วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรกกระทรวงยุติธรรมประหาร"ผอ.กอล์ฟ์" ฆ่าโหด ชิงทอง ออโรร่า ไม่มีเหตุบรรเทาโทษ ถือภ้ยร้ายแรงต่อสังคม

ประหาร”ผอ.กอล์ฟ์” ฆ่าโหด ชิงทอง ออโรร่า ไม่มีเหตุบรรเทาโทษ ถือภ้ยร้ายแรงต่อสังคม

พิมพ์ไทยออนไลน์ // ประหารสถานเดียว ผอ.กอล์ฟ ยิงโหดฆ่าชิงทองออโรร่า ในห้างโรบินสัน  ลพบุรี ไม่มีเหตุให้บรรเทาโทษ ถือภัยร้ายแรงต่อสังคม

เมื่อวันที่ 27 ส.ค.63  ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อ.409/2563 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ฟ้อง นายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือกอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งใน จ.สิงห์บุรี เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นฯ, พยายามฆ่าผู้อื่นฯ, ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนฯ และความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน กรณีก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ร้านทองออโรร่า ในห้างสรรพสินค้าโรบินสัน  จ.ลพบุรี

อัยการโจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2563 สรุปว่า เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2563 จำเลยซึ่งมีอาวุธปืนออโตเมติก ขนาด 9 มม. ทะเบียน กท 5027346 เลขหมาย A 300638 ติดท่อเก็บเสียง 1 อัน ซองกระสุนปืนพร้อมเครื่องกระสุน ได้นำอาวุธพร้อมเครื่องกระสุนเข้าไปภายในห้างสรรพสินค้าโรบินสัน สาขาลพบุรี แล้วยิงนายธีระฉัตร นิ่มมา พนักงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) ของห้างฯ รวมทั้งประทุษร้ายบุคคลทั่วไป จนเป็นเหตุให้ ด.ช.ภาณุวิชญ์ วงศ์อยู่ และ น.ส.ธิดารัตน์ ทองทิพย์ พนักงานร้านทองออโรร่า ถึงแก่ความตาย และจำเลยยังได้ยิงบุคคลอื่นอีก 4 คนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนชิงเอาสร้อยคอทองคำ น้ำหนักเส้นละ 1 บาท จำนวน 22 เส้น น้ำหนักเส้นละ 2 สลึง อีก 11 เส้น รวม 33 เส้น มูลค่า 664,470 บาท ไปโดยทุจริต ก่อนขี่จักรยานยนต์หลบหนีไป ต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจได้สืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมตัวจำเลยได้พร้อมของกลาง และให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ศาลได้เบิกตัวนายประสิทธิชัย จำเลย มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยมีอัยการโจทก์ ทนายจำเลย และญาติของผู้เสียชีวิตเดินทางมาศาลร่วมกระบวนพิจารณา

  1. ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าพยานและหลักฐานของพนักงานสอบสวนรวมถึงพยานในที่เกิดเหตุสอดคล้องตรงกัน มีความชัดเจน ทำให้เชื่อได้ว่า จำเลยเป็นผู้ก่อเหตุในคดี ข้ออ้างที่จำเลยให้การต่อศาลว่าเป็นความคิดชั่ววูบ เพราะมีปัญหาหนี้สิน รับฟังไม่ขึ้นเนื่องจากมีการเตรียมการและมีอาวุธปืนพร้อมที่เก็บเสียง แสดงให้ถึงการตระเตรียมที่จะกระทำความผิด

สำหรับกรณีวิถีกระสุนทำให้เด็กชายเสียชีวิตจำเลยอ้างว่าไม่เจตนา ไม่ได้ตั้งใจ แต่เมื่อพิจารณาจากหลักฐานแล้ว เห็นว่าเมื่อจำเลยนำปืนเก็บเสียงยิงไปที่ นายธีระฉัตร ผู้เสียหายที่หนึ่ง รปภ. ห้างโรบินสัน และกระสุนทะลุไปโดน ดช.ภาณุวิชญ์ จนเสียชีวิต ศาลถือว่าเจตนากระทำผิดต่อเด็กด้วย

ส่วนที่จำเลยขอให้ลงโทษสถานเบาเพราะภายหลังก่อเหตุเกิดความสำนึกเสียใจ ยอมให้จับกุมประกอบกับ มีคุณงามความดีมาก่อนนั้น ศาลเห็นว่าจำเลยไม่ได้มอบตัวและการให้การมีประโยชน์ต่อการแสวงหาหลักฐาน หรือการสอบสวน เนื่องจากพยานหลักฐานของโจทก์ก็สามารถนำสืบจนทราบได้ คำให้การไม่มีการให้ประโยชน์ความรู้กับศาล จึงไม่มีเหตุให้พิจารณาบรรเทาโทษ ทั้งนี้คำรับสารภาพของจำเลยเป็นการจำนนต่อหลักฐาน การกระทำผิดของจำเลยเป็นภัยร้ายแรง คุกคามต่อสังคม ไม่มีเหตุให้บรรเทาโทษตามกฏหมาย คำขอของจำเลยฟังไม่ขึ้น

เมื่อพิจารณาโทษทั้งหมดจำเลยมีความผิดตามฟ้อง หลายกรรมต่างกัน พิพากษาให้ลงโทษทุกกรรม รวมโทษทุกกระทง ประหารชีวิต และปรับเงิน 1,000 บาท พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ผู้เสียทุกคน รวมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี จนกว่าจะแล้วเสร็จ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างศาลอ่านคำพิพากษา มีญาติของผู้เสียชีวิตรู้สึกสะเทือนใจและร้องไห้ออกมา ขณะที่ญาติของนายประสิทธิชัยก็นั่งร้องไห้สะอื้นเมื่อศาลให้ลงโทษประหารชีวิต ขณะที่ตัวนายประสิทธิชัยมีสีหน้าหม่นหมอง และหันไปมองญาติที่ร้องไห้บ่อยครั้ง

Cr.: นายทวีศักดิ์ ชิตทัพ ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์​

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวใหม่