยแบรนด์ยีนส์อันดับหนึ่งของไทย “แม็คยีนส์” ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านแฟชั่น โชว์ผลงานคอลเลคชั่นพิเศษ ที่ออกแบบมาเพื่อสรีระของผู้หญิงทุกคน ด้วยแพทเทิร์นที่เข้าใจผู้หญิงผสานนวัตกรรมแม็คยีนส์เผยโฉมกางเกงยีนส์ รุ่น Save My Ass มาพร้อมความโดดเด่นด้วยดีไซน์และฟังก์ชั่นครบครันสำหรับผู้หญิงทุกสรีระ ด้วย 3 คุณสมบัติพิเศษ ที่ช่วยยกกระชับรับสัดส่วน(Push Up),เก็บส่วนเกินทั้งด้านหน้าและด้านหลัง(Double Lock) และใส่สบายไม่อึดอัดด้วยนวัตกรรมเส้นใย Dual Core Yarn ช่วยคงรูปร่างกางเกงให้สวยงามเสมอ (Flexible) ให้สาวๆ ได้สนุกกับการแต่งตัวอย่างไม่รู้จบ ตอบโจทย์ทุกความต้องการของสาวๆ อย่างเข้าใจ เติมเต็มความมั่นใจให้กับผู้หญิงด้วยกางเกงยีนส์ McME คอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดรุ่น Save My Ass ที่ยังไงก็ “ใส่แล้วรอด”
คอลเลคชั่นนี้เรายังได้นักแสดงสาวสวยอย่าง จีน่า ญีนา ซาลาส และยูทูปเบอร์คนดังเจ้าของวลีฮิต “ว่าซั่น” หยาดพิรุณ ปู่หลุ่น ที่สร้างชื่อในโลกออนไลน์ด้วยการโคฟเวอร์เพลงว่างแล้วช่วยโทรกลับ มาเป็นพรีเซนเตอร์สวมใส่กางเกงยีนส์ McME รุ่น Save My Ass อวดหุ่นเป๊ะปังการันตีว่า “ใส่แล้วรอด” ให้ทุกคนได้ชมกัน
โดยนางชนัญญารักษ์ เพ็ชร์รัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ “MC” องค์กรธุรกิจค้าปลีก ประเภทสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ กล่าวว่า ลูกค้ากลุ่มผู้หญิง เป็นอีกหนึ่งกลุ่มเป้าหมายหลักที่บริษัทให้ความสำคัญ กำลังซื้อของลูกค้ากลุ่มผู้หญิงมีการเติบโตสูงต่อเนื่อง นอกจากการใส่ใจในความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มนี้ที่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามเทรนด์อยู่เสมอแล้ว เรายังเน้นการพัฒนาสินค้าเพื่อผู้หญิงที่ตอบโจทย์ความต้องการด้วยความเข้าใจ ผู้หญิงทุกคนมีความสวยงามในแบบที่แตกต่างกัน และสามารถดูดีในแบบของตัวเองได้ ผู้หญิงทุกคนอยากดูดีหรือเรียกง่ายๆว่าอยากแต่งตัวแล้วออกมา “รอด” ในทุกสถานการณ์ แม็คยีนส์เข้าใจความต้องการเรื่องนี้ จึงได้สร้างสรรค์ McME รุ่น Save My Ass ออกมาเพื่อเป็นคำตอบสำหรับผู้หญิงทุกคนให้ “ใส่แล้วรอด” ตอกย้ำการเป็นผู้นำแฟชั่นยีนส์ที่ไม่ได้โดดเด่นแค่ยีนส์ของผู้ชายเท่านั้น
แม็คยีนส์เผยโฉมกางเกงยีนส์ รุ่น Save My Ass ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์และฟังก์ชั่นที่ครบครันสำหรับผู้หญิงทุกสรีระ กับคุณสมบัติ “Push Up” ยกกระชับรับสัดส่วน เก็บสะโพกให้เข้ารูปสวย, “Double Lock” เก็บส่วนเกินทั้งด้านหน้าและด้านหลัง, “Flexible” ใส่สบายไม่อึดอัดด้วยนวัตกรรมเส้นใย Dual Core Yarn ที่ช่วยคงรูปร่างกางเกงให้สวยงามเสมอ พร้อมรายละเอียด Accessories สีคอปเปอร์ที่ให้ความสวยงามแบบพรีเมียม McME รุ่น Save My Ass มีให้เลือกทั้งทรงสลิมและทรงสกินนี่ กับ 4 เฉดสี ให้คุณสาวๆเลือกใส่ได้ตามสไตล์ พร้อมเติมเต็มความมั่นใจเมื่อสวมใส่ สามารถหยิบมามิกซ์แอนด์แมทช์ครีเอทลุคแฟชั่นนิสต้าได้ทุกโอกาส
ใส่แล้วรอดไปกับ McME รุ่น Save My Ass ได้แล้ววันนี้ที่ www.mcshop.com, Shopee และที่ร้านแม็คยีนส์ทุกสาขา และพบกับกิจกรรมสุดพิเศษ “ท้าลอง” ที่ให้คุณได้ลองกางเกง McME รุ่น Save My Ass พร้อมรับส่วนลดถึง 1,000 บาท ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/mcjeans:Cr;มณสิการ รามจันทร์

