วันอังคาร, ธันวาคม 24, 2024

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรกข่าวกีฬา"บาส-ปอป้อ" ผงาดคว้าแชมป์คู่ผสม โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น "กิ๊ฟ-วิว" รองแชมป์ การันตีลุย เวิลด์ทัวร์ไฟนอลส์ ปลายเดือนม.ค.นี้

“บาส-ปอป้อ” ผงาดคว้าแชมป์คู่ผสม โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น “กิ๊ฟ-วิว” รองแชมป์ การันตีลุย เวิลด์ทัวร์ไฟนอลส์ ปลายเดือนม.ค.นี้

พิมพ์ไทยออนไลน์ // การแข่งขันแบดมินตัน เอชเอสบีซี บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ เอเชียน เลก เปิดฉากรายการแรกในศึก “โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น” ทัวร์นาเมนต์เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ชิงเงินรางวัลรวม 1,000,000 เหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 30,100,000 บาท รอบชิงชนะเลิศ ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา ในรูปแบบนิวอร์มอลภายใต้มาตรการคุ้มเข้มเพื่อความปลอดภัยขั้นสูงสุด โดยไม่อนุญาตให้แฟนแบดมินตัน และผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในสนามโดยเด็ดขาด
ประเภทคู่ผสม รอบชิงชนะเลิศ “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มือวาง 1 ของรายการ คู่มืออันดับ 3 ของโลก ลงสนามพบกับ ปราวีน จอร์แดน กับ เมลาติ เดว่า อ๊อตตาเวียนติ คู่มือวางอันดับ 2 ของรายการ คู่มืออันดับ 4 ของโลกจากอินโดนีเซีย สำหรับสถิติการพบกันของทั้งคู่ก่อนหน้านี้เคยพบกันมาทั้งหมด 6 ครั้ง เป็นทางคู่ของ ปราวีน จอร์แดน กับ เมลาติ เดว่า อ๊อตตาเวียนติ ที่ทำได้เหนือกว่าเก็บชัยชนะไปได้ 4 ครั้ง ล่าสุดในรอบชิงชนะเลิศศึ ออลอิงแลนด์ 2020 ปราวีน จอร์แดน กับ เมลาติ เดว่า อ๊อตตาเวียนติ เป็นฝ่ายเฉือนชนะมาได้

ในแมทช์นี้เกมการแข่งขันทั้งคู่ผลัดกันทำคะแนนได้อย่างสนุกคู่คี่สูสี เดชาพล กับ ทรัพย์สิรี โชว์ฟอร์มเก่งไล่ตบทำคะแนนเฉือนชนะแก้มือไปได้สำเร็จ 2-1 เกม 21-3, 20-22, 21-18 ใช้เวลาแข่งขัน 56 นาที คว้าแชมป์เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ครั้งแรกได้สำเร็จ พร้อมรับเงินรางวัล 74,000 เหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 2,220,000 บาท ส่วน ปราวีน จอร์แดน กับ เมลาติ เดว่า อ๊อตตาเวียนติ รองแชมป์รับเงินรางวัล 35,000 เหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 1,050,000 บาท โดยได้รับเกียรติจากทาง เจา มาโตส รองประธานสหพันธ์แบดมินตันยุโรป, มร.เบน โยเนยามะ ประธานและเจ้าของบริษัทโยเน็กซ์ ประเทศญี่ปุ่น และ นอร่า แพรี่ สมาชิกสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) เป็นผู้มอบรางวัลให้กับนักกีฬา
หลังเกม “บาส” เดชาพล กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี เผยว่า “เป็นเกมที่อึดอัด เราพยายามไม่ขึ้นลูกให้คู่แข่งบุก และดูเหมือนว่าคู่แข่งมีข้อผิดพลาดด้วย วันนี้เป็นเรื่องการชิงจังหวะการเล่น ไม่มีฝ่ายไหนขึ้นลูกก่อน คู่แข่งกลัวลูกหนักฝั่งเรา ก็พะวงจากฝั่งเขาเช่นกัน เราเตรียมตัวมาดีการเจอกับคู่แข่งจากอินโดนีเซียวันนี้ และทำได้ตามที่วางแผนมาด้วย พอคู่แข่งต้องการแก้คืนแต่ทำไม่ได้ทำให้อาจกดดัน สกอร์จึงไหลในเกมแรก”
“ความตั้งใจตั้งแต่หยุดพักเนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด เราก็ซ้อมหนักมาตลอด ซ้อมทุกวัน และตั้งเป้าทำผลงานในแมตช์แรกให้ดีที่สุด และทำสำเร็จสามารถคว้าแชมป์มาครองได้ สิ่งที่ต้องปรับปรุงเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับรายการต่อไปคือต้องปรับปรุงเรื่องสมาธิ ตอนที่เราเป็นฝ่ายตามเวลาต้องพยามควบคุมสมาธิไม่ให้หลุด และเมื่อขึ้นนำต้องพยายามควบคุมไม่ให้คู่แข่งไล่จี้มา การคว้าแชมป์ครั้งนี้ทำให้มีความมั่นใจมากขึ้น แต่เราต้องไม่ประมาท ต้องรักษาฟอร์มการเล่น รักษาตามมาตรฐานของตัวเองเอาไว้ และแก้ไขจุดที่ยังมีผิดพลาด เป้าหมายรายการต่อไปในศึก โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น อันดับแรกคือต้องดูแลและฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาฟิตเหมือนเดิมก่อน สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณและชื่นชมทีมงานทุกคนที่ทำเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขอขอบคุณคุณหญิงปัทมาที่ผลักดันให้สามารถจัดการแข่งขันรายการนี้จนสำเร็จ และมีความปลอดภัย ทำให้แฟนๆชาวไทยได้ชมการแข่งขัน หลังจากห่างหายไปนาน” ทั้งคู่กล่าว

ประเภทหญิงคู่ รอบชิงชนะเลิศ “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธารากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ คู่มือวาง 7 ของรายการ คู่มืออันดับ 11 ของโลก ลงสนามพบกับ เกรเซีย โพลี่ กับ อาพริลยานี่ ราฮายู คู่มือวาง 5 ของรายการ คู่มืออันดับ 8 ของโลกจากอินโดนีเซีย สำหรับสถิติการพบกันของทั้งคู่ก่อนหน้านี้เคยพบกันมาทั้งหมด `5 ครั้ง เกรเซีย โพลี่ กับ อาพริลยานี่ ราฮายู ที่ทำได้เหนือกว่าเก็บชัยชนะไปได้ 4 ครั้ง ล่าสุดศึก ไชนีสไทเป โอเพ่น 2019 จงกลพรรณ กับ รวินดา เป็นฝ่ายเฉือนชนะมาได้
ในแมทช์นี้เกม จงกลพรรณ กับ รวินดา พยายามสู้อย่างเต็มที่ แต่ไม่สามารถต้านทานความเหนียวแน่น และดุดันในเกมบุกของ เกรเซีย โพลี่ กับ อาพริลยานี่ ราฮายู ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมเอาไว้ได้ เป็นฝ่ายคุมเกมบุกทำคะแนนเอาชนะไปได้ 2-0 เกม 21-15, 21-12 ใช้เวลาแข่งขัน 52 นาที
เกรเซีย โพลี่ กับ อาพริลยานี่ ราฮายู คว้าแชมป์พร้อมรับเงินรางวัล 7,4000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2,220,000 บาท ส่วน “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธารากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ รองแชมป์รับเงินรางวัล 35,000 เหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 1,050,000 บาท
กิ๊ฟ-จงกลพรรณ และ วิว-รวินดา เผยหลังเหมว่า “เปิดเกมมาค่อนข้างตกใจ คู่แข่งทำการบ้านมาดีมาก แตกต่างจากแผนที่เราเตรียมมารับมือ ทำให้การปรับต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการเล่น แต่สถานการณ์ไม่ดีขึ้น เกมเลยขาด ด้วยคู่แข่งมักแจกให้เราวิ่งก่อน เราเตรียมพร้อมมาแก้ แต่วันนี้ลูกค่อนข้างตื้อกว่าปกติ เราอยู่ฝั่งต้านลมก่อน คืนลูกไม่ถนัดทำให้เขามีโอกาสบุกได้มากกว่า สิ่งสำคัญที่ทำให้เรามาถึงรอบชิงชนะเลิศคือทีมเวิร์กที่ดี อย่างรอบรองชนะเลิศคู่แข่งเกาหลีอันดับสูงกว่า แต่เราอาศัยการประสานงานทีมเวิร์กที่ดี ศึกษาคู่แข่ง วางแผนเตรียมรับมือว่าจะเล่นแบบไหน ทำให้สามารถกดดันคู่แข่งได้ การเข้ารอบชิงชนะเลิศครั้งนี้เพิ่มความมั่นใจกับเราเป็นอย่างมาก กลับไปทำเป็นการบ้านในสิ่งที่ต้องไปแก้ไข เตรียมพร้อมต่อไป ส่วนเป้าหมายรายการหน้าขอโฟกัสในแต่ละแมตช์ ทำพยายามทำเต็มที่ กดดันตัวเองให้น้อย ควบคุมตัวเองในสถานการณ์คับขันให้ได้”

คู่อื่นๆ รอบชิงชนะเลิศมีดังนี้ ประเภทชายคู่ หลี่ หยาง กับ หวัง ฉีหลิน คู่มือวาง 6 ของรายการ คู่มืออันดับ 7 ของโลกจากไต้หวัน เฉือนชนะ โก๊ะ วีแชม กับ ตัน วีเคียง คู่มืออันดับ 14 ของโลกจากมาเลเซีย 2-1 เกม 21-16 21-23 21-19 ใช้เวลาแข่งขัน 65 นาที หลี่ หยาง กับ หวัง ฉีหลิน รับเงินรางวัลชนะเลิศ 7,4000 เหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 2,220,000 บาท, รองชนะเลิศ โก๊ะ วีแชม กับ ตัน วีเคียง รับเงินรางวัล 35,000 เหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 1,050,000 บาท
ประเภทหญิงเดี่ยว คาโรลิน่า มาริน มือวางอันดับ 5 ของรายการ มืออันดับ 6 ของโลกจากสเปน ชนะ ไถ้ ซื่อหยิง มือวาง 1 ของรายการ มืออันดับ 1 ของโลกจากไต้หวัน 2-0 เกม 21-9,21-16 ใช้เวลาแข่งขัน 42 นาที คาโรลิน่า มาริน ชนะเลิศรับเงินรางวัล 7,0000 เหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 2,100,000 บาท, ไถ้ ซื่อหยิง รองชนะเลิศรับเงินรางวัล 34,000 เหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 1,020,000 บาท
ประเภทชายเดี่ยว วิคเตอร์ อเซลเซ่น มือวาง 4 ของรายการ มืออันดับ 4 ของโลกจากเดนมาร์ก ชนะ อึ้ง กาลอง อังกุส มือวางอันดับ 7 ของรายการ มืออันดับ 8 ของโลกจากฮ่องกง ไป 2-0 เกม 21-14,21-14 ใช้เวลาแข่งขัน 44 นาที วิคเตอร์ อเซลเซ่น ชนะเลิศรับเงินรางวัล 7,0000 เหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 2,100,000 บาท, อึ้ง กาลอง อังกุส รองชนะเลิศรับเงินรางวัล 34,000 เหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 1,020,000 บาท

คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ เผยว่า “ดีใจและภูมิใจมาก นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของวงการแบดมินตันไทย ที่ บาส-เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ ปอป้อ-ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คว้าแชมป์คู่ผสม ระดับเวิลด์ ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 มาครอง เป็นครั้งแรก พร้อมกับการันตีผ่านเข้าสู่ศึกเวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์ ได้ด้วย นำมาซึ่งความสุขของแฟนกีฬาชาวไทย ขอให้แฟนๆ แบดมินตัน ช่วยให้กำลังใจนักกีฬาไทย ต่อไป ในอีก 2 รายการที่เหลือ ส่วนผลงานของกิ๊ฟวิวในวันนี้ ถือเป็นสร้างเกียรติประวัติให้กับตัวเองที่เข้าชิงรายการในระดับ Super 1000 เป็นครั้งแรก เป็นรายการที่ใหญ่ที่สุดของกิ๊ฟวิวที่ได้เข้าชิง เป็นการสร้างผลงานที่ดี ยอมรับว่าคู่ของอินโดนีเซียเล่นได้ดีจริงๆ การเข้าชิงของทั้งคู่นี้เป็นการการันตรีว่าจะต้องโคจรไปพบกันอีกในรายการเวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์ เป็นที่แน่นอนแล้ว”
“นอกจากนี้ ขอขอบพระคุณ รัฐบาลไทย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี, สำนักนายกรัฐมนตรี, กระทรวงการต่างประเทศ, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงวัฒนธรรม, กระทรวงสาธารณสุข, ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019, กรมควบคุมโรค กองทัพอากาศ, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จังหวัดนนทบุรี, คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย, การกีฬาแห่งประเทศไทย, กองทุนพัฒนาการกีฬาชาติ, โรงพยาบาลรามาธิบดี, กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ , สถาบันบำราศนราดูร ,สถาบันป้องกันควมคุมโรคเขตเมือง , สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี , กรมแพทย์ทหารอากาศ , กรมทหารสารวัตรทหารอากาศ, กรมการกงศุล, ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี, ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี,กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และหน่วยงานอื่น ๆ ที่ให้การสนับสนุน จนสามารถจัดการแข่งขันแบดมินตัน 3 รายการใหญ่ตลอดเดือนม.ค.นี้

รายการต่อไปเป็นศึก “โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น” เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ชิงเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญสหรัฐ วันที่ 19 – 24 มกราคมนี้ ซึ่งยังไม่อนุญาตให้แฟนแบดมินตัน และผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในสนามโดยเด็ดขาด และปิดท้ายด้วยศึก “เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2020” ชิงเงินรางวัลรวม 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ วันที่ 27 – 31 มกราคม มีการถ่ายทอดสดผ่าน 3,000 ล้านครัวเรือนทั่วโลก ส่วนในไทยสามารถชมการถ่ายทอดสดได้หลากหลายช่องทาง ทั้ง ทรูวิชั่นส์, ทรูโฟร์ยู, ทรู ยูทูป, ทรู เฟซบุ๊ก และทรูไอดี โดยทรูวิชั่นส์ ถ่ายทอดสดทุกคู่การแข่งขัน ตั้งแต่เวลา 9.00 น. ผ่านทาง Truesports HD3 ช่อง 668, Truesports 7 ช่อง 686 และ Truesports HD2 ช่อง 667 และรับชมผ่านทางทรูโฟร์ยู เฉพาะคู่ที่นักกีฬาไทยลงแข่งขันทุกวัน

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวใหม่