วันพุธ, พฤศจิกายน 26, 2025

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรก บล็อก หน้า 2063

กลุ่มธุรกิจในเครือข้าวมาบุญครอง รับรางวัลอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//นางสาวกนกพร มรรคอมร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการเงินและบริหาร บริษัท ปทุมไรซมิล แอนด์ แกรนารี จำกัด (มหาชน) (ขวา) ผู้บริหารกลุ่มธุรกิจในเครือข้าวมาบุญครอง ศูนย์อาหารในเครือฟู้ด เลเจ้นด์ส บาย เอ็มบีเค และโครงการ ริเวอร์เดล มารีน่า รับรางวัลโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศที่มีคุณค่าต่อสังคม ภายในงานได้รับเกียรติจาก นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม (ซ้าย) เป็นผู้มอบรางวัล โดยข้าวมาบุญครองได้ยกระดับ และพัฒนาโรงงานเพื่อร่วมเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พร้อมรักษาความสมดุลไปพร้อมกับการพัฒนาทางสังคม และความเป็นอยู่ของประชาชน เพื่อให้มีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ซึ่งเป็นการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ณ ห้องจตุรทิศ โรงแรมโกลเด้นทิวลิป ซอฟเฟอริน เมื่อเร็ว ๆ นี้ :Cr;มณสิการ รามจันทร์

“กสอ. จับมือ กทบ.” ลงพื้นที่ชัยนาทคิกออฟโปรเจกต์ปั้นแบรนด์ 4 ชุมชน ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// “อนุชา นาคาศัย” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผนึกกำลัง กระทรวงอุตสาหกรรม โดย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เร่งพัฒนาพื้นที่ชัยนาท ร่วมคิกออฟโครงการสร้างอัตลักษณ์ผลิตภัณฑ์ชุมชนเชื่อมโยงการท่องเที่ยวจังหวัดชัยนาท เพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากด้วยกลไกและเครื่องมือ การพัฒนาของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมสู่ความยั่งยืน โดย กสอ.- กทบ. บูรณาการดึงจุดขาย 4 ชุมชน “สรรพยา -มโนรมย์ -บ้านเนินขาม-ชุมชนสรรค์บุรี”ถ่ายทอดองค์ความรู้ พัฒนาฝึกอบรม นักออกแบบชุมชนร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ ประจำถิ่นใส่โลโก้อัตลักษณ์สร้างจุดต่างกระตุ้นยอดขายตอบโจทย์นักท่องเที่ยว เพิ่มรายได้ชุมชน

นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจาสานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังจากการเป็นประธาน เปิดโครงการสร้างอัตลักษณ์ผลิตภัณฑ์ชุมชนเชื่อมโยงการทองเที่ยวจังหวัดชัยนาท เพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ฐานรากด้วยกลไกและเครื่องมือการพัฒนาของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมสู่ความยั่งยืน ว่า พลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชน โดยเฉพาะเศรษฐกิจฐานรากที่จาเป็นต้องส่งเสริมให้เกิดความเข้มแข็งอันจะเป็นกาลังสาคัญในการยกระดับคุณภาพสังคม คุณภาพชีวิต และส่งผลต่อภาคเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้นจึงมีนโยบายให้ทุกหน่วยงานของภาครัฐเร่งหาแนวทางและการบูรณาการร่วมกันเพื่อส่งเสริม และยกระดับศักยภาพเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งขณะเดียวกัน กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ขานรับนโยบายดังกล่าว จึงเร่งดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนปณิธานของนายกรัฐมนตรีให้เป็นรูปธรรม โดยได้ผนึกความร่วมมือระหว่าง กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) และกองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมือง (กทบ.) เพื่อยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการในชุมชนให้มีรายได้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสอดรับกับนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการให้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากโดยการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน จากการพัฒนาอาชีพให้เกิดขึ้นในท้องถิ่น

นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ได้รับมอบหมายจากท่านสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เร่งดำเนินการหาแนวทาง การส่งเสริมและยกระดับศักยภาพเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ดังนั้น กรมฯ จึงได้จัดทำโครงการสร้างอัตลักษณ์ผลิตภัณฑ์ชุมชนเชื่อมโยงการท่องเที่ยวจังหวัดชัยนาท ประจำปีงบประมาณ 2564 เพื่อนำองค์ความรู้ด้านการประกอบการที่มีความเชี่ยวชาญ การส่งเสริมชุมชนให้มีความพร้อมเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงให้ระบบเศรษฐกิจฐานรากและประสบการณ์ดำเนินงานจากโครงการพัฒนาหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ หรือ หมู่บ้าน CIV ที่ดำเนินการ กว่า 230 แห่งทั่วประเทศ ตกผลึกเป็นองค์ความรู้พิเศษเพื่อยกระดับศักยภาพให้กับวิสาหกิจชุมชนในพื้นเป้าหมายให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง หรือ Identity โดยอาศัยองค์ประกอบจากวัตถุดิบ ในชุมชนนั้น ๆ เชื่อมโยงเรื่องราววิถีชุมชนเพื่อเป็นจุดขาย ซึ่งเบื้องต้น กสอ. บูรณาการความร่วมมือกับทาง กทบ. โดยเข้าไปถ่ายทอดองค์ความรู้ส่งเสริมทักษะการสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์ และการเพิ่มช่องทางและโอกาสทางการตลาดให้กับชุมชน และกลุ่มสมาชิกลูกค้าของทาง กทบ. ภายใต้หลักสูตรการพัฒนาอาชีพของศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 3 ศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 (Industry Transformation Center 4.0 :ITC 4.0) และศูนย์ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Thailand Industrial Design Center: Thai – IDC) ที่จะเปิดฝึกอบรมในหลักสูตรการพัฒนานักออกแบบชุมชน หลักสูตรการทำผ้ามัดย้อม และหลักสูตรการเขียนเทียน กลุ่มสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองวิสาหกิจชุมชน และกลุ่มหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือ OTOP โดยนำร่องในพื้นที่เป้าหมาย 4 ชุมชน ได้แก่ 1.ชุมชนสรรพยา 2.ชุมชนมโนรมย์ 3.ชุมชนลาวเวียงบ้านเนินขาม และ 4.ชุมชนสรรค์บุรี เนื่องจากแต่ละชุมชนมีอัตลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมือนกัน และมีศักยภาพที่พร้อมนำไปพัฒนาต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ และทั้ง 4 ชุมชน ยังถือเป็นพื้นที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเข้ามาอยู่แล้ว ดังนั้น การเข้ามาพัฒนาองค์ประกอบของการเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สมบูรณ์จะต้องมีผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่จะเป็นจุดขายเพื่อกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวให้กลับมาอีกครั้ง และคาดว่า จะมียอดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นกว่า 15,000 คนต่อปี หลังจากที่การท่องเที่ยวเกิดการชะลอตัวในช่วงที่มีการแพร่ระบาดโควิด 19

นายณัฐพล กล่าวเพิ่มเติมว่า กสอ. พร้อมให้การสนับสนุนอย่างครบวงจรเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนให้เป็นรูปธรรมทั้งในด้านเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการให้บริการสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ ออกแบบผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ การเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยว และพัฒนากิจกรรมการท่องเที่ยวในชุมชนโดยภายในงาน กสอ. ได้มีการจัดบูธกิจกรรม THAI IDC MOBILE UNIT บริการออกแบบบรรจุภัณฑ์อัตลักษณ์ชุมชน กิจกรรม Workshop การทำผ้ามัดยอม การทำสีธรรมชาติการเสริมทักษะการเพิ่มมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์สมุนไพร การพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อนักท่องเที่ยวของชุมชนการทำ DIY ผลิตภัณฑ์ภายในชุมชนหมู่บ้าน CIV และยังมีบูธเงินหมุนเวียนของ กสอ. และ กองทุนหมู่บ้านของทาง กทบ. ที่จะให้บริการให้คำปรึกษาด้านการเงิน ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ มีสมาชิกกองทุนหมู่บ้านกลุ่มวิสาหกิจชุมชนและกลุ่ม OTOP ในพื้นที่จังหวัดชัยนาท ประมาณ 600 คน เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก นายณัฐพล กล่าวทิ้งท้าย

นายรักษ์พงษ์ เซ่งเจริญ ผู้อานวยการสานักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ กล่าวว่า กทบ. และ กสอ. ถือเป็นพันธมิตรที่มีจุดมุ่งหมายร่วมกันในการยกระดับชุมชน โดยที่ผ่านมาได้มีความร่วมมือในส่งเสริมและสนับสนุนทายาทผู้ประกอบการ OTOP ซึ่งถือเป็นผู้ประกอบการยุคใหม่ให้มีความพร้อมในการรับช่วงต่อเพื่อพัฒนากิจการมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านการบริหารจัดการและการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มศักยภาพ ในการผลิตเสริมความเข้มแข็งให้กับชุมชน และในครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งความร่วมมือที่ กทบ. และ กสอ. ร่วมกันส่งเสริม และสนับสนุนชุมชนในพื้นที่เป้าหมาย เพื่อยกระดับศักยภาพเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน โดยทาง กสอ. เองจะเข้ามาต่อยอดองค์ความรู้ให้กับสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และกลุ่ม OTOP ในพื้นที่จังหวัดชัยนาท ซึ่งการดำเนินงานโครงการดังกล่าว ได้รับความสนใจจากชุมชนในพื้นที่จำนวนมาก แม้ว่าปัจจุบันสมาชิกจะมีผลิตภัณฑ์จัดจำหน่าย อยู่แล้ว แต่ยังต้องการให้พัฒนาผลิตภัณฑ์ และบรรจุภัณฑ์ ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม และตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในยุคปัจจุบัน ซึ่งการร่วมมือกันในครั้งนี้ ส่งผลให้สมาชิกของ กทบ. เข้าถึงองค์ความรู้และแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ช่องทางการตลาด อันจะก่อให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของชุมชนให้สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนมากยิ่งขึ้น:Cr;มณสิการ รามจันทร์

 

แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ จัดของขวัญ”วันพ่อแห่งชาติ”ให้ลูกพาพ่อขึ้นรถไฟฟรี

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ มอบของขวัญในวันพ่อแห่งชาติ ให้คุณลูกพาคุณพ่อขึ้นรถไฟฟ้า ฟรี! ไม่จำกัดเที่ยว วันที่ 5 ธันวาคม 2563นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด เปิดเผยว่า ในวันที่ 5 ธันวาคม 2563 ซึ่งเป็นวันพ่อแห่งชาตินั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนสถาบันครอบครัวให้มีความสัมพันธ์ และความใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น บริษัทจึงได้จัดกิจกรรมพิเศษเปิดโอกาสให้คุณลูกพาคุณพ่อขึ้นรถไฟฟ้าฟรี! ไม่จำกัดเที่ยว ตลอดวัน ในวันที่ 5 ธันวาคม 2563 ตั้งแต่เวลา 06.00 น. – 24.00 น. เพียงคุณลูกพาคุณพ่อมาแสดงตัวที่ห้องจำหน่ายตั๋ว (คุณพ่อ และคุณลูกไม่จำเป็นต้องมีนามสกุลเดียวกัน) เพื่อขอรับคูปองเดินทางฟรีที่ห้องจำหน่ายตั๋วก่อนเดินทาง เพียงเท่านี้คุณพ่อก็สามารถเดินทางได้ฟรี

หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่หมายเลข Call Center 1690 หรือ www.srtet.co.th , www.facebook.com/AirportRailLink และ Twitter : Airport Rail Link :Cr;มณสิการ รามจันทร์

“THAC” เชิญร่วมฟังเสวนา “เปิดทุกปัญหาการขนส่งทางน้ำ และยุติด้วยการระงับข้อพิพาททางเลือก”

0

พิมพ์ไทยออนไลน์//ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถาบันอนุญาโตตุลาการ (THAC) ร่วมกับ สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย ขอเชิญชวนผู้สนใจทุกท่านร่วมฟังเสวนา “เปิดทุกปัญหาการขนส่งทางน้ำ และยุติด้วยการระงับข้อพิพาททางเลือก” วิเคราะห์เจาะปัญหาที่สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลให้หลายธุรกิจได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะธุรกิจโลจิสติกส์ที่ได้รับผลกระทบและเกิดปัญหาเป็นอย่างมากไม่ว่าจะเป็นการขนส่งภายในประเทศหรือระหว่างประเทศ

พร้อมทั้งให้ความรู้เกี่ยวกับการระงับข้อพิพาททางเลือก เช่น การประนอมข้อพิพาท และการที่อนุญาโตตุลาการ จะช่วยลดผลกระทบในข้อพิพาททางโลจิสติกส์ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ในวันพุธที่ 2 ธันวาคม 2563 ตั้งแต่เวลา 13.00-16.30 น. ณ สถาบันอนุญาโตตุลาการ อาคารภิรัช ทาวเวอร์ ชั้น 26 (เอ็มควอเทียร์) โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02 018 1615 หรือ https://thac.or.th/th/seminar/adr-logistic/:Cr;มณสิการ รามจันทร์

 

