พิมพ์ไทยออนไลน์// ศึกเดอะไฟท์เตอร์เวิลค์เดอะแชมป์เปี้ยน ที่ เดอะบาร์ซ่ารัชดาภิเษก กทม.เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา ด้าน เสี่ยเอี้ยง ทวีสิน เหล่าสุวรรณวัฒน์ ขอบคุณแฟนมวยที่ติดตามผลงานในนัดที่ผ่านมา ถือว่านักมวยทั้งรายการต่อยกันได้สนุกเร้าใจทุกคู่ โดยเฉพาะคู่เอก พระจันทร์ฉายที่สามารถพลิกงาบแชมป์มาได้ถือว่าชกได้ดี จังหวะรวดเร็วออกได้แม่นยำ

คู่เอก อานนท์ อยู่ปรางค์ ป้องกันแชมป์WBA AsiaSouthรุ่น 126ปอนด์ พบ พระจันทร์ฉาย พีเคแสนชัยมวยไทยยิม โดยเกมการชกสามยกแรกด้านอานนท์ที่ใช้ความใหญ่เดิน ต้อนตัดเวทีชิงดันต่อยซ้ายสลับขวา ทำได้รุนแรงแม่นยำ ขณะพระจันทร์ฉายที่โดนแล้วมีโคลงเคลง แต่มีช่องโต้เถียงไม่รับฝ่ายเดียว กระทั่ง ยก4และยก5 พระจันทร์ฉายมาเล่นวงนอกดักจิ้มท้องสลับฮุบบนเข้าหน้าได้ชัดเจน อานนท์ยังทำได้ไม่ถนัด จนยกที่6และ7 อานนท์ เดินบี้ประกบแย็บนำขวาตามรั่วเป็นชุด หวังบดเบียดให้ยุบแล้วทำได้ดี แต่พระจันทร์ฉายที่ได้เก๋าโดนแต่เก็บอาการ มาชิงโยกต่อยหมัดสกัดมีจังหวะฮุบท้องเอาด้าน
อานนท์โดยต่อยท้องมีหยุดให้เห็น กระทั้ง3ยกสุดท้าย เป็นพระจันทร์ฉายที่จับทางได้ แถมชกในเกม ผ่อนหนักผ่อนเบาอาศัยฝีมือชั้นเชิงต่อยล่างสลับบนมีฮุบรั่วหมัดเป็นชุดโต้เถียงได้แม่นยำมีลูกโชว์สเต็ปวนออกข้างเอาตัวรอด ขณะอานนท์ก็ยังไม่ยอมไล่ต่อยหมัดชุดเอาคืนแต่ทำได้ไม่ชัดเจน ก่อนครบยกกรรมการรวมคะแนนแล้วชูมือให้ พระจันทร์ฉายชนะคะแนน อานนท์2-1 เสียง คว้าแชมป์รุ่น 126ปอนด์ WBA ASIA SOUTH126ปอนด์มาครอง

ส่วนผลคู่อื่นๆมีดังนี้ ดัง คนบ้ามวย888 ชนะคะแนน เพชรสมิง ศักดิ์ภิญโญ,เอเลี่ยน ศฺษย์ป๋าวี แพ้คะแนน เพชรสยาม เพชรปตอ.,เหล็กเพชร แพ้คะแนน ซุปเปอร์บอล เสี่ยดำหมูปลาร้าราชดำเนิน
เสี่ยเอี้ยง ทวีสิน เหล่าสุวรรณวัฒน์ ขอบคุณแฟนมวยที่ติดตามผลงานในนัดที่ผ่านมา ถือว่านักมวยทั้งรายการต่อยกันได้สนุกเร้าใจทุกคู่ โดยเฉพาะคู่เอก พระจันทร์ฉายที่สามารถพลิกงาบแชมป์มาได้ถือว่าชกได้ดี จังหวะรวดเร็วออกได้แม่นยำ ส่วนอนาคตตนจะสนับสนุนให้ชิงแชมป์ต่อ โดยพิกัดประมาณ118ถือว่าเหมาะสมและคิดว่าพระจันทร์ฉายต้องก้าวสู้แชมป์อีกเส้นแน่นอน

 Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์// “โค้ชเตี้ย” สะสม พบประเสริฐ กุนซือใหญ่ค่ายฉลามชล ชลบุรี เอฟซี ยอมรับว่าแอบหวังเล็กๆ ในการคว้าสิทธิ์เป็น 1 ใน 4 ทีมที่ได้ไปลุย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ปีหน้า
สำหรับ “ทัพฉลามชล” ฤดูกาลที่ผ่านมาจบด้วยการเป็นอันดับที่ 7 ส่วนผลงานช่วงออกสตาร์ท 4 นัดแรกของฤดูกาลนี้ เก็บไป 6 คะแนน จากการชนะ 2 และแพ้ 2 อยู่อันดับ 9 ของตารางคะแนน
“ความพร้อมของทีมตอนถือว่าโอเคครับ โปรแกรมการซ้อมของเราเข้มข้นขึ้นในช่วง 4 สัปดาห์สุดท้าย และเราน่าจะพร้อมสำหรับเกมวันที่ 12 กันยายน” โค้ชเตี้ย กล่าวเริ่ม
“เป้าหมายชลบุรี แน่นอนเราก็แอบหวังที่จะได้เป็น 1 ใน 4 ทีมที่ได้ไปเล่น เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้า แม้ศักยภาพของทีมยังเป็นรองทีมใหญ่ รวมถึงทีมม้ามืดทีมอื่นๆ”
“ที่ผ่านมาเรามีจุดเด่น เรื่องการเล่นในบ้าน ก็ต้องพยายามรักษาจุดเด่นตรงนี้ ส่วนเกมเยือนคือจุดที่เราต้องปรับ และต้องทำผลงานให้ดีขึ้น เพื่อทำให้ได้ตามเป้าหมายของเรา”
“เราไม่ได้มีงบประมาณที่สูง แต่เราจะใช้การทำงานหนักเป็นตัวทดแทน นโยบายหลักของชลบุรี ก็คือ การผลักดันเด็กๆ ในอคาเดมี ซึ่งเยาวชนของเราต่างก็มีความสามารถ”
“หน้าที่ของผมก็คือการสานต่อ พัฒนาเด็กเหล่านั้น ซึ่งมันตรงกับแนวทางของผมอยู่แล้ว และเด็กจากอคาเดมี ถ้าเราปั้นเขาดีๆ เราก็จะสามารถยืนระยะได้ถึง 7-8 ปี เป็นอย่างน้อย เราก็ต้องผสมผสานสิ่งเหล่านี้ที่มีอยู่ในมือของเราให้ลงตัว”

