วันศุกร์, กันยายน 20, 2024

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรกข่าวกีฬา"บาส-ปอป้อ" ฟิตเต็มร้อย พร้อมลุย "โตเกียวเกมส์"

“บาส-ปอป้อ” ฟิตเต็มร้อย พร้อมลุย “โตเกียวเกมส์”

พิมพ์ไทยออนไลน์ // นักแบดมินตันคู่ผสมมือ 2 ของโลก “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ และ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย พร้อมเต็มที่ 100 เปอร์เซนต์แล้ว สำหรับการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น
“บาส-ปอป้อ” เปิดเผยร่วมกันว่า ขณะนี้สภาพร่างกายและจิตใจมีพร้อมร้อยเปอร์เซนต์แล้ว สำหรับการแข่งขัน “โตเกียวเกมส์” ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งเตรียมความพร้อมมา 3-4 ปีแล้ว แม้ว่าจะเลื่อนมา 1 ปี แต่ก็ไม่ได้กระทบกับแผนการฝึกซ้อมแต่อย่างใด หรือช่วงการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ไม่มีรายการแข่งขัน ไม่ได้ส่งผลต่อการฝึกซ้อม หรือการพัฒนาฝีมือ ทางตรงกันข้ามกลับเป็นผลดี เพราะมีการเตรียมตัวมากขึ้น การแก้ไขจุดบกพร่อง และเสริมจุดแข็ง
บาส-ปอป้อ พูดถึงสภาวะไม่ปกติของการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ แบบระบบปิดว่า ไม่มีผะทบต่อตัวเอง ที่ผ่านมาการฝึกซ้อมในแคมป์ “เอสซีจี แบดมินตัน อะคาเดมี่” ฝึกซ้อมเหมือนระบบปิด ชีวิตประจำวันจะฝึกซ้อม กินนอน พักผ่อน อยู่ในแคมป์
บาสและปอป้อ กล่าวว่า สถานการณ์ในขณะแข่งขันมีความเครียด และความกดดันเกิดขึ้นเป็นปกติแล้ว เราจะไม่เพิ่มความกดดันให้ตัวเอง แต่จะใช้ความกดดันเป็นแรงผลักดันเพื่อทำผลงานให้ดีที่สุด ยจะพยายามโฟกัสที่เกม แผนการเล่น และทำให้ดีที่สุดเพื่อไปถึงเป้าหมายที่วางไว้
ส่วนสายการแข่งขันถือว่า โอเค ไม่หนักหรือไม่เบาเกินไป อย่างไรก็ตาม 16 คู่ที่ผ่านมาเข้ารอบมา ไม่มีคู่ไหนง่ายแน่นอน ต้องเตรียมให้พร้อมที่สุด ซึ่งทีมงานผู้ฝึกสอนจะมีการวางแผนการเล่น ก่อนลงสนามเจอกับคู่แข่งแต่ละคู่

