วันพฤหัสบดี, มิถุนายน 12, 2025

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรกข่าวกีฬา"บาส-ปอป้อ" คว้ารองแชมป์ "ไทยแลนด์ โอเพ่น 2022"

“บาส-ปอป้อ” คว้ารองแชมป์ “ไทยแลนด์ โอเพ่น 2022”

พิมพ์ไทยออนไลน์// การแข่งขันแบดมินตัน เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 500 รายการ “โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ไทยแลนด์ โอเพ่น 2022” (TOYOTA GAZOO Racing Thailand Open 2022) ชิงเงินรางวัลรวม 360,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 12,240,000 บาท ที่อิมแพค อารีนา เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 22 พ.ค.เข้าสู่วันสุดท้ายของการแข่งขัน ท่ามกลางบรรยากาศที่คึกคัก มีแฟน ๆ กีฬาแบดมินตันเข้ามาชมและให้กำลังใจนักกีฬาในสนามกว่า 5 พันคน
ประเภทคู่ผสม เป็นการป้องกันแชมป์ของ “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่ผสมมือ 1 ของโลกขวัญใจชาวไทย ที่ต้องเจอกับ เจิ้ง ซิ เว่ย กับ หวง หย่า เฉียง คู่มือวาง 2 ของโลกจากจีน ซึ่งสถิติเก่าคู่นี้ลงดวลกันมา 10 ครั้ง เป็นคู่จีนที่ชนะได้มากถึง 8 ครั้ง
เริ่มเกมแรก คู่นักตบลูกขนไก่จีนเปิดฉากบุกหนัก ด้วยการเปิดเกมเร็วเข้าใส่ ไม่เปิดโอกาสให้ บาส กับ ปอป้อ เล่นตามเกมตัวเองได้เลย ทำให้เกมนี้เป็นของคู่จีน 21-12 เกมสอง กองเชียร์ไทยได้เฮเมื่อคู่ผสมไทยกลับมาคุมเกมได้ดีขึ้น แม้จะถูกคู่จีนกดดันด้วยการตบที่ดุดัน แต่ทั้งคู่ก็ยังสามารถกลับมาเอาชนะได้ 21-18 ตีเสมอ 1-1 เกม ในเกมสาม เกมค่อนข้างเบียดกันอย่างสูสี ช่วงต้นเกม บาส กับ ปอป้อ คุมเกมได้ค่อนข้างดี เล่นได้เหนียวแน่นทำแต้มนำ 7-5 จากนั้นคู่จีนเปลี่ยนจังหวะเล่นเกมเร็วขึ้นกดดันให้คู่ไทยพลาดตีเสียหลายครั้ง เสียแต้มให้คู่จีนตีเสมอ 8-8 คู่จีน ยังเล่นได้อย่างเฉียบขาด อาศัยลูกตีที่หนักของ เจิ้ง ซิ เว่ย และการตัดเกมหน้าเนตที่เยี่ยมยอดของ หวง หย่า เฉียง กดดันจนคู่ไทยต้านไม่ไหวแพ้ไปอย่างฉิวเฉียด 1-2 เกม 12-21, 21-18, 14-21 ส่งผลให้ เจิ้ง ซิ เว่ย กับ หวง หย่า เฉียง จากจีน คว้าแชมป์ไปครอง พร้อมรับเงินรางวัล 28,440 เหรียญสหรัฐ หรือราว 966,960 บาท ขณะที่ เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่ผสมไทยได้รองแชมป์ รับเงินรางวัล 13,680 เหรียญสหรัฐ หรือราว 465,120 บาท

บาส กับ ปอป้อ กล่าวว่า การเจอกับคู่แข่งตั้งแต่รอบรองชนะเลิศ ไม่ว่าจะเจอคู่ไหนก็เล่นยากทุกคู่เพราะทุกคนนั้นเก่ง มีประสบการณ์สูง ส่วนคู่แข่งจากจีนคู่นี้เป็นคู่ที่เล่นเกมบุกได้ดี ทำให้ค่อนข้างได้เปรียบ แต่โดยรวมแล้วรู้สึกพอใจ และต้องขอบคุณแฟนๆที่เข้ามาให้กำลังใจในสนามเยอะมาก แต่ก็เสียใจที่ไม่สามารถคว้าแชมป์ได้ ซึ่งยอมรับว่าคู่แข่งเขาเก่งและทำได้ดีกว่าจริงๆ
“โดยรวมของเรารายการนี้ก็รู้สึกพอใจมาก เพราะเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศได้ แม้จะได้รองแชมป์ก็ตาม ทำให้เราได้เรียนรู้จากการแข่งขันที่ได้เห็นข้อบกพร่องของตัวเองหลายอย่างที่ต้องนำไปแก้ไขสำหรับการแข่งขันรายการต่อไป โดยเป้าหมายเดิมในปีนี้อยู่ที่คว้าแชมป์เอเชียนเกมส์ที่จีน ส่วนตำแหน่งคู่มือ 1 ของโลกเป็นเพียงสิ่งสมมติขึ้นมา เราไม่รู้สึกยึดติดกับมัน เพราะตำแหน่งนี้ขึ้นอยู่กับผลงานของเราที่ทำไว้ เพราะถ้าทำผลงานดีตำแหน่งนี้จะยังอยู่กับเรา ทั้งนี้เราก็ต้องมุ่งมั่นพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ”
ขณะที่ผลรอบชิงชนะเลิศ คู่อื่นๆ มีดังนี้ ประเภทหญิงเดี่ยว ไท่ ซือ อิง มือวาง 1 ของรายการ มือ 2 ของโลกจากไต้หวัน ลงดวลแร็กเกตกับ เฉิน ยู่ เฟย แชมป์เก่าปี 2019 จากจีน มือ 4 ของโลก มือวาง 3 ของรายการ เจ้าของเหรียญทอง โอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งคู่นี้ดวลกันมา 19 ครั้ง ไท่ ซือ อิง ชนะได้ถึง 15 ครั้ง
การเจอกันในครั้งนี้ ไท่ ซือ อิง งัดเกมบุกที่ดุดันโจมตีเข้าใส่ เฉิน ยู่ เฟย ได้อย่างเฉียบขาด ในเกมแรก ไท่ ซือ อิง ชนะ 21-15 เกมสอง เฉิน ยู่ เฟย กลับมาคุมเกมการเล่นของตัวเองได้ดีขึ้น ดึงจังหวะให้ ไท่ ซือ อิง ต้องเร่งเกมตัวเองและผิดพลาดเองมากขึ้น ทำให้ เฉิน ยู่ เฟย พลิกกลับมาชนะ 21-17 เสมอ 1-1 เกม และในเกมสาม ไท่ ซือ อิง เน้นเล่นแบบรัดกุม และใช้ความเด็ดขาดในการตีทำแต้มคุมเกมได้ตลอดชนะไป 21-12 คว้าแชมป์ไปครอง 2-1 เกม 21-15, 17-21, 21-12 ใช้เวลาทั้งสิ้น 62 นาที

