วันศุกร์, กันยายน 20, 2024

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรกข่าวกีฬา"เจ้าสด" ประกาศอำลาสังเวียน "จุฑามาศ" ไม่ท้อขอแก้มือ "โอลิมปิก 2024"

“เจ้าสด” ประกาศอำลาสังเวียน “จุฑามาศ” ไม่ท้อขอแก้มือ “โอลิมปิก 2024”

พิมพ์ไทยออนไลน์ // 2 กำปั้นไทยปิดฉากตกรอบ 8 คนมวยโอลิมปิกเกมส์ 2020 “เจ้าสด” ยืนยันอำลาสังเวียนทีมชาติอย่างเป็นทางการ ยอมรับไฟต์นี้ไม่เสียใจเพราะทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว แต่เสียดายที่ไปไม่ถึงฝัน ขอบคุณคนไทยทุกคนและครอบครัวที่อยู่เคียงข้างกันมาตลอด ขณะที่ “น้องเฟี้ยว” จุฑามาศ จิตรพงศ์ นักชกสาวรุ่น 51 กก. ยอมรับเสียดายที่ไม่สามารถก้าวไปถึงรอบลึกกว่านี้ แต่ก็ทำอย่างเต็มที่แล้ว วางเป้าซ้อมหนักเพื่อกลับไปแก้มือโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ปารีส
การแข่งขันมวยสากลกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่สนามแข่งขันโกกุคุกิคัง อารีน่า กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น รอบ 8 คนสุดท้าย รุ่น 51 กก.หญิง “น้องเฟี้ยว” จุฑามาศ จิตรพงศ์ นักชกไทย พบกับ บูเซนาซ ชาคิโรกลู จากตุรกี ทั้งคู่เคยเจอกันมาแล้วทัวร์นาเม้นท์ที่ “เช็ก” เป็น น้องเฟี้ยว ที่พ่ายมาอย่างสูสี เกมยกแรกทั้งคู่จดๆจ้องๆ ดูเชิง ก่อนที่สาวตุรกีชิงจังหวะดักต่อยได้อย่างแม่นยำ หมดยกแรกคะแนน เจ้าเฟี้ยว ตาม 1-4 ทำให้ยก 2-3 ต้องเดินบี้เข้าหาอย่างหนักแต่ก็ยังคลำหาเป้าไม่เจอกลับถูก ชาคิโรกลู ดักต่อยจังๆ หลายหมัดครบยก บูเซนาซ ชาคิโรกลู จากตุรกี เป็นฝ่ายชนะคะแนนขาดลอย 5-0 เสียงผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ส่วน จุฑามาศ ตกรอบ 8 คน

หลังพลาดหวัง “น้องเฟี้ยว” กล่าวว่า เสียใจที่ไม่สามารถเข้ารอบให้ลึกกว่านี้ได้ แต่ตนก็ทำอย่างเต็มที่แล้ว ยกแรกคะแนนเราตามทำให้ต้องเปลี่ยนเกมเป็นเดินเข้าหา จึงเข้าทางเขาพอดีเพราะเขาเป็นมวยประเภทตั้งรับ ไม่เป็นไรกีฬามีแพ้มีชนะการเข้าถึงรอบ 8 คนถือว่าเกินจากเป้าหมายแล้วสำหรับโอลิปปิกเกมส์ครั้งแรก แต่เป็นไปได้ก็อยากเข้าให้ลึกกว่านี้หรือมีเหรียญกลับไป ตนจะนำประสบการณ์จากครั้งนี้กลับไปพัฒนาฝีมือให้กล้าแกร่งมากขึ้นกว่าเดิมเพื่อก้าวไปให้ถึงฝันที่วางไว้
วันนี้ตนอยากพิสูจน์ให้โค้ชหรือทุกคนเห็นว่าตนก็ทำได้ดีไม่แพ้ใคร และทำหน้าที่อย่างเต็มทีี่ทุกครั้งเวลาที่ขึ้นสังเวียน อนาคตหลังจากนี้จะซ้อมให้หนักกว่าเดิมหากมีโอกาสจะต้องไปแก้มือที่โอลิมปิกเกมส์ 2024 โดยเฉพาะคนที่ตนแพ้มาจะกลับไปทวงแค้นให้ได้ ฝากขอบคุณทุกคนทั้งสมาคมกีฬามวยฯ รวมถึงสต๊าฟโค้ชที่คอยเป็นกำลังใจให้โอกาสและสนับสนุนตนมาตลอด “น้องเฟี้ยว” กล่าวตอนท้าย

ส่วนรุ่นเฟเธอร์เวต 57 กก.ชาย “เจ้าสด” ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี พบ ลาซาโร่ อัลวาเรซ จากคิวบา ชื่อชั้นดีกรีเจ้าสดค่อนข้างเป็นรอง เกมการชกค่อนข้างคู่คี่สูสี แต่เป็นนักชกคิวบาที่อาศัยความเก๋าโยกหลบ ดักต่อยวงนอกได้มากกว่าครบยก ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี พ่ายไปอย่างหวุดหวิด 2-3 ตกรอบ 8 คนสุดท้าย
หลังการชก “เจ้าสด” กล่าวว่า ไม่เสียใจเลยกับโอลิมปิกเกมส์หนนี้ รวมถึงการชกในวันนี้ทำอย่างเต็มที่แล้ว ชั่วโมงบินประสบการณ์พอๆ กันทำให้ทันกัน แต่ความเป็นคิวบาก็คือคิวบาเขายังมีสไตล์ที่รวดเร็วชกยาก มาถึงตรงนี้บอกเลยภูมิใจมากกับหน้าที่ของตัวเองที่ทำให้คนไทยมาเชียร์และมีความสุขในรอบหลายปีที่ผ่านมา ที่ขาดไม่ได้คือขอบคุณครอบครัวลูกและภรรยาที่อยู่เคียงข้างกันมาตลอดในยามที่มีทุกข์ และสุขรวมถึงคนไทยทุกคนที่ตามเชียร์ให้กำลังใจทุกครั้งเวลาที่ขึ้นชก โอลิมปิกเกมหนนี้คงเป็นครั้งสุดท้ายของตนเพราะอายุมากแล้ว แต่เสียดายที่ไปไม่ถึงฝัน

Cr..วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวใหม่