วันศุกร์, กันยายน 12, 2025

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรก บล็อก หน้า 2068

ทีเส็บ แถลงความสำเร็จก้าวแรกของ “ไทยแลนด์ ล็อก-อิน อีเวนท์”

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//ทีเส็บแถลงความสำเร็จในปีแรกของ “ไทยแลนด์ ล็อก-อิน อีเวนท์” (Thailand LOG-IN Events) แผนแม่บทขับเคลื่อนอุตสาหกรรม ล็อก-อิน และอุตสาหกรรมเป้าหมายผ่านการส่งเสริมการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติ โดย นางนิชาภา ยศวีร์ รองผู้อำนวยการสายงานธุรกิจ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เป็นประธาน พร้อมเปิดตัวพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนที่เข้าร่วมภายใต้แผนแม่บทฯ ในปีนี้อย่างเป็นทางการ รวมถึงประกาศแนวทางผลักดันแผนแม่บทฯ ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า
โดยมี นายรัตนชัย สุทธิเดชานัย ที่ปรึกษานายกเมืองพัทยาด้านการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม ดร.คเณศ วังส์ไพจิตร ผู้ช่วยเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบาย เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) นางสาว กนกพร ดำรงกุล ผู้อำนวยการ ฝ่ายอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้านานาชาติ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) นายศุภกร ภัทรวิเชียร ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงคมนาคม นายพงษ์ศักดิ์ ลิมป์พรพิพัฒน์ รักษาการผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมวิสาหกิจดิจิทัลเริ่มต้นสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ร่วมงาน ณ เกษร เออร์เบิน รีสอร์ท เกษร ทาวเวอร์
นางนิชาภา ยศวีร์ รองผู้อำนวยการสายงานธุรกิจ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวถึงแผนแม่บทอุตสาหกรรม “ไทยแลนด์ ล็อก-อิน อีเวนท์” หนึ่งในแคมเปญสำคัญของการกระตุ้นและสนับสนุนการจัดงานไมซ์ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ตลอดจนฟื้นฟูธุรกิจสาขาต่าง ๆ อย่างเต็มศักยภาพ โดยแผนแม่บทฯ นี้เป็นกลยุทธ์ขับเคลื่อนและส่งเสริมงานแสดงสินค้านานาชาติในกลุ่มโลจิสติกส์และโครงสร้างพื้นฐาน (Logistics & Infrastructure หรือ ล็อก-อิน)
“แนวทางการดำเนินงานของแผนแม่บทอุตสาหกรรม ไทยแลนด์ ล็อก-อิน อีเวนท์ นั้น ตอบโจทย์แนวทางโครงการแผนพัฒนาประเทศระดับมหภาคของรัฐบาล เพราะกระตุ้นให้ทั้งภาครัฐและเอกชนสร้างงานใหม่ ขยายงานเดิม กระจายงานสู่ภูมิภาค และประมูลสิทธิ์การจัดงานระดับโลกเข้ามาจัดในประเทศไทยหรือในพื้นที่พันธมิตรหลักอย่าง อีอีซี และพัทยา และมีแผนในการขยายพื้นที่เพิ่มเติมในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการด้านงานแสดงสินค้านานาชาติ
แผนแม่บทฯ นี้จะช่วยประสานประโยชน์และส่งเสริมสนับสนุนด้านการจัดงานในด้านต่าง ๆ เช่น สนับสนุนด้านการเงินในการจัดงานแบบวิถีใหม่ (new normal) สนับสนุนค่าใช้จ่ายสำหรับการศึกษาศักยภาพการรองรับการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติในพื้นที่ อีอีซี การทำกิจกรรมการตลาดและการประชาสัมพันธ์งาน รวมไปถึงสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้จัดงานแสดงสินค้านานาชาติซึ่งในปีนี้มีผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมแผนแม่บทฯ ถึง 5 งาน (ทั้งการขยายโพรไฟล์งาน และ นำงานไปจัดในพื้นที่ อีอีซี) ภายใต้ 3 อุตสาหกรรมภายใต้แผนแม่บทฯ นี้ ได้แก่ อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมด้านการเดินเรือ และอุตสาหกรรมด้านเมืองอัจฉริยะ และคาดว่าจะมีงานแสดงสินค้านานาชาติภายใต้แผนแม่บทฯ ทั้งงานที่มีการขยายโพรไฟล์ในอุตสาหกรรม ภายใต้แผนแม่บทฯ และงานจัดในพื้นที่อีอีซี รวมถึง 15 งานด้วยกัน ภายในปี 2568”
จากการดำเนินงานข้างต้น ทำให้เกิดความร่วมมือทางด้านพันธมิตรภาครัฐที่เข้าร่วมในแผนแม่บทฯ ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ในฐานะหน่วยงานดูแลพื้นที่หลักสำหรับรองรับการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติ พร้อมด้วยสิ่งก่อสร้างและอำนวยความสะดวกอย่างรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อระหว่างสนามบิน ท่าเรือ และเมืองการบิน (Aerotropolis)
กระทรวงคมนาคม ในฐานะหน่วยงานรัฐที่กำกับดูแลด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ส่งเสริมแผนแม่บทอุตสาหกรรมนี้ผ่านการสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทยที่กำลังมีการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานครั้งใหญ่ สร้างอุปสงค์จำนวนมากเป็นโอกาสให้งานแสดงสินค้าเข้ามาตอบสนองความต้องการอย่างครบวงจรสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) หน่วยงานสำคัญที่ช่วยส่งเสริมและสนับสนุนการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ประเทศไทย ซึ่งถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน โดยจะร่วมสนับสนุนงานแสดงสินค้านานาชาติภายใต้แผนแม่บทฯ ด้านการให้ความรู้กับกลุ่มนักลงทุนและดิจิทัลสตาร์ทอัพที่มีความสนใจในอุตสาหกรรมดิจิทัลเมืองพัทยา ในฐานะศูนย์กลางของพื้นที่ อีอีซี ที่พร้อมนำเสนอแพ็กเกจสนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการที่นำงานเข้าไปในจัดพื้นที่
ดร.คเณศ วังส์ไพจิตร ผู้ช่วยเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) กล่าวว่า “แผนแม่บท ไทยแลนด์ ล็อก-อิน อีเวนท์ จะมีส่วนช่วยโปรโมทและเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้อย่างลงตัว เพราะสำนักงาน อีอีซี มีเป้าหมายที่จะพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและบริเวณใกล้เคียงให้เป็นจุดหมายการเดินทางของนักท่องเที่ยว (Tourist Destination) และเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าครบวงจรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Multimodal Logistics) รวมไปถึงการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ หรือ Smart City เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและเทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่งจะทำให้ อีอีซี และประเทศไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์และมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น”
ดร.คเณศ ย้ำเพิ่มเติมว่า “การพัฒนาโครงการโครงสร้างพื้นฐานไม่ว่าจะเป็นรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน สนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดและท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 มีความคืบหน้าในการดำเนินการอย่างมาก และจะพร้อมที่จะให้บริการได้ประมาณปี 2568 – 2569 ไทยแลนด์ ล็อก-อิน อีเวนท์ จะช่วยยกระดับเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่ผ่านการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติอีกด้วย”
นางนิชาภา กล่าวทิ้งท้ายว่า “แนวทางผลักดันแผนแม่บทฯ ในปีหน้า มีแนวทางการดำเนินงานด้านกลยุทธ์เพิ่มเติมขึ้นมาอีก 3 ด้าน ด้านแรกคือ ขยายขอบเขต (Expand EEC and Targeted Industries) ขยายขอบเขตการผลักดันงานแสดงสินค้านานาชาติคลอบคลุมพื้นที่ อีอีซี เช่น ระยอง บางแสน รวมถึง ผลักดันอุตสาหกรรมเป้าหมายอื่น ๆ ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต อุตสาหกรรมหุ่นยนต์และเครื่องจักรอัตโนมัติ อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและการจัดการภัยพิบัติ
ด้านที่สอง คือ เพิ่มพลังความร่วมมือ (Government Partnership) ต่อยอดการทำงานอย่างบูรณาการร่วมกับภาครัฐในพื้นที่ที่ขยายเพิ่มเติม รวมถึงภาครัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลักดันอุตสาหกรรมเป้าหมาย
และด้านที่สาม คือ บ่มเพาะผู้ประกอบการ (Incubation Programme: Strengthen Thai Exhibition Stakeholders) สร้างความแข็งแกร่งให้ผู้ประกอบการไทยเพื่อพร้อมรองรับการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น การจัดทำคู่มือแนวทาง รวมถึงการจัดอบรมให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้านานาชาติ
โดยเป้าหมายสำคัญของแผนแม่บทฯ นี้ คือการได้สร้างงานแสดงสินค้าระดับโลกด้านอุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ อย่าง Thailand International Air Show เป็นครั้งแรกในประเทศไทยในปี 2566 และ จัดงานอย่างเต็มรูปแบบในปี 2568”:Cr;มณสิการ รามจันทร์

“บาค”’ เดินทางพบ “ซูกะ” สัปดาห์หน้า ติดตามการจัดกีฬา “โอลิมปิก 2020″’

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ไอโอซีเมมเบอร์ เผย โธมัส บาค ประธานไอโอซี มีกำหนดเดินทางไปพบ โยชิฮิเดะ ซูกะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่กรุงโตเกียว สัปดาห์หน้า เพื่อติดตามความคืบหน้า การเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิก โตเกียว 2020
คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) กล่าวว่า โธมัส บาค ประธานไอโอซี มีกำหนดเดินทางไปพบ โยชิฮิเดะ ซูกะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่กรุงโตเกียว ระหว่างวันที่ 15-18 พฤศจิกายนนี้ เพื่อติดตามความคืบหน้า การเตรียมการเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิก โตเกียว 2020 หลังการแข่งขันต้องเลื่อนจากปีนี้ ไปจัดระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม-8 สิงหาคมปีหน้า เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา

สำหรับ บาค และ ซูกะ ได้หารือการเตรียมการเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาโอลิมปิก โตเกียว 2020 เป็นครั้งแรก เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แต่ครั้งนั้น เป็นการสนทนาผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ประมาณ 15 นาที ซึ่งการหารือที่กำลังจะเกิดขึ้นครั้งนี้ จะได้มีการพูดคุยกันในรายละเอียดต่าง ๆ มากขึ้น
ทั้งนี้ เจ้าภาพ ญี่ปุ่นมีการจัดการแข่งขันยิมนาสติก เพื่อทดสอบระบบกีฬาโอลิมปิก ไปแล้ว โดยรายการนี้ มีนักกีฬาจาก ญี่ปุ่น รัสเซีย จีน และสหรัฐฯ เข้าร่วมประมาณ 30 คน ที่โรงยิมแห่งชาติโยโยงิ มีการกำหนดมาตรการป้องกันโควิด -19 ที่เข้มงวด ผู้ชม 2,000 คน ต้องสวมหน้ากากอนามัย ก่อนเข้าสนามมีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ได้รับการฉีดพ่นด้วยละอองฆ่าเชื้อ ขณะที่อุปกรณ์ในห้องฝึกซ้อมและในสนามแข่งขันได้รับการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ เมื่อสิ้นสุดการแข่งขันในแต่ละช่วง

ไอโอซีเมมเบอร์หญิงชาวไทย กล่าวต่อว่า จากการที่ ตนเอง ได้เข้าร่วมประชุมกับ สมาคมสหพันธ์กีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนระหว่างประเทศ (ASOIF) ผ่านวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ครั้งล่าสุด ปรากฎว่า ฟรานเชสโก ริชชี บิตตี้ ชาวอิตาลี วัย 78 ปี ได้รับเลือกจากสมาชิก ให้เป็นประธานสมาคมฯ ต่ออีกสมัยโดยไม่มีคู่แข่ง ฟรานเชสโก เน้นย้ำว่าพร้อมจะเป็นตัวกลางประสานงานสหพันธ์กีฬาต่าง ๆ ในการนำพาการจัดการโอลิมปิกเกมส์ในสถานการณ์ที่ท้าทายครั้งใหญ่นี้ไปให้ได้
นอกจากนี้ คุณหญิงปัทมา ยังกล่าวด้วยว่า ได้รับรายงานว่า บริษัท ญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ต้องการให้การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก โตเกียวดำเนินไปในฤดูร้อน ปีหน้า แม้ว่าอาจจะต้องมีข้อจำกัด เกี่ยวกับจำนวนผู้ชม เช่นเดียวกับการการกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็อาจจะมีข้อจำกัด แต่ก็จะดีกว่าไม่มีการแข่งขันเกิดขึ้น

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“ศึกสายเลือด” วันเฮง ป้องกันแชมป์โลก WBC ปัญญา คู่มวยลงล็อก

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // เสี่ยตังค์ โปรโมเตอร์ปิยะรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ ร่วมกับ บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหารจำกัดมหาชน เชิญชวนแฟนมวยทั่วสารทิศมาพิสูจน์ผลงานนัดยิ่งใหญ่ศึกสายเลือดระหว่าง วันเฮง ซีพีเอฟ ป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกWBCรุ่น105ปอนด์พบ ปัญญา ประดับศรี เป็นคู่เอกนำรายการศึกซีพีเอฟยอดมวยโลก วันศุกร์ที่27พ.ย.นี้ ที่ นครสวรรค์ ยิงสดช่อง7เวลา13.45น. อีกทั้งยังมีการเปิดตัวของ รุ่งฤทธิ์ ส.วิเศษกิจ รองแชมป์มวยรอบซีพีเอฟจะสวมรองเท้าชกมวยสากลเป็นครั้งแรก ดวล เรืองเดช ศิษย์ชาญสิงห์ พร้อมกับมวยประกอบรายการทั้งหมด 5 คู่ งานนี้รับรองไม่ทำให้ผิดหวัง
ใกล้เข้ามาเรื่อยๆกับศึกสายเลือด ซีพีเอฟยอดมวยโลก วันที่27 พฤศจิกายน 2563 ที่ ลานหน้าเทศบาลนครนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ ยิงสดช่อง7เวลา 13.45-15.45น. จัดโดย บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหารจำกัดมหาชน ร่วมกับ บริษัทเพชรยินดีบ๊อกซิ่งโปรโมชั่น จำกัด วางคู่เอก วันเฮง ซีพีเอฟ ป้องกันตำแหน่งแชมป์โลก WBC รุ่นมินิมัมเวต 105ปอนด์ พบ ปัญญา ประดับศรี(รองแชมป์โลกอันดับ3 WBC รุ่น 105 ปอนด์),เพชร ซีพีเอฟ วัด เสือน้อย สิงห์มนัสศักดิ์ พิกัด120 ปอนด์,ก้องฟ้า ซีพีเอฟ บี้ มินามิ ซาซากิ(ญี่ปุ่น) พิกัด 124 ปอนด์ ,รุ่งฤทธิ์ ส.วิเศษกิจ ตะบัน เรืองเดช ศิษย์ชาญสิงห์พิกัด 116ปอนด์,เพชรหิรัญเล็ก พบ เหล็กเพชร ศิษย์ชาญสิงห์พิกัด 111ปอนด์ พร้อมมีศิลปินวงดนตรีชื่อดังไปร่วมสร้างสีสัน และยังมี คาราวานซีพีเอฟ ร่วมถึงสินค้าOTOPไปจำหน่ายราคาถูกมากมายภายในงานอีกด้วย

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

ร่วมมือพัฒนาธุรกิจพลังงานด้วยระบบดิจิทัล

0

http://www.natethip.com/news.php?id=3275
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

ปตท. มอบเงินจากท่อก๊าซฯรั่ว

0

http://www.natethip.com/news.php?id=3276
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

สำนักข่าวเนตรทิพย์-ท้องกินข้าว สมองกินข่าว!

0

https://timeline.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1160505538610058142
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์จับมือสมาคมนักเขียนบทละครโทรทัศน์ มอบรางวัล บทละครโทรทัศน์ดีเด่น “เล่าเรื่องเป็นละคร ปีที่ 2”

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ร่วมกับ สมาคมนักเขียนบทละครโทรทัศน์จัดพิธีมอบรางวัล บทละครโทรทัศน์ดีเด่น “เล่าเรื่องเป็นละคร ปีที่ 2” ในโครงการ “เล่าเรื่องเป็นละคร ปี 2” สร้างนวลักษณ์เกิดเป็นนวัตกรรมใหม่ประดับวงการบันเทิงไทย ละครโทรทัศน์, วรรณกรรม และ สื่อสร้างสรรค์ สืบสานเรื่องราว สื่อสารเรื่องเล่า ส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรในท้องถิ่น ระยะทางกว่า 1,000 กิโล จากชลบุรี ถึงหาดใหญ่ ระยะเวลา กว่า 120 วัน เกิดเป็น 10 สุดยอดผลงาน บทละครโทรทัศน์หลากลีลา, สีสันและอรรถรส และวันนี้ คือวันเริ่มต้นผลิดอกออกผล บนเส้นทางนักเขียน สู่บทบาทคนเขียนบทละครโทรทัศน์มืออาชีพ ส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมการภาคใต้และภาคตะวันออกดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กล่าวว่า “กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ มีพันธกิจในการส่งเสริม สนับสนุนภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนในการผลิตและพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึง เข้าใจ และใช้ประโยชน์จากสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์อย่างทั่วถึง สร้างการมีส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาชน กลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชนเป็นสื่อกลางเชื่อมนักวิชาการและนักวิชาชีพโดยสร้างรูปแบบการปฏิบัติงานร่วมกันเพื่อให้เกิดเนื้อหาของสื่อที่จะนำไปใช้ในการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน จากสภาพการณ์ในสังคมปัจจุบัน ละครโทรทัศน์กลายเป็นวัฒนธรรมประชานิยม (popular culture) ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มมวลชนคนกลุ่มใหญ่ของสังคม จนเกิดแนวคิดการผลิตสินค้าทางวัฒนธรรม ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจบนพื้นฐานของการใช้องค์ความรู้การศึกษา การสร้างสรรค์งาน และการใช้ทรัพย์สินทางปัญญา ที่เชื่อมโยงกับรากฐานทางวัฒนธรรม เพื่อผลิตชิ้นงานสื่อที่สร้าง “มูลค่าทางเศรษฐกิจ” และ “คุณค่าทางสังคม” ซึ่งตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั้งในตลาดภายในประเทศและสามารถต่อยอดไปในตลาดโลกได้บทละครโทรทัศน์นับเป็นหัวใจสำคัญของการถ่ายทอดข้อมูลความคิด อารมณ์ และความรู้สึกที่จะกระทบต่อทัศนคติและสุนทรียะของผู้ชม ดังนั้นกระบวนการของการสร้างแนวความคิดที่จะนำไปสู่ลำดับขั้นของการเขียนเพื่อสร้างสรรค์เป็นบทละครโทรทัศน์ จึงเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยพัฒนานักผลิตสื่อ หรือนักเขียนให้เรียนรู้ที่จะออกแบบวิธีการคิดที่จะนำไปสู่การสร้างสรรค์บทละครโทรทัศน์ที่แตกต่างจากเดิม และสามารถสร้างสรรค์ชิ้นงานสื่อที่มีเนื้อหาหลากหลายได้อย่างไม่มีขีดจำกัด ด้วยเหตุนี้ การสร้างนวัตกรรมด้านเนื้อหาที่มีคุณภาพ มีความสอดคล้องกับทิศทางการส่งเสริมเศรษฐกิจวัฒนธรรม และสามารถนำองค์ความรู้หรือกระบวนการขั้นตอนของวิธีคิดในการสร้างนักเขียนบทละครโทรทัศน์ นำไปสู่การพัฒนาทักษะวิธีคิดของบุคคลากรในกลุ่มของนักวิชาชีพผู้ผลิตสื่อ จึงเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนพลังความคิดของคนผลิตสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ดังนั้น กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ได้มีแผนการสร้างพื้นที่ของเนื้อหาโดยผ่านสื่อบุคคลที่เป็นนักคิดนักเขียนที่เรียกว่าเป็นผู้ผลิตสื่อกับผู้ที่ออกแบบหลักสูตรกระบวนการอบรมไปพร้อม ๆ กัน เพื่อสร้างคนให้มีหลักคิดให้มีแนวทางในการผลิตและสร้างสรรค์สื่อที่มีชั้นเชิงของความคิดสร้างสรรค์ในการสื่อสารกับสังคม กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จึงร่วมกับสมาคมนักเขียนบทละครโทรทัศน์ จัดกิจกรรมส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมการผลิตสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ผ่านการจัดกิจกรรมเล่าเรื่องเป็นละคร ปีที่ 1 ในภาคเหนือและภาพตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และจัดกิจกรรมต่อเนื่องในโครงการ เล่าเรื่องเป็นละคร ปีที่ 2 ภาคใต้และภาคตะวันออก“ โดยมอบรางวัลให้กับผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจำนวน 10 คน ในพิธีมอบรางวัล บทละครโทรทัศน์ดีเด่น “เล่าเรื่องเป็นละคร ปีที่ 2 “
อาจารย์ ศัลยา สุขะนิวัตติ์ นายกสมาคมนักเขียนบทละครโทรทัศน์ กล่าวว่าโครงการ เล่าเรื่องเป็นละคร ปีที่ 2 ภาคใต้และภาคตะวันออก เป็นหนึ่งโครงการดีๆที่ สมาคมนักเขียนบทละครโทรทัศน์ร่วมกับกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ได้ร่วมกันสร้างขึ้น เพราะเล็งเห็นว่าการสื่อสารในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยและความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ซึ่งมีส่วนทำให้รูปแบบของการเสพสื่อของคนยุคใหม่ต่างออกไปจากเดิม โดยสิ่งสำคัญที่จะทำให้ผู้ผลิตสื่ออยู่รอดได้นั้นก็คือ “เนื้อหา” ที่ไม่ใช่เพียงแค่เน้นปริมาณ แต่ควรนำเสนอเนื้อหาที่มีคุณภาพเป็นหลัก โดยการสร้างนวัตกรรมการเล่าเรื่องเพื่อพัฒนาเนื้อหาในละครโทรทัศน์นอกจากจะต้องเป็นที่จดจำและน่าติดตามแล้วยังจะต้องปลอดภัยและสร้างสรรค์ต่อผู้ชมเพื่อพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นควบคู่กันไปด้วย โครงการ “เล่าเรื่องเป็นละคร” เป็นสื่อกลางในการเชื่อมนักวิชาการและนักวิชาชีพ ให้สามารถสร้างรูปแบบการทำงานร่วมกัน เพื่อให้เกิดนวัตกรรมการเล่าเรื่องที่จะนำไปใช้ในการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพและสร้างพลังบวกแก่สังคม เปิดมุมมองต่อกระบวนการทางความคิด และสร้างนวัตกรรมด้านเนื้อหาในบทละครโทรทัศน์จากเรื่องเล่าในท้องถิ่น จึงเป็นที่มาของการลงพื้นที่หาผู้คนในท้องถิ่นเพื่อรับฟังมุมมอง ด้วยแนวคิดว่า หากหาเรื่องเล่าจากท้องถิ่นและนำมาผูกเรื่องได้จะเกิดเนื้อหาที่มีคุณภาพดี โดยปีนี้ก็เป็นปีที่ 2 ของการจัดโครงการ โดยในปีแรกได้ไปเดินสายอบรมนักเขียนในท้องถิ่นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ ส่วนในปีนี้ได้เดินสายอบรมไปที่ภาคตะวันออกและภาคใต้ ซึ่งได้มีการอบรม พร้อมคัดเลือกผู้เข้ารอบจนได้ผู้ผ่านการคัดเลือกภาคละ 5 ท่าน ที่จะมารับมอบรางวัลกันในวันนี้ แต่ละผลงานก็มีความโดดเด่น ในแบบของตัวเอง และยังสามารถถ่ายทอดเรื่องราวในท้องถิ่นของตนเองออกมาได้เป็นอย่างดี ตามคอนเซ็ปต์งาน “ล้านเรื่องเล่า จากเรื่องราวในท้องถิ่น” สำหรับรายชื่อผู้รับรางวัล 10 คนคือ 1. พญ.อุบลพรรณ วีระโจง ผลงาน หวานใจนายตัวท็อป Dream Team Doctor ตะวันออก
2. เรือตรี สิรปกรณ์ จันทรผลงาน คมตะวัน ภาคตะะวันออก
3. คุณเอก อันเป็นเอก ผลงานกุหลาบสีทอง ภาคตะวันออก
4. คุณรัฐธัญญา เรืองโรจน์ ผลงาน พลิกเวลาล่าคนโกง ภาคตะวันออก
5. พ.ต.ท.เรืองยศ เกษรบัว ผลงาน ขุนพนมพรหมคีรี ภาคตะวันออก
6. คุณญาณพันธุ์ พันธรักษ์ ผลงานเกลอเขา- เกลอเล ภาคใต้
7. คุณพนาพร ประชุมทอง ผลงาน เสียงเรียกจากริมฝั่ง ภาคใต้
8. คุณคีตาญชลี แสงสังข์ ผลงาน เลสาบเรา – ด้วยรักและความหวัง ภาคใต้
9. คุณมนต์ศักดิ์ ชัยวีระเดช ผลงาน หลอน ลวง ล้วง ลับ ภาคใต้
10. คุณชาญชัย หาสสุด ผลงาน ทางน้ำเชี่ยว ภาคใต้ :Cr;มณสิการ รามจันทร์

กองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ หนุน ส.ฟันดาบสร้างศูนย์ฝึกถาวร เสริมความแกร่งนักกีฬา

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // สหพันธ์สมาคมกีฬาชาติ (ฟอนซ่า) หรือ Federation of National Sport Associations (FONSA) จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2563 โดยมีพลตรี อินทรัตน์ ยอดบางเตย ประธานสหพันธ์ฯ เป็นประธานที่ประชุมมีการหารือประเด็นเตรียมความพร้อมของแต่ละสมาคมกีฬาต่างๆ ในการส่งนักกีฬาเข้าร่วมมหกรรมกีฬา ปี 2564 ประกอบด้วยการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น, การแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์เกมส์และมาร์เชี่ยลอาร์ทเกมส์ 2021 ที่ กรุงเทพมหานครและชลบุรี, และกีฬาซีเกมส์ 2021 ที่กรุงฮานอย วียดนาม
ที่ประชุมได้รับทราบปัญหาการเตรียมงานของสมาคมกีฬาต่างๆ โดยเฉพาะสมาคมกีฬาฟันดาบแห่งประเทศไทย โดยพลตรีอินทรัตน์ ประธานในที่ประชุม เผยว่า “สำหรับปัญหาของสมาคมกีฬาฟันดาบนั้น พบว่าไม่มีสถานที่ฝึกซ้อมเพื่อไว้สำหรับเตรียมนักกีฬาเข้าแข่งขันรายการต่างๆ การเตรียมความพร้อมของนักกีฬา สถานที่ฝึกซ้อมถือว่ามีความสำคัญมาก หากขาดสถานที่สำหรับการฝึกซ้อมเพื่อเตรียมทีมนักกีฬาย่อมส่งผลกระทบกับความเป็นเลิศของกีฬาอย่างแน่นอน” ดังนั้น” ฟอนซ่า” จึงประสานไปยังกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ

เพื่อหาแนวทางการส่งเสริมสนับสนุนให้สมาคมกีฬาฟันดาบแห่งประเทศไทยมีสถานที่ฝึกซ้อมอย่างถาวร
ล่าสุด นางสาวสุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ รับทราบปัญหาดังกล่าวของสมาคมกีฬาฟันดาบฯแล้ว พร้อมทั้งยืนยันว่า กรอบของกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ สามารถพิจารณาได้ตามกรอบและระเบียบที่จะให้การสนับสนุนดังกล่าว และจะได้นำเสนอคณะกรรมการกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติเพื่อพิจารณาอีกวาระหนึ่งต่อไป
พลเอกชาญชัย ยศสุนทร เลขาธิการสมาคมกีฬาฟันดาบแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ”ต้องขอขอบคุณสหพันธ์สมาคมกีฬาชาติ และกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ที่เล็งเห็นความสำคัญการเตรียมทีมนักกีฬา ซึ่งสมาคมกีฬาฟันดาบยังขาดสถานที่ฝึกซ้อมที่จะใช้สำหรับเตรียมทีมนักกีฬา หากได้รับการสนับสนุนสถานที่ฝึกซ้อมให้เป็นสถานที่หลักและถาวร ทำให้นักกีฬามีขวัญกำลังใจอย่างดียิ่ง และการกำหนดโปรแกรมการฝึกซ้อมทำได้เต็มรูปแบบ สามารถเพิ่มขีดความสามารถของนักกีฬาฟันดาบให้มีประสิทธิภาพ สมาคมฯมีรายการส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันหลายรายการ หากได้รับการสนับสนุนสถานที่ฝึกซ้อมจะทำให้นักกีฬาฟันดาบทีมชาติไทยประสบความสำเร็จ จะมีเหรียญรางวัลติดไม้ติดมือมาฝากพี่น้องประชาชนคนไทยให้ได้ชื่นชมอย่างแน่นอน”

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

ศึกสองล้อเสือภูเขา “ใจเกินร้อย-ปั่นเพื่อชีวิต” สนามสุดท้าย ที่ นครนายก ผู้สมัครร่วมเพียบ

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย เผยว่า ตามที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ เตรียมจัดการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) และการแข่งขันจักรยาน “ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2563 ในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ New Normal สนามที่ 2 สนามสุดท้าย ระหว่างวันที่ 14-15 พฤศจิกายน ที่ เขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก ล่าสุด เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน มียอดผู้สมัครออนไลน์ทางเว็บไซต์ของสมาคมฯ ทั้งสองรายการเกือบ 500 คนแล้ว ปิดรับสมัครวันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน เวลา 12.00 น. คาดว่าจะมีผู้สมัครเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก

นอกจากนักปั่นที่จะมาแข่งขันหลายร้อยคน ยังมีครอบครัวและผู้ติดตามมาด้วย คาดว่าจะมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 2,000 คน โรงแรมที่พักต่าง ๆ จะถูกจับจองจนเต็มเกือบทุกแห่ง อีกทั้งเป็นช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ด้วย ที่พักน่าจะหายากพอสมควร รวมทั้งร้านอาหาร ร้านค้า จะมีความคึกคัก มีนักปั่นและผู้ติดตามไปจับจ่ายใช้สอย สร้างรายได้ให้แก่ท้องถิ่น เป็นการช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจระดับรากหญ้าให้แก่จังหวัดนครนายกได้เป็นอย่างดี ส่วนเส้นทางการแข่งขันได้กำหนดเรียบร้อยแล้ว เป็นเส้นทางที่มีทัศนียภาพสวยงาม ผ่านแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดนครนายกมากมาย และผ่านวัดต่าง ๆ ถึง 9 แห่ง นักปั่นและผู้ติดตามสามารถแวะทำบุญไหว้พระขอพรหลังแข่งขันได้ เช่น วัดหลวงพ่อปากแดง เป็นต้น
“สำหรับเส้นทางการแข่งขันปีนี้พิเศษกว่าทุกปีที่ผ่านมา เพราะจะเข้าไปในพื้นที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า และปั่นขึ้นไปยังจุดชมวิวบนเขาชะโงกด้วย นักปั่นจะได้เห็นทัศนียภาพธรรมชาติที่งดงาม นักปั่นสามารถแวะซื้ออาหาร และของฝากที่ขึ้นชื่อของจังหวัดนครนายก ติดมือกลับมาบ้าน เช่น กุยช่ายชื่อดัง, ไข่เค็ม, ขนมเปี๊ยะ, เครื่องหนัง-กระเป๋าหนังปลานิล, บ้านทรงไทยจำลอง และพรมเช็ดเท้าทอจากเศษผ้า ของอำเภอบ้านนา หรือ ผลไม้แช่อิ่ม, มะยงชิดลอยแก้ว ธูปหอมอุดมมงคล และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากไม้ไผ่ ของ

อำเภอเมืองเป็นต้น

สำหรับโปรแกรมการแข่งขัน วันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน แข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) รุ่นทั่วไปชาย, รุ่นอายุ 30-34 ปีชาย, รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปีชาย, รุ่นอายุ 35-39 ปีชาย, รุ่นอายุ 40-44 ปีชาย, รุ่นอายุ 45-49 ปีชาย, รุ่นน้ำหนัก 90 กก.ขึ้นไปชายอายุไม่เกิน 34 ปีชาย, รุ่นน้ำหนัก 90 กก. อายุ 35 ปีขึ้นไปชาย, รุ่นอายุ 50-54 ปีชาย, รุ่นอายุ 55-59 ปีชาย, รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปีชาย, รุ่นอายุ 60 ปีชายขึ้นไป, รุ่นอายุไม่เกิน18 ปีหญิง, รุ่นทั่วไปหญิง, รุ่นอายุ 35 ปีหญิง เริ่มปล่อยตัวเวลา 09.00 น. ห่างกันรุ่นละ 1 นาที เส้นทางเริ่มจากเขื่อนขุนด่านปราการชล-น้ำตกนางรอง-น้ำตกวังตะไคร้-น้ำตกสาริกา-วังยาว-อบต.สาริกา-หน้าวัดหลวงพ่อปากแดง-ตลาดโรงเกลือนครนายก-ตลาดเท่ง เถิดเทิง-บุ่งกระเบา-บ้านใหญ่-อบต.ศรีนาวา-อบต.หินตั้ง-ศูนย์การเรียนรู้ภูกะเหรี่ยง-คลองส่งน้ำเขื่อนขุนด่าน-ภูไอยรารีสอร์ท-เข้าเส้นชัยเขื่อนขุนด่านปราการชล รวมระยะทาง 43 กม.
ส่วนรุ่นอายุไม่เกิน 10 ปีชาย, รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปีชาย, รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปีหญิง ปล่อยตัวเวลา 09.15 น. ห่างกันรุ่นละ 1 นาที เส้นทางเริ่มจากเขื่อนขุนด่านปราการชล-น้ำตกนางรอง-น้ำตกวังตะไคร้-น้ำตกสาริกา-วังยาว-วัดท่าด่าน-เข้าเส้นชัยเขื่อนขุนด่านปราการชล รวมระยะทาง 16.40 กม.

ด้านการแข่งขันปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All สนามที่ 2 วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน เริ่มเวลา 08.00 น. ปล่อยตัวรุ่น AV 40, เวลา 08.05 รุ่น AV 35, เวลา 08.10 น. รุ่น AV30 เส้นทางเริ่มจากเขื่อนขุนด่านปราการชล-วัดท่าด่าน-อบต.หินตั้ง-วังยาว-วัดเขานางบวช-อบต.สาริกา-อุทยานพระพิฆเนศ-น้ำตกลานรัก-วัดเขาน้อยหินกอง-อบต.เขาพระ-วัดสมบูรณ์สามัคคี-ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่านครนายก-อบต.พรหมณี-รร.จปร.-วัดสุตธรรมาราม-จุดชมวิวเรือนรับรอง รร.จปร.-สี่แยก จปร.-แยกช้างเข้าถนนเลี่ยงเมืองนครนายก-อบต.บ้านใหญ่-วัดตะเคียน-อบต.เขาพระ-วัดเขาน้อยหินกอง-น้ำตกลานรัก-อุทยานพระพิฆเนศ-อบต.สาริกา-วัดเขานางบวช-วัดวังยายฉิม-อบต.หินตั้ง-วัดท่าด่าน-เข้าเส้นชัยที่เขื่อนขุนด่านปราการชล รวมระยะทาง 74.50 กม.
พลเอกเดชา กล่าวเสริมว่า สมาคมกีฬาจักรยานฯ เชิญ นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันทั้ง 2 วัน ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดเฟซบุ๊กไลฟ์ Thaicycling Association ให้แฟนจักรยานทางบ้านได้รับชม โดยการแข่งขันเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) จะถ่ายทอดสดรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปีชาย ขณะที่ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All จะถ่ายทอดสดรุ่น AV40 ตั้งแต่ต้นจนจบการแข่งขัน
ทั้งนี้ นักปั่นที่ต้องการสมัครเข้าแข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) และ “ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” สนามที่ 2 สามารถสมัครได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 12 พฤศจิกายน ก่อนเวลา 12.00 น. ที่ เว็บไซต์ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ www.thaicycling.or.th (ไม่รับสมัครที่หน้างาน) หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ โทร.0-2719-3340-2.

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์