พิมพ์ไทยออนไลน์//กระทรวง พม. โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน รุดหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจากการใช้พืชกระท่อม กัญชา และกัญชง รวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของพืชกระท่อม กัญชาหรือกัญชงในลักษณะสารเสพติด โดยเตรียมเสนอมติจากเวทีสมัชชาการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 14 ควบคู่ไปกับการเร่งให้ความรู้สร้างภูมิคุ้มกันแก่เด็กและเยาวชน
นางจตุพร โรจนพานิช อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน เปิดเผยว่า “ในปี 2565 นี้ คณะอนุกรรมการจัดสมัชชาการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ ได้หยิบยกประเด็น กัญชาเสรี : ผลกระทบต่อเด็กและเยาวชน พลิกกวิกฤต หรือ เพิ่มปัญหา เป็นประเด็นหลักสมัชชาฯ เพื่อรับฟังข้อคิด ความเห็นจากคนทำงานด้านเด็กและเยาวชน รวมถึงแกนนำเด็กและเยาวชน และจัดทำเป็นข้อเสนอเชิงนโยบาย เสนอต่อคณะกรรมการ กดยช. ซึ่ง กดยช. เห็นชอบ ตามข้อเสนอของสมัชชาที่ให้เสนอคณะรัฐมนตรีออกมาตรการโดยเร่งด่วน ในระหว่างที่ยังไม่มีกฎหมายมาบังคับใช้เป็นกาลเฉพาะ เพื่อควบคุมและห้ามมิให้เด็กและเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ซื้อ ขาย แจก ครอบครองและใช้กัญชา และให้สื่อมวลชนทุกแขนงเผยแพร่มาตรการควบคุมที่ คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบนี้ ต่อสาธารณชนอย่างกว้างขวางโดยเร็ว”
นางจตุพร กล่าวเพิ่มเติมว่า “ดย. ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะอนุกรรมการด้านการให้ความรู้แก่เยาวชนและประชาชนเพื่อป้องกันผลกระทบทางสังคม ภายใต้คณะกรรมการบูรณาการนโยบายพืชกัญชาและกัญชง ได้เร่งขับเคลื่อนการให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและสร้างความตระหนักรู้ถึงผลร้ายของการนำกัญชาไปใช้ในทางที่ ไม่เหมาะสมทั้งแก่เด็ก เยาวชน และบุคคลแวดล้อม โดยมีแนวทางในการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจแก่เด็กและเยาวชนซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียรูปแบบต่าง ๆ การพัฒนาความรู้และทักษะ พ่อแม่ผู้ปกครอง ครู ผู้ดูแลเด็กในการดูแลและให้คำปรึกษาเด็กและเยาวชน การเสริมสร้างองค์ความรู้และบูรณาการภาคีเครือข่ายในการป้องกันและดูแลเด็กและเยาวชน การเสริมสร้างความตระหนักรู้ให้แก่สังคมเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการป้องกันและดูแลเด็กและเยาวชน และการพัฒนาช่องทางบริการให้คำแนะนำปรึกษาเพื่อช่วยเหลือเด็กและเยาวชนและพ่อแม่ผู้ปกครองที่มีความเสี่ยงหรือได้รับผลกระทบจากกัญชาและกัญชง ทั้งนี้ เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีภูมิคุ้มกันและได้รับการปกป้องดูแลจากผลกระทบทางสังคมที่จะเกิดขึ้นต่อไป”
กระทรวง พม. จึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วน ให้ร่วมมือกันทั้งด้านการป้องกัน และการคุ้มครองเด็กและเยาวชน และสร้างสังคมที่ปลอดภัยให้กับเด็กและเยาวชน หากพบเห็นปัญหา ขอให้แจ้งผ่านสายด่วน 1300 แอปพลิเคชั่น “คุ้มครองเด็ก” หรือบ้านพักเด็กและครอบครัว 77 แห่งทั่วประเทศ:Cr;มณสิการ รามจันทร์