สภาฯเดือด..สว.สรชาติ ชำแหละนโยบายรัฐบาลฯ
ที่ประชุมรัฐสภาฯ นายสรชาติ วิชย สุวรรณพรหม สมาชิกวุฒิสภา จังหวัดหนองบัวลำภู ได้อภิปรายคณะรัฐมนตรีที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตาม ม. 162 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฯ
ในฐานะสมาชิกรัฐสภา วันนี้รู้สึกดีใจที่ทางฝ่ายรัฐบาลยังพอมีเหลือนั่งฟังอยู่บ้าง ความเป็นจริงวันนี้ เพื่อนสมาชิกพูดคุยกันมาเยอะแล้ว
แต่วันนี้จะขออนุญาตเอาสิ่งที่ซ่อนเร้นไว้ในนโยบายของท่านในหน้า 7 และหน้า 12 มาพูดคุยกับท่านโดยเฉพาะอย่างยิ่งอยากจะให้เห็นภาพว่าการกำหนดนโยบายรัฐบาลนั้นมีใน 3 ส่วน ตั้งแต่การก่อร่างนโยบาย การกำหนดนโยบาย และการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ
นโยบายเรือธงของท่านประธาน ฝากไปยังรัฐบาลมีประเด็นสำคัญ 3ส่วนหลักๆ ที่สุดอยากจะพูดถึงสามนโยบายหลักๆเพื่อที่จะให้เห็นภาพนั่นคือนโยบายแรก Digital Wallet ซึ่งซ่อนในหน้าที่ 7 ได้การกระจายอำนาจในหน้าที่ 12 ส่วนมากทั้งหมดเป็นเรื่องของการคลัง เพราะคงไม่พูดเรื่องการคลัง คงไม่ใช่เพราะทั้งหมดนี้คือการคลังเข้ามาเกี่ยวข้องกับการกำหนดนโยบายของรัฐบาลที่เกิดขึ้นทั้งหมด ผมเห็นการกำหนดก่อร่างนโยบาย Digital Wallet เกิดขึ้นมาตั้งแต่ก่อนที่จะรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งฯ นำเสนอว่าอยากจะทำ หลายๆท่านสงสัยว่านโยบายเหล่านี้ผ่านนโยบายรัฐบาลแล้วมาหาเสียงได้อย่างไร สุดท้ายก็ผ่าน กกต. รับรองให้ก็ดีใจด้วยที่สิ่งเหล่านี้ใด้เกิดขึ้น นั่นคือสิ่งที่มันจะเกิดขึ้นมาถึง ณ วันนี้ได้เกิดขึ้น
ส่วนนโยบายเรือธงที่สอง เป็นนโยบายทางด้านเอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ ซึ่งบอกว่ากระตุ้นเศรษฐกิจได้มากมายมหาศาลทุกอย่าง
ลงมาที่เรื่องเศรษฐกิจทั้งหมด รวมไปถึงนโยบายเอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ ที่เกิดขึ้น แต่นโยบายนี้ซ่อนเร้นเอาไว้ ตอนรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ผมไม่ได้เห็นว่ารัฐบาลกล้าที่จะเอามาพูดคุยถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยประชาชนไม่ได้รับทราบมาก่อน แต่อยู่ๆ ก็เกิดขึ้นมา ถามว่าเกิดขึ้นมา ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้ว ตั้งแต่สมัย ปี2546 หรือปี 2547
พี่น้องชาวหนองบัวลำภู เตรียมพื้นที่รองรับเอาไว้แล้วที่บนภูเขา ที่หนองบัวลำภู สร้างถนนลาดยางขึ้นไปรองรับเพราะมุ่งหวังตั้งใจว่าเอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ ของเมืองไทย นั้นคงจะไม่แตกต่างจากมาเลเซีย อยู่ที่เก็นติ้งลักษณะอย่างนั้น เช่นเดียวกันวันนี้ผมเห็นกลับมาอีกครั้งหนึ่งในนโยบายเรือธงที่อยากจะทำหน้าที่ ที่ดีที่สุด
และอีกนโยบายหนึ่งซึ่งไปซ่อนหน้า 12 ก็คือการกระจายอำนาจ การกระจายอำนาจเป็นแนวนโยบายแห่งรัฐแล้วท่านประธานไม่ใช่เป็นนโยบายที่ท่านบอกว่าท่านจะมาทำหน้าที่ตรงนี้ นโยบายแห่งรัฐตั้งแต่ปี 2540 ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ 40 แล้วมาเป็นกฎหมายเมื่อปี 2542 นั่นก็คือการกำหนดแผนและขั้นตอนกระจายอำนาจ
วันนี้ท่านมีหน้าที่อยู่ในส่วนของการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ ท่านจะเสริมต่อนโยบายกระจายอำนาจอย่างไรต่างหาก ซึ่งผมเองก็ต้องขออนุญาตพูดถึงเรื่องคลังท้องถิ่น ในวันนี้ 3 ส่วน เพื่อจะได้เห็นภาพว่าการกำหนดนโยบายของท่านเป็นมาอย่างไรทั้ง 3 ส่วนนี้และจะนำไปแก้ปัญหาอย่างไรที่จะเกิดขึ้น
