พิมพ์ไทยออนไลน์ // ที่ ห้องคริสตัลฮอลล์ บี โรงแรมดิแอทธินี แบงค็อก กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 9 ต.ค. สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ร่วมกับ กรมประชาสัมพันธ์ จัดงานแถลงข่าว “โครงการ รวมไทย SAVE บอลไทย 2020”
การแถลงข่าวครั้งนี้ นำโดย อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์, คุณจริยา ประสพทรัพย์ ผอ.สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย, คุณณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, คุณอนุรุทธิ์ นาคาศัย ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ในฐานะตัวแทนภาครัฐ สำนักนายกรัฐมนตรีมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมการสนับสนุน ฟื้นฟู และยกระดับวงการกีฬาฟุตบอลไทย ให้กลับมาแข่งขันต่อได้ ซึ่งกีฬาฟุตบอลในประเทศไทย ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก สร้างมูลค่าทางธุรกิจสูงกว่า 3,000 ล้านบาท ปีที่ผ่านมา แต่จากเหตุการณ์ช่วง วิกฤตกของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สโมสรต่างๆได้รับผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็น ค่าสปอนเซอร์ ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด, ตั๋วเข้าชม ไม่เพียงเท่านั้น ยังรวมถึงความรู้สึกของกองเชียร์ ผู้ชมฟุตบอลส่วนใหญ่ในประเทศอีกด้วย”
“เพื่อยกระดับมูลค่าทางธุรกิจของกีฬาฟุตบอล พร้อมทั้งสนับสนุนให้แฟนบอลสามารถเข้าถึงกีฬาฟุตบอลได้อย่างเต็มที่ จึงจัดให้มีการถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีก ผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประทเศไทย กรมประชาสัมพันธ์ ช่อง NBT 2HD ช่อง 7HD, ช่อง ททบ.5 HD1 และช่อง 9 MCOT HD จนจบฤดูกาลแข่งขัน ประชาชนและแฟนบอลสามารถรับชมการแข่งขันได้ฟรี เป็นของขวัญแก่คนไทยทุกคน และจะพัฒนาวงการกีฬาฟุตบอล รวมถึง การที่จะสนับสนุนกีฬาในประเภทต่างๆ ของประเทศ ต่อไป”
ด้าน พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กล่าวว่า “จากอดีตที่ผ่านมา ฟุตบอลไทยลีก ได้รับกระแสความนิยม และเติบโตเป็นลำดับอย่างมั่นคง มูลค่าของลีกสูงขึ้น มีโครงสร้างทางธุรกิจกีฬาที่แข็งแรง ขณะที่ฐานแฟนบอลขยายตัว เพิ่มมากขึ้นในทุกฤดูกาล เรียกได้ว่ากีฬาฟุตบอลไทยตื่นตัวและเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด”
“แต่เมื่อเกิด สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบไปทั่วโลก เช่นเดียวกับฟุตบอลไทย ที่ต้องเลื่อนโปรแกรมแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพทั้งหมด อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคร้ายที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว”
“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และ บริษัท ไทยลีก รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องทำงานอย่างหนัก จนมีคู่มือการจัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอล ที่ได้รับการรับรองจาก ศูนย์บริหารสถานการณ์ฉุกเฉินโควิด-19 หรือ ศบค. / กระทรวงสาธารณสุข / และสามารถกลับมาแข่งขันได้อีกครั้งในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา”
“ผลกระทบจากโควิด-19 ส่งผลร้ายแรงกว่าที่คิด ธุรกิจฟุตบอลไทย สโมสรฟุตบอล หรือแม้แต่สมาคมฯ ต่างได้ผลกระทบโดยตรง จากการถอนตัวของผู้สนับสนุนที่ต้องการลดภาระค่าใช้จ่าย เพราะได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 เช่นกัน”
“อีกหนึ่งเหตุผลใหญ่ ที่ส่งผลกระทบต่อฟุตบอลไทยทั้งระบบ คือ การสิ้นสุดสัญญาลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดที่มีกับเจ้าเดิมในเดือนตุลาคม ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับรายได้ของแต่ละสโมสร และกำลังใจของทุกคนในวงการฟุตบอลไทย”
“จากสถานการณ์ดังกล่าว รัฐบาล โดย สำนักนายกรัฐมนตรี และ กรมประชาสัมพันธ์ ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ สนับสนุนด้านลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด ฟุตบอลไทยลีก ตลอดฤดูกาลแข่งขัน 2563 คือ หลังจากวันที่ 25 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป เพื่อให้วงการฟุตบอลไทยก้าวพ้นวิกฤตที่ยากลำบากครั้งนี้ไปได้”
“โอกาสนี้ ผมในฐานะตัวแทนของคนในวงการกีฬาฟุตบอลไทย ขอขอบคุณรัฐบาล สำนักนายกรัฐมนตรี / กรมประชาสัมพันธ์ และผู้ร่วมสนับสนุนทุกท่านที่เข้ามาช่วยกอบกู้วงการฟุตบอลไทย และสานต่อความยิ่งใหญ่ของกีฬาฟุตบอลของเรา”
ส่วน พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด กล่าวถึงความพร้อมการถ่ายทอดสดสถานีโทรทัศน์ข่อง NBT 2HD ว่า “กรมประชาสัมพันธ์มีความพร้อมในการถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีก เนื่องจากมีสถานีโทรทัศน์อยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ทำให้สามารถครอบคลุมการถ่ายทอดในต่างจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นทีมเหย้าหรือทีมเยือน และเชื่อมั่นว่าการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลครั้งนี้ จะทำให้คนไทยได้รับชมฟุตบอลอย่างมีอรรถรส ประกอบกับเป็นเรื่องดีที่จะทำให้ประชาชนมารับชมช่อง NBT มากขึ้น และทาง NBT เตรียมการผลิตรายการเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอลมีกูรูมาทำการวิเคราะห์ พรีวิวก่อนการแข่งขันในทุกสัปดาห์”
“จุดประสงค์การแถลงข่าวครั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจ ว่าการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก จะได้รับชมต่อหลังจากหมดสัญญากับ ผู้ประกอบการรายเดิม ซึ่งจะจบการแพร่ภาพออกอากาศ วันที่ 25 ตุลาคมนี้ และคอบอล มีโอกาสได้ชมการแข่งขันอย่างต่อเนื่องจนจบฤดูกาล โดยรับชมฟรีผ่าน ช่อง NBT 2HD ช่อง 7HD, ช่อง ททบ.5 HD1 และช่อง 9 MCOT HD และผ่านทาง OTT มาร่วม “รวมไทย SAVE บอลไทย 2020″ ไปด้วยกันพร้อมติดตามตารางแข่งขันทุกคู่ทุกแมตช์ได้ที่ เฟสบุ๊คแฟนเพจ, อินสตราแกรม และ ทวิตเตอร์ ที่เป็นทางการของทาง Thai League”
Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์