จากชัยชนะนัดนี้ ส่งให้ ไท่ ซือ อิง ครองตำแหน่งแชมป์หญิงเดี่ยว ไทยแลนด์ โอเพ่น เป็นสมัยแรก พร้อม รับเงินรางวัล 27,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 1,215,000 บาท ส่วนรองแชมป์ เฉิน ยู่ เฟย รับเงินรางวัล 13,680 เหรียญสหรัฐ ประมาณ 615,600 บาท
ไท่ ซือ อิง เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจมากที่สามารถคว้าแชมป์ไทยแลนด์ โอเพ่นได้ โดยเฉพาะปีนี้มีแฟนๆมาชมในสนามกันเยอะ ซึ่งต่างจากปีที่แล้วที่แข่งแบบปิดไม่มีผู้เข้ามาชมในสนาม ส่วนการเจอกับ เฉิน ยู่ เฟย นั้นยอมรับว่าค่อนข้างกดดันอยู่บ้าง เพราะเป็นคู่แข่งที่เคยเจอบ่อย และเป็นผู้เล่นที่เก่งมาก ดังนั้นตนจึงพยายามอย่างหนักที่จะคุมการเล่นของตัวเอง ไม่ให้ตีผิดพลาดเสียเอง ซึ่งถือว่าเล่นยากมาก
รอบชิงชนะเลิศ ประเภทชายเดี่ยว ลี ซี เจี๋ย นักตบลูกขนไก่มือวาง 6 ของรายการจากมาเลเซีย แชมป์ชายเดี่ยวเอเชียคนล่าสุด และอดีตแชมป์ชายเดี่ยว ออล อิงแลนด์ ปี 2021 เจอกับ หลี่ ชิ เฟง จากจีน มืออันดับ 49 ของโลก โดยสถิติคู่นี้ นักหวดจีน เป็นฝ่ายเอาชนะมาได้ 1 ครั้ง 2-0 เกม ในศึก ไชน่ามาสเตอร์ส รอบ 32 คนสุดท้าย เมื่อปี 2018
เกมคู่นี้ เล่นกันได้อย่างสูสี หลี่ ชิ เฟง ชนะได้ก่อน 21-17 ก่อนที่ ลี ซี เจี๋ย จะกลับมาคว้าชัยในเกมที่ 2 อย่างง่ายดาย 21-11 เสมอกัน 1-1 เกม ต้องตัดสินในเกมสุดท้าย ปรากฏว่าต้องเล่นกันถึงแต้มดิวซ์
ก่อนที่ ลี ซี เจี๋ย ที่เล่นได้แน่นอนกว่าเบียดเอาชนะ 23-21 เอาชนะได้ในที่สุด 2-1 เกม 17-21,21-11,23-21 ใช้เวลาทั้งสิ้น 1 ชั่วโมง 10 นาที ลี ซี เจี๋ย คว้าแชมป์ชายเดี่ยว ไทยแลนด์ โอเพ่น พร้อมรับเงินรางวัล 27,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,215,000 บาท ส่วนรองแชมป์ หลี่ ชิ เฟง รับเงินรางวัล 13,680 เหรียญสหรัฐ ประมาณ 615,600 บาท
รอบชิงชนะเลิศ ประเภทหญิงคู่ ระหว่างคู่นักตบสาวจากญี่ปุ่น มายู มัตสึโมโตะ กับ วากานะ นากาฮาระ คู่มือวาง 5 ของรายการ พบกับ นามิ มัตสึยาม่า กับ ชิฮารุ ชิดะ คู่มือวาง 6 จากญี่ปุ่น ซึ่งสถิติการพบกัน 4 ครั้ง มายู กับ วากานะ เป็นฝ่ายคว้าชัยชนะมาตลอด
เกมนี้ นามิ มัตสึยาม่า กับ ชิฮารุ ชิดะ คว้าชัยชนะได้สำเร็จ 2-1 เกม 17-21, 21-15, 26-24 ใช้เวลา 64 นาที คว้าแชมป์ พร้อมรับเงินรางวัล 28,440 เหรียญสหรัฐ หรือราว 966,960 บาท ส่วนรองแชมป์ มายู มัตสึโมโตะ กับ วากานะ นากาฮาระ รับเงินรางวัล 13,680 เหรียญสหรัฐ หรือราว 465,120 บาท
รอบชิงชนะเลิศ ประเภทชายคู่ ฟาจาร์ อัลเฟียน กับ มูฮัมหมัด ไรอัน อาเดรียนโต คู่มือวาง 6 ของรายการจากอินโดนีเซีย พบกับ ทาคุรุ โฮกิ กับ ยูโกะ โคบายาชิ มือวางอันดับ 3 จากญี่ปุ่น ปรากฏว่าคู่นี้แข่งขันไม่จบแมตช์ หลังจากที่ดวลกันในเกมแรก ซึ่งคู่ญี่ปุ่นเป็นฝ่ายนำ 13-4 จากนั้นคู่อินโดนีเซียได้ขอยอมแพ้ เนื่องจาก ฟาจาร์ มีอาการเจ็บหลังฝืนแข่งต่อไม่ไหว ทาคุรุ กับ ยูโกะ คว้าแชมป์ไปครองร่วมกัน พร้อมรับเงินรางวัล 28,440 เหรียญสหรัฐ หรือราว 966,960 บาท ส่วนรองแชมป์ รับเงิน 13,680 เหรียญสหรัฐ หรือราว 465,120 บาท

Cr..วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวใหม่