วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 22, 2025

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรก บล็อก หน้า 2064

ปตท.เดินเครื่อง Restart Thailand หนุนท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจ!

0

http://www.natethip.com/news.php?id=3112
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

ลดโทษ โมนา ฆ่าโหด สาวใช้ เหลือ 20 ปี

0

พิมพ์ไทนออนไลน์ // ศาลอุทธรณ์ลดโทษคุก “โมนา” ฆ่าโหด “น้องน้ำ” สาวใช้ จากตลอดชีวิตเหลือ 20 ปี

ตา​นจ

วันที่ 6 ต.ค. 2563 ที่ห้องพิจารณา 703  ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีที่พนักงานอัยการคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.กฤษณา หรือโมนา สุวรรณพิทักษ์ อดีตผู้เข้าประกวดนางงาม จ.เพชรบุรี, น.ส.ปรารถนา หรือเม้า ท้วมทรัพย์ เพื่อนสนิทรุ่นน้อง และนายปราโมทย์ สุวรรณพิทักษ์ น้องชายและอดีตผู้ใหญ่บ้าน เป็นจำเลยที่ 1-3 ฐานร่วมกันช่วยเหลือผู้อื่นไม่ให้ต้องรับโทษอาญาหรือรับโทษน้อยลง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184 และจำเลยที่ 1 ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 คดีนี้มารดาผู้ตายยื่นคำร้องขอให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนด้วยเป็นเงิน 1,465,776 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปีด้วย

กรณีเมื่อช่วงเดือน ก.พ.- มี.ค.2555 น.ส.จริยา หรือน้องน้ำ อายุ 15 ปีเศษ ได้มาทำงานเป็นสาวรับใช้ ให้กับ น.ส.กฤษณา จำเลยที่ 1 ที่บ้านพัก หมู่บ้านกลางกรุงรัชวิภา แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กทม. ช่วงต้นเดือน เม.ย. – วันที่ 12 เม.ย.2555 จำเลยที่ 1  ได้ใช้กระป๋องสเปรย์ ยาวประมาณ 1 ฟุต ทุบตีที่ศีรษะ น.ส.จริยา หลายครั้งซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญได้รับแรงกระแทก และยังใช้ท่อต่อพลาสติก เครื่องดูดฝุ่นทุบตีบริเวณต้นขา และใช้ที่หนีบผมขณะที่ยังมีความร้อนจี้ตามลำตัวจนได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงแก่ความตาย ต่อมาวันที่ 15 เม.ย.2555 จำเลยที่ 2-3 ร่วมกัน เคลื่อนย้ายศพใส่ท้ายรถกระบะเดินทางไปที่ ต.หนองโสน อ.เมือง จ.เพชรบุรี ขุดหลุมฝังศพผู้ตายที่ใต้ต้นตาลข้างบ้านพักจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 1-2 ให้การปฏิเสธ ส่วนจำเลยที่ 3 ให้การรับสารภาพ

คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2562  จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตามมาตรา 288 ให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิตและชดใช้ค่าเสียหายให้มารดาผู้ตาย
เป็นเงินทั้งสิ้น 1,065,776 บาท
จำเลยที่ 2-3 มีความผิดฐานร่วมกันช่วยเหลือผู้อื่นไม่ให้ต้องรับโทษอาญาหรือรับโทษน้อยลง ให้จำคุกคนละ 2 ปี คำให้การของจำเลยที่ 2 ในชั้นสอบสวนมีประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้างลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกไว้ 1 ปี 4 เดือน สำหรับจำเลยที่ 3 รับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี โดยไม่รอการลงโทษ

ต่อมาอัยการโจทก์และจำเลยที่ 1-2 ยื่นอุทธรณ์ จำเลยที่ 3 ไม่ยื่น วันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัว น.ส.กฤษณา หรือโมนา จำเลยที่ 1 จากทัณฑสถานหญิงกลางมาศาล ส่วน น.ส.ปรารถนา จำเลยที่ 2 และนายปราโมทย์ จำเลยที่ 3 เดินทางมาศาล

ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว จำเลยที่ 1-2 กระทำผิดตามฟ้องหรือไม่ โจทก์มีพยานเบิกความว่าจำเลยที่ 1 มีอารมณ์ร้าย เคยมีชาวพม่ามาทำงานรับใช้แล้วถูกทำร้าย 2 คน ก่อนออกไป โดยเห็นจำเลยที่ 1 ใช้กระป๋องสเปรย์ตีผู้ตาย ภายหลังได้เรียกให้พยานดูผู้ตายเสียชีวิตในครัว พบร่างกายมีรอยไหม้ พยานเห็นจำเลยทั้งสามนำศพผู้ตายไปฝัง และมีพยานอีกรายเห็นจำเลยที่ 1 ทำร้ายผู้ตายถึงแก่ความตาย เมื่อมีการนำศพไปขอให้วัดเผาศพ วัดไม่เผาให้เนื่องจากไม่มีใบมรณบัตร ศาลอุทธรณ์เห็นว่าพยานโจทก์ทั้งสองเบิกความเชื่อมโยงกันเป็นขั้นตอนเกี่ยวกับการทำร้ายผู้ตาย การขอเผาศพ และฝังศพสอดคล้องกัน ไม่มีเหตุโกรธเคืองปรักปรำจำเลย เชื่อว่าเบิกความไปตามความจริง

ส่วนที่จำเลยที่ 1 อ้างไม่ได้ทำร้ายผู้ตาย แต่ผู้ตายหนีหายไปนั้น จำเลยที่ 1 ไม่ได้ให้การนี้ในชั้นสอบสวน ึโดยให้การว่าผู้ตายเสียชีวิตที่กรุงเทพฯ และจำเลยที่ 1-2 ให้การซัดทอดกันไปมาว่าอีกฝ่ายทำร้าย จึงเป็นการอ้างเลื่อนลอย ไม่หักล้างพยานหลักฐานโจทก์ โดยจำเลยที่ 1 ทำร้ายผู้ตายถึงแก่ความตาย จำเลยทั้งสามนำศพไปฝัง จากการตรวจกระดูกผู้ตาย พบกระดูกกรามหลุด แตกหักก่อนตาย จากการถูกตีศีรษะรุนแรง และไม่นำส่งโรงพยาบาล จำเลยที่ 1 ย่อมเล็งเห็นถึงแก่ความตาย มีความผิดฐานฆ่าผู้ตายโดยเจตนา จำเลยที่ 2 ผู้ฝังศพ ย่อมมีความผิดฐานร่วมกันช่วยเหลือผู้อื่นไม่ให้ต้องรับโทษอาญา ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย แต่เห็นว่าศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยที่ 1 หนักเกินไป จึงแก้ไขให้เหมาะสม

สำหรับประเด็นอุทธรณ์เห็นสมควรลงโทษสถานเบาหรือรอการลงโทษหรือไม่ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าโทษจำเลยที่ 2-3 เหมาะสมแล้ว การปกปิดการตายช่วยจำเลยที่ 1 ให้ไม่รับโทษ ทำให้มารดาผู้ตายทุกข์ทรมาน ถึงแม้จำเลยไม่เคยรับโทษจำคุกมาก่อน และจำเลยที่ 3 ชดใช้ค่าเสียหายแล้ว ก็ไม่มีเหตุรอการลงโทษ ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุก น.ส.กฤษณา หรือโมนา จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 20 ปี ส่วน น.ส.ปรารถนา และนายปราโมทย์ จำเลยที่ 2-3 โทษเป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น (จำคุก 1 ปี 4 เดือน และ 1 ปี)

Cr. :  นายทวีศักดิ์ ชินทัพ ผู้สื่อข่าวพืมพ์ไทยออนไลน์

ผู้นำคนพิการ” บุกยื่นหนังสือขอโอกาสจากรัฐบาลที่เมินไม่ปรับสวัสดิการเบี้ยความพิการเพิ่มจาก 800 บาทเป็น 1,000 บาท โดยถ้วนหน้า!

0

“ผู้นำคนพิการ” บุกยื่นหนังสือขอโอกาสจากรัฐบาลที่เมินไม่ปรับสวัสดิการเบี้ยความพิการเพิ่มจาก 800 บาทเป็น 1,000 บาท โดยถ้วนหน้า!

วันนี้ 6 ตุลาคม 2563
ณ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของทำเนียบรัฐบาล สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ โอวาทวรรณสกุล นายกสมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย นายวิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ ประธานฝ่ายกฎหมายและสิทธิมนุษยชนสภาคนพิการฯ และผู้นำองค์การคนพิการแต่ละประเภท รวมถึง นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกกุล นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย
ได้ยื่นหนังสือถึงผู้แทนนายกรัฐมนตรีเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลนำ “งบกลาง” มาจัดสรรปรับสวัสดิการเบี้ยความพิการเพิ่มจาก 800 บาทเป็น 1000 บาทให้กับคนพิการจำนวนกว่า 800,000 คน โดยถ้วนหน้า

เนื่องด้วยเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2563 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบการปรับสวัสดิการเบี้ยความพิการจาก 800 บาทต่อคนต่อเดือน เป็น 1,000 บาทต่อคนต่อเดือนให้กับคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการและมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งมีจำนวน 1,103,065 คน ประกอบกับเมื่อวันอังคารที่ 28 เมษายน 2563 คณะรัฐมนตรี ได้มีมติเห็นชอบหลักการให้ปรับสวัสดิการเบี้ยความพิการจาก 800 บาทต่อคนต่อเดือน เป็น 1,000 บาทต่อคนต่อเดือน สำหรับคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการและมีอายุไม่เกิน 18 ปี ซึ่งมีจำนวน 126,032 คน รวมจำนวนคนพิการที่ได้ปรับเบี้ยความพิการตามมติคณะรัฐมนตรีทั้ง 2 ครั้ง เป็นจำนวนกว่า 1.2 ล้านคน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป (ที่มา: https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/29917)

ทว่ายังมีคนพิการจำนวนอีกประมาณ 800,000 คน จากจำนวนคนพิการที่ได้รับการออกบัตรประจำตัว
คนพิการทั้งหมด 2,030,800 คน (ข้อมูลจากเอกสารประกอบการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ กพช. ครั้งที่ 2/2563 วันที่ 19 สิงหาคม 2563) ที่ประสบความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) แต่ไม่ได้รับเบี้ยความพิการเพิ่มเป็น 1,000 บาท โดยเฉพาะคนพิการรุนแรงที่ไม่สามารถประกอบอาชีพได้คนพิการที่ไม่มีงานทำหรือตกงาน อาทิ กลุ่มคนพิการผู้ค้าสลากหรือกลุ่มหมอนวดพิการ ซึ่งคนพิการเหล่านี้ล้วนมีต้นทุนในการดำรงชีวิตสูงกว่าคนทั่วไป รายละเอียดตามที่ปรากฏตาม Facebook ของสมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย https://www.facebook.com/disabilitiesth/posts/1224299811259810

สมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย ในฐานะองค์การขับเคลื่อนงานเชิงนโยบายและกฎหมายด้านคนพิการระดับชาติ รวมทั้งพิทักษ์สิทธิคนพิการ จึงขอให้รัฐบาลช่วยนำ “งบกลาง” มาจัดสรรปรับเบี้ยความพิการให้กับคนพิการอีกจำนวนกว่า 8 แสนคนให้ครบถ้วน คิดเป็นจำนวนเงินประมาณ 1,920 ล้านบาท (800,000 คน x 200 บาท x 12 เดือน)
หากรัฐบาลเมินเฉยไม่แยแสที่จะเพิ่มสวัสดิการเบี้ยความพิการให้กับคนพิการแบบถ้วนหน้า จะทำให้คนพิการไม่ได้รับสวัสดิการขั้นพื้นฐานนี้อย่างทั่วถึง เท่าเทียม และเป็นธรรม ดังเจตนารมณ์ที่กำหนดไว้ตามมาตรา 20 (9) แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2556 อีกทั้งคนพิการที่มีสิทธิรับสวัสดิการเบี้ยความพิการดังกล่าวจะเกิดความสับสนด้วยเหตุเพราะรัฐบาลกำหนดลักษณะการจ่ายเงินที่แตกต่างกัน เนื่องจากรัฐบาลนำสวัสดิการขั้นพื้นฐานตามกฎหมายว่าด้วยสิทธิคนพิการมาผสมปนเปกับนโยบายชั่วคราวเพื่อสร้างค่านิยมของรัฐบาลเองอย่างนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มิหนำซ้ำยังสุ่มเสี่ยงจะเป็นการสร้างความแตกแยก ความเหลื่อมล้ำ และการเลือกปฏิบัติระหว่างคนพิการด้วยกันเอง อันถือได้ว่ารัฐบาลมีเจตนาที่จะทิ้งคนพิการไว้ข้างหลัง อันอาจจะนำมาสู่ความขุ่นข้องหมองใจจนคนพิการต้องไปร่วมชุมนุมก็เป็นได้!

สำนักข่าวเนตรทิพย์-ท้องกินข้าว สมองกินข่าว!

0

https://timeline.line.me/post/_dRwLP9ryDNNCNElq786ZFgDnUlb3FkZ4wdgFcto/1160194264010052683
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

BGRIM ร่วมมือกับ กฟภ.-PEA ENCOM ขึ้นแท่นผู้นำด้านพลังงาน

0

http://www.natethip.com/news.php?id=3111
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

GCC ปลื้มU N Global Compact ยกย่องเป็นองค์กรชั้นนำ

0

http://www.natethip.com/news.php?id=3110
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

เอ็กโก้เดินเครื่องโรงไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง “กังดง” ในเกาหลีใต้

0

http://www.natethip.com/news.php?id=3109
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

สวนสุนันทามีเฮง ชนะศึกโกแฮร์ยูลีกหญิง เกษตรยิงเอาถ้วย ถล่ม บ้านสมเด็จกระจาย

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// “ลูกพระพิรุณ” มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ขนนักเตะชุดใหญ่ยิงใส่ “ลูกสุริยะ”มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา แบบไม่ไว้หน้า 14-0 ขณะที่ “ลูกพระนาง” มรภ.สวนสุนันทา เปิดบ้านพลิกเกมเชือด มกช.สมุทรสาคร สุดมัน 2-1
​การแข่งขันฟุตบอลโกแฮร์ลีกอุดมศึกษาหญิงแห่งประเทศไทย ประจำปี 2563 ชิงถ้วยประทานพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ นัดที่ 6 ของฤดูกาล เมื่อวันจันทร์ที่ 5 ต.ค.มีผลดังนี้

​ที่สนามอินทรี จัททรสถิตย์ “ลูกพระพิรุณ” ม.เกษตรศาสตร์ เปิดบ้านรับการไปเยือนของ “ลูกสุริยะ” มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา เกมนี้ เจ้าถิ่น เล่นแบบไม่เกรงใจใรคร ไล่ถล่ม บ้านสมเด้จเจ้าพระยา ไปแบบไม่ไว้หน้า 14-0 โดยได้ประตูจาก “หนูดี”อิรวดี มาครีส นาทีที่ 6, 9 และ 13 “มุก” ชัชวัลย์ รอดทอง นาทีที่ 15 “จี”จีราภรณ์ ดำหาย นาทีที่ 20 “บี” โสจิรัตน์ ประดิษฐ์พร นาทีที่ 24และ27 “พลอย” ธัญชนก กาญจนสนิท นาทีที่41และ90 “ญาญ่า” อิสริยา สะแปอิง นาทีที่43 “ตูน” ตรีสรา เกตกาญจน์ นาทีที่52และ54 “โบว์” ภัทรนันท์ ใคร่ครวญ นาทีที่71 “เฟิน” ฟาติมา ด้นกันเดช ทำเข้าประตูตัวเอง นาทีที่87

ที่สนาม โรงเรียนนนทบุรีวิทยาลัย “ลูกพระนาง” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เปิดบ้านรับการมาเยือนของ “วาฬบลูด้า” มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสมุทรสาคร เกมนี้สู้กันสุดมัน ทีมเยือนออกนำไปก่อน นาทีที่13 โดย “ซาไก” ณัฐวดี ข้อสกุล แต่เจ้าบ้านตามเอาคืนได้ในนาทีที่26 โดย “นา” พัสฐ์นันทร์ ทองอิ่ม เสมอกันครึ่งแรก 1-1
ครึ่งหลังทั้ง2ทีม ดวลกันอย่างคู่คี่สูสี เกมทำท่าจะจบลงด้วยการเสมอกัน แต่เป็น “นา” พัสฐ์นันทร์ ทองอิ่ม คนเดิม ยิงประตูชัยให้สวนสุนันทาได้ในนาทีที่3 ของช่วงทดเวลาบาดเจ็บ สวนสุนันทาพลิกเกมชนะไปได้ 2-1

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

ดีอีเอส ตั้งคณะทำงานติดตามการควบรวม “ทีโอทีกับกสท”

0

http://www.natethip.com/news.php?id=3108
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)