วันอาทิตย์, กันยายน 8, 2024

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรก บล็อก หน้า 1773

หัวใจล้มเหลว ภาวะอันตราย เสียชีวิตได้แบบเฉียบพลัน!

0

http://www.natethip.com/news.php?id=3564
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

“สี จิ้นผิง” ผู้นำจีน แสดงความเชื่อมั่น โอลิมปิกฤดูหนาว 2022 สมบูรณ์แบบ

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//  คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ไอโอซีเมมเบอร์ และ บอร์ดบริหาร โอซีเอ เผย สี จิ้นผิง ผู้นำจีน ลงมาดูแลด้วยตนเอง พร้อมกับ แสดงความเชื่อมั่น จีน จะเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาโอลิมปิก และ พาราลิมปิก ฤดูหนาว ที่กรุงปักกิ่ง ในปี 2022 ได้อย่างสมบูรณ์แบบแน่นอน
คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) และ กรรมการบริหารสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ) กล่าวว่า สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีน ให้ความสำคัญ และลงมาดูแลด้วยตนเอง พร้อมกับ แสดงความเชื่อมั่น จีน จะเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาโอลิมปิก และ พาราลิมปิก ฤดูหนาว ที่กรุงปักกิ่ง ในปี 2022 ได้อย่างสมบูรณ์แบบแน่นอน
ผู้นำของจีน ได้กล่าวระหว่างการตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมในการจัดการแข่งขัน กีฬาโอลิมปิก และ พาราลิมปิก ฤดูหนาว ที่กรุงปักกิ่ง ในปี 2022 ว่า คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน CPC ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการเตรียมงานในครั้งนี้ และเสริมว่า ทั้งพรรคและประชาชนจีน ได้ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
ประธานาธิบดีจีน ระบุว่า การเตรียมการสำหรับปักกิ่ง 2022 ดำเนินไปด้วยดีและการฝึกซ้อมของนักกีฬาได้ผลลัพธ์ที่ดีเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้น เขายังแสดงความเชื่อมั่นว่าการแข่งขันครั้งนี้ จะประสบความสำเร็จ และจะช่วยส่งเสริม ให้ประชาชนจีนหันมาเล่นกีฬาฤดูหนาวมากขึ้น
“ผู้นำจีน หวังว่าการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก และ พาราลิมปิก ฤดูหนาว ที่ปักกิ่ง ในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 จะมีส่วนช่วยให้จีน บรรลุเป้าหมายในการเป็นมหาอำนาจด้านกีฬาระดับโลก” คุณหญิงปัทมา กล่าว

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

กฟผ.ใจบุญระดมพนักงานร่วมบริจาคโลหิต

0

http://www.natethip.com/news.php?id=3563
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

สวก. เร่งพัฒนาผลงานวิจัยสมุนไพรแบบครบวงจรรับมือโควิด

0

http://www.natethip.com/news.php?id=3562
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

คนอีสานใต้เฮ! ทล.ขยายถนนมิตรภาพ 4เลน จากแยกบ้านจาน-เดชอุดม

0

http://www.natethip.com/news.php?id=3561
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

