วันเสาร์, กรกฎาคม 27, 2024

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรก บล็อก หน้า 1772

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เปิดบ้านเจ๊า เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 2-2

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // การแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 2020 นัดที่ 16 ที่สนามธรรมศาสตร์ รังสิต เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 9 เปิดบ้านพบ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 8 เริ่มเกม น.5 ทีมเยือนกิเลนผยอง ได้โอกาสจบสกอร์ก่อนจากจังหวะที่ แดร์เลย์ พาบอลลากเลื้อยเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะหาจังหวะง้างยิงด้วยขวาเต็มข้อยัดเสาแรก แต่ทาง ไมเคิล ฟานเคสการ์ค ยังยืนปิดเสาไว้ดีปัดทิ้งออกไปได้
น.31 เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เกือบได้ประตูอีกครั้งจากจังหวะที่ พิชา อุทรา ได้โอกาสยิงบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลดันเฉียดเสาออกหลังไปนิดเดียว น.34 ทีมเยือนกิเลนผยอง น่าจะได้ประตูขึ้นนำเมื่อ วัฒนากรณ์ สวัสดิ์ละคร ตัดบอลจากแนวรับของทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด หลุดขึ้นมาทางฝั่งซ้ายจนสุดเส้นหลัง

ก่อนปาดเข้าหน้าเขตโทษ พิชา อุทรา วิ่งเข้ามาชาร์จจ่อๆ ทว่าบอลดันไปติดเซฟของ ไมเคิล ฟานเคสการ์ด ที่พุ่งมาปัดออกไปได้ น.37 โอกาสจะแจ้งครั้งแรกของเจ้าถิ่นแข้งเทพ และเกือบที่จะได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษทางฝั่งขวา วันเดอร์ หลุยส์ วิ่งเข้ามาเปิดบอลโค้งๆเข้าเขตโทษ ชนานันท์ ป้อมบุปผา จะเทคตัวขึ้นโขกคนเดียวโล่งๆ ทว่าทางด้านของ สมพร ยศ โชว์เซฟบินปัดออกหลังไว้ได้ทันควัน เวลาที่เหลือยังไม่มีใครทำอะไรกันได้ จบครึ่งแรกทั้งสองทีมเสมอกัน 0-0
นาทีที่ 55 ฮาจิเมะ โฮโซไก สกัดบอลไม่ดีบอลลอยโด่งมาหน้าปากประตู ซาร์ดอร์ มีร์ซาเยฟ ได้โอกาสขึ้นโหม่งโล่งๆ ส่งบอลผ่านมือของโกลเจ้าถิ่น เข้าประตูไป ช่วยให้ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ออกนำ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 1-0 น.60 ชนานันท์ ป้อมบุปผา ทำประตูให้ “แข้งเทพ” ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ตามตีเสมอ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 1-1 น.70 “แข้งเทพ” ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด พลิกขึ้นนำ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 2-1 จาก ปกเกล้า อนันต์ น.77 แดร์เลย์ ยิงให้ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ตีเสมอ “แข้งเทพ” ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 2-2 ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีทำอะไรกันไม่ได้เสมอกัน 2-2

 

r. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

แต้ว” ชิง “นุ่น” ปรัชญาดวล พลภูมิ แย่งแชมป์เทนนิส หัวหิน โอเพ่น 2020

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // การแข่งขันเทนนิสอาชีพ รายการ “หัวหิน โอเพ่น 2020 พรีเซนเต็ด บาย แคล-คอมพ์ แอนด์ ซีซีเอยู อินดัสเทรียล 4.0” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “หัวหินเมืองแห่งความสุข” ชิงเงินรางวัลรวม 500,000 บาท รอบมาสเตอร์ จัดภายใต้มาตรการคุมเข้มป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่จีเอสบี เซ็นเตอร์ คอร์ต ทรู อารีน่า หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2563 ประเภทหญิงเดี่ยว รอบรองชนะเลิศ “แต้ว” ทรรศพร นาคหล่อ นักหวดสาววัย 19 ปี จากกรุงเทพ ทีมชาติชุดเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 มือวางอันดับ 3 ของรายการ พบกับ “อีฟ” พัชรินทร์ ชีพชาญเดช นักหวดจาก “เมืองหมอแคน” ขอนแก่น วัย 26 ปี มือวางอันดับ 4 ของรายการ เจ้าของสองเหรียญทองแดงจากหญิงคู่และคู่ผสมศึกซีเกมส์ 2019

เซตแรกดวลกันสูสี พัชรินทร์ มีโอกาสก่อน เมื่อนำ 5-4 แต่เกมถัดมา ซึ่งเป็นฝ่ายเสิร์ฟ ไม่สามารถปิดเกมของตัวเองได้ พลาดท่าให้ ทรรศพร เบรกตีเสมอเป็น 5-5 จากนั้น ทรรศพร รักษาเกมเสิร์ฟ เก็บแต้มแซงนำ 6-5 และเบรกปิดเซต เอาชนะไป 7-5 ทรรศพร ยังเล่นดีต่อเนื่องในเซตสอง ทำให้ชนะอีกครั้ง 6-2 สรุป ทรรศพร ชนะ 2-0 เซต 7-5, 6-2 ใช้เวลาแข่งขัน 1.28 ชั่วโมง ทรรศพรเพิ่มสถิติยังไม่แพ้ใครในรายการนี้ 4 นัดรวด เข้าชิงชนะเลิศพบกับ “นุ่น” กมลวรรณ บัวแย้ม จากชลบุรี มือวางอันดับ 8 ของรายการ ทีมชาติชุดเฟดคัพ 2017 ที่ระเบิดฟอร์มเก่งเอาชนะ “แพตตี้” พิมพ์รดา จัตวาพรวนิช มือวางอันดับ 1 ของรายการ 2-0 เซต 6-2, 6-3 หลังใช้เวลาแข่งขัน 1.29 ชั่วโมง

ประเภทชายเดี่ยว รอบรองชนะเลิศ “สอง” ยุทธนา เจริญผล นักหวดลูกสักหลาดหนุ่ม วัย 20 ปี จากอ่างทอง มือวางอันดับ 1 ของรายการ พบ “ณัฐ” ปรัชญา อิสโร อดีตทีมชาติ วัย 25 ปี จากสงขลา มือวางอันดับ 2 ของรายการ โดยคู่นี้เป็นคู่ชิงชนะเลิศ รายการเก็บคะแนนสะสมรายการที่สอง ซึ่งยุทธนา เป็นฝ่ายชนะ 2-0 เซต และได้แชมป์ไปครอง มาถึงแมทช์นี้ ปรัชญา ที่มีสมาธิอยู่กับเกม และเล่นได้เฉียบขาด สามารถเอาชนะไปได้ 2-0 เซต 6-3, 6-4 ใช้เวลาในการแข่งขัน 1.40 ชั่วโมง ปรัชญาเข้าชิงชนะเลิศกับ “เน็ต” พลภูมิ โควาพิทักษ์เทศ ทีมชาติชุดเอเชี่ยนเกมส์ 2018 และชุดเดวิสคัพสองสมัย วัย 21 ปี จากฉะเชิงเทรา มือวางอันดับ 3 ของรายการ ที่ตัดเชือก “โอเว่น” ธนเพชร ฉันทะ นักเทนนิสเจ้าถิ่น วัย 21 ปี ทีมชาติชุดเดวิสคัพ 2020 มือวางอันดับ 5 ของรายการ 2-0 เซต 6-4, 6-3 หลังใช้เวลาแข่งขัน 1.34 ชั่วโมง

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

ฉลามชล เปิดตัว เอลิอันโดร กอนซากา ล่าตาข่าย เลก 2

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // สโมสร ชลบุรี เอฟซี เปิดตัว เอลิอันโดร กอนซากา หอกร่างยักษ์ชาว บราซิล จากสโมสร สุพรรณบุรี เอฟซี เข้ามาร่วมทัพอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง ในเลกที่ 2 พร้อมสวมเสื้อหมายเลข 90 ลงล่าตาขาย
คุณ ศศิศ สิงห์โตทอง ผู้จัดการทีม ชลบุรี เอฟซี กล่าวถึงการคว้าตัว เอลิอันโดร กอนซากา มาร่วมทีม ว่า “ เอลิอันโดร กอนซากา ก็จะเข้ามาเป็น 1 ในขุมกำลังสำคัญ ในเกมรุกของเรา สำหรับการแข่งขัน ศึก ไทยลีก 2020 เลกที่ 2 เชื่อมั่นว่าเขามีศักยภาพดีพอ ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มความแข็งแกร่ง และ ดุดัน ในเกมรุก ให้กับ ชลบุรี เอฟซี มากขึ้น น่าเสียดายที่นักเตะมีปัญหาเรื่องของเอกสาร ที่ไม่ลงตัวเล็กน้อย เลยทำให้เขาไม่สามารถลงเล่นให้กับทีม ได้ทัน ในกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ”
“อย่างไรก็ตาม ตัวนักเตะเอง มีสภาพร่างกายที่ฟิตสมบูรณ์ดี พร้อมที่จะลงเล่นให้กับเรา ในเกมนัดต่อไป ที่จะออกไปเยือน นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี และจะเดินทางเข้ามา ฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีม ตั้งแต่วันจันทร์หน้า เป็นต้นไป ขอฝากแฟนคลับ “ฉลามชล” ทุกๆคนนะครับ ช่วยเป็นกำลังใจ ให้กับ เอลิอันโดร กอนซากา และ นักเตะทุกๆคนด้วย เรายังคงมุ่งมั่นทำงานหนัก เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ในปีนี้ให้ได้”