 

ซีพีเอฟ มุ่งมั่นสร้างความมั่นคงทางอาหาร ชูเศรษฐกิจหมุนเวียน ขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ตอกย้ำเป้าหมายสร้างความมั่นคงทางอาหาร และขับเคลื่อนองค์กรดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มุ่งมั่นเพิ่มสัดส่วนใช้พลังงานทดแทน ลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ลดปริมาณอาหารสูญเสียในกระบวนการผลิต (Food Loss) และขยะอาหาร (Food Waste) ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการจัดหาวัตถุดิบจากแหล่งที่ได้การรับรอง สู่กระบวนการผลิตที่ยั่งยืน
นายวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ซีพีเอฟ ในฐานะผู้นำธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารครบวงจร มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม สร้างความมั่นคงทางอาหารให้คนไทยและประชากรโลก โดยนำหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียนมาพัฒนาใช้ตลอดห่วงโซ่คุณค่า เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงตามกระแสโลก ความท้าทายในการดำเนินธุรกิจและความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสีย พร้อมมุ่งมั่นสนับสนุนเป้าหมายของเครือเจริญโภคภัณฑ์เป็นองค์กรปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ (Net – Zero Carbon) ในปี พ.ศ. 2593 (ค.ศ.2050)
ในปี 2564 บริษัทฯ มีแผนประกาศกลยุทธ์และเป้าหมายด้านความยั่งยืน ภายในปี พ.ศ.2573 (ค.ศ.2030) โดยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การจัดซื้อวัตถุดิบในห่วงโซ่การผลิต (Supply Chain) ที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ มุ่งเน้นกระบวนการผลิตอาหารยั่งยืน การลดปริมาณอาหารสูญเสียในกระบวนการผลิต และขยะอาหาร และการลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ในส่วนของนโยบายด้านการใช้พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) ยังคงดำเนินการตามนโยบายต่อเนื่องจากปี พ.ศ. 2563 โดยธุรกิจอาหารสัตว์ (Feed) ฟาร์มปศุสัตว์ (Farm) และ ธุรกิจอาหารสำเร็จรูป (Food) ปัจจุบันสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนคิดเป็น 26 % ของการใช้พลังงานทั้งหมดของซีพีเอฟ ซึ่งมาจากโครงการโซล่าร์ รูฟท็อป (Solar Rooftop) ติดตั้งบนหลังคาโรงงานและอาคารสำนักงาน 24 แห่ง และ โครงการโซล่าร์ ฟาร์ม (Solar Farm) แบบติดตั้งบนพื้นดินในฟาร์มสุกร 16 แห่ง ซึ่งจะขยายสู่ทุกฟาร์มสุกรของซีพีเอฟทั่วประเทศ
นโยบายลดการใช้พลาสติกยังเป็นเรื่องหลักที่ต้องดำเนินการตามนโยบายและแนวปฏิบัติด้านบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน โดยบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่นำมาใช้สำหรับกิจการในประเทศไทย จะต้องนำกลับมาใช้ซ้ำ (Reusable) หรือนำมาใช้ใหม่ (Recyclable) หรือนำไปผลิตเป็นสินค้าใหม่ได้ (Upcyclable) หรือย่อยสลายได้ (Compostable) 100 % ภายในปี พ.ศ. 2568 และสำหรับกิจการในต่างประเทศ ภายในปี พ.ศ. 2573 ขณะที่ปัจจุบันบรรจุภัณฑ์พลาสติกของบริษัทฯสามารถนำมาใช้ซ้ำและนำมาใช้ใหม่ได้ 99.99 %
ด้านกระบวนการผลิตอาหารอย่างยั่งยืน บริษัท ฯ ได้ประกาศนโยบายการจัดการอาหารสูญเสียและขยะอาหาร (Food Loss and Food Waste Policy) ในปีที่ผ่านมาให้ความสำคัญในการลดปริมาณการสูญเสียอาหารในกระบวนการผลิต และของเสียจากการเหลือทิ้ง โดยทำโครงการนำร่องในธุรกิจไก่เนื้อและไก่ไข่ เพื่อเป็นต้นแบบของการดำเนินงานให้กับกลุ่มธุรกิจอื่นๆ

นายวุฒิชัย ยังได้กล่าวถึง ภาพรวมการดำเนินงานด้านความยั่งยืน ในปี พ.ศ. 2563 บริษัทฯ ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อไปสู่เป้าหมายความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม 4 ด้านหลัก ได้แก่ ลดปริมาณการใช้พลังงานต่อหน่วยการผลิต 15 % เมื่อเทียบปีฐาน 2558 ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อหน่วยการผลิต 15 % เทียบปีฐาน 2558 ลดปริมาณการดึงน้ำมาใช้ต่อหน่วยการผลิต 25% เทียบปีฐาน 2558 มาจากการลดการนำน้ำมาใช้ของสายธุรกิจสัตว์น้ำ โดยใช้ระบบหมุนเวียนน้ำในฟาร์มกุ้ง และการลดปริมาณของเสียที่กำจัดโดยการฝังกลบต่อหน่วยการผลิต 30 % เทียบปีฐาน 2558

นอกจากนี้ บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการตรวจสอบย้อนกลับตลอดห่วงโซ่อุปทาน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าวัตถุดิบทางการเกษตร ไม่ได้มาจากแหล่งที่มีการบุกรุกป่า โดย 100 % ของคู่ค้าธุรกิจหลักในกลุ่มวัตถุดิบอาหารสัตว์ เครื่องปรุง และบรรจุภัณฑ์ได้รับการตรวจประเมินด้านความยั่งยืน พร้อมกันนี้ ซีพีเอฟส่งเสริมคู่ค้าธุรกิจปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานตามหลักสากลในด้านสิทธิมนุษยชน ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต ช่วยเกษตรกรและผู้ประกอบการรรายย่อย รวมถึงกลุ่มเปราะบางได้รับการส่งเสริมอาชีพและคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า 50,000 ราย เป็นต้น

“ทั้งนี้ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ซีพีเอฟ ยังคงให้ความสำคัญกับความมั่นคงทางอาหาร ด้วยการใช้มาตรการป้องกันความปลอดภัยสูงสุดกับพนักงาน แรงงานทั้งแรงงานไทยและแรงงานต่างชาติ คู่ค้าและในกระบวนการผลิต เพื่อให้การผลิตอาหารดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง สร้างความมั่นใจให้กับคนไทยและประชากรโลกได้เข้าถึงอาหารที่มีสุขโภชนาการและสุขภาวะที่ดีอย่างเพียงพอในทุกสถานการณ์ โดยสนับสนุนอาหารให้กับแพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลของรัฐที่มีผู้ป่วยโควิด ผู้กักตัว ฯลฯ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการหยุดการแพร่กระจายของโรค” นายวุฒิชัย กล่าว

ซีพีเอฟ กำหนดเป้าหมายดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์ความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างยั่งยืน 3 เสาหลัก คือ อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตน และดิน น้ำ ป่า คงอยู่ โดยมีการทบทวน ปรับปรุง และพัฒนาการดำเนินงานด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการเปิดเผยข้อมูลการดำเนินงานต่อสาธารณชน ผ่านการจัดทำรายงานความยั่งยืนประจำปี ซึ่งในปี 2563 จัดทำรายงานเป็นปีที่ 7 และในปีนี้ ซีพีเอฟยังคงเดินหน้าสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ :Cr;มณสิการ รามจันทร์