“เราทั้งคู่มีเป้าหมายคือ การพยายามจะคว้าเหรียญทองให้ได้ ฝากแฟนกีฬาชาวไทยช่วยเป็นกำลังใจให้วกเรา รวมถึงนักกีฬาไทยทุกคนที่แข่งขันครั้งนี้”
ด้าน ศ.ดร.เจริญ กระบวนรัตน์ หัวหน้าผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา “เอสซีจี แบดมินตัน อคาเดมี” ซึ่งเป็นผู้วางแผนการฝึกซ้อมร่วมกับทีมงานผู้ฝึกสอน กล่าวถึงความพร้อมของทั้งคู่ว่า การฝึกซ้อมของบาสและปอป้อ เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ทุกอย่าง ทีมงานมีการทดสอบ วัดและประเมินผลการฝึกซ้อมทุกช่วงการฝึกซ้อมเป็นระยะ ซึ่งเป็นไปตามหลักการด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา
“หลักการสำคัญก่อนเริ่มเข้าสู่ระบบการซ้อมมี 3 ด้านคือ การเตรียมสมรรถภาพทางกลไก การพัฒนาทักษะและเทคนิคกีฬา และการฝึกความแข็งแกร่งด้านจิตใจ”
ส่วนบาสและปอป้อไม่ได้แข่งขันอีก 3 รายการใหญ่ที่ผ่านมา เพื่อประเมินแผนการฝึกซ้อมช่วงสุดท้า ยก่อนไปแข่งขันโอลิมปิกนั้น ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา กล่าวว่า เราทดแทนด้วยการจัดแข่งขันกันเองโดยพยายามวิเคราะห์ และจำลองเหตุการณ์ และรูปแบบการเล่นต่างๆ ให้นักกีฬาได้ใช้ทักษะเหมือนกับการแข่งขันจริงทุกอย่าง
“การแข่งขันครั้งนี้ ต้องยอมรับความจริงอย่างว่าทุกคู่ ที่เป็นมือวางมีสิทธิ์แพ้ชนะได้เท่ากัน เพราะผลงานที่ผ่านมาเป็นอดีตไปแล้ว มือวางอันดับโลก คือ สิ่งสมมุติที่กำหนดไว้เพื่อระบบการจัดการแข่งขัน ของจริงอยู่ที่ว่า…เวลาลงสนามใครสามารถควบคุมเกมและควบคุมวิธีการเล่นได้ดีกว่า และผิดพลาดน้อยกว่า คือ ผู้ชนะ ซึ่งบาสและปอป้อได้บทเรียนจากการแพ้คู่เกาหลีมาแล้วเมื่อต้นปี
การแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้ บาสและปอป้อ จะได้ใช้ความสามารถแสดงผลงานให้เป็นที่ปรากฏ ด้วยการเล่นอย่างเต็มความสามารถให้ดีที่สุดทุกแต้มจนสิ้นสุดเกม ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายนำหรือตาม ให้มีสมาธิอยู่กับเกมและการเล่นทุกแต้ม ไม่คาดหวังในผลการแข่งขันที่ยังไม่จบ ทำให้กดดันตัวเอง “…เกมกดดันไม่เป็นไร แต่เราต้องไม่กดดันตัวเอง…” คือ สิ่งที่เราให้ข้อคิดบาสและปอป้อนำไปปฏิบัติการแข่งขันมาโดยตลอด”
ส่วนความพร้อมด้านจิตใจไม่แพ้ความพร้อมด้านร่างกายนั้น ศ.ดร.เจริญ กล่าวว่า “นักกีฬาทุกคนมีความกดดันแน่นอน เพราะมีความคาดหวังสูง การฝึกเรื่องสภาวะจิตใจเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องปลูกฝัง และทำความเข้าใจกับทุกสิ่งและทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเกม เตรียมความคิด ฝึกวิธีคิดและการประมวลผลข้อมูลอย่างมีเหตุผล เรียนรู้และทำความเข้าใจกับเกม โดยทีมผู้ฝึกสอนกีฬาและนักวิทยาศาสตร์การกีฬามีการจำลองเหตุการณ์และสถานการณ์แวดล้อมให้นักกีฬาฝึกซ้อม เพื่อให้นักกีฬาเรียนรู้และปรับตัวเตรียมพร้อมที่จะเผชิญกับเหตุการณ์ ในเกมแข่งขัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องมีการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอยาวนาน ไม่ใช่พอถึงเวลาแข่งขันก็บอกนักกีฬาว่า …อย่าตื่นเต้น อย่าเครียด อย่าวิตกกังวล ก่อนลงสนาม ซึ่งเท่ากับไปกระตุ้นให้นักกีฬายิ่งเครียด ยิ่งกดดันมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ โอลิมปิกครั้งนี้แตกต่างจากทุกครั้ง เพราะจะมีการตรวจเช็กผู้เข้าร่วมมหกรรมมากกว่าปกติ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อความรู้สึกและอารมณ์ ทำให้นักกีฬารู้สึกวุ่นวาย หงุดหงิด วิตกกังวล และเครียด จึงย้ำในเรื่องนี้ ให้ทุกคนเตรียมใจและทำใจยอมรับกับเหตุการณ์เหล่านี้ มองเป็นเรื่องปกติบนักกีฬาที่เข้าแข่งขันทุกคน ไม่ใช่เกิดขึ้นแต่เฉพาะกับเรา” ศ.ดร.เจริญกล่าว
สำหรับการแข่งขันประเภทคู่ผสม แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม “บาส-ปอป้อ” มือวางอันดับ 3 กลุ่ม บี ร่วมกับ ทอม กีคู/เดลฟิน่า เดลรัว(มือ 10-ฝรั่งเศส), มาร์คัส เอลลิส/ลอเรน สมิธ (มือ 8-สหราชอาณาจักร), โจชัว เฮอร์เบิร์ต-หยู/โจเซฟีน หวู (มือ 14-แคนาดา) โดยจะคัดอันดับ 1-2 แต่ละกลุ่มเข้ารอบ 8 คู่สุดท้าย จะเป็นรอบน็อคเอาท์จนถึงรอบชิงชนะเลิศ รอบแบ่งกลุ่มแข่ง วันที่ 24-26 กรกฎาคม, รอบก่อนรองชนะเลิศ วันที่ 28 กรกฎาคม, รอบรองชนะเลิศ วันที่ 29 กรกฎาคม, รอบชิงเหรียญทองแดงและรอบชิงชนะเลิศ วันที่ 30 กรกฎาคม

Cr..วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวใหม่