วันพฤหัสบดี, มกราคม 16, 2025

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรก บล็อก หน้า 1741

“ยกน้ำหนักฯ” เฮ! “ศาลกีฬาโลก” คืนความเป็นธรรม ไฟเขียว นักกีฬาแข่งระดับนานาชาติ

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // ตามที่ สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ได้ทำเรื่องอุทธรณ์ เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ยกน้ำหนักไทย ต่อศาลกีฬาโลก ทั่ เมืองโลซานน์ สวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2563 ตามคดีเลขที่ CAS 2020/A/6981 นั้น
นายนิพนธ์ ลิ่มบุญสืบสาย ประธานคณะทำงานกฎหมายระหว่างประเทศ ของสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นฯ ได้รายงานถึงผลแห่งคดีอันเป็นคำตัดสินที่ถือได้ว่าเป็นที่ยุติแล้ว จากคณะอนุญาโตตุลาการของศาลกีฬาโลก หรือ CAS ระหว่าง ผู้อุทธรณ์ คือ สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย กับ สหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ หรือไอดับลิวเอฟ โดยเป็นเอกสารจำนวนถึง 52 หน้า ลงวันที่ 8 เมษายน 2564 (ตามวัน/เวลาท้องถิ่น) โดยภาพรวม เป็นไปตามเป้าประสงค์หลักของสมาคมฯ ในการต่อสู้เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับ บุคคลากรของกีฬายกน้ำหนัก เป็นสำคัญ
โดยแบ่งเป็น 3 ภาคส่วนหลัก ส่วนที่ 1 นักกีฬายกน้ำหนักระดับยุวชน สามารถกลับเข้าแข่งขันรายการระดับนานาชาติของไอดับบลิวเอฟ ได้แล้ว เพราะโทษห้ามเข้าร่วมการแข่งขัน หมดไปตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2563 สำหรับนักกีฬายกน้ำหนักในระดับนอกเหนือข้างต้น คือ เยาวชน และประชาชน ถกลับเข้าไปร่วมการแข่งขันได้ หลังจากวันที่ 18 มิถุนายน 2564 แต่ถ้าหาก ต้องการไปแข่งขันนานาชาติของไอดับบลิวเอฟในทันที สมาคมฯ จะต้องชำระเงิน 200,000 ดอลลาร์สหรัฐห รือประมาณ 6,400,000 บาทให้ไอดับบลิวเอฟ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น นักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย ไม่สามารถเข้าร่วมมหกรรมกีฬาโอลิมปิกส์เกมส์ ที่ กรุงโตเกียว
ส่วนที่ 2 เจ้าหน้าที่ทางเทคนิค เป็นผู้ตัดสินหรือกรรมการตัดสินนานาชาติ กลับไปปฏิบัติหน้าที่ได้ในทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข
ส่วนที่ 3 สำหรับสมาคมฯ จะถูกจำกัดสิทธิ์การดำเนินการกิจกรรมต่าง ๆ จนถึงวันที่ 1 เมษายน 2566 โดยไม่มีสิทธิจัดการแข่งขัน จัดประชุมคองเกรส จัดประชุมกรรมการบริหาร จัดประชุมกรรมาธิการและกรรมการชุดอื่นใดได้ ไม่มีสิทธิการเข้าร่วมประชุมคองเกรส หมายรวมถึงการออกเสียง ไม่มีสิทธิในการยื่นหรือเสนอญัตติ และวาระต่าง ๆในการประชุมคองเกรส และไม่มีสิทธิเข้าร่วมและรับสิทธิประโยชน์จาก IWF Development Program ยกเว้น การศึกษากับเข้าอบรมในเรื่องการต่อต้านการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา
อย่างไรก็ตาม คำตัดสินของศาลกีฬาโลก เปิดช่องให้ระยะเวลาการถูกจำกัดสิทธิ์ของสมาคมฯ กระชับหรือย่อขึ้นประมาณ 1 ปี โดยให้ไปสิ้นสุดได้วันที่ 7 มีนาคม 2565 (จากวันที่ 1 เมษายน 2566) เพียงสมาคมฯ ชำระเงิน 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 6,400,00 บาท พร้อมกันนี้ สมาคมฯ จะต้องแสดงถึงเจตนารมณ์พร้อมหลักฐานเชิงประจักษ์ ของการปฏิบัติที่เป็นจริงในการต่อต้านการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬาที่สอดคล้อง ตามประมวลมาตรฐานของ องค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก หรือ WADAโดยให้กับชุดคณะทำงานของไอดับบลิวเอฟ ซึ่งมีองค์ประกอบเป็นกรรมการอิสระจากภายนอก Independent Monitoring Group (IMG) มาติดตามผลการปฏิบัติงานของสมาคมฯ
“โดยสรุปแล้ว คิดว่าสมาคมฯ บรรลุการทำงานระดับยุทธศาสตร์ เป้าหมายคำนึงถึงบุคคลกรทางการกีฬายกน้ำหนัก ได้แก่ นักกีฬายกน้ำหนัก กับเจ้าหน้าที่เทคนิคของสมาคมฯ เป็นศูนย์กลางหรือเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญ ซึ่งเห็นได้จาก คำตัดสินแสดงถึงความเมตตาจากท่านในองค์คณะอนุญาโตตุลากรของศาลกีฬาโลกในคดีนี้ โดยเราน้อมรับและเคารพการตัดสินทุกประการ นอกจากนี้แล้ว สมาคมฯ ก็ได้มีหลายสิ่งอย่างจำเป็นต้องถอดเป็นบทเรียน เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นกับสมาคมฯ ซ้ำอีก สมาคมฯ กำลังเปลี่ยนแปลงไปสู่การเป็นองค์กรกีฬาอัจฉริยะ มีบุคลากรอันทรงคุณค่าระดับสากล การขับเคลื่อนเสมือนเฟืองหนึ่งที่สำคัญในการสร้างพลังอำนาจทางกีฬาให้กับไทย ในอนาคตอันใกล้นี้” นายนิพนธ์ กล่าว

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“NEX Group” ผนึก “ซี ดี เอ็น พลัส” สไปเดอร์ บิลดิ้ง พัฒนาสื่อทีวี-สื่อดิจิตัล เพื่ออนาคตสู่มวลชน

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // ที่ ห้องบอลลูม A ชั้น 3 โรงแรมบางกอก แมริออท  สุขุมวิท 57 กรุงเทพฯ พันเอกปรีฎก ทองวันดี ประธานในพิธีแถลงข่าว พร้อมด้วย นายปราโมทย์ เจริญภักดี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทซีดี เอ็นพลัส จำกัด นายอัศพล บุณยเกียรติ ผู้จัดการ บริษัท เน็กซ์ อินโนเทค จำกัด นางสาวสิริรัตน์ ราวินิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สไปเดอร์ บิลดิ้ง จำกัด และ ดร.เลอภพ โสรัตน์ อุปนายกสมาคม สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย

ร่วมกันแถลงข่าว และเปิดพิธีการลงนามทำสัญญาประกอบกิจการร่วมค้า พร้อมเปิดตัวโทรทัศน์เพื่ออนาคต “NEX TV Thailand” ในการให้บริการ OTT/IPTV  Platfrom ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด19 ตามนโยบายของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด
นายปราโมทย์ เจริญภักดี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ซี ดี เอ็น พลัส  หนึ่งในบริษัทในเครือ NEX Group เปิดเผยว่า ได้ดำนินการพัฒนาเทคโนโลยี  OTT (Over The Top) และ IPTV (Internet Protocol Television) Platform ที่จะสามารถนำเสนอเนื้อหาสาระที่ครอบคลุม และช่องรายการที่หลากหลายในลักษณะ On Demand ในจอโทรทัศน์ ผ่านอุปกรณ์ Set Top Box และนำเสนอใน Mobile Application ผ่านจอโทรศัพท์มือถือ โดยส่งเนื้อหาสาระ ช่องรายการต่างๆจาก77จังหวัดทั่วประเทศ และ คอนเทนต์ที่หลากหลาย และความบันเทิง ผ่านโครงข่าย Internet ซึ่งไม่ต้องใช้คลื่นความถี่ เพื่อให้ประชาชนได้รับชม ในหลากหลายทางเลือก

ขณะที่ ดร.เลอภพ โสรัตน์ อุปนายกสมาคม สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่ “NEX TV Thailand” ได้เดินหน้าพัฒนาสื่อทีวีในอนาคต เพื่อให้เกิดทางเลือกในการเข้าถึงการรับชมมากยิ่งขึ้น ในฐานะตัวแทนสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬา และตัวแทนสื่อสายกีฬา ก็หวังว่าNex ผลักดันคอนเทนต์ต่างๆ ในวงการกีฬา และช่องทางการถ่ายทอดด้านกีฬาต่าง สู่ประชาชนอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น
นางสาวสิริรัตน์ ราวินิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สไปเดอร์ บิลดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า รู้สึกยินดีที่ได้มาร่วมลงนามแถลข่าวเปิดตัวโทรทัศน์เพื่ออนาคต “NEX TV Thailand” และหวังว่าจะได้ร่วมมือกับNEX TV Thailand เดินหน้าพัฒนาสื่อในประเทศต่อไป

สำหรับกลุ่มบริษัท “NEX” เติบโตและขยายประเภทของการดําเนินทางธุรกิจ ออกมาจาก บริษัท สุขกมลรัชดา จํากัด ที่ดําเนินธุรกิจเกี่ยวกับสุขภัณฑ์และ อุปกรณ์ตกแต่งภายในบ้าน ซึ่งก่อตั้งมานานกว่า 60 ปี โดย “NEX” จะมุ่งเน้น สินค้าเกี่ยวกับไฟฟ้า, แสงสว่าง ผลิตภัณฑ์ LED คุณภาพสูง และอุปกรณ์ด้านเทคโนโลยีต่างๆ โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นกลุ่มที่ต้องการสินค้าที่มีคุณภาพสูง ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงทําให้NEXยึดถือการดําเนินธุรกิจที่เน้นคุณภาพของสินค้าตลอดมา

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“บิ๊กฮง” สั่งปิดแคมป์ทีมชาติด่วน!! ทีมพูลเสี่ยงติดเชื้อ “โควิด19”

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // “บิ๊กฮง” สุนทร จารุมนต์ นายกคิวไทยสั่งปิดแคมป์ทีมชาติ 14 วัน หลังจากนักกีฬาทีมชาติพูลแจ้งติดโควิด 19 จากพบปะกับรุ่นพี่ ย้ำสมาคมยึดระเบียบมาตรการ ศบค.อย่างเคร่งครัด เตรียมทำความสะอาดอาคารที่เก็บตัวทุกชั้น เพื่อความปลอดภัย
นายสุนทร จทรุมนต์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงได้รับข่าวจากทางโค้ชทีมชาติไทย เรื่องนักกีฬาทีมชาติชุดเอเชี่ยนอินดอร์ แอนด์ มาร์เชียลอาร์ตเกมส์ และชุดซีเกมส์ที่เก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่ทีบีซี. สนุกเกอร์ เซนเตอร์ ซ.รามคำแหง 89/1 ได้มีนักกีฬาพูลทีมชาติแจ้งว่าตัวเองนั้นติดโควิด 19 จากการที่ได้เดินทางไปร่วมทานข้าวพูดคุยกับรุ่นพี่ ซึ่งได้แจ้งเจ้าตัวว่ารุ่นพี่ที่ทานข้าวด้วยตรวจพบเขื้อโควิด 19 เมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา ตอนนี้นักกีฬาดังกล่าวไปโรงพยาบาล เพื่อทำการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ว่าจะติดหรือไม่ รอคำยืนยันจากทางฝ่ายแพทย์อีกครั้งว่ามีผลเป็นบวกหรือไม่

นายสุนทร จารุมนต์ กล่าวต่อว่า  ตอนนี้ได้ปรึกษากับ คุณศักดา รัตนสุบรรณ อุปนายกและประธานคัดเลือกนักกีฬาทีมชาติสนุกเกอร์แล้ว เลยลงความเห็นให้มีการปิดแคมป์ทีมชาติอย่างเด็ดขาดเป็นระยะเวลา 14 วัน เพื่อรอดูผลนักกีฬาคนอื่นๆด้วยที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง และกลุ่มเสี่ยงต่ำให้ไปขอตรวจกับโรงพยาบาลหน่วยงานของรัฐ เพื่อรอผลของการตรวจทุกคนว่า ผลจะออกมาเป็นอย่างไรทั้งจำนวนโค้ช 3 คนและนักกีฬา 25 คน หวังว่าผลการตรวจทุกคนจะเป็นลบทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีมาตรการให้เจ้าหน้าที่มาช่วยฉีดยาฆ่าเชื้อโรคบริเวณแคมป์ทีมชาติทั้งหมด ตั้งแต่ชั้นทานข้าวจนถึงชั้นเก็บตัวทีมชาติเพื่อความปลอดภัยของทุกคน และเพื่อเป็นไปตามระเบียบของทาง ศบค. และการกีฬาแห่งประเทศไทยอย่างเคร่งครัด

“นอกจากนี้สมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทยจะแจ้งการติดเชื้อโควิด 19 ของนักกีฬาทีมชาติไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบอย่างการกีฬาแห่งประเทศไทยต่อไป ขอให้ทราบบทสรุปการแจ้งและยืนยันของฝ่ายแพทย์กับนักกีฬารายนี้ให้ชัดเจนเสียก่อน”

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

 

 

สปป.ลาวโชว์ศักยภาพผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจอาเซียน

0

http://www.natethip.com/news.php?id=3844
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

พุ่มพันธุ์ม่วง” ต่อยอดธุรกิจแก๊ส สู่ธุรกิจอาหารร้าน “ผัดไทยไฟทะลุ”

0

http://www.natethip.com/news.php?id=3843
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

สำนักข่าวเนตรทิพย์-ท้องกินข้าว สมองกินข่าว!

0

https://timeline.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1161818832110059651
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

 

 

เล่าขานตำนาน “ชื่นสุข สงกรานต์” ร้องเล่นเพลงพื้นบ้านใจกลาง MBK

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//ผู้สื่อข่าวรายงานว่าMBK ชวนมาเล่าขานตำนาน “ชื่นสุข สงกรานต์” ร้องเล่นเพลงพื้นบ้านใจกลาง กับ “เทศกาลดนตรี มาร้อง เล่น เต้น กัน” ครั้งที่ 4ต้อนรับเทศกาลสงกรานต์แบบวิถีใหม่ กับการรับชมการแสดงทางวัฒนธรรมที่ทุกคนคิดถึง ย้อนวันวานความสุข อบอุ่นหัวใจไปกับ “เทศกาลดนตรี มาร้อง เล่น เต้น กัน” (MBK Center Music & Performance Fest) โดย ศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ผนึกหน่วยงานภาครัฐ กลุ่มวัฒนธรรมพื้นบ้าน และสถาบันการศึกษา เดินหน้าสร้างแลนด์มาร์คปักหมุด งานดนตรีและการแสดงใจกลางเมือง ในสัปดาห์ที่ 2 และ 4 ของทุกเดือน
โดยสำหรับเดือนเมษายนนี้ เริ่มต้นด้วยความชื่นมื่น “เทศกาลดนตรี มาร้อง เล่น เต้น กัน ครั้งที่ 4” ตอน “ชื่นสุขสงกรานต์” บริเวณ ลานกิจกรรม พญาไท ฮอลล์ ชั้น G ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ สัมผัสวัฒนธรรมการร้องเล่นเพลงพื้นบ้าน โดยนักแสดงกลุ่มคนรุ่นใหม่จาก กลุ่มเพาะกล้าพันธุ์เก่งเพลงพื้นบ้าน และ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุพรรณบุรี ที่นำการแสดงดีๆ หาชมได้ยาก ประยุกต์นำความร่วมสมัยมาผสมผสานมาให้รับชมอย่างสนุกสนานโดยได้รับเกียรติจาก รศ.บัวผัน สุพรรณยศ อุปนายกสมาคม สมาคมเพลงพื้นบ้านภาคกลางประเทศไทย ในการสร้างสรรค์ประพันธ์ร้อยเรียงเพลงให้ ทั้งเพลงยั่วกลองยาว เพลงพวงมาลัย และ เพลงอีแซวมาเผยแพร่ให้ผู้ชมอย่างเต็มที่การแสดงเปิดตัวด้วย ขบวนแห่กลองยาวสุดคึกคัก จากนั้นพ่อเพลง แม่เพลงและนักแสดงเยาวชน กลุ่มเพาะกล้าพันธุ์เก่งเพลงพื้นบ้าน ที่ได้ร่วมกันร้องเล่นในชุดการแสดง เพลงยั่วกลองยาว การร้องโต้ตอบของหนุ่มสาวประกอบดนตรีกลองยาว ต่อด้วยการแสดงเลิเก ตอนพิเศษ “ลานรัก MBK” ชมการพระนางเกี้ยวพาราสี และตบตีอย่างเร้าใจ ย้อนนึกถึงบรรยากาศหนุ่มสาวเที่ยวงานเทศกาลสงกรานต์อย่างครื้นเครง ต่อด้วย เพลงพวงมาลัย เล่าขานตำนานสงกรานต์ เสนอรูปแบบถาม-ตอบ เรื่องขนบประเพณีดั้งเดิมของการเล่นเพลงพื้นบ้านไทย และใช้ไหวพริบปฏิญาณในการโตตอบของนักแสดงอย่างสนุกสนาน โดยระหว่างแสดงมีเซอร์ไพร์สจากน้อง ชญานิษฐ์ แก้วแหวน นิสิตคณะแพทย์ศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เยาวชนเพาะกล้าพันธุ์เก่งเพลงพื้นบ้านรุ่นที่ 4 ที่วันนี้มาในฐานะผู้ชม และขึ้นเวทีร่วมร้องเพลงฉ่อยแบบสดๆ ให้ผู้ชมในงานฟัง พร้อมเชิญชวนให้เยาวชน มาร่วมสืบสานการแสดงประเพณีไทยๆ ให้คงอยู่กับคนไทยตลอดไป จากนั้น สุธาทิพย์ ธราพร (สมหญิง ศรีประจันต์) ทายาทของแม่ขวัญจิต ศิลปินแห่งชาติปี 2539 นำคณะนักแสดงเครือข่ายเยาวชนเพาะกล้าพันธุ์เก่งเพลงพื้นบ้าน มาสร้างความคึกครื้นแบบไทยๆ กับ เพลงอีแซวชื่นสุขสงกรานต์ ก้าวผ่าน โควิด เพลงพื้นบ้านของจังหวัดสุพรรณบุรี ที่มีอายุไม่น้อยกว่า 150 ปี เดิมเป็นเพลงที่หนุ่มสาวใช้ร้องรับลูกคู่เพื่อเกี้ยวพาราสี ปัจจุบันถูกประยุกต์ลักษณะการร้องให้มีความทันสมัยสะท้อนเรื่องราวความเป็นอยู่ในยุคปัจจุบันมากขึ้น
ปิดท้ายที่ การแสดงเพลงคล้องช้าง เพลงประกอบการเล่นคล้องช้างของหนุ่มสาวในเทศกาลสงกรานต์ ของชาวไทยภาคกลางที่สืบต่อกันมาอย่างช้านานลักษณะการเล่น ให้หนุ่มสาวยืนล้อมวง แล้วให้คนตรงกลางได้คล้องผ้าเลือกคนที่จ้องการร่ายรำด้วย การละเล่นนี้สร้างความสนุกสนานเพลิดเพลิน ให้ผู้เล่นมีโอกาสสานสัมพันธ์ มิตรภาพความผูกพันแก่กัน และในโอกาสนี้เหล่านักแสดง กลุ่มเพาะกล้าพันธุ์เก่งเพลงพื้นบ้าน ได้เชิญชวนให้ผู้ชมงาน เทศกาลดนตรี มาร้อง เล่น เต้น กัน ครั้งที่ 4 ได้มีส่วนร่วมในการแสดงเพลงคล้องช้างอย่างสนุกสนาน เกิดแรงบันดาลใจในการส่งเสริมสืบทอดภูมิปัญญาไทยให้กว้างขวางยิ่งขึ้นไป สำหรับความสนุกครั้งต่อไปใน “เทศกาลดนตรี มาร้อง เล่น เต้น กัน ครั้งที่ 5” จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 24 เมษายน 2564 บริเวณ ลานกิจกรรม ชั้น G โซน A เวลา 16.30 น. – 18.00 น. ในตอน “เสน่ห์แห่งศิลปะการต่อสู้ไทย” ปลุกความตื่นเต้นเร้าใจใน โดย กลุ่มเยาวชนศรศิลป์นาฏมวยไทย ดีกรีแชมป์เวที นาฏมวยไทยอีซูซุ โครงการ “รักชาติ รักษ์มวยไทย และผู้ชนะผลโหวตอันดับที่ 3 จากคนดูทั่วประเทศ ในรอบตัดสิน เวที Thailand Got Talent ซีซั่นที่ 3 ที่จะมาโชว์ศาสตร์และศิลป์การต่อสู้มวยไทยโบราณ รวมถึง การแสดงหุ่นละครเล็กที่จะทำให้ทุกคนทึ่งไปกับการเคลื่อนไหวอย่างสวยงามของหุ่นละครไทยมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับการส่งเสริม สืบสานศิลปวัฒนธรรม สัมผัสความสุขที่ทุกคนคาดไม่ถึงโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ได้ตลอดทั้งงาน ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมและกิจกรรมต่างๆ ได้ที่ http://www.mbk-center.co.th และwww.facebook.com/mbkcenterth #มาMBKกัน #TheNextEpisode #มาชิลกัน

“เชียงราย” ดวลจุดโทษแม่น เชือด ชลบุรี 5-4 8 คว้าแชมป์สมัย 3 ซ้อน “ช้าง เอฟเอ คัพ 2020”

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // ศึกฟุตบอล ช้าง เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ ประจำปี 2020 ที่สนาม ทรู สเตเดียม ชลบุรี เอฟซี อดีตแชมป์ 2 สมัย พบกับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด อดีตแชมป์ 2 สมัยเช่นกัน ในรอบรองชนะเลิศ ฉลามชลหักปากกาเซียน ชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ส่วน เชียงราย ชนะ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด โดยทั้งคู่ต่างชนะด้วยสกอร์ 2-1
เกมนี้ สะสม พบประเสริฐ ไม่มี จูเนียร์ เอลสตอลด์ และ รังสรรค์ วิรุฬห์ศรีที่ติดโทษแบน แต่ได้ เรนาโต้ เคลิช พร้อมใช้งาน วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ และ ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว ทำเกมรุก หลังเอลิอันโดร กอนชาก้า ด้าน เอเมอร์สัน เกมนี้ สมบูรณ์ เกือบทุกตำแหน่ง นำโดย บิลล์ โรซิมาร์ พร้อมด้วย ศิวกรณ์ เตียตระกูล และ ชัยวัฒน์ บุราญ

 

 

 

 

 

 

 

เริ่มเกมมานาที 30 ชลบุรี ได้ประตูขึ้นนำจากฟรีคิกที่ กฤษดา กาแมน เปิดลึกไปให้ ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ ชาร์จเข้าไปให้ ชลบุรี ออกนำก่อน 1-0
นาที 40 เชียงราย ได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่ ชัยวัฒน์ บุราญ ไปดักบอลได้ ก่อนจ่ายให้ศนุกรานต์ ถิ่นจอม จ่ายให้ ศิวกรณ์ เตียตระกูล แปเข้าไปสกอร์เท่ากัน 1-1 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลังไม่มีประตูเพิ่มเติมจบเกม เสมอกันไป 1-1 ต้องตัดสินกันในช่วงต่อเวลาพิเศษ และก็ไม่มีประตูเพิ่มเติมต้องไปตัดสินที่การดวลจุดโทษ และการดวลจุดโทษ เป็น เชียงราย ที่แม่นกว่า ชนะไปด้วยสกอร์รวม 5-4 พร้อมคว้าแชมป์ ช้าง เอฟเอ คัพ 2020 ไปครอง พร้อมคว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 3 พร้อมเงินรางวัล 5 ล้านบาท และสิทธิ์การไปเล่น เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ปี 2022

 

 

 

 

 

 

 

สำหรับรายชื่อ 11 ตัวจริง ชลบุรี เอฟซี : ชนินทร์ แซ่เอียะ (GK), นพนนท์ คชพลายุกต์, ทรงชัย ทองฉ่ำ, เรนาโต้ เคลิช, ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์, สัมพันธ์ เกษี, กฤษดา กาแมน, สหรัฐ สนธิสวัสดิ์, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว, เอลิอันโดร กอนซาก้า ด้านสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด : สรานนท์ อนุอินทร์ (GK), ชินภัทร ลีเอาะ, บรินเนอร์ เอ็นริเก้, วสันต์ ฮมแสน, ธนะศักดิ์ ศรีใส, โช จี ฮุน, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, ศนุกรานต์ ถิ่นจอม, ศิวกรณ์ เตียตระกูล, ชัยวัฒน์ บุราญ, บิลล์ โรซิมาร์

 Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

 

“ต่วย” ผงาดคว้าแชมป์เพาะกาย “มิสเตอร์ไทยแลนด์ 2021”

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // “ต่วย” วิชัย สิงห์ทอง อดีตรองแลมป์โลก ปี 2014 คืนสังเวียน หลังจากเจ็บไป 4 ปี ผงาดคว้าแชมป์เพาะกาย “มิสเตอร์ไทยแลนด์ 2021” ได้สำเร็จ ส่วนสมคิด สุเมโธเวชกุล อดีตแชมป์โลก 6 สมัย คืนสนามในรอบ 6 ปี ครองแชมป์มาสเตอร์ ด้าน นาร์แล็บ ไทยแลนด์ ได้รับ ถ้วยคะแนนรวมอันดับ 1

การแข่งขันกีฬาเพาะกายและฟิตเนสชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ถ้วยรางวัลพระราชทาน จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี “มิสเตอร์ไทยแลนด์ 2021” ที่ ไอส์แลนด์ฮอลล์ ชั้น 3 ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ เมื่อวันที่ 11 เม.ย.โดยมี นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายภูมิวรินทร์ ชุณหะวงษ์วริศ รองประธานสหพันธ์เพาะกายแห่งเอเชียและ ประธานสหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมมอบรางวัล
เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 75 กก.ที่ 1 วิชัย สิงห์ทอง (นาร์แล็บ ไทยแลนด์) อดีตทีมชาติ รองแขมป์โลกเมื่อปี 2014 ที่ 2 ปิยะพงษ์ แป้นเงิน (44 โฟกัส) ที่ 3 ประดิษฐ์ ท่าจีน (มัสเซิลเทค ไทยแลนด์) ที่ 4 พงศกร กาแก้ว (นาร์แล็บ ไทยแลนด์) ที่ 5 ฉัตรมงคล ธำรงสมบัติ (นาร์แล็บ ไทยแลนด์)

“ต่วย” วิชัย สิงห์ทอง ได้แชมป์ออฟแชมป์ ที่แชมป์เพาะกายทั้ง 6 รุ่น ทำให้ประสบความสำเร็จเป็นมิสเตอร์ไทยแลนด์ปี 2021 ครองถ้วยรางวัลพระราชทาน จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
“ต่วย” วิชัย สิงห์ทอง กล่าวว่า เพิ่งกลับมาแข่งขัน หลังจากพักไป 4 ปี เนื่องจากเจ็บที่ขาข้างซ้าย ลงแข่งรายการแรกก็กลับมาคว้าแชมป์ได้สำเร็จ โดยก่อนหน้านี้แข่งก็สามารถคว้าแชมป์มาตลอด รู้สึกดีใจมากๆ ที่ได้แชมป์ออฟแชมป์ครองถ้วยพระราชทานได้สำเร็จ
เพาะกายชาย มาสเตอร์อายุ 50 ปีขึ้นไป รุ่นทั่วไป ที่ 1 สมคิด สุเมโธเวชกุล อดีตแชมป์โลก 6 สมัย (สมคิดยิม แอนด์ ฟิตเนส) ที่ 2 เกษม ศิริโสตร์ (นาร์แล็บ ไทยแลนด์) ทีมชาติ ที่ 3 ชาญยุทธ ทิมทอง (สตรอง ฮาร์ท ยิม) ที่ 4 วรรณพงษ์ สุขพูลผลเจริญ (ปานะโปยยิม) ที่ 5 ภาณุพงศ์ ชนะภัย (ศรีสมพงศ์ยิม)
เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 65 กก.ที่ 1 วรธน มัชฌันติกะ (ชีวิตติดเหล็ก) ที่ 2 อรรคเดช ปลีนารัมย์ (กายวี่) ที่ 3 ไอดี มีซายะลง (สมาคมกีฬาจ.ปัตตานี) ที่ 4 นำพล ตะวังทัน (กายวี่) ที่ 5 ฐาปกรณ์ เจ็นพนัสสัก (ชมรมเพาะกาย สมาคมกีฬาจ.เชียงใหม่)
วรธน มัชฌันติกะ กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นแชมป์ประเทศไทย รุ่นนี้เป็นครั้งแรก โดยปีที่แล้วได้แชมป์รุ่น 60 กก.แต่ปีนี้ไม่มีแข่งขันรุ่นนี้ และเปลี่ยนสโมสรด้วย

เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 85 กก.ที่ 1 วุฒิศักดิ์ จวนสาง (กายวี่) ที่ 2 อนุรักษ์ ลิขิตอิทธิรักษ์ (นาร์แล็บ ไทยแลนด์) ที่ 3 วิทยา พันเลิศอมร (กายวี่) ที่ 4 เกรียงศักดิ์ วงษ์ใหญ่ (ฟักมัสเซิ่ล) ที่ 5 สุวิทย์ เกตุจินสา (นาร์แล็บ ไทยแลนด์)
เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักเกิน 85 กก.ที่ 1 พันธวัช นิมิตภาคภูมิ (มัสเซิลเทค ไทยแลนด์) ที่ 2 วิชิต สิงห์ทอง (นาร์แล็บ ไทยแลนด์) ที่ 3 กิตติ์ธเนศ สายสังวรณ์ (มัสเซิลเทค ไทยแลนด์) ที่ 4 ธีรวัต กิรณะวัฒน์ (มิวเทนท์ แอนด์ เทร็ค ไทยแลนด์) ที่ 5 อธิวัฒน์ จำเนียรทรัพย์ (ชมรมเพาะกาย สมาคมกีฬาจ.เชียงใหม่)
เพาะกายเยาวชนชาย รุ่นทั่วไป ที่ 1 กูดูรีมัน สามะอาลี (สมาคมกีฬาจ.ปัตตานี) ที่ 2 เอกรัตน์ ศรีโสภา (กายวี่) ที่ 3 ธนบดี เป็งวันผูก (ฟักมัสเซิ่ล) ที่ 4 นันทพงศ์ เชื้อโต่ง (ชมรมเพาะกาย สมาคมกีฬาจ.เชียงใหม่) ที่ 5 สุนทร สีมารัตน์ (สปาร์ตัน ยิม)
สำหรับสโมสรที่ได้ถ้วยคะแนนรวมอันดับ 1 นาร์แล็บ ไทยแลนด์ 505 คะแนน อับดับ 2 ฟิตสโตนยิม 305 คะแนน อันดับ 3 กายวี่ 260 คะแนน อันดับ 4 เอ็มวีพี ไทยแลนด์ 121 คะแนน อันดับ 5 พาวเวอร์ บลาสท์ ยิม 120 คะแนน

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์