พิมพ์ไทยออนไลน์ // บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท แอทเลติโก้ จำกัด โดย นายอังกูร ศรีกัลยาณบุตร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ Chief Marketing Officer บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และ นายอัตนันท์ อัศวธเรศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอทเลติโก้ จำกัด ได้จัดโครงการใหญ่ส่งท้ายปี 2563 “Sports Showcase 2020 #6: AES Fencing Showcase Thailand x Thai Life Insurance” เพื่อคัดตัวนักเรียนนักกีฬาฟันดาบระดับเยาวชนรับทุนการศึกษาหรือทุนด้านกีฬาในต่างประเทศ จัดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา ชั้น 6 โรงยิมเนเซี่ยม วิทยาลัยเทคโนโลยีไทยบริหารธุรกิจ กรุงเทพฯ

การเปิดรับสมัครครั้งนี้ คณะกรรมการเลือกเฟ้นผู้ที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายจำนวน 30 คน ส่วนใหญ่เป็นนักกีฬาที่สังกัดสโมสรดังกันแทบทั้งสิ้น และได้มีนักกีฬาฟันดาบทุมชาติไทย 2 คน คือ นายปณชัย วิริยะตั้งสกุล (เหรียญเงินดาบเซเบอร์ชาย ประเภททีมกีฬาซีเกมส์ ที่ ฟิลิปปินส์ และ นายพชรพร วาสนะสมสิทธิ์ (เหรียญทองแดง ดาบเอเป้ชาย ประเภททีมกีฬาซีเกมส์ ที่ ฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ยังมี 3 นักกีฬาฟันดาบทีมชาติระดับเยาวชนอีก 3 คน นายนทกช หวังไพสิฐ, น.ส.ชญาดา สมิทธิสุกุล และ น.ส. วริษา วิญญา รวมทั้งสิ้น 5 คน ซึ่งได้คัดเลือกแบบโอเพ่นให้นักกีฬาทุกคน ทุกประเภท ทั้ง ฟอยลเซเบอร์ และ เอเป้ สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันจนครบทุกคน ทั้งชายและหญิง แล้วนำผลคะแนนกับวีดีโอ. ที่คณะกรรมการคัดเลือกจากไทยได้รวมรวบไว้แล้ว จะต้องส่งไปให้ผู้ฝึกสอนสถาบันการศึกษาในประเทศสหรัฐ เป็นผู้พิจารณาให้สิทธิ์แต่ละคนที่เห็นว่ามีความเหมาะสมที่สุดอีกครั้ง

ปรากฏว่าประเภทดาบฟอยล์ ผู้ที่ได้ตำแหน่งนักกีฬายอดเยี่ยม นายนทกช หวังไพสิทธิ์ (นัน) และ น.ส.ชญาดา สมิทธิสุกุล (แชท) ขณะที่ประเภทเซเบอร์ และ เอเป้ อยู่ระหว่างการคัดเลือกกันอย่างโปร่งใส
นายอัตนันท์ อัศวธเรศ กล่าวว่า ประสบผลสำเร็จเกินคาด เนื่องจากมีนักกีฬาฟันดาบให้ความสนใจร่วมคัดเลือกกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งแต่ละคนมีทั้งผลการเรียนที่ดีเป็นทุนเดิม บวกกับมีความสามารถกีฬาฟันดาบทุกคน คาดว่านักกีฬาฟันดาบที่ได้สิทธิ์ไปศึกษาต่อต่างประเทศน่าจะมีไม่น้อยกว่า 4 คน
Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์









โดยนำมาร้อยเรียงเป็นเรื่องราวทำให้ผู้เข้าชมเห็นภาพได้ชัดเจนและเข้าใจมากยิ่งขึ้น ภายในนิทรรศการได้แบ่งเนื้อหาการจัดแสดงออกเป็น 3 ส่วน คือ 1) ประวัติพื้นที่บางกอก 2) กลุ่มวังท้ายวัดพระเชตุพน และ 3) การจำลองท้องพระโรงวังเก่าในสมัยโบราณ
ซึ่งเชื่อมโยงเรื่องราวทั้งหมดด้วยการใช้สัญลักษณ์ของวัตถุที่ค้นพบในชั้นดินที่ต่างกันไป โดยชั้นด้านล่างคือ ชั้นดินสมัยอยุธยา ชั้นบนสุดคือสมัยปัจจุบัน และมีการจัดแสดงด้วยการจำลองโมเดลป้อม วัง และกระทรวง เพื่อให้เห็นพัฒนาการที่เปลี่ยนไปของพื้นที่อีกด้วย
ทั้งนี้เพื่อต่อยอดในการสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งทางเรามีความมุ่งมั่นและตั้งใจสร้างสรรค์นิทรรศการชุดนี้ขึ้นมาสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเด็ก เยาวชน นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ”