 

“ต๋อง” ตะลุยสมุทรสาคร มอบของจำเป็น พร้อมอาหารแก่ผู้เดือดร้อน

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// เดินสายทำบุญไม่หยุด “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” รัชพล ภู่โอบอ้อม อดีตนักแทงมือ 3 ของโลก ที่ได้ฉลองวันเกิดอายุครบ 51 ปี เมื่อวันที 17 ม.ค.ที่ผ่านมา ด้วยการทำบุญบริจาคสิ่งของและอาหารให้กับเด็กเยาวชนรวมไปถึงคนยากไร้หลายแสนบาท หลังได้รับความสนใจและเงินสนับสนุนจากเหล่าแฟนคลับในโครงการ “หยอดกระปุก” มาตั้งแต่ปีที่แล้ว
ล่าสุดได้ตัดสินใจลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร  ซึ่งเป็นจังหวัดในพื้นที่สีแดงที่พบจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด 19 เป็นจำนวนมาก ทำให้ประชาชนในจังหวัดได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากเนื่องจากเศรษฐกิจชุดชะงัก ส่งผลให้มีผู้ยากไร้และขาดแคลนในวงกว้าง

หลังจากสอบถามข้อมูล จากดาราหนุ่ม “อาร์ต” พศุตม์ บานแย้ม ที่ก่อนหน้านี้ได้บริจาคอาหารและสิ่งของให้กับประชาชนแล้วพบว่ายังมีผู้เดือดร้อนที่รอความช่วยเหลืออีกมาก อดีตนักสนุกเกอร์มือ 3ของโลก จึงตัดสินใจประสานงานไปยังดาราหนุ่ม และจับมือกันไปที่มูลมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร พ้งไล้ 21 ซึ่งเป็นศูนย์รับบริจาคจากคนทั่วไปที่มีความประสงค์จะเยียวยาพี่น้องชาวมหาชัยและผู้ที่ต้องกักตัว ณ สถานที่ที่หน่วยราชการจำกัดเอาไว้ ทำให้ออกมาหาปัจจัย4 โดยเฉพาะอาหารและวัตถุดิบเองไม่ได้ ทางมูลนิธิจึงรับเรื่องและดำเนินการเป็นอาสาสมัครให้
ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ “ต๋อง”ได้นำอาหารจำนวน 1300 กล่อง ร่วมกับดาราหนุ่ม อีก 500 เป็นจำนวน.1,800 แจกจ่ายให้กับพี่น้องชาวมหาชัย และมอบเครื่องจ่ายแอลกอฮอล์และเครื่องวัดอุณหภูมิ จำนวน 10 เครื่องให้กับโรงพยาบาลสมุทรสาครและกระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ

ต๋องกล่าวว่า “การตัดสินใจมาสมุทรสาครในครั้งนี้รู้สึกอิ่มใจมากเพราะได้ช่วยเหลือพี่น้องที่เดือดร้อนจริงๆ และขอเป็นกระบอกเสียงอีกทางว่า สมุทรสาครไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ทุกคนสามารถมาให้ความช่วยเหลือหรือบริจาคสิ่งของได้ โดนผ่านทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิที่ดูแลความปลอดภัยเป็นอย่างดี อยากเชิญชวนให้มาช่วยเหลือน้องชาวสมุทรสาครกันเยอะๆ หากใครไม่สะดวกมาเองก็สามารถส่งเป็นข้าวสาร อาหารแห้ง วัตถุดิบปรุงอาหารหรือจะบริจาคเป็นกำลังทรัพย์ ก็สามารถบริจาคกันได้ครับ”
ผู้ที่สนใจจะบริจาคสิ่งของหรือเงินเพื่อเยียวยาพี่น้องชาวสมุทรสาครสามารถบริจาคไปได้ที่ บัญชีมูลนิธิสมุทรสาคร บัญชีออมทรัพย์ของธนาคารทิสโก้ 0130-217-005027-8 หรือส่งสิ่งของไปที่0มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร 923/16 ถ.เอกชัย ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร 74000 โทร 034-411013

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

มว. ร่วมสกัดโควิดตรวจสอบความถูกต้องเครื่องวัดอุณหภูมิฟรี!

0

http://www.natethip.com/news.php?id=3565
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)