“สี จิ้นผิง” นำจีน แสดงความเชื่อมั่น โอลิมปิกฤดูหนาว 2022 สมบูรณ์แบบ

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//  คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ไอโอซีเมมเบอร์ และ บอร์ดบริหาร โอซีเอ เผย สี จิ้นผิง ผู้นำจีน ลงมาดูแลด้วยตนเอง พร้อมกับ แสดงความเชื่อมั่น จีน จะเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาโอลิมปิก และ พาราลิมปิก ฤดูหนาว ที่กรุงปักกิ่ง ในปี 2022 ได้อย่างสมบูรณ์แบบแน่นอน
คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) และ กรรมการบริหารสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ) กล่าวว่า สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีน ให้ความสำคัญ และลงมาดูแลด้วยตนเอง พร้อมกับ แสดงความเชื่อมั่น จีน จะเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาโอลิมปิก และ พาราลิมปิก ฤดูหนาว ที่กรุงปักกิ่ง ในปี 2022 ได้อย่างสมบูรณ์แบบแน่นอน
ผู้นำของจีน ได้กล่าวระหว่างการตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมในการจัดการแข่งขัน กีฬาโอลิมปิก และ พาราลิมปิก ฤดูหนาว ที่กรุงปักกิ่ง ในปี 2022 ว่า คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน CPC ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการเตรียมงานในครั้งนี้ และเสริมว่า ทั้งพรรคและประชาชนจีน ได้ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
ประธานาธิบดีจีน ระบุว่า การเตรียมการสำหรับปักกิ่ง 2022 ดำเนินไปด้วยดีและการฝึกซ้อมของนักกีฬาได้ผลลัพธ์ที่ดีเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้น เขายังแสดงความเชื่อมั่นว่าการแข่งขันครั้งนี้ จะประสบความสำเร็จ และจะช่วยส่งเสริม ให้ประชาชนจีนหันมาเล่นกีฬาฤดูหนาวมากขึ้น
“ผู้นำจีน หวังว่าการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก และ พาราลิมปิก ฤดูหนาว ที่ปักกิ่ง ในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 จะมีส่วนช่วยให้จีน บรรลุเป้าหมายในการเป็นมหาอำนาจด้านกีฬาระดับโลก” คุณหญิงปัทมา กล่าว

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

สำนักข่าวเนตรทิพย์-ท้องกินข้าว สมองกินข่าว!

0

https://timeline.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1161118944210058261
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

“เอ็ม-เฟม” เฉือนคู่เดนมาร์ก ลิ่วรอบ 2 ศึก โตโยต้า ไทยแลนด์ ไทยแลนด์ โอเพ่น

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // “เอ็ม” สุภัค จอมเกาะ กับ “เฟม” ศุภิสรา เพียวสามพราน คู่ผสมดาวรุ่งมือ 44 ของโลก ออกแรงถึง 3 เกมกว่าจะเบียดชนะคู่ของ แมททีอัส คริสเตียนเซน กับ อเล็กซานดร้า โบเจ้ คู่มืออันดับ 28 ของโลกจากเดนมาร์ก 2-1 เกม เข้ารอบ 2 “กัน” กันตภณ หวังเจริญ ชายเดี่ยวมือ 15 ของโลก พลาดท่าตกรอบแรกแบดมินตัน โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น หลังพ่าย อึ้ง กาลอง อังกุส มือ 8 ของโลกจากฮ่องกง 0-2 เกม
การแข่งขันแบดมินตันรายการ “โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น” ทัวร์นาเมนต์เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ชิงเงินรางวัลรวม 1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 30,100,000 บาท ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ในรูปแบบนิวนอร์มอลภายใต้มาตรการคุ้มเข้มเพื่อความปลอดภัยขั้นสูงสุด โดยไม่อนุญาตให้แฟนแบดมินตันและผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในสนาม เมื่อวันที่ 20 มกราคม วันที่สองของรอบเมนดรอว์รอบแรก

ประเภทคู่ผสมรอบแรก “เอ็ม” สุภัค จอมเกาะ กับ “เฟม” ศุภิสรา เพียวสามพราน คู่มืออันดับ 44 ของโลก ชนะ แมททีอัส คริสเตียนเซน กับ อเล็กซานดร้า โบเจ้ คู่มืออันดับ 28 ของโลกจากเดนมาร์กหวุดหวิด 2-1 เกม 21-16,15-21 และ 21-18 ใช้เวลาแข่งขัน 59 นาที เข้ารอบสอง พบกับ มาร์คัส เอลลิส กับ รอว์เรน สมิธ คู่มือวางอันดับ 7 ของรายการ คู่มืออันดับ 9 โลกจากอังกฤษ ชนะ ตัน เคียงเม้ง กับ ไล่ เพ่ยจิง คู่มืออันดับ 11 ของโลกจากมาเลเซีย 2-1 เกม 14-21, 21-15, 21-19
สุภัค จอมเกาะ และ ศุภิสรา เพียวสามพราน เผยหลังเกมว่า “วันนี้ไม่กดดันอะไร เล่นแบบกล้าได้กล้าเสีย หลังจากที่แพ้มาจากรายการที่แล้ว จึงนำความผิดพลาดกลับไปแก้ไขให้ดีขึ้น และนำมาใช้ในครั้งนี้ เกมที่สองเฟมไม่กล้าตัดสินใจ ตีไปอยู่ข้างหลังทำให้เสียเปรียบ พอเกมที่สามพยายามขึ้นหน้าทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่ไปเล่นตำแหน่งผู้ชาย และพยายามช่วยกันบีบให้คู่แข่งขึ้นลูก เพื่อทำแต้มได้ โดยรวมให้คะแนนฟอร์มการเล่นเต็มร้อยคะแนน รอบต่อไปจะเล่นเต็มที่และไม่ประมาท จะดึงความสามารถที่มีออกมาใช้ เพื่อสู้กับคู่แข่งให้ดีที่สุด

ประเภทชายเดี่ยวรอบแรก “กัน” กันตภณ หวังเจริญ มืออันดับ 15 ของโลก พ่าย อึ้ง กาลอง อังกุส มือวางอันดับ 7 ของรายการ มืออันดับ 8 ของโลกจากฮ่องกง 0-2 เกม 20-22 , 12-21 ใช้เวลาแข่งขัน 46 นาที เจ้าตัวเผยว่า “เสียดายเกมแรก จังหวะไม่ค่อยเป็นใจให้เรา เกมแรกเล่นได้ดี มาเสียเกมสอง ซึ่งเล่นอยู่ในฝั่งที่ถนัดด้วย แต่ขึ้นลูกไม่ถึงหลัง ทำให้เสียเปรียบคู่แข่ง ก่อนลงสนามไม่ได้กดดันอะไร แต่เสียดายน่าจะทำได้ดีกว่านี้ จากการลงแข่งขันสองรายการใหญ่นี้ได้ประสบการณ์มากมาย ก่อนแข่งขันก็ซ้อมมาเต็มที่ แต่ผลงานอาจไม่เป็นไปตามเป้าหมายเท่าไหร่ จะกลับไปปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้ทำผลงานได้ดีขึ้น ขอขอบคุณทีมงานจัดการแข่งขัน ที่ทำให้มีการแข่งขันดีๆ แบบนี้ในไทย และฝากแฟนๆ กีฬาแบดมินตันช่วยส่งกำลังใจเชียร์นักกีฬาไทยต่อไป”
อึ้ง กาลอง อังกุส มือวางอันดับ 7 รายการจากฮ่องกง กล่าวว่า “การเจอกันครั้งที่แล้ว ผมแพ้กันตภณมา 2 เกมรวด เตรียมตัวมาอย่างดี และมุ่งมั่นจะชนะให้ได้ และถือว่าออกสตาร์ตได้ดี เกมแรกช่วงท้ายช็อตสำคัญมาถูกเวลาพอดี เกมที่สองผมเน้นบุกมากกว่าขึ้น พอตบได้แต้มในช่วงแรกๆ ก็ยิ่งเพิ่มความดุดันมากขึ้น และปิดเกมคว้าชัยชนะในแมตช์นี้ได้ไม่ยาก”

