http://www.natethip.com/news.php?id=4029
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

พิมพ์ไทยออนไลน์ // สมาคมกีฬาจักรยานฯ เตรียมเฟ้นหานักกีฬาฝีมือดี ศึกสองล้อประเภทลู่ ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน “ควีนส์สิริกิติ์” สนามที่ 4-5 เป็นตัวแทนทีมชาติไทย ไปแข่งขันจักรยานประเภทลู่นานาชาติ รายการ “UCI Track Asia Cup 2021” ที่สุพรรณบุรี โดยสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) ให้การรับรอง พร้อมประกาศลงปฏิทินประจำปี 2021
“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ เตรียมจัดการแข่งขันจักรยานประเภทลู่ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน “ควีนส์สิริกิติ์” ประจำปี 2564 ในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ New Normal (ไม่มีผู้ชม) สนามที่ 4 ระหว่างวันที่ 4-6 มิถุนายน และสนามที่ 5 ระหว่างวันที่ 25-27 มิถุนายน ที่เวลโลโดรม หัวหมาก หลังจากจัดแข่งขันไปแล้ว 3 สนาม ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคไวรัสโควิด-19 ตามคู่มือของสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ที่ผ่านการเห็นชอบจาก ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. อย่างเคร่งครัด พร้อมกับมาตรการพิเศษของสมาคมฯ

พลเอกเดชา กล่าวว่า การแข่งขันในสนามที่ 4 และสนามที่ 5 ได้วางแผนคัดเลือกนักกีฬาระดับเยาวชน และประชาชน ที่มีผลงานโดดเด่นทั้งชายและหญิง เป็นตัวแทนทีมชาติไทย ไปแข่งขันจักรยานประเภทลู่นานาชาติ รายการ “UCI Track Asia Cup 2021” ระหว่างวันที่ 2-5 กันยายน และรายการ The 61th Anniversary of Thai Cycling Association ในวันที่ 6 กันยายน ที่เวลโลโดรม สนามกีฬาแห่งที่ 2 โรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี โดยทั้ง 2 รายการได้ลงทะเบียนกับสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) เรียบร้อยแล้ว ซึ่งยูซีไอ ให้การรับรอง พร้อมประกาศลงในปฏิทินการแข่งขันประจำปี 2021 สำหรับรายการ “UCI Track Asia Cup 2021” แข่งขันระดับ CL1 ส่วนรายการ The 61th Anniversary of Thai Cycling Association แข่งขันระดับ CL2

หลักเกณฑ์การคัดเลือกนักกีฬาเป็นตัวแทนทีมชาติไทย จากประเภทลู่ ชิงแชมป์ประเทศไทย สนามที่ 4 และ 5 ทางสตาฟฟ์โค้ช นำโดย “โค้ชตั้ม” พันจ่าอากาศเอก วิสุทธิ์ กสิยะพัท ผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย พร้อมคณะ จะพิจารณานักกีฬาที่มีฝีมือดี มีการทำลายสถิติ หรือเป็นแชมป์คะแนนรวม เป็นอันดับแรก ซึ่งรายการ “UCI Track Asia Cup 2021” ระดับประชาชน ทั้งชายและหญิง จะบรรจุการแข่งขันประเภทต่าง ๆ ดังนี้ สปรินต์, เปอร์ซูตบุคคล, ทีมเปอร์ซูต, ไทม์ไทรอัล, พอยต์เรซ, สแครตช์, คีริน, ทีมสปรินต์ และออมเนียม ส่วนระดับเยาวชน ทั้งชายและหญิง ประกอบด้วย สปรินต์, เปอร์ซูตบุคคล, ไทม์ไทรอัล, พอยต์เรซ, สแครตช์, คีริน
โปรแกรมการแข่งขันสนามที่ 4 มีดังนี้ วันศุกร์ที่ 4 มิถุนายน เวลา 07.00 น. ประชุมผู้จัดการทีมที่ห้องประชุมเสรี ไตรรัตน์ เวลา 08.00 น. แข่งขันรอบคัดเลือก ทีมสปรินต์, เปอร์ซูต บุคคล, ทีมเปอร์ซูต, สแครตช์ และคีริน, วันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน เวลา 08.00 น. แข่งขันไทม์ไทรอัล รอบชิงชนะเลิศ ทุกรุ่น, สแครตช์ 15 รอบ

ยุวชนหญิง รอบชิงชนะเลิศ, ทีมเปอร์ซูต 2 กม. ยุวชนชาย รอบชิงชนะเลิศ และทีมสปรินต์ รอบชิงชนะเลิศ, แข่งขันสปรินต์ 200 เมตรไทม์ไทรอัล รอบคัดเลือก, สปรินต์ บุคคล รอบคัดเลือก และรอบรองชนะเลิศ, วันอาทิตย์ที่ 6 มิถุนายน เวลา 08.00 น. รอบชิงชนะเลิศทุกรายการ ได้แก่ เปอร์ซูต บุคคล, สปรินต์ บุคคล, ทีมสปรินต์, สแครตช์, คีริน และทีมเปอร์ซูต
ส่วนโปรแกรมถ่ายทอดสดในสนามที่ 4 ดังนี้ วันศุกร์ที่ 4 มิถุนายน ถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กไฟล์ Thaicycling Association เวลา 08.00-12.00 น. และ 13.00-15.00 น., วันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน ถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กไฟล์ Thaicycling Association เวลา 08.00-12.00 น. และ 13.00-16.00 น., วันอาทิตย์ที่ 6 มิถุนายน ถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กไฟล์ Thaicycling Association เวลา 08.00-12.00 น. และถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เวลา 14.00-16.00 น.

Cr. :วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

http://www.natethip.com/news.php?id=4028
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

http://www.natethip.com/news.php?id=4027
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

http://www.natethip.com/news.php?id=4026
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

http://www.natethip.com/news.php?id=4025
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

พิมพ์ไทยออนไลน์ // สหพันธ์ยิมนาสติกนานาชาติ ชื่นชมนักกีฬากีฬายิมนาสติกแอโรบิกไทย ที่สามารถติดทอปเทนของโลกได้อย่างน่าทึ่งจากการส่งแข่งขันเป็นครั้งแรก ยิมนาสติกลีลาไปแข่งขันที่อุซเบกิสถาน หวังสร้างความมั่นใจ ก่อนล่าเหรียญทองซีเกมส์ ที่เวียดนาม ปลายปีนี้
จากการที่สมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย ส่งนักกีฬาจำนวน 5 คน และเจ้าหน้าที่อีก 2 คน รวม 7 คน เดินทางไปแข่งขัน ยิมนาสติกแอโรบิก ชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 16 ที่เมืองบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน ระหว่างวันที่ 27-29 พฤษภาคม 2564 แบ่งออกเป็นประเภท เดี่ยวหญิง , เดี่ยวชาย, มิกซ์แพรส์, ทรีโอ และ กรุ๊ป เสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับสร้างผลงานได้เป็นที่น่าพอใจ ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงของการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน
ประเภททรีโอ ( 3 คน ) น.ส.ไอรดา ปานท้าว, น.ส.สุภัสสร วัชราภรณ์ และ นายชนกพล เจียมสุขใจ ได้อันดับที่ 13 ประเภทหญิงเดี่ยว ชวิศา อินทกุล (อันดับที่ 20 ) ประเภทชายเดี่ยว ชนกพล เจียมสุขใจ อยู่อันดับ 18 ของโลก ประเภทคู่ผสม (“มิกซ์แพรส์”) ชวิศา อินทกุล คู่กับ พีระพงษ์ พจนโกสีย์ อยู่อันดับที่ 12 ของโลก และ ประเภทกรุ๊ป ทีมชาติไทยส่งแข่งขันครบทั้ง 5 คู่ ประกอบด้วย พีระพงษ์ พจนโกสีย์, ชนกพล เจียมสุขใจ, น.ส.ชวิศา อินทกุล, น.ส.ไอรดา ปานท้าว, น.ส.สุภัสสร วัชราภรณ์ ทำคะแนนได้สูงถึง 19.311 คะแนน ติดอันดับที่ 9 ของโลก

ล่าสุด สมาคมเตรียมส่งนักกีฬายิมนาสติกลีลา เข้าแข่งขันรายการชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 12 ที่เมืองทาชเคนต์ อุซเบกิสถาน ระหว่างวันที่ 8-10 มิถุนายน ประเภทกรุ๊ปจำนวน 6 คน ประกอบด้วย น.ส.ชุติกาญจน์ ผิวผ่อง, น.ส.ปัณฑิตา ทองสอง, น.ส.ภรณ์นัชชา เจตธำรง, น.ส.ชลธิชากร จรรย์โกมล, น.ส.สุพิชา ปิ่นฝั้น , น.ส.ณวิตา วิบูลย์ธีรวุฒิ โดยมี สุชารัตน์ พระพินิจกุลธร และ สุมาลี สุขขา (ผู้ฝึกสอน) ดร.กุสุมาลย์ ประเสริฐศรี เป็นผู้จัดการทีม ออกเดินทางวันที่ 6 มิถุนายน 2564
ดร.กุสุมาลย์ ประเสริฐศรี อุปนายกสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย ในฐานผู้จัดการทีม เปิดเผยว่า จากผลงานของนักกีฬายิมนาสติกแอโรบิก ที่ได้อันดับ 9 ของโลก โดยสหพันธ์ยิมนาสติกนานาชาติ ( FIG) แสดงความยินดีต่อสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย เนื่องจากเล็งเห็นว่าเป็นการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ทั้งที่เพิ่งจะส่งแข่งขันเป็นปีแรก แต่ผลงานดีกว่านักกีฬาจากทวีปยุโรปหลายคน ซึ่งส่งผลโดยตรงให้นักกีฬายิมนาสติกทั่วโลก ให้ความเชื่อมั่นในความสามารถของนักกฬายิมนาสติกจากประเทศไทยดีขึ้นกว่าเดิม

ส่วนการเตรียมทีมเข้าแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ขณะนี้เหลืออีก 5 เดือน เจ้าภาพ เวียดนาม จัดกีฬายิมนาสติกมีชิงทั้งหมด 21 เหรียญทอง ในส่วนของ ยิมแอโรบิก มีชิง 5 เหรียญทอง จาก ชายเดี่ยว, หญิงเดี่ยว,มิกซ์แพรส์, ทรีโอ และ กรุ๊ป ทีมไทย ถึงแม้จะผ่านรายการชิงแชมป์โลกมาแล้วก็ตาม ไม่มีการประมาทอย่างแน่นอน เน้นเสริมท่ายาก และต้องลดความผิดพลาดให้น้อยที่สุด ส่วนคู่แข่งที่น่ากลัวคือ เวียดนาม เพราะไม่เห็นความเคลื่อนไหว ได้เปรียบของความเป็นเจ้าภาพ จาก 5 เหรียญทอง หวังอย่างน้อย 2 เหรียญทอง จากประเภท เดี่ยวหญิง และ ประเภทกรุ๊ป ส่วนเหรียญทองที่เหลือคือกำไร

Cr. :วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // “โต๊ะเล็กไทย” ไม่ง่าย แบ่งสายเจอ 3แชมป์ระดับทวีป​ โปรตุเกส​แชมป์ยุโรป, โมร็อกโก​แชมป์แอฟริกา​ และ​ หมู่เกาะโซโลมอน​แชมป์โอเชียเนีย​ “บิ๊กป๋อม” วิเคราะห์ เราไม่ได้อยู่สายที่สะดวกโยธิน ถ้าจะเข้ารอบสอง ต้องมีผลการแข่งขันที่ดีกับทีมใดทีมหนึ่ง ไม่ โปรตุเกส ก็ โมร็อคโก
จากผลการแบ่งสายฟุตซอลโลก2021ทีมโต๊ะเล็กไทย อันดับ 17 โลก อยู่ในสายซี ร่วมกับ โปรตุเกส อันดับ 5 ของโลก , โมร็อคโก ที่ 19 ของโลก และ หมู่เกาะโซโลม่อน ที่ 48 ของโลก
“บิ๊กป๋อม”อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ และ ประธานพัฒนาฟุตซอลและฟุตบอลชายหาดไทย เผยถึงคู่แข่งทั้ง 3 ชาติของไทยในลิทัวเนียครั้งนี้ว่า
“มองว่าทีมจากโถ1ของเรา อย่าง โปรตุเกส จะไม่หนักเท่า บราซิล , อาร์เจนติน่า หรือ สเปน แต่โปรตุเกสก็คือแชมป์ยุโรป เขาแข็งแน่ สถิติที่เจอกันมา เราแพ้ลูกเดียวตลอด แต่มองว่าเป็นงานที่หนักแน่นอน”

“ส่วนโมร็อคโก ถ้าเราวิเคราะห์ในสถานการณ์ปัจจุบัน โอเคว่าแต่ก่อนเราสู้ได้ ตอนนี้เราเห็นผลงานของเขา ผลงานล่าสุดที่อียิปต์ คือโมร็อคโกเขาได้แชมป์มา และเป็นแชมป์ที่ไม่ได้เอาตัวจากยุโรปมาเล่นด้วย”
“ทั้ง โปรตุเกส และ โมร็อคโก มองว่าหนักสำหรับเรา ถ้าคิดจะเข้ารอบต่อไป ต้องมีผลการแข่งขันที่ดีกับทีมหนึ่งให้ได้ ส่วนอีกหนึ่งทีมในสายเรา อย่าง หมู่เกาะโซโลม่อน จะไปดูถูกเขาไม่ได้ เขามีความแข็งแกร่ง และล่าสุดเปลี่ยนมาใช้โค้ชบราซิลแล้วด้วย”
“เราไม่ได้อยู่สายที่สะดวกโยธิน แต่มองว่าเป็นสายที่แข็งด้วยซ้ำ”
อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ เผยอีกว่า “จริงๆแล้วถ้ามองถึงการเข้ารอบ คือเราจะต้องเป็นอันดับ 2 จะเป็นผลดีถ้าเราเข้าไปเป็นที่ 3 เข้าไปเจอแชมป์กลุ่มอื่นๆแน่ๆ คือจะต้องทำผลงานให้เหมือนประมาณครั้งที่แล้ว คือต้องทำงานอย่างหนักเพื่อเข้าที่ 2ให้ได้”
“บิ๊กป๋อม” เผยอีกว่า “การเตรียมทีมจะมีช่วงเดือน ก.ค.64 จะซ้อมก่อน โดยมีทัวร์นาเมนต์ปรีฟุตซอลเวิล์ดคัพได้เชิญ โมร็อคโก มา แต่ตอนนี้เขาอยู่สายเดียวกันฟุตซอลโลก2021 อาจจะมาแข่งขันกับเราไม่ได้”

“ปรีฟุตซอลเวิล์ดคัพ จะใช้จัดเตรียมสำหรับฟุตซอลโลก2021 ถ้าไม่ได้ 12 ทีมจริงๆ น่าจะให้ได้ 9 ชาติให้ครบทุกทวีป ที่จะต้องมีคือ ทีมจากยุโรป , ทีมจากแอฟริกา อียิปต์ หรือ แองโกล่า , โอเชียเนียอาจจะไม่ได้ อาจจะเชิญอเมริกากลางมาแทน คิดว่าตอนนี้น่าจะมีประมาณ 6-7 ชาติแล้ว”
“อีกช่วงคือสเตจสอง จะมีเวลาอีก 40 วัน เพื่อที่จะซ้อมสำหรับการเข้าทัวร์นาเมนต์ ซึ่งก็ทำงานตามไทม์ไลน์ ส่วนกำหนดการณ์ต่างๆก็คงขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้วย”
สำหรับ สายซี ในฟุตซอลโลก2021ของทีมฟุตซอลไทย ประเดิมสนามนัดแรกพบ โปรตุเกส วันที่ 13 ก.ย.64 , นัดสอง ไทบ พบ โมร็อคโก วันที่ 16 ก.ย.64 และนัดสาม หมู่เกาะโซโลม่อน พบ ไทย วันที่ 19 ก.ย.64

Cr. :วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์ // กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ภายใต้มูลนิธิฮอนด้าประเทศไทย ร่วมกับ กลุ่มบริษัทฮอนด้าในประเทศไทย เดินหน้าส่งมอบความช่วยเหลือครั้งใหม่ เพื่อเคียงข้างคนไทยในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นและขยายเป็นวงกว้าง โดยเร่งผลิตนวัตกรรมหน้ากากแรงดันลบ และแรงดันบวกเพิ่มเติมอีกจำนวน 1,100 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 42 ล้านบาท
ซึ่งพัฒนาและผลิตขึ้นโดยทีมวิศวกรจิตอาสาของฮอนด้า เพื่อเป็นเกราะป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งช่วยป้องกันผู้ป่วยในการแพร่กระจายเชื้อ เริ่มผลิตแล้ว ที่โรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้า จ.อยุธยา และจะทยอยส่งมอบให้กับกระทรวงสาธารณสุขและโรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อกระจายไปยังโรงพยาบาลรัฐต่างๆ ทั่วประเทศ รวมถึงกรมราชทัณฑ์ ในช่วงกลางเดือนมิถุนายน 2564

นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร กรรมการผู้จัดการกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย กล่าวว่า “ในวันนี้ คนไทยต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง กองทุนฮอนด้าฯ ได้เร่งผลิตนวัตกรรมหน้ากากแรงดันลบและบวกเพิ่มเติมอีกจำนวน 1,100 ชิ้น หลังจากเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้ผลิตและกระจายการส่งมอบให้แก่โรงพยาบาลใน 77 จังหวัดทั่วประเทศทั้งหมด 1,000 ชิ้น เพื่อเป็นเกราะป้องกันและลดความเสี่ยงการติดเชื้อให้กับบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงสามารถนำมาใช้กับผู้ป่วยเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่กระจาย สำหรับครั้งนี้ จะทยอยส่งมอบช่วงกลางเดือนมิถุนายน ให้กับกระทรวงสาธารณสุขและโรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อเร่งจัดสรรให้กับโรงพยาบาลรัฐทั่วประเทศ รวมถึงมอบให้กับกรมราชทัณฑ์ ในนามตัวแทนของกองทุนฮอนด้าฯ ขอเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วย รวมถึงคนไทยทุกคน ผ่านพ้นสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้ไปด้วยกันได้ในเร็ววัน”

ด้าน พ.ญ. ณัฏฐาพร หะรังศรี วิสัญญีแพทย์ โรงพยาบาลระนอง กล่าวถึงประสบการณ์การใช้นวัตกรรมหน้ากากแรงดันบวกและแรงดันลบของกองทุนฮอนด้าฯ การรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ว่า “จุดเด่นของนวัตกรรมหน้ากากแรงดันลบและแรงดันบวก คือเป็นส่วนหนึ่งของอุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคลทางการแพทย์
ซึ่งสามารถปรับใช้งาน 2 รูปแบบ คือ แรงดันลบ ใช้ในการเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อโควิด-19 และแรงดันบวก ใช้เพื่อป้องกันและช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์หายใจสะดวก หน้ากากมีน้ำหนักเบา ใส่สบายไม่แนบหน้าเกินไป ที่สำคัญคือสามารถปรับระดับลมช่วยให้อากาศถ่ายเท และช่วยลดการเกิดฝ้าบนหน้ากากขณะอากาศร้อน ทำให้สามารถการดูแลรักษาผู้ป่วยได้นานและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผ่าตัดหรือการใส่ท่อช่วยหายใจ ผู้ป่วยมีโอกาสที่จะไอ ทำให้เชื้อที่อยู่ในระบบทางเดินหายใจกระจายเยอะขึ้น ซึ่งขณะนี้อุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคลทางการแพทย์ยังเป็นที่ต้องการอย่างมาก”

สำหรับนวัตกรรมหน้ากากแรงดันลบและแรงดันบวกซึ่งผลิตขึ้นโดยทีมวิศวกรฮอนด้า ผ่านการทดสอบมาตรฐานของอุปกรณ์ทางการแพทย์ จากกรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ประกอบด้วยตัวหน้ากาก ท่ออากาศ และเครื่องกรองอากาศ สามารถปรับการทำงานเป็นหน้ากากแรงดันบวก สำหรับบุคลากรทางการแพทย์เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และหน้ากากแรงดันลบสำหรับผู้ป่วยติดเชื้อเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ สามารถนำกลับมาหมุนเวียนใช้ใหม่ได้
ซึ่งก่อนหน้านี้ กองทุนฮอนด้าฯกระจายการส่งมอบจำนวน 1,000 ชิ้น ไปยังโรงพยาบาล 77 จังหวัดทั่วประเทศ และเร่งผลิตเพิ่มเติมอีกจำนวน 1,100 ชิ้น รวมการผลิตทั้งหมด 2,100 ชิ้น เพื่อรองรับความต้องการอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เพิ่มขึ้นจากการระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยครั้งนี้จะมอบให้แก่กระทรวงสาธารณสุขและโรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อกระจายไปยังโรงพยาบาลรัฐทั่วประเทศ อาทิ โรงพยาบาล ศิริราช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รวมถึงกรมราชทัณฑ์

นับตั้งแต่ปี 2563 ที่สังคมไทยเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จนถึงปัจจุบัน กองทุนฮอนด้าฯ ร่วมต้านภัยโควิด-19 รวมงบประมาณกว่า 122 ล้านบาท จากเงินสมทบจากการซื้อรถจักรยานยนต์ รถยนต์ และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ของลูกค้าทุกท่าน พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือสังคมไทย เพื่อที่จะก้าวพ้นสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้ไปด้วยกัน

Cr. :วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์