พิมพ์ไทยออนไลน์ // เดินหน้าจัดแข่งปันจักสีลัต ชิงชนะเลิศจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ 9 ประจำปี 2563 เฟ้นดาวรุ่งเสริมทัพสู่ทีมชาติในอนาคต
นายนักรบ ทองแดง ประธานเทคนิค สมาคมกีฬาปันจักสีลัตแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ทางสมาคมฯ จัดการแข่งขันปันจักสีลัต ชิงชนะเลิศจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ 9 ประจำปี 2563 ที่ ศูนย์ฝึกกีฬาปันจักสีลัต มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตยะลา แข่งขันตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 28 พ.ย.นี้ เป็นเวลา 5 วัน ซึ่งมี ผศ.จงรัก เขี้ยวแก้ว รองอธิการบดี ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ประจำวิทยาเขตยะลา เป็นประธานเปิดการแข่งขัน ร่วมด้วย ผศ.สมรรถชัย คันธมาทน์ ผู้ช่วยรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ประจำวิทยาเขตยะลา ฝ่ายบริหาร
รายการนี้ เกิดขึ้นจากความคิดของ นายภาณุ อุทัยรัตน์ นายกสมาคมกีฬาปันจักสีลัตแห่งประเทศไทย และ ผศ.จงรัก เขี้ยวแก้ว รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ประจำวิทยาเขตยะลา (สถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตยะลา) ตั้งแต่ปี 2555 มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุน ส่งเสริม พัฒนากีฬาปันจักสีลัตในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีประสิทธิภาพ และสมรรถนะการเป็นผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสิน นักกีฬา ตลอดทั้งกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องให้มีความเจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน เป็นกำลังสำคัญการสร้างชื่อเสียง เกียรติยศ ความภาคภูมิใจให้กับท้องถิ่น บ้านเกิด สมาคมฯ และประเทศชาติ
“สำหรับนักกีฬาที่ผ่านแข่งขันรายการนี้ ส่วนหนึ่งได้ก้าวขึ้นเป็นตัวแทนจังหวัด ได้แชมป์กีฬาแห่งชาติ และพัฒนาต่อยอดจนสามารถเป็นนักกีฬาทีมชาติได้สำเร็จ อย่างต่อเนื่อง”
Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์




อีกทั้งยังเป็นการเฉลิมฉลองเทศกาลข้าวใหม่ เสริมความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ด้วยการบริโภคและทำบุญด้วยข้าวใหม่ ซึ่งจากผลการศึกษาพบว่า ในปัจจุบันคนไทยบริโภคข้าวลดลง โดยเฉพาะกลุ่มคนเมือง และกลุ่มวัยรุ่น
เนื่องจากมีรายได้เพิ่มขึ้น จึงเปลี่ยนพฤติกรรมหันไปบริโภคอาหารโปรตีนเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับวิถีชีวิตคนเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น กลุ่มคนทำงานกับปัญหาความเร่งรีบในชั่วโมงเร่งด่วน ตลอดจนความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับการบริโภคข้าว “ว่ากินข้าวแล้ว ทำให้อ้วน” ส่งผลให้ทุกวันนี้คนไทยบริโภคข้าวลดลงเฉลี่ยเหลือเพียงคนละประมาณ 83 กิโลกรัมต่อปี จาก 90 – 100 กิโลกรัมต่อปี ในปี 2562
นอกจากนี้ สถานการณ์โควิด – 19 ยังส่งผลกระทบให้นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่สามารถเดินทางมาในประเทศไทยได้ ส่งผลให้การบริโภคข้าวลดลงไปอีก
สำหรับกิจกรรมไฮไลต์ในงาน ประกอบด้วย การโชว์รังสรรค์เมนูอาหารต่างๆ โดยใช้ข้าวไทยเป็นวัตถุดิบ โดยเชฟพลอย (ฐาติกานต์ ตัณฑจินนะ) Top Chef Thailand Season 2 การจัดนิทรรศการ “เพราะรักจึงชวนกินข้าวไทย” ให้ความรู้สายพันธุ์ข้าวไทยในแต่ละกลุ่ม และคุณประโยชน์ของข้าว รวมถึงสร้างการรับรู้เครื่องหมายรับรองมาตรฐานข้าวหอมมะลิรูปพนมมือของกรมการค้าภายใน พร้อมชวนชิม และเลือกซื้อข้าวไทยคุณภาพดีจากเกษตรกรและโรงสีโดยตรง
นางสาวพัชรี กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงานรณรงค์บริโภคข้าวไทยดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ข้าวไทย ปี 2563 – 2567 โดยวิสัยทัศน์ “ไทยเป็นผู้นำการผลิต การตลาดข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าวคุณภาพของโลก” ได้จำแนกกลุ่มข้าวตามความต้องการของตลาด จำนวน 3 กลุ่มตลาด ประกอบด้วย ตลาดพรีเมี่ยม ได้แก่ ข้าวหอมมะลิ และข้าวหอมไทย ตลาดทั่วไป ได้แก่ ข้าวพื้นนุ่ม ข้าวพื้นแข็ง และข้าวนึ่ง และตลาดเฉพาะ ได้แก่ ข้าวเหนียวและข้าวสีหรือข้าวคุณลักษณะพิเศษ
โดยมีพันธกิจ ด้านการตลาดภายในประเทศจะดำเนินการในการสร้างสมดุลระหว่างความต้องการของการบริโภคในประเทศและการผลิตในประเทศ ทั้งนี้ เพื่อดูแลเกษตรกรไทยให้ได้รับราคาผลผลิตที่เหมาะสม และเกิดเสถียรภาพด้านราคาต่อไป