ประเภทหญิงเดี่ยวรอบแรก “จิว” พิทยาภรณ์ ไชยวรรณ มืออันดับ 28 ของโลก แพ้ อัน เซยอง มือวางอันดับ 7 ของรายการ มืออันดับ 9 ของโลกจากเกาหลีใต้ ไปขาดลอย 0-2 เกม 12-21 , 8-21 ใช้เวลาแข่งขัน 33 นาที
ตู่อื่นๆที่น่าสนใจมีดังนี้ ประเภทคู่ผสม มาร์คัส เอลลิส กับ รอว์เรน สมิธ คู่มือวางอันดับ 7 ของรายการ คู่มืออันดับ 9 โลกอังกฤษ ชนะ ตัน เคียงเม้ง กับ ไล่ เพ่ยจิง คู่มืออันดับ 11 ของโลกมาเลเซีย 14-21, 21-15, 21-19 , โจชัว ฮาเบิร์ท ยู กับ โจเซฟีน วู คู่มืออันดับ 30 ของโลกจากแคนาดา ชนะ ชาง ตั๊กชิง กับ อึ้ง วิงหยุง คู่มืออันดับ 37ของโลกจากฮ่องกง 21-12, 18-21, 21-14 , ฮาฟิต ไฟซาล กับ กลอเลีย วิจาจ้า คู่มือวางอันดับ 6 ของรายการ คู่มืออันดับ 8 ของโลกจกาอินโดนีเซีย ชนะ รินอฟ ริวัลดรี้ กับ พิตต้า เมนทารี่ คู่มืออันดับ 18 ของโลกจากอินโดนีเซีย 21-15, 21-13
ประเภทชายคู่ เบน เลนจ์ กับ แซน วินดี้ คู่มืออันดับ 32 ของโลกจากอังกฤษ ชนะ ฟาร์จา อัลเฟียน กับ มูฮัมมัด ไรอัล อาเดรียนโต คู่มือวาง 5 ของรายการ คู่มืออันดับ 6 ของโลกจากอินโดนีเซีย 21-18, 21-19 , มูฮัมมัด ฟรีคี กับ บากาส มัวลาน่า คู่มืออันดับ 48 ของโลกจากอินโดนีเซีย ชนะ วลิดีเมีย อิวานอฟ กับ อีวาน โซโซนอฟ คู่มืออันดับ 24 ของโลกจากรัสเซีย 21-15, 16-21, 21-13 , เอ็ม อาร์. อาจูน กับ ดูรูฟ คาปีลา คู่มืออันดับ 95 ของโลกจากอินเดีย ชนะ โอลิเวอร์ เดวิส กับ อาบีนาฟ มาโนตะ คู่มืออันดับ 67 ของโลกจากนิวซีแลนด์ 23-21, 21-17

ประเภทหญิงคู่ รอบแรก “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธารากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ คู่มืออันดับ 11 ของโลก ชนะ ซีติ ฟาเดีย รามาดานติ กับ ริปก้า ซูกรีอาโต คู่มืออันดับ 32 ของโลกจากอินโดนีเซีย 2-0 เกม 21-11 และ 21-10 ใช้เวลาแข่งขัน 36 นาที “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กับ “วิว” รวินดา เข้ารอบสอง พบกับ อเมลี่ แม็กลุนด์ กับ ฟรีก้า ราเวน คู่มืออันดับ 41 ของโลกจากเดนมาร์ก
ประเภทหญิงเดี่ยว รอบแรก “มูนา” เบ็ญญาภา เอี่ยมสอาด มืออันดับ 129 ของโลก เบียดเอาชนะ อีฟเกนีย่า โคเซทสกาย่า มืออันดับ 25 ของโลกจากรัสเซีย ไปแบบสนุก 2-1 เกม 21-15,17-21,21-19 ใช้เวลาแข่งขัน 52 นาที เข้ารอบสอง รอพบผู้ชนะระหว่าง “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ มืออันดับ 13 ของโลก หรือ ฮาเดีย ฮอสนี่ มืออันดับ 103 ของโลกจากอียิปต์
ประเภทชายเดี่ยว รอบแรก “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มืออันดับ 29 ของโลก แซงกลับมาชนะ โลว เคียงยิว มืออันดับ 38 ของโลกจากสิงคโปร์หวุดหวิด 2-1 เกม 14-21,21-16,21-10 ใช้เวลาแข่งขัน 65 นาที “วิว” เข้ารอบสอง รอพบผู้ชนะระหว่าง วิคเตอร์ อเซลเซ่น มือวาง 4 ของรายการ มืออันดับ 4 ของโลกจากเดนมาร์ก หรือ เจสัน แอนโทนี่ โฮชู มืออันดับ 49 ของโลกจากแคนาดา