ราชนาวี แชมป์คะแนนรวม เรือพายชิงแชมป์ปทท.ได้ครองถ้วยพระราชทาน

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // เรือพายชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ระยะ 500 และ 1,000 เมตร ประจำปี 2563 สนามสุดท้าย ที่ เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก เมือวันที่ 29 พ.ย.ท่ผ่านมา รอบชิงชนะเลิศ ระยะ 500 เมตร ประเภทเรือยาว 5 ฝีพายชาย ระหว่างราชนาวี 1 ที่ใช้ฝีพายทีมชาติ ประกอบด้วย เกษมสิทธิ์ บริบูรณ์วศิน, ภักดี วรรณมณี, พันจ่าเอกพรชัย เทศดี, พันจ่าเอกละออเอี่ยมลึก และชิษณุพงษ์ สังข์พันธ์ ในลู่ที่ 4 กับ ราชนาวี 2 ที่ใช้ฝีพายจากโรงเรียนชุมพลทหารเรือ ในลู่น้ำที่ 2 ปรากฎว่า ราชนาวี 2 เฉือนชนะ ไปเพียง 0.40 วินาทีเท่านั้น คว้าเหรียญทองไปครอง เหรียญทองแดง เขลางค์นคร

ส่วนเรือยาวมังกร 10 ฝีพายหญิง มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสุโขทัย นำโดย สุกัญญา โพระดก, สุวลี สงครามรอด อริศรา พันธุลาภ เหรียญทอง ระยะ 1000 เมตร ในลู่น้ำที่ 2 ยังคงยอดเยี่ยมเข้าเส้นชัยลำแรก เวลา 2 นาที 22.17 วินาที คว้าเหรียญทองอีก 1 เหรียญ เหรียญเงิน มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตเชียงใหม่ และเหรียญทองแดงเขลางค์นคร
ขณะที่เรือคยัค 4 คนชาย ราชนาวี 2 ที่มี อาสาสมัครทหารพราน ไพรสณฑ์ บัวสำโรง, พันจ่าเอกอดิเทพ ศรีชาติ, สิบเอกชัชฤทธิ์ บุญหมื่น และเรือเอกปิยพันธ์ เผ่าพัฒน์ ลู่น้ำที่ 5 คว้าเหรียญทอง หลังจากเข้าเส้นชัยลำแรกเวลา 1 นาที 39.05 วินาที, เหรียญเงิน ราชนาวี 1 และ เหรียญทองแดง มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตเชียงใหม่

สำหรับรางวัลชนะเลิศคะแนนรวมประเภทเรือกรรเชียง และเรือยาว ชมรมเรือพายราชนาวี ได้ครองรางวัลถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ส่วนรางวัลคะแนนชนะเลิศคะแนนรวม ประเภท เรือแคนู-คยัค ชมรมเรือพายโรงเรียนกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ ได้ครองถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
ขณะที่ รางวัลคะแนนชนะเลิศคะแนนรวม ประเภทบอร์ดยืนพาย ชมรมเรือพายแม่ฮ่องสอน ฟามิงโก้ ได้ครองถ้วยพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“ชวน หลีกภัย” คุณหญิงปัทมา มอบรางวัลแก่ผู้ชนะ GRANULAR-LINING BADMITNON CHAMPIONSHIPS 2020

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฏร พร้อมด้วย คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มอบรางวัลในพิธีปิดการแข่งขัน GRANULAR-LINING BADMITNON CHAMPIONSHIPS 2020 ที่ BTU Sports Complex มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี

เมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยมี พลโท อิสระ วัชรประทีป คุณเจน ปิยะทัต และผู้แทนสโมสรแกรนนูล่าร์ รวมทั้งคณะกรรมการจัดการแข่งขัน ร่วมมอบ

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“เหม็ด” ระเบิดแฮตทริก ฉลามพลังเพลิง” เฉือน แคท 6-5 นำโด่งจ่าฝุง

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // “เหม็ด” มูฮัมหมัด อุสมานมูซา ระเบิดแฮตทริก “ฉลามพลังเพลิง” พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี เฉือน แคท เอฟซี สุดมัน 6-5 นำโด่งจ่าฝูงต่อไป
แคท เอฟซี 5- พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี 6 ฟุตซอลไทยลีก 2020 เมื่อวันที่ 29 พ.ย.เป็นเกมนัดที่ 20 ของฤดูกาล ที่สนามบางกอก อารีนา “อินทรีสีส้ม” แคท เอฟซี อันดับ 4 ของตาางที่มี 36 คะแนน ดวลกับจ่าฝูง “ฉลามพลังเพลิง” พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ที่มี 51 แต้ม
เกมเปิดฉากมาก็บี้กันสนุก จน น.6 ภานุพงศ์ หินนอก กัปตันทีมแคท เอฟซี ตัดบอลได้กลางสนามกระชากเข้าไปซัดเบียดเสาให้ทีมออกนำ 1-0 แต่ “ฉลามพลังเพลิง” ตีเสมอทันควันในนาทีถัดมา “เหม็ด” มูฮัมหมัด อุสมานมูซา ได้บอลในเขตวงกลมพลิกออกทางซ้ายซัดรอดตัว บริบูรณ์ กลางหล้า เข้าไปสกอร์ 1-1 น.7 แคท เอฟซี ออกนำอีกครั้ง 2-1 จาก ไอร์ตัน โอลิเวียร่า บรานเดา หรือ เปลินญ่า ที่หลุดเข้าไปซัดด้วยขวาเต็มข้อ พีทีที บลูเวฟ ต้องเหนื่อยอีกครั้ง แต่ น.8 ตีเสมอได้อีกจาก คาร์คัส กาว่า ที่ไหลบอลออกขวาให้ ณัฐวุฒิ หมัดยะลาน ล้มตัวยิงเป็น 2-2 แข้ง “อินทรีสีส้ม” เกมนี้มาดุดันจริงๆ น.15 ได้ฟรีคิกนอกเขต อัดสัน กอนคาลเวส หรือ อราซ่า จิ้มหัวเกือกยิงไปชนเสา และตามมไปเก็บบอลแล้วยิงซ้ำเข้าไป 3-2 แคท เอฟซี นำในครึ่งแรก

ครึ่งหลังแค่นาทีแรก พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ต่อบอลกันรวดเร็วก่อนที่ มาร์คัส กาว่า ได้โอกาสเปิดจากขวาไปเสาสอง มูฮัมหมัด อุสมานมูซา รออยู่แล้ววิ่งเข้ามาอัดไม่มีเหลือทำประตูตีเสมอ 3-3
จากนั้น น.22 ณัฐวุฒิ หมัดยะลาน ได้จังหวะเปิดบอลจากฝั่งขวาไปเสาสอง จิรวัฒน์ สอนวิเชียร ใช้เข่ากระแทกส่งบอลเข้าประตูไป ฉลามพลังเพลิง พลิกนำบ้าง 4-3 น.23 แคท ได้ฟรีคิกริมเส้นฝั่งขวา อราซ่า กดเรียดเสียบเสาสองตีเสมอ 4-4 และ น.25 แคท อาศัยการโต้กลับที่เด็ดขาด ภานุพงศ์ หินนอก ยิงให้ทีมกลับมานำ 5-4
พีทีที บลูเวฟ ขึงเกมบุกหนัก จน น.33 มาร์คัส กาว่า อีกแล้วได้บอลทางขวาเปิดทะลุไปเสาสอง จิรวัฒน์ สอนวิเชียร ที่รออยู่แล้วจัดการยิงอย่างเหนือชั้นด้วยการยกบอลข้ามตัว บริบูรณ์ กลางหล้า เข้าประตูไปตีเสมอเป็น 5-5 น.35 กาว่า เปิดบอลยาวออกทางซ้าย มูฮัมหมัด อุสมานมูซา พักอกแล้วหวดตูมเดียวเสยใต้คานเข้าไป กลายเป็นแฮตทริกของเจ้าตัวในเกมนี้และทีมนำ 6-5
แข้ง แคท เอฟซี พยายามโหมช่วงเวลาที่เหลือ แต่ก็เจอเกมรับเหนียวแน่นจนเจาะไม่เข้า หมดเวลา พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี เฉือนชนะไปอย่างสุดมัน 6-5 ทำให้เก็บเพิ่มเป็น 54 คะแนนนำจ่าฝูงต่อไป

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

“สองล้อ” วางแผนพัฒนาศูนย์ฝึกภูมิภาค สร้างนักปั่นดาวรุ่ง เสริมรุ่นพี่ทีมชาติ

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // “สองล้อ” วางแผนพัฒนาและยกระดับศูนย์ฝึกจักรยานภูมิภาคของสมาคมกีฬาจักรยานฯ ทั้ง 4 แห่ง “พิษณุโลก-ลพบุรี-พะเยา-สุราษฎร์ธานี” เพื่อสร้างนักปั่นรุ่นใหม่ขึ้นมาเสริมรุ่นพี่ทีมชาติไทยอย่างต่อเนื่อง ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก “นายเอกชัย เศวตสมภพ” และ บริษัท ซีโน-แปซิฟิค เทรดดิ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด ที่ได้ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจจนประสบความสำเร็จในกีฬาซีเกมส์, เอเชี่ยนเกมส์ รวมไปถึง “โตเกียว 2020” ที่ ญี่ปุ่น และ “ปารีส 2024” ที่ ฝรั่งเศส ในอนาคต

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สมาคมกีฬาจักรยานฯ มีแผนที่จะพัฒนาและยกระดับมาตรฐานศูนย์ฝึกจักรยานภูมิภาคของสมาคมฯ ที่มีอยู่ 4 แห่ง ประกอบด้วย ศูนย์ฝึกฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ กองบิน 46 พิษณุโลก ดูแลโดย “โค้ชเนิ่ม” ส.อ.เนิ่ม ชมภูศรี, ศูนย์ฝึกจักรยาน Prime 19 จังหวัดพะเยา ดูแลโดย “โค้ชแซม” นายพิทักษ์ ยวงข้าว, ศูนย์ฝึกจักรยานฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ วัดดงน้อย จังหวัดลพบุรี ดูแลโดย “โค้ชโจ้” พ.ต.ท.จิระศักดิ์ นนทะแก้ว และศูนย์ฝึกจักรยานฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี “โค้ชเกียรติ” ส.อ.ธนาชัย ฉันท์ฉายา เพื่อให้ศูนย์ฝึกจักรยานทั้ง 4 แห่งทำหน้าที่เสมือนเป็นอะคาเดมี่นักปั่น สร้างนักปั่นรุ่นใหม่ของไทย ขึ้นมาเสริมรุ่นพี่ทีมชาติไทยไม่ให้ขาดตอน
พลเอกเดชา กล่าวว่า ในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา สมาคมฯ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก นายเอกชัย เศวตสมภพ อุปนายกสมมคมกีฬาจักรยานฯ และ บริษัท ซีโน-แปซิฟิค เทรดดิ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด การพัฒนาบุคลากรของศูนย์ฝึกไปจนถึงเงินสนับสนุนเข้าร่วมการแข่งขัน ทำให้นักปั่นรุ่นยุวชนและเยาวชน ที่ศูนย์ในนามทีมจักรยานฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ และ Prime 19 จนมีนักปั่นดาวรุ่งหลายรายอย่าง นายทักษ์ แก้วน้อย, น.ส.กัญญารัตน์ หน่อแก้ว หรือนักกีฬาที่มีแววว่าจะขึ้นมาทดแทนรุ่นพี่ในอนาคต อย่าง “น้ำ” น.ส.นัฐนันท์ นนทะแก้ว, น.ส.สุพิชชา วรวงศ์ หรือ ด.ช.กฤตณัฐ แก้วน้อย

“จากความสำเร็จตามเป้าหมายในรอบหลายปีที่ผ่านมา สมาคมกีฬาจักรยานฯ ก็ได้วางแผนต่อเนื่อง เพื่อให้แต่ละศูนย์สามารถดำเนินการสร้างนักกีฬารุ่นใหม่ต่อ ๆ ไป ขณะเดียวกันจะพยายามหาพื้นที่ในภูมิภาคอื่น เพื่อขยายศูนย์ฝึกจักรยานออกไป โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเดิมเคยมีศูนย์ฝึกจักรยานสกลนคร ซึ่งได้สร้างนักปั่นไทยจนถึงระดับแชมป์เอเชียอย่าง ร้อยเอกหญิง จันทร์เพ็ง นนทะสิน และสร้างชื่อเสียงเอาไว้มากมาย รวมถึงเพิ่มการสนับสนุนสร้างบุคลากรระดับผู้ฝึกสอนของแต่ละศูนย์ให้มีความรู้ความสามารถเพิ่มขึ้นในทุกมิติที่จำเป็น สำหรับกีฬาจักรยานไม่ว่าจะเป็นเรื่องเทคโนโลยีการฝึกซ้อม วิทยาศาสตร์การกีฬา หรือสหวิทยาการที่จำเป็นต้องใช้ในแขนงต่าง ๆ”
นายกสองล้อไทย กล่าวอีกว่า จากการทำงานอย่างต่อเนื่องของสมาคมกีฬาจักรยานฯ ร่วมกับคีย์แมนของแต่ละศูนย์ดังกล่าว ส่งผลให้ปัจจุบันสมาคมกีฬาจักรยานฯ มีฐานนักกีฬาระดับเพื่อความเป็นเลิศมากขึ้น ขณะที่สโมสรใหญ่ในสมาคมกีฬาจักรยานฯ ก็มีโอกาสที่จะได้คัดเลือกนักกีฬาดาวรุ่งรุ่นใหม่ เข้าสู่สังกัดเพื่อสร้างชื่อเสียงให้ต้นสังกัดในอนาคต ปรัชญาในการพัฒนานักกีฬาของแต่ละศูนย์ฝึก นอกเหนือจากจะเน้นหนักไปที่การพัฒนาฝีมือในเชิงกีฬา จะเน้นให้นักปั่นรุ่นใหม่ให้ความสำคัญ เรื่องการมีวินัยในการฝึกซ้อมและความประพฤติ เพื่อให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่นักกีฬารุ่นต่อ ๆ ไป

พลเอกเดชา กล่าวเสริมว่า การดำเนินการของศูนย์ฝึกจักรยานแต่ละแห่ง ใช้งบประมาณจำนวนมากในแต่ละปี เรื่องของอุปกรณ์การฝึกซ้อมและการแข่งขัน ค่าใช้จ่ายส่งทีมเข้าแข่งขัน แต่ผลสัมฤทธิ์ของโครงการไปปรากฏในอนาคต ส่งผลให้การจัดหาผู้สนับสนุนเป็นไปอย่างยากลำบาก ก็ต้องยกย่องผู้สนับสนุนอย่าง นายเอกชัย เศวตสมภพ และ บริษัท ซีโน-แปซิฟิค เทรดดิ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญในการสร้างฐานนักกีฬาเข้าสู่ทำเนียบทีมชาติไทย แม้ว่าจะต้องอาศัยเวลา ความอดทน และต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก แต่ให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง เพราะมเชื่อมั่นการบริหารจัดการของสมาคมกีฬาจักรยานฯ ที่ได้ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจจนประสบความสำเร็จในกีฬาซีเกมส์, เอเชี่ยนเกมส์ รวมไปถึงในอนาคตคือ โอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 32 “โตเกียว 2020” ที่ ญี่ปุ่น และ “โร้ด ทู ปารีส” โอลิปิกเกมส์ ครั้งที่ 33 “ปารีส 2024” ที่ ฝรั่งเศส

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

ลูกศิษย์ภราดร “ยุทธนา” ผงาดแชมป์ชายเดี่ยว “พิมพ์รดา”คว้าที่ 1 ฝ่ายหญิงหวด “หัวหิน โอเพ่น”

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // การแข่งขันเทนนิสอาชีพ รายการ “หัวหิน โอเพ่น 2020 พรีเซนเต็ด บาย แคล-คอมพ์ แอนด์ ซีซีเอยู อินดัสเทรียล 4.0” ชิงเงินรางวัลรวม 500,000 บาท สะสมคะแนนสู่รอบมาสเตอร์ส (รายการที่ 2) ที่จีเอสบี เซ็นเตอร์ คอร์ต ทรู อารีน่า หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 29 พ.ย. เป็นวันสุดท้าย แข่งขันกันท่ามกลางลมค่อนข้างแรง รุ่นทั่วไป ประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ “สอง” ยุทธนา เจริญผล นักหวดวัย 20 ปี จากอ่างทอง มืออันดับ 14 ของไทย พบ “ณัฐ” ปรัชญา อิสโร รองแชมป์สัปดาห์แรก อดีตทีมชาติ มืออันดับ 43 ของไทย วัย 25 ปี จากสงขลา ปรากฏว่า คู่นี้เล่นกันสนุกและผลัดกันเบรกไปมา ยุทธนา ที่ทำได้ดีกว่า เอาชนะไป 2-0 เซต 6-4 และ 7-6 ไทเบรก 8-6 ใช้เวลาในการแข่งขันทั้งสิ้น 1 ชั่วโมง 52 นาที

ร่วมยินดี – นฐา ชมเสวี ผู้จัดการทั่วไป ทรู อารีน่า หัวหิน พร้อมด้วย ภราดร ศรีชาพันธุ์ ผู้อำนวยการการแข่งขัน และ พอล ชาร์ล คิง ผู้จัดการคลับ ทรู อารีน่า หัวหิน ชาวอังกฤษ ร่วมมอบรางวัลแก่นักกีฬา ประเภทเดี่ยว เทนนิสอาชีพ “หัวหิน โอเพ่น 2020 พรีเซนเต็ด บาย แคล-คอมพ์ แอนด์ ซีซีเอยู อินดัสเทรียล 4.0″(รายการที่2) ที่ จีเอสบี เซ็นเตอร์ คอร์ต ทรู อารีน่า หัวหิน เมื่อวันที่ 29 พ.ย.2563

