http://www.natethip.com/news.php?id=3995
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

พิมพ์ไทยออนไลน์ // “เงือกจอย” เจนจิรา ศรีสอาด นักว่ายน้ำทีมชาติไทย วัย26ปี สังกัดสโมสรเบสท์ เเบงค็อกสวิม อะคาเดมี่ กล่าวถึงโอกาสลุ้นตั๋วไปลุยโอลิมปิกเกมส์ ที่ญี่ปุ่น ว่ารู้สึกตื่นเต้นกับการชิงโควต้าไปเเข่งขันในกีฬาโอลิมปิก ต้นเดือน ก.ค. ซึ่งไทยได้สิทธิ์ไวท์การ์ด ส่งนักกีฬาเข้าร่วมได้2คน เเบ่งเป็นชาย 1 คนเเละหญิง 1 คน
โดยครั้งนี้มีโอกาสใกล้เคียงที่สุด ทำเวลาผ่านการควอลิฟาย บี เป็นที่เรียบร้อย รายการฟรีสไตล์ 50 ม. มีฟีน่าพอยท์ 817 คะแนน เเต่ต้องขับเคี่ยวกับรุ่นพี่ อย่าง”ณัชฐานันตร์ จันทร์กระจ่าง”ที่เพิ่งหายเจ็บกลับมา รายการสุดท้ายคือการเเข่งขันว่ายน้ำทดสอบเวลาคัดเลือกนักว่ายน้ำไปโอลิมปิกที่ฟีน่ารับรอง ในไทย อย่างไรก็ตามต้องรอดูผลพิจารณาของสมาคมกีฬาว่ายน้ำฯ ว่าจะจัดได้หรือไม่

“เงือกจอย”กล่าวต่อว่า ตั้งความหวังไว้สูง สำหรับการประเดิมในกีฬาโอลิมปิกสมัยเเรก หากได้เป็นตัวเเทน จะพยายามสร้างผลงานให้ดีที่สุด รวมถึงซีเกมส์ที่เวียดนาม ปลายปี ตั้งเป้าไว้1เหรียญทอง จากท่าผีเสื้อ หลังจากครั้งก่อนที่ฟิลิปปินส์ ทำได้เพียง3เหรียญเงิน ล่าสุดฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องกับทางต้นสังกัด ในช่วงระบาดของไวรัสโควิด ทางสมาคมกีฬาว่ายน้ำเข้ามาดูเเลการฉีดวัคซีนเป็นที่เรียบร้อย
นอกจากนี้ ขอขอบคุณ สมาคมฯ ที่ช่วยเรื่องการเข้ารับราชการทหาร ให้กับนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ ซึ่งปัจจุบันตนได้รับการบรรจุยศ สิบเอกหญิง ตำแหน่งเสมียน กองการออมทรัพย์ กรมสวัสดิการทหารบก ทั้งนี้ต้องรอการฝึกเดือนเม.ย.ปีหน้า จะได้รับการติดยศจากต้นสังกัด ส่วนตัวรู้สึกดีใจมาก ถือเป็นอีกหนึ่งความฝัน สำหรับการเข้ารับราชการทหารในครั้งนี้

Cr. :นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // “บิ๊กป๋อม” อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานพัฒนาฟุตซอลและฟุตบอลชายหาด เผยถึงแผนการเตรียมทีม ไปแข่งขันฟุตซอลลโลก2021 วันที่ “12 ก.ย. – 3 ต.ค. ว่า
“ไทม์ไลน์ ตอนนี้หลังจากพ้นกักตัว 14 วัน มีแผนจัดทัวร์นาเม้นเตรียมทีมไปชิงแชมป์โลก ต้นเดือน กรกฎาคม ตอนนี้ก็มีหลายทีมตอบรับเข้ามาแล้ว อาทิ เจ้าภาพฟุตซอลโลกลิทัวเนีย โมรอคโค รวมถึงทีมในเอเชีย 4-5 ทีม นอกจากนี้ยังมี ทีมจากยุโรป 3-4 ทีม จาก อเมริกาใต้ อเมริกากลาง แอฟริกา โอเชียเนีย ด้วย”
“เหตุผลที่ต้องจัดเดือน กรกฎาคม หากจัดเดือนสิงหาคม ใกล้การแข่งขันชิงแชมป์โลกมากเกินไป เพราะทัวร์นาเม้นเตรียมทีมควรจะมีไม่ต่ำกว่า 60 วันก่อนการชิงแชมป์โลก ”
“หลังจะนั้นทีมชาติจะมีเวลารวมอีกครั้งราวๆ 2 สัปดาห์เศษ เพื่อไปชิงแชมป์โลก สำหรับการแข่งขันปรีเวิลด์คัพครั้งนี้ ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้การเสนอแผนงานตรงนี้ค่อนข้างจะเข้มงวด ซึ่งได้เล็งการจัดการแข่งขันที่โคราช หรือ พัทยา เพื่อให้ห่างจากเรดโซน”

Cr. :นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // วงการสื่อสารโทรคมนาคมตั้งข้อกังขา ผลงานพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล 7 ปีในรัฐบาล”ลุงตู่” สุดปังหรือพังกันแน่ ชี้แม้ไทยจะมีการประมูลคลื่น 5 จีมาก่อนใครแต่แทบไม่ต่างจาก “ไก่ได้พลอย เหตุรัฐลอยแพปล่อยเอกชนลงทุนเอง แถมรัฐยังไม่รู้จักนำเอามาใช้ประโยชน์ แค่จัดคิวกระจายวัคซีนต้านโควิดยังเหลวไม่เป็นท่า

จากการที่ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมต.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) ออกมาตีปี๊บผลงานในรอบ 7 ปีของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้น
ฐานดิจิทัลของประเทศ โดยระบุว่า มีความสำเร็จเป็นรูปธรรมทั้ง 5 ด้าน อาทิ การให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ให้ประชาชนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้ครอบคลุม 44,352 หมู่บ้านและมี
การต่อยอดสู่นโยบายส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ผ่าน “ศูนย์ดิจิทัลชุมชน” ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 500 แห่ง และมีแผนขยายอีกไม่น้อยกว่า 2,520 แห่งทั่วประเทศ

นอกจากนี้ ยังมีการผลักดันให้ประเทศไทยเปิดประมูลและออกใบอนุญาตคลื่น 5G เป็นประเทศแรกในภูมิภาคนี้ มีการกำหนดแนวทางขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์ 5G ภายใต้คณะกรรมการขับเคลื่อน
5G แห่งชาติที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ส่งเสริมให้เกิดการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เกิดการค้าขายออนไลน์และสังคมไร้เงินสดได้ครอบคลุมทั่วประเทศ ขณะที่ภาครัฐก็มีการพัฒนารัฐบาลดิ
จิทัลอำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถรับบริการจากภาครัฐได้โดยง่าย สะดวก ทุกที่ทุกเวลา

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวในวงการสื่อสารได้ตั้งข้อสังเกตต่อผลงานของรัฐในช่วงที่ผ่านมาว่า แม้ประเทศไทยจะเป็นประเทศแรกในภูมิภาคนี้ที่มีการประมูลออกใบอนุญาต 5 จีในเชิงพาณิชย์ แต่ภาครัฐ
กลับไม่ได้ลงไปสนับสนุนการลงทุนของภาคเอกชนแต่อย่างใด กลับลอยแพให้ภาคเอกชนต้องลงไปสู้รบปรบมือกับหน่วยงานท้องถิ่นต่างๆ ด้วยตนเอง โดยที่ภาครัฐไม่ได้มีการประสานให้ความช่วย
เหลือทั้งที่ถือเป็นบริการโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ขณะที่คณะกรรมการขับเคลื่อน 5 จีแห่งชาติ ก็ไม่ได้เป็นรูปธรรม การใช้ประโยชน์ 5 จีของภาครัฐที่มีก็ขาดมาตรการในการติดตามดูแลอย่าง
เห็นได้ชัด จึงทำให้การบูรณาการใช้ประโยชน์จาก 5 จีไม่เป็นไปตามเป้าหมาย หน่วยงานต่างๆ ยังคงต่างคนต่างทำ

เห็นได้จากมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบจากสถานการณืโควิดหลายระลอกที่รัฐบาลดำเนินการไปนั้น เต็มไปด้วยความโกลาหล ขาดการประสานงานระหว่างหน่วยงานได้อย่างชัดเจน มี
การจัดตั้งศูนย์ติดตามของแต่ละหน่วยงานจนประชาชนสับสน การลงทะเบียนรับบริการจากภาครัฐของหน่วยงานต่าง ๆ ก็ซ้ำซ้อนขาดการประสานการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5 จีที่มีอยู่

ขณะที่การบริหารและกระจายวัคซีนต้านโควิดซึ่งต้องมีความคล่องตัว ฉับไว ก็เห็นได้ชัดว่าระบบที่ ศบค.และสธ.วางเอาไว้นั้นเดินไปคนละทางต่างคนต่างทำ บางจังหวัดยังต้องกลับไปใช้ระบบแมน่วล
ในการจัดคิวผู้มาขอรับบริการกันอยู่เลย “เอาแค่การทำคลอดแอพลิเคชันที่จะติดตามตรวจสอบผู้ติดเชื้อ หรือเปิดให้ลงทะเบียนฉีดวัคซีนก็ขาดเอกภาพมีการผุดแอพอะไรต่อมิอะไรมาไม่รู้กี่แอพกี่ศูนย์
เข้าไปแล้ว ล่าสุดกทม.และกสทช.ก็ไปร่วมกับภาคเอกชนจัดตั้งศูนย์ให้บริการจองฉีดวัคซีนต้านโควิดของตนเอง 1516 มาอีกศูนย์แยกออกมาจากแอปหมอพร้อม สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นความความ
สำเร็จ-ล้มเหลวของการใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของประเทศได้เป็นอย่างดี”

แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า แม้แต่ศูนย์เรียนรู้ดิจิทัลชุมชนที่ดีอีเอสกำลังตีปี๊บอยู่นั้น ที่ผ่านมาก็ถูกร้องเรียนความไม่โปร่งใสการเช่าระบบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ประจำศูนย์ที่จ้องประเคนโครงการออกไป
ให้รายเก่าย้อมแมวเอาคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์มาส่งมอบจนถูกกรรมาธิการ (กมธ.) สื่อสารโทรคมนาคมของสภาผู้แทนฯล้วงลูกเข้ามาตรวจสอบและเรียกกระทรวงดีอีเอสไปชี้แจงสั่งให้แก้ไข แต่ล่า
สุดนั้นกลับพบว่ามีการเดินหน้าโครงการไป โดยไม่ได้มีการแก้ไขอะไรเลย.

https://timeline.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1162207568210055945
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

พิมพ์ไทยออนไลน์ // ภารกิจครั้งประวัติศาสตร์ “วิ่งส่งธงชาติไทย ไปโตเกียวโอลิมปิก” เดินทางถึงวันสุดท้าย สู่เส้นชัย กิจวันที่ 60 วิ่งธงส่งกำลังใจรวดเดียว 3 จังหวัด จาก จ.ชลบุรี มายัง จ.ฉะเชิงเทรา และที่ จ.สมุทรปราการ วิ่งครบแล้ว 35 จังหวัด รวม 4,577 กม. วันสุดท้ายเหลือระยะทางอีกเพียง 29 กม.จะวิ่งครบกำหนด 4,606 กม. ทั้งหมด 61 วัน วันที่ 27 พ.ค.นี้ “ตูน บอดี้แสลม” เตรียมวิ่งธงชาติไทยไม้สุดท้ายที่สนามบินสุวรรณภูมิ
ความเคลื่อนไหวกิจกรรมประวัติศาสตร์ “FLAG OF NATION วิ่งส่งธงชาติไทย ไปโตเกียวโอลิมปิก” ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่อง 61 วัน 35 จังหวัด ระยะทาง 4,606 กม. เทียบเท่าระยะทางกรุงเทพฯ ไปยังกรุงโตเกียว ญี่ปุ่น จัดขึ้นเพื่อรวบรวมกำลังใจจากพี่น้องคนไทย ส่งต่อถึงนักกีฬาทีมชาติไทย เมื่อ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งวิ่งต่อเนื่องเป็นวันที่ 60 จาก จ.ชลบุรี ไปยัง จ.สมุทรปราการ ระยะทางรวม 52.5 กม.

สำหรับการวิ่งธงชาติไทยช่วงแรกวันที่ 60 ออกสตาร์ทจากศาลากลาง จ.ชลบุรี ได้รับเกียรติจากนายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เชิญธงชาติไทย ออกวิ่งเป็นระยะทางสั้นๆ ร่วมกับคณะผู้บริหารของจังหวัด พร้อมด้วย 2 นักกีฬาทีมชาติไทย “ณัฐพงศ์ โพธิ์นพรัตน์” นักวินด์เซิร์ฟ และ “ชญานุศภัฒค์ ชินนะเกิดโชค” นักฟันดาบ ก่อนนำธงขึ้นปักบนแท่นพักธงขึ้นรถแห่ประชาสัมพันธ์
จากนั้นขบวนรถประชาสัมพันธ์เคลื่อนขบวนออกจากชลบุรี ระยะทาง 20 กม. ถึง จ.ฉะเชิงเทรา ปรับรูปแบบเปลี่ยนมาใช้วิธีการวิ่งธงชาติไทยเพื่อส่งกำลังใจอีกครั้ง ซึ่งนายธีระ พรชูตรง ปลัดจังหวัดฉะเชิงเทรา วิ่งคนแรก จากสถานีตำรวจภูธรบางปะกง
ช่วงระยะทางที่เหลือ พี่น้องนักวิ่งชาวไทยช่วยกันรวมพลัง วิ่งอีกคนละ 1 กม. นำธงไตรรงค์เข้าถึงจุดหมาย สนามกีฬาจังหวัดสมุทรปราการ นับเป็นจังหวัดที่ 35 ครบตามภารกิจ ขยับระยะทางสะสมเพิ่มเป็น 4,577 กม ในวันสุดท้าย วันพฤสบดี ที่ 27 พ.ค.นี้ เหลือระยะทางอีกเพียง 29 กม. จะสำเร็จลุล่วงตามเป้าหมาย

สำหรับวันที่ 61 ออกสตาร์ทจากสนามกีฬากลางจังหวัดสมุทรปราการ ไปเข้าเส้นชัย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ โดยมี นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือ “ตูน บอดีแสลม” ศิลปินดังจะรับหน้าที่สำคัญ วิ่งธงชาติไทยเป็นไม้สุดท้าย ก่อนส่งต่อธงชาติไทยผืนประวัติศาสตร์ถึงมือนักกีฬาทีมชาติไทย แฟนๆกีฬาติดตามชมการไลฟ์สดวันสุดท้ายได้ที่เฟซบุ๊ก Road to Tokyo 2020 ตั้งแต่เวลา 06.00 น.
“โอ๊ต” ณัฐพงศ์ โพธิ์นพรัตน์ นักกีฬาวินด์เซิร์ฟทีมชาติไทย ชุดเตรียมสู้ศึกโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ญี่ปุ่น ประเภทอาร์เอสเอ็กซ์ชาย ซึ่งร่วมวิ่งวันที่ 60 เผยว่า เริ่มเข้าสู่โหมดการฝึกซ้อมที่หนัก เพื่อเตรียมตัวโค้งสุดท้าย เน้นไปที่ลงทะเลเป็นหลัก เป็นการดชดเชย เพราะฟิตเนสไม่เปิดบริการ เนื่องมาจากสถานการณ์โควิด-19
เป้าหมายส่วนตัวก็คือ การพยายามติด 1 ใน 10 และส่วนตัวดีใจที่ได้มีส่วนร่วมกับการวิ่งถือธงชาติไทยครั้งประวัติศาสตร์ร่วมกับพี่น้องคนไทยกว่า 4 พันชีวิต ดีใจและภูมิใจที่ได้เห็นกิจกรรมส่งต่อกำลังใจของแฟนกีฬา ไปยังนักกีฬาทีมชาติไทยเกิดขึ้น จะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อนำชัยชนะกลับมาฝากประเทศและแฟนๆ

ส่วน “เอแคร์” ชญานุศภัฒค์ ชินนะเกิดโชค นักฟันดาบทีมชาติไทย วัย 16 เผยว่า ภูมิใจการสร้างแรงผลักดันและกำลังใจกับพี่ๆนักกีฬาทีมชาติ ผ่านเข้าสู่โอลิมปิกรอบสุดท้ายได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย แสดงให้เห็นถึงความสามารถระดับสูง จากการทุ่มเท พยายามทำทุกอย่าง อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
ขณะที่ “พีระวัฒณ์ มงคลศิลป์” ผู้อำนวยการ สำนักงานกกท.จ.สมุทรปราการ วิ่งธงชาติไทยคนสุดท้าย เผยว่า ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันทำให้กิจกรรมดีๆ แบบนี้เกิดขึ้น มองว่าเป็นการส่งกำลังใจในเชิงสัญลักษณ์ที่เข้าถึงกลุ่มนักกีฬา และเจ้าหน้าที่ชุดร่วมกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกได้ดี และในฐานะคนกีฬา ขอส่งแรงใจแรงเชียร์ ขอให้ทุกคนเดินทางปลอดภัย ประสบความสำเร็จกับการแข่งขัน

Cr. :นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // กิจกรรมจิตอาสา ชมรมวีรบุรุษแชมป์โลกไทย ส่งอาหาร น้ำดื่ม มอบเป็นกำลังใจให้ แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ โรงพยาบาลสนาม ทั่วไป ที่อุทิศแรงกายแรงใจ ดูแลผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิดในขณะนี้ ล่าสุดได้รับธารน้ำใจ สมทบช่วยเหลือน้ำดื่มจาก โรงเรียนบดินทรเดชา เป็นรายล่าสุด

เมื่อวันที่ 26 พ.ค.64 เขาทราย แกแล็คซี่ ประธานชมรม วีรุบุษแชมป์โลกไทย ภายใต้การสนับสนุนของ นายนริส สิงหวังชา มีกิจกรรมจิตอาสา นำข้าวกล่อง และน้ำดื่มไปตระเวณมอบให้ คณะแพทย์ โรงพยาบาลสนาม ซึ่งกำลังดูแลผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด โดยกิจกรรมดังกล่าวจะหมุนเวียนไปตามศูนย์โรงพยาบาลสนามตามจุดต่างๆ เป็นเวลาประมาณ 1 เดือน ล่าสุดเป็นวันที่ 10 ของจิตอาสา
วันนี้ ดร.วิสิทธิ์ ใจเถิง ผู้อำนวยการโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนีย์) และนายกสมาคม ส.บ.ม.ท. ร่วมบริจาคน้ำดื่ม เพื่อสมทบกับเครือข่ายแกนนำจิตอาสาพัฒนาสังคม และชมรมวีรบุรุษแชมป์โลกไทย ทีมบอลศิลปินจิตอาสา เพื่อส่งมอบให้กับโรงพยาบาลสนามต่างๆอีกด้วย สำหรับวันที่ 26 พ.ค.นี้ มีการนำอาหาร น้ำดื่มไปมอบที่ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ รังสิต ทุกอย่างลุล่วงผ่านไปด้วยดี

Cr. :นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // ที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 26 พ.ค.64 ฟุตซอลชายทีมชาติไทย เดินทางกลับถึงประเทศไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังเสร็จสิ้นภารแข่งขันฟุตซอลโลก รอบเพลย์ออฟ โซนเอเชีย ที่ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
สำหรับฟุตซอลไทย ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งสองนัด หลังเอาชนะ ทีมชาติอิรักด้วยสกอร์รวม 11-2 พร้อมได้สิทธิ์ไปเล่นฟุตซอลโลก ที่ประเทศลิทัวเนีย ปลายปีนี้ เป็นสมัยที่ 6 ติดต่อกัน
หลังจากนี้ นักฟุตซอลทีมชาติไทย พร้อมด้วยสตาฟฟ์โค้ช และเจ้าหน้าที่เดินทางทั้งหมด จะเข้าโปรแกรมกักตัวตาม ที่ ศบค. กำหนดไว้

Cr. :นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // นายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสฯ ห่วงสุขภาพและความปลอดภัยของนักกีฬา หวั่นได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ประกาศยกเลิกจัดศึกกีฬาลูกสักหลาด 4 รายการรวด ทั้งเยาวชนนานาชาติของไอทีเอฟ 3 รายการ และรายการเก็บแต้มประเทศไทย “แอลทีโอ จูเนียร์ แชมเปี้ยนชิพส์” เดือน มิ.ย.นี้ ที่ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี
“บิ๊กสุชัย” นายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม นายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในประเทศไทย ล่าสุด ซึ่งยังคงพบการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตัดสินใจยกเลิกการจัดการแข่งขันกีฬาเทนนิส ที่สนามเทนนิส ภายในศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี จ.นนทบุรี เดือนมิถุนายนนี้

ในส่วนรายการแข่งขันที่สมาคมกีฬาลอนเทนนิสฯ จำเป็นต้องยกเลิกไป นายสุชัย กล่าวว่า เป็นการแข่งขันเทนนิสเยาวชนนานาชาติ ไอทีเอฟ เวิลด์ เทนนิส ทัวร์ จูเนียร์ ประจำปี 2021 รายการเก็บคะแนนสะสมอันดับเยาวชนโลก จำนวน 3 รายการ ที่ได้รับการอนุมัติให้จัดจากสหพันธ์เทนนิสนานาชาติ หรือ ไอทีเอฟ ได้แก่ รายการ “แอลทีเอที จูเนียร์ เจ 5” เกรด 5 ระหว่างวันที่ 14-19 มิ.ย., รายการ “แอลทีเอที จูเนียร์ เจ 4” เกรด 4 ระหว่างวันที่ 21-26 มิ.ย. และรายการ “แอลทีเอที ไอทีเอฟ จูเนียร์ เจ 4” เกรด 4 สัปดาห์ที่ 2 ระหว่างวันที่ 28 มิ.ย.-3 ก.ค. รวมทั้งยกเลิกจัดการแข่งขันเทนนิสเยาวชน เก็บคะแนนสะสมอันดับเยาวชนประเทศไทย รายการ แอลทีโอ จูเนียร์ แชมเปี้ยนชิพส์ 2021 ครั้งที่ 5 ระหว่างวันที่ 5-6 มิ.ย.
“ผมได้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง และได้ข้อสรุปว่ายกเลิกจัดการแข่งขันดังกล่าว ซึ่งเหตุผลหลักคือเป็นห่วงเรื่องสุขภาพของนักเทนนิส และกังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะเป็นรายการของระดับเยาวชน อายุระหว่าง 13-18 ปี แม้สนามเทนนิสของจะเป็นสนามกลางแจ้ง แต่จากสถานการณ์ในตอนนี้ ไม่เหมาะจะมารวมตัวกันเพื่อร่วมการแข่งขัน”

นายกเทนนิสไทย กล่าวว่า หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศ คลี่คลายลงและมีแนวโน้มไปในทางที่ดี ทางคณะกรรมการอำนวยการสมาคมกีฬาลอนเทนนิสฯ จะพิจารณาร่วมกันว่า จะทำหนังสือเสนอไปยัง ไอทีเอฟ เพื่อขอจัดการแข่งขันเทนนิสเยาวชนนานาชาติ ไอทีเอฟ เวิลด์ เทนนิส ทัวร์ จูเนียร์ ประจำปี 2021 เดือนใดได้อีก อยากให้นักเทนนิสเยาวชนไทยพัฒนาฝีมือและเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการแข่งขัน จะจัดหรือไม่ เหตุผลที่เรื่องความปลอดภัยและสุขภาพของนักกีฬาเป็นหลัก

Cr. :นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์