พิมพ์ไทยออนไลน์ // จังหวัดภูเก็ต ผนึกกำลังร่วมกับ เครื่องดื่มเพื่อคนรักสุขภาพ “โพคารี่สเวท”, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), การกีฬาแห่งประเทศไทย , สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย และบริษัท มูฟ เอเชีย จำกัด จัดเทศกาลวิ่งมาราธอนระดับนานาชาติ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 รายการ “โพคารี่ สเวท ภูเก็ตธอน 2020” บนมาตรฐานการจัดในรูปแบบ New Normal ครบทุกระยะ โดยมีนักวิ่งร่วมงานรวมกว่า 3,000 คน ที่ สวนสาธารณะสะพานหิน จังหวัดภูเก็ต
ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 พ.ย. นายณรงค์ วุ่นซิ่ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย มร.ทาคายูกิ คูชิดะ Managing Director บริษัท โอซูก้า นิวทราซูติคอล (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของแบรนด์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ “โพคารี่สเวท” และผู้สนับสนุนทุกภาคส่วน ร่วมปล่อยตัวนักวิ่ง “โพคารี่สเวท ภูเก็ตธอน 2020” ประเภท ฟูลมาราธอน 42.195 กม. และ ฮาล์ฟมาราธอน 21.1 กม. ณ สวนสาธารณะสะพานหิน จังหวัดภูเก็ต
ประเภทโอเวอร์ออล แยกผลระหว่างนักวิ่งไทยและนักวิ่งต่างชาติออกจากกัน โดยไฮไลท์รายการประเภทฟูลมาราธอน 42.195 กม. แชมป์โอเวอร์ออล แชมเปี้ยนชิพ A (ต่างชาติ) ฝ่ายชาย เซอร์เก ไซเรียนอฟ ปอดเหล็กดาวรุ่งชาวรัสเซีย เข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ด้วยเวลา 02:32:25 ชม. ส่วน แชมป์โอเวอร์ออล แชมเปี้ยนชิพ A (ต่างชาติ) ฝ่ายหญิง ดอร์คัส ทารัส นักวิ่งอีลีทชาวเคนย่า 03:12:16 ชม. คว้าแชมป์และเงินรางวัลคนละ 20,000 บาท ไปครอง
ขณะที่ผลนักวิ่งไทยที่ทำเวลาได้ดีที่สุด แชมป์โอเวอร์ออล แชมเปี้ยนชิพ B (ไทย) ภัทรพล น้อยหมอ ปอดเหล็กหนุ่มจากเชียงราย 02:45:30 ชม. คว้าแชมป์พร้อมเงินรางวัล 20,000 บาท ตามมาด้วยอันดับ 2 “หมีฟาร่าห์ ” ธวัชชัย หกพันนา 02:46:24 ชม. รับเงินรางวัล 15,000 บาท และอันดับ 3 “จ่าเอียด” จ.ส.ท.สุพิศ จันทรัตน์ 02:49:13 ชม. รับเงินรางวัล 10,000 บาท
ส่วน นักวิ่งหญิงไทยประเภทแชมป์เปี้ยนชิพ ระยะฟูลมาราธอน วิไลวรรณ ขำพิทักษ์ นักวิ่งจากรุ่นอายุ 30-39 ปี เวลา 03:46:57 ชม.
ด้าน ฮาล์ฟ มาราธอน 21.1 กม. แชมป์โอเวอร์ออล แชมเปี้ยนชิพ ฝ่ายชาย “บิ๊ก” ณัฐวุฒิ อินนุ่ม เจ้าของสถิติฮาล์ฟมาราธอนประเทศไทย ทำเวลาได้ 01:09:55 ชม. ส่วน แชมป์โอเวอร์ออล แชมเปี้ยนชิพ ฝ่ายหญิง “สายฝน” ณัฐธยาน์ ธนรณวัฒน์ นักวิ่งทีมชาติไทย เหรียญทองมาราธอนหญิง ซีเกมส์ 2015 ทำเวลาได้ 01:35:02 ชม. โดยทั้งคู่คว้าแชมป์พร้อมเงินรางวัลคนละ 15,000 บาท
สำหรับ เทศกาลวิ่ง “โพคารี่สเวท ภูเก็ตธอน 2020” จัดขึ้นภายใต้การรับรองจาก สหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติ (World Athletics) สมาพันธ์กรีฑาแห่งเอเชีย (AAA) และสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย โดยเป็นสนามวิ่งที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย ซึ่งนักวิ่งทั่วโลกจะได้สัมผัสความสวยงามของ “แหลมพรหมเทพ” จุดชมวิวระดับโลกและวิวทิวทัศน์อันงดงามของท้องทะเลอันดามัน รวมถึงย้อนรอยอดีตไปกับสถาปัตยกรรมตึกเก่าสไตล์ชิโนโปรตุกีส สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ www.facebook.com/Phukethon
Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์