ส่งให้ ยุทธนา คว้าแชมป์ไปครอง ซึ่งนับเป็นแชมป์อาชีพรายการแรก ส่วนปรัชญาได้รองแชมป์เป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน สำหรับ ยุทธนาเป็นนักเทนนิสที่อยู่ภายใต้การฝึกสอนของ “ซูเปอร์บอล” ภราดร ศรีชาพันธุ์ อดีตมืออันดับ 9 ของโลก และมืออันดับ 1 ของเอเชีย ในโครงการ “ทรู อารีน่า-ภราดร อินเตอร์เนชั่นแนล เทนนิส อะคาเดมี”

ประเภทหญิงเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ “แพตตี้” พิมพ์รดา จัตวาพรวนิช นักหวดกรุงเทพฯ ทีมชาติชุดแชมป์จูเนียร์ เฟดคัพ 2019 วัย 17 ปี จากโรงเรียนเตรียมอุดม และปัจจุบันรั้งมืออันดับ 18 ของไทย พบ “อีฟ” พัชรินทร์ ชีพชาญเดช นักหวดสาวขอนแก่น วัย 26 ปี มือวางอันดับ 4 ของรายการ สองเหรียญทองแดงจากหญิงคู่และคู่ผสมซีเกมส์ 2019 คู่นี้ต้องออกแรงหวดกันถึง 3 เซตกว่าจะได้ผู้ชนะ ซึ่งเป็น พิมพ์รดา ที่เฉือนเอาชนะไป 2-1 เซต 6-2, 1-6 และ 6-3 ใช้เวลาในการแข่งขันทั้งสิ้น 2 ชั่วโมง 1 นาที ส่งให้ พิมพ์รดา คว้าแชมป์ไปครอง ซึ่งนับเป็นแชมป์อาชีพรายการแรกของตัวเอง หลังจากผ่านเข้าชิงฯ ในรายการอาชีพ 3 ครั้ง ส่วน พัชรินทร์ ได้รองแชมป์ไปครอง

ประเภทเยาวชนชาย อายุไม่เกิน 12 ปี รอบชิงชนะเลิศ เตชธรรม ศรีเสน ชนะ ตรัย ศรีเสน 4-1, 4-1 ส่วนประเภทเยาวชนหญิง อายุไม่เกิน 12 ปี รอบชิงชนะเลิศ จิณห์นิภา ตราชูวณิช ชนะ เมธินี ทองเสนอ 3-5, 4-1 และซูเปอร์ไทเบรก 10-6
ประเภทสูงอายุ ชายคู่ อายุรวมกันไม่น้อยกว่า 90 ปี รอบชิงชนะเลิศ รัฐศาสตร์ แก้วอมตวงศ์ และ สรศักดิ์ พงษ์สวัสดิ์ ชนะ ซิลเวสเตอร์ แบล็ค สลาย (จาเมกา) และ อิทธิพล ศรีเสน 8-2
หลังการแข่งขัน นายนฐา ชมเสวี ผู้จัดการทั่วไปสวนน้ำวานา นาวา วอเตอร์ จังเกิ้ล และ ทรู อารีน่า หัวหิน พร้อมด้วย ภราดร ศรีชาพันธุ์ ในฐานะผู้อำนวยการการแข่งขัน และ พอล ชาร์ล คิง ผู้จัดการคลับ ทรู อารีน่า หัวหิน ชาวอังกฤษ ได้ร่วมแสดงความยินดีและมอบรางวัลแก่นักกีฬา โดยรุ่นทั่วไป แชมป์ชายเดี่ยวและหญิงเดี่ยว รับเงินรางวัลคนละ 30,000 บาท พร้อมคะแนนสะสมสู่รอบมาสเตอร์ส คนละ 250 คะแนน สำหรับรองแชมป์ชายเดี่ยวและหญิงเดี่ยว รับคนละ 18,000 บาท และคะแนนสะสม 150 คะแนน ส่วนรุ่นสูงอายุ แชมป์ประเภทคู่ รับรางวัลร่วมกัน 7,000 บาท ส่วนรองแชมป์รับร่วมกัน 4,600 บาท

 

สำหรับการแข่งขันเทนนิสอาชีพ “หัวหิน โอเพ่น 2020 พรีเซนเต็ด บาย แคล-คอมพ์ แอนด์ ซีซีเอยู อินดัสเทรียล 4.0” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “หัวหินเมืองแห่งความสุข” เพื่อนำกีฬามาเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจของเมืองหัวหิน จะแข่งขันรอบมาสเตอร์ส ประจำปี 2563 ชิงเงินรางวัลรวม 500,000 บาท ระหว่างวันที่ 22-27 ธันวาคมนี้ ติดตามรายละเอียดได้ที่เฟสบุ๊ค Hua Hin Open presented by CAL COMP

 

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์