นโยบายแรกนโยบาย Digital Wallet ในขณะที่รณรงค์กันนั่นพรรคการเมืองอื่นๆ เสนอแนวทางบัตรประชารัฐ ท่านก็นำเสนอตามมา แต่ก็ได้ผล เพราะถือว่าเป็นสิ่งที่ท่านนำเสนอขึ้นมา ไม่เป็นไรเพราะเป็นสิ่งที่ท่านคิดเอาไว้ก่อนแล้วท่านก็มากำหนดเป็นนโยบาย แต่ในการก่อร่างนโยบายนั้น ได้กลับไปมองดูพื้นฐานของสภาพัฒน์ฯ ธนาคารแห่งประเทศไทยหรือกระทรวงการคลัง หรือไม่ ว่าเป็นขบวนการในการก่อร่างก่อนที่จะกลับมาเป็นการกำหนดนโยบาย
ขบวนการก่อร่างไม่ได้เห็นด้วยตั้งแต่เริ่มต้น หลายคนสงสัยมาตลอดสุดท้ายท่านบอกว่าจะแจกเงินให้กับกลุ่มเปราะบางก่อนและบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ท่านบอกตรงตรงก็ได้ว่าต้องการเพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสิ่งนี้มีอยู่แล้ว 14 ล้านคน คือสิ่งที่ถูกต้องเพราะเชื่อว่าการจดทะเบียนบัตรประชารัฐในรอบสุดท้ายเป็นการกลั่นกรองที่ดีที่สุดของประชาชนกลุ่มเปราะบางและคนที่มีรายได้เพียงพอที่อยากจะเป็น
ส่วนการที่ท่านจะเพิ่มสวัสดิการแห่งรัฐขึ้นมากับกลุ่มอื่นท่านก็สามารถกำหนดรายได้เนื่องจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมี 14 ล้านคน เพราะเราจำกัดที่ว่ามีปริมาณที่ดินเท่าไหร่ มีรายได้เท่าไหร่ ได้ 14 ล้านคน ส่วนท่านจะขยายกรอบขึ้นมามากขึ้นท่านสามารถเพิ่มรายได้ ได้แต่ไม่เห็นด้วยกับการที่ท่านต้องไปแจกทุกท่านแล้วทุกท่านก็ไม่อยากจะเห็นเรื่องพวกนี้ที่จะเกิดขึ้น
สุดท้ายเป็นนโยบายคลังท้องถิ่นที่อยากจะเสนอ วันนี้ ท่านมีหน้าที่ทำต่อจากกฎหมายแผนและขั้นตอนกระจายอำนาจซึ่งเป็นแนวนโยบายแห่งรัฐ มีรัฐธรรมนูญมีในกฎหมายแผนและขั้นตอนกระจายอำนาจอยู่แล้ว ท่านเมื่อไหร่จะออกกฎหมายคลังท้องถิ่นเพื่อจะแก้เงินท้องถิ่นที่จะเกิดขึ้น
เมื่อท่านมีโครงการขนาดใหญ่อย่างสนามบินสุวรรณภูมิ วันนี้รอบรอบสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งตอนนั้นท่านคิดว่าจะเป็นรัฐสุวรรณภูมิเกิดขึ้น ซึ่งร่างกฎหมายขึ้นมาไม่ผ่าน เงินเหล่านี้ไปตกที่รอบสุวรรณภูมิไม่รู้จะเอาไปทำปั้นวัวปั้นควายหรือสายไฟเทวดาต่างๆเพียงพอเกินกว่าเหตุแต่ท่านมีกฎหมายว่าด้วยคลังท้องถิ่นเกิดขึ้น
โดยเฉพาะเอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ เกิดขึ้น 4-5 แห่งรอบๆ
เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คอมเพล็กซ์ ต้องทำหน้าที่ให้ท้องถิ่นรับเงินส่วนนั้น เพราะรัฐไปลงทุนให้ ออกกฏหมายเพื่อเก็บภาษีรอบๆท้องถิ่น แต่ไม่ส่งรัฐบาลกลาง แต่ส่งให้กับคลังท้องถิ่นกลาง เพราะคลังท้องถิ่นกลางทำหน้าที่กระจายเงินเหล่านี้ไปให้กับท้องถิ่นที่อยู่ห่างไกลซึ่งท้องถิ่นเหล่านี้ เขาไม่มีโอกาสใช้เงิน จากการที่รัฐบาลลงทุน เขาต้องได้รับเงินจากส่วนนี้เข้าไปทำ อมก๋อย หนองบัวลำภู สุวรรณคูหา ซึ่งท่านประธานทำหน้าที่เป็นนายอำเภอมาก่อน จึงรู้ว่าเขาไม่สามารถเก็บภาษีบำรุงท้องถิ่นได้อยู่แล้ว เพราะต้องอาศัยเงินจากคลังกลางท้องถิ่น
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ผมอยากจะเสนอให้ท่านประธาน ไปยังรัฐบาลให้รีบออกกฏหมายคลังท้องถิ่นเพื่อกระจายเงินเหล่านี้รองรับเมกะโปรเจค ของรัฐบาลเพื่อให้กับคนที่อยู่รอบรอบนอกได้มีโอกาสได้เงินไปพัฒนาไม่ใช่มีเงินเฉพาะการไปจ่ายเงินเดือนเจ้าหน้าที่ทั้งหมด แต่เงินไปสู่การพัฒนาไม่มีเลย นั่นคือสิ่งที่ผมนายสรชาติ สุวรรณพรหม สมาชิกวุฒิสภาในฐานะสมาชิกรัฐสภา ฝากถึงรัฐบาลชุดนี้…