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“Blockchain Thailand Genesis 2020 Exclusive Edition” เปิดโลกสินทรัพย์ดิจิทัล&อุตสาหกรรมบล็อกเชนยิ่งใหญ่สมการรอคอย

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย จัดงานมหกรรมบล็อกเชนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของไทย “Blockchain Thailand Genesis 2020 Exclusive Edition” เปิดโลกสินทรัพย์ดิจิทัลและอุตสาหกรรมบล็อกเชน (The World of Digital Asset and Blockchain Ecosystem) เมื่อวันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม 2563 ณ สามย่านมิตรทาวน์ โดยในปีนี้จัดขึ้นในรูปแบบ “รูปแบบออนไลน์เสมือนจริง” โดยมีผู้สนใจลงทะเบียนร่วมงานอย่างคับคั่งกว่า 3,000 คน
นายศุภกฤษฎ์ บุญสาตร์ นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย กล่าวว่า ถือเป็นภารกิจสำหรับของ สมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย ที่จัดขึ้นเพื่อขับเคลื่อนไทยสู่ยุคใหม่แห่งสินทรัพย์ดิจิทัลกับงานบล็อกเชนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของไทย กับงาน “Blockchain Thailand Genesis 2020 Exclusive Edition” มหกรรมงานบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล (The World of Digital Asset and Blockchain Ecosystem) ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 3 ในวันที่ 26 ธันวาคม 2563 ณ สามย่านมิตรทาวน์ และเนื่องด้วยสถานการณ์ที่ทั่วโลกต้องเจอกับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เราจึงจำเป็นต้องมีมาตราการพิเศษเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 นั้นคือ “รูปแบบออนไลน์เสมือนจริง” ซึ่งภายในงานประกอบด้วย เวทีให้ความรู้และกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการในหัวข้อต่างๆ ภายใต้ 4 หัวใจหลัก ได้แก่
• สกุลเงินดิจิทัลแห่งชาติ (Central Bank Digital Currency: CBDC)
เมื่อแต่ละประเทศตัดสินใจมีสกุลเงินบนโลกดิจิทัลเป็นของตัวเอง
• ระบบการเงินกระจายศูนย์ (Decentralized Finance: DeFi)
รู้จักกับโลกอนาคตที่จะไม่มีเงินสดอีกต่อไป ทั้งการระดมทุนรูปแบบใหม่ การลงทุนรูปแบบใหม่ และเศรษฐกิจรูปแบบใหม่
• สินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset)
โลกจะเปลี่ยนไปอย่างไรเมื่อการฝากถอนโอนจ่ายไม่จำต้องมีธนาคาร กระแสเงินและรูปแบบการลงทุนจะเปลี่ยนไปเช่นไร เมื่อเศรษฐกิจกำลังจะขับเคลื่อนไปด้วยสกุลเงินใหม่ๆ ที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน
• เทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้เพื่อการประกอบการ (Blockchain for Enterprise)
รู้จักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการจัดการข้อมูลสารพัดประโยชน์ที่สามารถให้คุณได้ทั้งความปลอดภัย (security) และความเป็นส่วนตัว (privacy) โดยที่ไม่ต้องเลือก
นายสัญชัย ปอปลี ประธานกรรมการผู้บริหาร บริษัท คริปโตมายด์ จำกัด และที่​ปรึกษา​สมาคม​สินทรัพย์​ดิจิทัล​ไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นใครมีข้อมูลเยอะน้อยแค่ไหน จะเป็นมือใหม่ โปรแกรมเมอร์ นักลงทุน หรือนักธุรกิจ คุณก็สามารถเข้าร่วมงานครั้งนี้ในแบบที่เหมาะกับคุณได้อย่างแน่นอน เพราะเราได้รับเกียรติจากกูรู ผู้รู้ ตัวจริงเสียงจริงในวงการบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล มาร่วมเป็นวิทยากรเพื่อถ่ายทอดข้อมูลดีๆ ที่เรียกได้ว่ามางานเดียว ได้ข้อมูลครบทุกมิติของบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลเลยทีเดียว อาทิ เช่น ดร.นภนวลพรรณ ภวสันต์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมเทคโนโลยีทางการเงิน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.), คุณสรานี สงวนเรือง, คุณโฉลก สัมพันธารักษ์, คุณปริญญ์ พานิชภักดิ์, คุณชัชวาลย์ วัฒนะโชติ, คุณอัครเดช เดี่ยวพานิช และคุณกวีวุฒิ เต็มภูวภัทร 

นอกจากนี้ ยังมีสิทธิพิเศษสำหรับผู้ลงทะเบียนล่วงหน้า ในการรับ e-book ให้กลับไปศึกษาเกี่ยวกับบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล ทั้งในส่วนที่เป็นสรุปงานและข่าวคราวในวงการปีนี้และส่วนที่เป็นการทำนายทิศทางตลาดในปี 2021 เพื่อตอกย้ำว่า ​สมาคม​สินทรัพย์​ดิจิทัล​ไทย พร้อมที่จะผลักดันวงการสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชนไปสู่อนาคต และเน้นย้ำในการเป็นเครือข่ายของกลุ่มผู้เผยแพร่องค์ความรู้ด้านบล็อกเชนที่ใหญ่ที่สุด และขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ยุคใหม่แห่งสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งผู้สนใจข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ เกี่ยวกับวงการบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล สามารถเข้าไปได้ที่ www.facebook.com/blockchainthailandevent นายศุภกฤษฎ์ กล่าวปิดท้าย นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลังและประธานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯร่วมเป็นวิทยากรรับเชิญ ให้ความรู้ด้วย Cr;มณสิการ รามจันทร์

สำนักข่าวเนตรทิพย์-ท้องกินข้าว สมองกินข่าว!

0

https://timeline.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1160894590810055072
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

คปภ.ร่วมกับภาคอุตฯ ประกันภัย รณรงค์ปลอดภัยทางถนนปีใหม่

0

http://www.natethip.com/news.php?id=3477
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

5 จี…พระเอกตัวจริง!

0

http://www.natethip.com/news.php?id=3476
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

ขนไก่ไทย หวังเข้ารอบลึกแบด 3 รายการใหญ่ TRUE 4U ถ่ายทอดสด แฟนกีฬาร่วมเชียร์

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันฯ หวังนักตบลูกขนไก่ไทยผ่านเข้ารอบลึก หรือเข้ารอบชิงชนะเลิศ ใน 2 รายการแรกระดับเวิลด์ ทัวร์ 1000 ไทยเป็นเจ้าภาพเดือนมกราคมปีหน้า เพื่อเก็บคะแนนกรุยทางเข้าสู่ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอล ขณะที่ฟรีทีวี TRUE 4U ถ่ายทอดสด ให้แฟนกีฬาทั่วประเทศ
ความเคลื่อนไหวการแข่งขันแบดมินตัน 3 รายการประวัติศาสตร์ ในประเทศไทย เริ่มที่ศึก โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 วันที่ 12-17 มกราคม 2564 ต่อด้วย โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 วันที่ 19-24 มกราคม 2564 และ เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2020 วันที่ 27 -31 มกราคม 2564 ที่อิมแพค อารีนา เมืองทองธานี

ล่าสุด คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก คนที่ 1 และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ เปิดให้สื่อมวลชนร่วมชมการฝึกซ้อมของนักกีฬาแบดมินตัน นำโดย กันตภณ หวังเจริญ ร่วมด้วย สิทธิคมน์ ธรรมศิลป์, โฆษิต เพขรประดับ, บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธ์, รวินดา ประจงใจ, จงกลพรรณ กิติธารากุล, เฌอย์นิชา สุดใจประภารัตน์, ชาสินี โกรีภาพ, เบญญาภา เอี่ยมสอาด, นันทกานต์ เอี่ยมสอาด, นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร ซึ่งอยู่ระหว่างการเตรียมพร้อม เพื่อเข้าแข่งขันครั้งประวัติศาสตร์ ที่สนามฝึกซ้อมแบดมินตัน สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ แขวงลุมพินี เมื่อวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา

คุณหญิงปัทมา กล่าวว่า “สำหรับความพร้อมนักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทย นับตั้งแต่สถานการณ์โควิด-19 เริ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปี จนมีการล็อคดาวน์ทั่วประเทศ จะเห็นได้ว่านักกีฬาไทยซ้อมอยู่ที่บ้าน เป็นการซ้อมเพื่อคงสภาพร่างกาย เสริมสร้างความแข็งแกร่ง ตลอดจนเป็นโอกาสรีเฟรชร่างกาย หลังจากที่ต้องตระเวนแข่งขันมาตลอดปี โดยการซ้อมที่ควบคุมผ่านระบบออนไลน์ แต่หลังจากพ้นการล็อคดาวน์ นักกีฬามีโอกาสซ้อมเต็มที่จนมาถึงปัจจุบัน ทุกคนมีสภาพร่างกายสมบูรณ์ ฟิตซ้อมมาอย่างดี ปราศจากอาการบาดเจ็บ และการซ้อมมีระยะเวลายาว ทำให้เป็นโอกาสดีการเสริมด้านเทคนิค และแก้ไขปัญหาเกมการเล่นที่แต่ละคน”
“จากรายชื่อนักกีฬาแบดมินตันที่สมัครมาแข่งขัน เป็นระดับท็อปของโลกทุกประเภทแทบทั้งสิ้น แต่สมาคมฯคาดหวังว่า จากการได้เล่นในบ้าน ถือเป็นการเพิ่มโอกาสของนักกีฬาไทย วางเป้าหมายว่าจะมีนักกีฬาไทยสามารถผ่านเข้าเล่นในรอบลึก ตลอดจนมีโอกาสถึงรอบชิงชนะเลิศใน 2 รายการแรก เป็นการเพิ่มโอกาสให้นักกีฬาไทยผ่านเข้าเล่นรายการสุดท้ายเวิลด์ทัวร์ไฟนอลต่อไป”

“สำหรับแฟนกีฬาๆ สามารถรับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันครั้งประวัติศาสตร์นี้ ทาง ทรูวิชั่นส์ สนามที่ 1 ผ่านทางช่อง Truesports HD3 ช่อง 668 และ Truesports 7 ช่อง 686 สนามที่ 2 ผ่านทางช่อง Truesports HD2 สนามละ 10 คู่ ทุกวัน และชมถ่ายทอดสดผ่านทางฟรีทีวี ช่อง TRUE 4U เพื่อชมและเชียร์นักกีฬาไทยได้อีกวันละ 2-3 ชั่วโมงทุกวัน และสามารถรับชมทางแพลตฟอร์มออนไลน์ของทรูวิชั่นส์ได้อีกหลายช่องทาง ทั้ง ทรูไอดี, อินสตราแกรม, เฟซบุ๊ค ร่วมส่งใจเชียร์นักกีฬาไทยไปพร้อมๆ กัน”
นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันฯ กล่าวต่อว่า “การแข่งขันแบดมินตันทั้ง 3 รายการดังกล่าว ถือเป็นรายการแบดมินตันเก็บคะแนนสะสมระดับสูงสุดของสหพันธ์แบดมินตันโลก ปกติใน 1 ปี จะมีรายการเก็บคะแนนสะสม ระดับเวิลด์ทัวร์ 1000 เพียงแค่ 3 รายการ และรายการเวิลด์ทัวร์ไฟนอล รายการที่เชิญนักแบดมินตันที่เก็บคะแนนสะสมรายการเวิลด์ทัวร์ ที่มีคะแนนสะสมดีที่สุด 8 อันดับแรก เข้าร่วมการแข่งขัน แต่ครั้งนี้ การจัดการแข่งขันในไทย เป็นรายการเก็บคะแนนสะสมระดับ 1000 ถึง 2 รายการ และรายการสุดท้ายเป็นเวิลด์ทัวร์ไฟนอล จะเห็นได้ว่า 3 รายการนี้ถือเป็นประวัติศาสตร์ของวงการแบดมินตันโลก ที่มาจัดที่ไทยทั้ง 3 รายการติดต่อกัน นักกีฬาเข้าแข่งขันจะต้องเป็นนักกีฬาที่มีคะแนนสะสมระดับโลกในระดับสูง เพราะการแข่งขันครั้งนี้จะไม่มีรอบคัดเลือก ยิ่งไปกว่านั้น 3 รายการในไทยครั้งนี้ เปรียบเสมือนการรีสตาร์ทการแข่งขันแบดมินตันอีกครั้ง หลังจากต้องหยุดการแข่งขันไปนาน”

“ในส่วนการเตรียมความพร้อม ในครั้งนี้รัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการจัดการแข่งขัน โดยมีสมาคมกีฬาแบดมินตันฯ เป็นอนุกรรมการจัดการแข่งขัน ซึ่งนับตั้งแต่ได้รับสิทธิ์การจัดการแข่งขันแบดมินตันประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ ได้มีการประชุมเพื่อเตรียมพร้อมและวางมาตรการการจัดการแข่งขันภายใต้สถานการณ์โควิด-19 โดยประชุมวางแผนมากว่า 4 เดือน ประชุมกันหลายภาคส่วน ตั้งแต่รัฐบาล โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงต่างประเทศ, กรมควบคุมโรค, ศบค, การกีฬาแห่งประเทศไทย, สหพันธ์แบดมินตันโลก และสมาคมกีฬาแบดมินตันฯ ถือได้ว่า ฝ่ายจัดการแข่งขันมีความพร้อมเต็มที่ที่จะจัดศึกแบดมินตันครั้งประวัติศาสตร์ในประเทศไทย”

“โดยมาตรการการจัดการแข่งขัน ได้มีการประชุมวางแผนการจัดการแข่งขันครั้งนี้ในรูปแบบบับเบิ้ล นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจะเข้าอยู่ในบับเบิ้ล ไม่มีการสัมผัสกับบุคคลภายนอกบับเบิ้ล เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าจะไม่มีการระบาดของโรคในบับเบิ้ล ซึ่งนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทุกคนที่จะเดินทางเข้ามาจะต้องมีใบรับรองการตรวจโรคโควิดภายใน 72 ชม. และเมื่อมาถึงทุกคนจะถูกนำขึ้นรถบัส โดยรถบัสจะเป็นรถประเทศละ 1 คัน ไปถึงโรงแรมที่พักและมีการตรวจโรคเมื่อถึงห้องพัก โดยที่ทุกคนจะต้องมีผลการตรวจเป็นลบ นอกจากนี้ จะมีการตรวจโควิด ทุกๆ 3 วัน”
“ด้านสนามฝึกซ้อมและห้องฟิตเนสจะถูกเนรมิตขึ้นมาใหม่ในคอนเวนชัน ฮอลล์ 5 ในเมืองทองธานี และสนามซ้อมแต่ละสนามจะมีผนังกั้น แต่ละประเทศจะซ้อมครั้งละ 45 นาที และทำความสะอาดทันที 15 นาที ก่อนที่ประเทศอื่นจะเข้ามาซ้อมต่อ”

“ในส่วนสนามแข่งขัน ปกติจะใช้ 4 สนาม แต่ในครั้งนี้จัดเพียง 3 สนาม เพื่อเว้นระยะห่างและเป็นการลดจำนวนเจ้าหน้าที่ที่จัดการแข่งขันด้วย ภายในสนามแข่งขันจะแบ่งโซน เพื่อลดการสัมผัส ในส่วนการสัมภาษณ์นักกีฬา หรือผู้ฝึกสอนในครั้งนี้ จะเป็นการสัมภาษณ์ผ่านระบบออนไลน์”
“สมาคมกีฬาแบดมินตันฯ มีความมั่นใจเต็มร้อยกับการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ ด้วยความร่วมมือจากรัฐบาลและอีกหลายหน่วยงานที่ให้ความร่วมมือ ประชุมวางแผนต่อเนื่องกันมาเป็นระยะเวลานาน การจัดการแข่งขันเป็นประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ เพื่อจะประกาศให้ทั้งโลกได้รับรู้ถึงศักยภาพของประเทศไทย ทั้งด้านการจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลก และระบบสาธารณสุขของไทย การป้องกันโรคระบาด”
“กัน” กันตภณ หวังเจริญ ชายเดี่ยวมือ 15 ของโลก เผยถึงความพร้อมแข่งครั้งนี้ว่า “ผมได้ซ้อมเต็มที่หลายเดือนที่ผ่านมา ไม่มีปัญหาการบาดเจ็บ และได้พี่แมน-บุญศักดิ์ พลสนะ มาเป็นโค้ช ทำให้ค่อนข้างมั่นใจ ส่วนความหวังกับ 3 รายการ พยายามดูก่อนว่าจะเจอกับใคร เล่นให้ดีที่สุดไปทีละรอบ ไม่ตั้งเป้าว่าจะต้องเข้าถึงรอบไหน จะพยายามทำผลงานให้ดีที่สุดทุกรอบ จนถึงสนามสุดท้าย ตอนนี้อยากลงแข่งมาก ที่ผ่านมาออกทัวร์แข่งตลอด พอห่างไป 8 เดือน ได้กลับมาแข่งรายการแรกจะทำให้ดีที่สุด และมั่นใจในมาตรการป้องกันโควิดที่เข้มงวด ต้องขอขอบคุณรัฐบาลที่ทำให้มีการแข่งขันครั้งนี้เกิดขึ้น ซึ่งจะเป็นต้นแบบให้เกิดทัวร์นาเมนต์อื่นๆ ต่อไป”

แฟนแบดมินตันสามารถชมการถ่ายทอดสดการประชันฝีมือของนักแบดมินตันระดับโลก ทางหลากหลายช่องทาง ทรูวิชั่นส์ ,ทรู ยูทูป, ทรู เฟซบุ๊ก และทรูไอดี ทรูวิชั่นส์ทุกคู่การแข่งขันผ่านทาง truesports HD3 ช่อง 668, truesports 7 ช่อง 686 และ truesports HD2 ช่อง 667 รวมเป็นการถ่ายทอดรายการ โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น 95 คู่, โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น 95 คู่ และ เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนัลส์ 75 คู่ และรับชมผ่านทางTrue4U เฉพาะคู่ที่นักกีฬาไทยแข่งขันทุกวัน รายการ โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น จะถ่ายทอดสดวันอังคารถึงพุธระหว่างเวลา 16.30–19.00 น. วันพฤหัสบดีถึงศุกร์ ระหว่างเวลา 14.30–18.00 น. วันเสาร์ ระหว่างเวลา 16.30–18.30 น. และวันอาทิตย์ ระหว่างเวลา 14.30 – 17.00 น., โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น จะถ่ายทอดสดวันอังคารถึงพุธระหว่างเวลา 16.30 – 20.00 น. วันพฤหัสบดีถึงศุกร์ ระหว่างเวลา 14.30–18.00 น. วันเสาร์ ระหว่างเวลา 16.30–20.00 น. และวันอาทิตย์ ระหว่างเวลา 16.30 – 19.00 น., เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนัลส์ จะถ่ายทอดสดวันพุธระหว่างเวลา 16.30 – 20.00 น. วันพฤหัสบดีถึงศุกร์ ระหว่างเวลา 14.30 – 18.00 น. วันเสาร์ ระหว่างเวลา 17.00 – 20.00 น. และวันอาทิตย์ ระหว่างเวลา 14.30 – 18.00 น.

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

ผลการสำรวจความคิดเห็น เรื่อง “ยืนหนึ่งแวดวงกีฬาไทยปี 63” สองล้อนำโด่ง

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // สืบเนื่องจากในรอบปี 2563 ที่ผ่านมาแวดวงกีฬาไทยต้องประสบกับปรากฎการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จนนำมาซึ่งส่งผลกระทบในหลากหลายมิติ แต่องค์กร สมาคม นักกีฬาตลอดจนผู้เกี่ยวข้องยังมีความมุ่งมั่นเดินหน้าขับเคลื่อน เพื่อประโยชน์สูงสุดของวงการกีฬาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน ตลอดจนการให้กำลังใจกับผู้ที่มีส่วนร่วมการสนับสนุน และสร้างชื่อเสียงให้กับวงการกีฬาไทยในรอบปี 2563 KBU SPORT POLL โดยศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต จึงสำรวจความคิดเห็นเรื่อง “ยืนหนึ่งแวดวงกีฬาไทยในปี 63”
สำหรับการสำรวจดังกล่าวดำเนินการผ่านระบบออนไลน์และภาคสนาม ระหว่างวันที่ 22-24 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ที่สนใจและติดตามข่าวสารทางการกีฬา ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปจำนวน 1,186 คน แบ่งเป็นชาย 703 คนคิดเป็นร้อยละ 59.27 หญิง 483 คน คิดเป็นร้อยละ 40.73 ซึ่งผลการวิเคราะห์ในประเด็นต่างๆโดยภาพรวมพบว่า

ผู้บริหารระดับสูงที่มีส่วนร่วมการส่งเสริมสนับสนุนการกีฬาของประเทศใหญ่ร้อยละ 20.01พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รองลงมาร้อยละ 18.83 พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี/ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ร้อยละ 17.03 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร้อยละ 14.44 คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ร้อยละ11.95 พล ตรี จารึก อารีราชการัณย์ รองประธาน/เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ ร้อยละ 10.69 ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ร้อยละ4.33 ดร.นิวัฒน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ อธิบดีกรมพลศึกษา และอื่นๆร้อยละ2.72
องค์กร/สมาคมที่ร่วมจัดกิจกรรมกีฬาฝ่าโควิด -19 ส่วนใหญ่ร้อยละ 22.63 สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ รองลงมาร้อยละ20.79 สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ร้อยละ 19.89 การกีฬาแห่งประเทศไทย ร้อยละ 17.24สมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทยฯร้อยละ 11.48 สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย และอื่นๆร้อยละ7.97
สมาคมกีฬาฯที่มีผลงานเข้าตาประชาชน ส่วนใหญ่ร้อยละ24.03 สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย รองลงมาร้อยละ 20.85 สมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย ร้อยละ 17.75 สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ร้อยละ15.01 สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ร้อยละ 12.81สมาคมกีฬาเทควันโด และอื่นๆร้อยละ9.55

ชนิดกีฬาและกิจกรรมการออกกำลังกายยอดนิยม ส่วนใหญ่ร้อยละ 26.77 เดิน/วิ่ง รองลงมาร้อยละ 22.09 ปั่นจักรยาน ร้อยละ20.47 ฟุตบอล ร้อยละ15.63 ว่ายน้ำ ร้อยละ11.05 แอโรบิก และอื่นๆร้อยละ 3.99
กีฬาอาชีพยอดนิยม ส่วนใหญ่ร้อยละ27.61 ฟุตบอล รองลงมาร้อยละ 22.48 มวยไทย/มวยสากล ร้อยละ18.01 วอลเลย์อล ร้อยละ 14.98 จักรยานยนต์/รถยนต์ ร้อยละ10.94 เซปักตะกร้อ และอื่นๆร้อยละ 5.98
นักกีฬาที่มีผลงานเข้าตาประชาชน ส่วนใหญ่ร้อยละ24.71 ธีราธร บุญมาทัน (ฟุตบออล) รองลงมาร้อยละ 22.05 ชนาธิป สรงกระสินธ์ (ฟุตบอล) ร้อยละ17.39 อาฒยา ฐิติกุล(กอล์ฟ) ร้อยละ14.77 อเล็กช์ อัลบอล อังศุสิงห์ (จักรยานยนต์) ร้อยละ11.43 เอรียา จุฑานุกาล (กอลฟ์) และอื่นๆร้อยละ 9.65
ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตในฐานะผู้ดำเนินการKBU SPORT POLL กล่าวเพิ่มเติมว่าจากผลการสำรวจดังกล่าวจะเห็นได้ว่าในรอบปี 2563 ถึงแม้สังคมไทยและแวดวงกีฬาจะประสบกับปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ก็ตาม จะเห็นได้ว่าผู้บริหารและผู้เกี่ยวข้องในแวดวงกีฬายังตระหนักและให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนกิจกรรมต่างๆอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากกรณีนี้สอดคล้องกับมุมมองของกลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถามที่เห็นว่าผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในวงการกีฬาไม่ว่าจะเป็นผู้บริหาร/บุคคลหรือองค์กร/สมาคมฯต่างเข้ามามีบทบาทในการส่งเสริมและสนับสนุนจึงทำให้กิจกรรมกีฬาเดินหน้าและฝ่าวิกฤติไปได้ในระดับหนึ่ง

ขณะเดียวกันถึงแม้ว่าสังคมจะเผชิญกับ การแพร่ระบาดของเชื้อโรคร้าย ก็ตามแต่ถ้ามองในมิติของความสำคัญและความสนใจการเล่นกีฬาหรือการออกกำลังกายกลุ่มตัวอย่าง ส่วนใหญ่ยังให้ความสำคัญและสนใจการเลือกชนิดหรือกิจกรรมกีฬายอดนิยมมาดำเนินการในชีวิตประจำวันอาทิ การเดิน/วิ่ง ฟุตบอล และปั่นจักรยานเป็นต้น
อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาถึงยืนหนึ่งที่เกี่ยวกับองค์กร/นักกีฬาที่มีผลงาน และสร้างชื่อพบว่ากลุ่มตัวอย่างสะท้อนให้เห็นว่าสมาคมฯ หรือนักกีฬารายใดที่มีผลงานและสร้างชื่อเสียงอย่างต่อเนื่อง มักจะเป็นที่ชื่นชมและได้รับการยกย่องจากสังคมและแฟนๆกีฬา ที่น่าสนใจจากผลงานซึ่งส่งผลให้กลุ่มตัวอย่างรับทราบอาจจะเป็นเพราะว่าปัจจุบันสื่อมวลชนเข้ามามีบทบาท และมีการรายงานการจัดกิจกรรมและผลการแข่งขันผ่านสื่อแขนงต่างๆอย่างแพร่หลาย ซึ่งจากประเด็นนี้คงจะสร้างขวัญกำลังใจให้กับองค์กร/สมาคม//บุคลากรและนักกีฬาได้ไม่มากก็น้อย
เหนือสิ่งอื่นใดในปี 2564ที่จะมาถึงในเร็ววันนี้ ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าสังคมและวงการกีฬาไทยตลอดจนวงการกีฬาโลกจะประสบกับวิกฤติโควิด-19อยู่อีกหรือไม่ แต่เพื่อการเตรียมการรองรับกับสถานการณ์ดังกล่าว
จึงใคร่ขอให้รัฐบาลตลอดจนองค์กร/สมาคม/บุคลากรที่เกี่ยวข้อง และนักกีฬาเตรียมการให้พร้อมอยู่อยู่ตลอดเวลาทั้งนี้เพื่อที่จะร่วมฝ่าวิกฤติไปด้วยกันและหากเป็นไปดังว่าก็จะส่งผลดีต่อสังคมและวงการกีฬาบ้านเรา

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์