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

ประหาร”บรรยิน” ฆ่าเสี่ย ชูวงษ์

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // ศาลสั่งประหารชีวิต “บรรยิน” คดีฆ่า “เสี่ยชูวงษ์” ชี้ถูกตีด้วยของแข็ง ไม่ใช่อุบัติเหตุรถยนต์

วันที่ 20 ม.ค. 64 ที่ศาลอาญาพระโขนง ถ.สรรพาวุธ ศาลอ่านคำพิพากษา คดีที่นางศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง ภรรยาของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือเสี่ยจืด นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และพนักงานอัยการ ร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้อง พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ และอดีต ส.ส.นครสวรรค์  เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (4) (7)

กรณีเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2558 นายชูวงษ์ อายุ 50 ปี เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์หรูยี่ห้อเลกซัสสีดำ ทะเบียน ภฉ 1889 กทม. ชนต้นไม้ มี พ.ต.ท.บรรยิน จำเลย เป็นคนขับ มีนายชูวงษ์นั่งข้างๆ โดยชนต้นไม้ริม ถ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ระหว่างซอย 48 กับซอย 50 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม. เป็นเหตุให้นายชูวงษ์ ถึงแก่ความตาย โจทก์มีพยานหลักฐานเชื่อได้ว่าจำเลยกับพวกร่วมกันฆาตกรรมอำพรางนายชูวงษ์ แต่ พ.ต.ท.บรรยิน จำเลย ให้การปฏิเสธอ้างเป็นอุบัติเหตุ เหตุเกิดที่ ต.บางโฉลง กับ ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และแขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร ต่อเนื่องเกี่ยวกัน

วันนี้ศาลอ่านคำพิพากษาให้ พ.ต.ท.บรรยิน จำเลย ฟังผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์

โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานจำเลยได้กระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ โจทก์พยานพนักงานสืบสวนสอบสวนมานำสืบว่า  ในวันเกิดเหตุจำเลยขับรถพาผู้ตายออกจากสนามกอล์ฟเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. เพื่อไปส่งผู้ตายที่บ้านโดยไม่ได้แวะที่ใด ระหว่างทางขณะที่จำเลยขับรถด้วยความเร็วประมาณ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อขับรถไปถึงบริเวณ ถ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ระหว่างซอย 50 และซอย 48 มีรถยนต์จากฝั่งตรงข้ามวิ่งแซงสวนทางล้ำเข้ามาในช่องทางเดินรถที่ 2 จากซ้ายที่จำเลยใช้อยู่ จำเลยจึงต้องหักเลี้ยวรถหลบไปทางซ้าย รถยนต์กระแทกขอบทางเท้าและพุ่งผ่านรั้วลวดหนามเข้าไปตรงบริเวณที่รกร้างข้างทางและชนเข้ากับต้นไม้เป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย

การสืบสวนสอบสวน พบภาพรถยนต์ของจำเลยขับผ่านกล้องวงจรปิดตรงบริเวณธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนบางนา-ตราด กม.18 ที่ตั้งอยู่ตรงปากทางเข้าออกสนามกอล์ฟเมื่อเวลา 20.11 น. และพบรถยนต์ของนายชาญศักดิ์ขับผ่านกล้องวงจรปิดดังกล่าวเมื่อเวลา 20.14 น. นอกจากนั้นยังตรวจสอบพบข้อมูลการใช้สัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ของจำเลยที่เสาบางโฉลงใน 1 ตรงบางนา-ตราด กม.16 เมื่อเวลา 20.29 น. และที่เสาซอยรัตนราช ตรงบางนา-ตราด กม.17 เมื่อเวลา 21.06 น. ซึ่งเสาทั้งสองตั้งอยู่ห่างจากสนามกอล์ฟประมาณ 3 กิโลเมตร จึงเชื่อว่า จำเลยขับรถพาผู้ตายออกจากสนามกอล์ฟเมื่อเวลาประมาณ 20.11 น. มิใช่ 21.00 น. ตามที่จำเลยอ้าง

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญนำสืบว่า จากการชันสูตรศพผู้ตาย พบบาดแผลบวมช้ำที่ศีรษะด้านหลังซ้ายพื้นที่ 8×6 เซนติเมตร บาดแผลถลอกบริเวณคาง กระดูกคอข้อที่ 6 และ 7 หัก และพบเศษเนื้อสัตว์และผักเต็มกระเพาะอาหาร และระบุสาเหตุการตายว่า เลือดออกใต้เยื้อหุ้มสมองชั้นใน สมองบวม จากการกระทบกระแทกของแข็ง ทั้งยังมีพยานกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการขับรถเบิกความว่า รถยนต์คันเกิดเหตุมีเบาะรองศีรษะ เมื่อเกิดอุบัติเหตุไม่น่าส่งผลให้กระดูกคอข้อที่ 6 และ 7 หัก และมีความเห็นทำนองว่าสภาพบาดแผลที่พบอันเป็นสาเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายไม่สอดคล้องกับลักษณะการเกิดอุบัติเหตุ อีกทั้งการที่ตรวจพบเศษอาหารเต็มกระเพาะอาหารของผู้ตาย แสดงว่าผู้ตายถึงแก่ความตายหลังจากรับประทานอาหารมื้อสุดท้ายประมาณครึ่งชั่วโมงถึง 1 ชั่วโมง เมื่อจำเลยขับรถพาผู้ตายออกจากสนามกอล์ฟเมื่อเวลา 20.11 น. และเกิดเหตุรถยนต์ชนต้นไม้เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. จึงเป็นเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง จึงเชื่อว่าผู้ตายถึงแก่ความตายมาก่อนที่จะเกิดเหตุรถยนต์ชนต้นไม้ และบาดแผลบวมช้ำที่ศีรษะด้านหลังซ้ายของผู้ตาย กระดูกต้นคอผู้ตายข้อที่ 6 และ 7 หัก และรอยถลอกใต้คางของผู้ตาย ไม่ได้เกิดจากการที่รถยนต์ชนต้นไม้

โจทก์เบิกความอีกว่า จำเลยมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับ น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล บุตรสาวของ น.ส.ศรีธรา และ น.ส.กัญฐณา และได้ร่วมกับ น.ส.อุรชา และ น.ส.กัญฐณา ปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอมเพื่อโอนหุ้นของผู้ตายไปยัง น.ส.ศรีธรา และ น.ส.กัญฐณา ส่วนจำเลยอ้างตนเองเป็นพยานเบิกความลอยๆ โดยมิได้นำพยานหลักฐานหรือผู้เชี่ยวชาญมาหักล้าง ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่า เพื่อมิให้ผู้ตายทราบถึงการกระทำความผิดที่จำเลยร่วมกับ น.ส.อุรชา และ น.ส.กัญฐณา ปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอมในการโอนหุ้นของผู้ตายไปให้ น.ส.ศรีธรา หรือ น.ส.อุรชา และ น.ส.กัญฐณา

จำเลยจึงร่วมกับผู้อื่นที่ไม่ทราบชื่อและจำนวนที่แน่นอนวางแผนฆ่าผู้ตาย โดยสร้างเรื่องราวว่าในวันเกิดเหตุ ผู้ตายมีนัดเล่นกอล์ฟกับจำเลยและผู้ใหญ่ที่ผู้ตายเคารพนับถือไว้ ผู้ตายจึงจำต้องไปเล่นกอล์ฟด้วยโดยไม่อาจปฏิเสธได้ หลังจากนั้นวางแผนอ้างว่าจะขับรถพาผู้ตายไปส่งที่บ้าน แต่กลับใช้โอกาสดังกล่าวร่วมกับพวกฆ่าผู้ตาย โดยใช้อาวุธที่เป็นวัตถุของแข็งไม่มีคมตีผู้ตายจนถึงแก่ความตาย ณ บริเวณสถานที่ใดที่หนึ่งใน ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นจุดที่ปรากฏข้อมูลการใช้สัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ของจำเลยจากเสาส่งสัญญาณบางโฉลงใน 1 และเสาซอยรัตนราช ที่ห่างกันเพียงประมาณ 1 กิโลเมตร และห่างจากสนามกอล์ฟประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นเวลานานถึง 37 นาที และอำพรางคดีว่าสาเหตุการตายของผู้ตายเกิดจากอุบัติเหตุรถยนต์ชนต้นไม้ตรงบริเวณ ถ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ระหว่างซอย 50 และซอย 48 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร

การกระทำของจำเลยกับพวก จึงเป็นการร่วมกันกระทำโดยเจตนาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิด เพื่อปกปิดความผิดของตน หรือเพื่อเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนได้กระทำไว้ จำเลยกระทำความผิดด้วยความโลภอยากได้ในทรัพย์สินของผู้อื่นเป็นอย่างมาก โดยอาศัยโอกาสและความไว้เนื้อเชื่อใจในความเป็นเพื่อนสนิทระหว่างจำเลยกับผู้ตาย และคบคิดกับพวกด้วยการวางแผนและลงมือฆ่าผู้ตาย จากนั้นปกปิดการกระทำโดยสร้างเรื่องและอำพรางคดีว่าสาเหตุการตายของผู้ตายเกิดจากอุบัติเหตุ เมื่อถูกจับกุมดำเนินคดี ก็มิได้รู้สำนึกในการกระทำของตนและบรรเทาผลร้ายแต่อย่างใด แต่กลับปฏิเสธและต่อสู้คดีมาโดยตลอด ทั้งจำเลยยังเคยรับราชการเป็นเจ้าพนักงานตำรวจชั้นสัญญาบัตร มีความรู้ด้านกฎหมาย จึงควรต้องมีสำนึกและความรู้ผิดชอบชั่วดี แต่จำเลยกลับกระทำความผิดโดยมิได้ยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง

พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (4) (7) ประกอบมาตรา 83 ให้ลงโทษประหารชีวิต ส่วนที่โจทก์ที่ 5 มีคำขอให้นับโทษจำคุกจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษจำคุกของจำเลยที่ 3 ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.636/2563 ของศาลอาญากรุงเทพใต้ (คดีปลอมเอกสารโอนหุ้นของนายชูวงษ์) และต่อจากโทษจำคุกของจำเลยที่ 1 ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท.69/2563 ของศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง (คดีอุ้มฆ่าพี่ชายของผู้พิพากษา) นั้น เนื่องจากศาลมีคำพิพากษาลงโทษประหารชีวิตจำเลย จึงไม่อาจนับโทษจำคุกต่อได้ ให้ยกคำขอในส่วนนี้

ภายหลังเสร็จสิ้นการฟังคำพิพากษา นางวันเพ็ญ ธนธรรมศิริ พี่สาวของนายชูวงษ์ เปิดเผยว่า รู้สึกพอใจกับคำตัดสินของศาล คุ้มค่ากับระยะเวลาที่รอมานาน  และขอบคุณสื่อที่ติดตามคดีนี้มาโดยตลอด

Cr. : นายทวีศักดิ์ ชิตทัพ ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์