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์// การแข่งขันตะกร้อไทยแลนด์ ลีก ฤดูกาล 2563 เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา มีแข่งขัน 2 คู่ เริ่มที่คู่แรกดีกรีแชมป์เก่า 10 สมัย “หมูป่าเขี้ยวตัน” นครปฐม ทีมอันดับ 3 พบกับ “สิงห์บูรพา” ชลบุรี ทีมอันดับ 6 ที่เกมนัดที่แล้วปราชัย “อินทรีเจ้าเวหา” ปทุมธานี ด้านเจ้าบ้านหมูป่า เยือนและแพ้ต่อ อำนาจเจริญ ทำให้ตอนนี้มีอยู่ 2 คะแนน
วงษาเวียง (ชง) เริ่มเซตแรกฝั่งเจ้าบ้านที่ได้เสียงเชียร์กระตุ้นเดินเกมได้ดีกว่ามาก โดยเฉพาะแบ็กดาวรุ่งอย่าง “ข้าวโอ๊ต” สหการ ซุ่ยยัง นัดนี้เรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้หลังจากนัดที่แล้วทำได้ไม่ดีนัก โดยเกมรุก เจ้าถิ่นถล่มทำแต้มนำห่างถึง 12-6, 14-7 และ 15-9 คะแนน ชลบุรี แม้จะส่ง รณกฤต ผลฉัตร์ ที่ลงมายืนแดนหลังแทน ศักดิ์ชาย รูปเกมดีขึ้นมาบ้างแต่สุดท้ายก็ไม่สามารถไล่ได้ทัน เซตแรก นครปฐม เอาชนะ 21 -17 คะแนน เซตสอง นครปฐมนำไปก่อน 6-1 แต่ก็มีหวาดเสียวเหมือนกัน โดนตามตีเสมอที่ 15-15 ก่อนที่จะโกยแต้มเข้าป้าย 21-16 คะแนน จบเกม ทีม ข นครปฐม ชนะ 2-0 เซต
ในเกมทีม ข เจ้าบ้านส่งจอมเสิร์ฟตัวเก่ง ณัฐวุฒิ แนวพรม นำทัพโดยคู่หน้ามี รังสิโรจน์ สิริสมุทรสาร (ชง) กับ คมกริช แก้วคำจันทร์ (ทำ) ส่วนทีมเยือน สิงห์บูรพา สุภกิจ แก้วทุ่ง ทำหน้าที่เสิร์ฟ และคู่หน้า
สุวิชา ทาลา(ทำ) กับ ธนุศาสตร์ ระวิโรจน์(ชง) ซึ่งเกมนี้ความกดดันถาโถมใส่ทีมเยือนอย่างหนัก เพราะจะแพ้ไม่ได้อีกแล้วหากต้องการแต้มกลับบ้าน ปรากฏว่า สิงห์บูรพา ฮีดสู้ได้อย่างดุเดือดทำกองเชียร์ลุ้น

ระทึกนั่งกันไม่ติดครึ่งทางแรกสกอร์ 12-12 ก่อนที่ ณัฐวุฒิ จะงัดลูกเสิร์ฟทั้งหนักและเบา บวกกับลูกฟาดและบล็อกของเอกสิทธิ์ พาทีมหนีเข้าวิน 21-16 คะแนน
เซตสอง รูปเกมที่ยังคงสูสีคู่คี่ เจ้าบ้านนำอยู่ที่ 17-16 ภานุ เสมียนกุล ที่ลงเสิร์ฟแทน สุภกิจ ทำได้ดีเกินคาดเสิร์ฟเปรี้ยงหายๆ พาทีมพลิกแซงเอาชนะ 21-18 ตามตีเสมอ 1-1 เซตที่สาม เจ้าบ้านทำได้ดีกว่าเหมือนเดิมนำห่างไปไกลถึง 18-9 คะแนนเลยทีเดียว แต่ก็ต้องมาระทึกโดนไล่บี้มา 17-19 ก่อนที่สองแต้มสุดท้ายจะเปิดลูกให้ วุฒิชัย ดาวเรืองน้อย ปิดเซตสาม นครปฐม ชนะ 21-17 ทำให้เกมทีม ข นครปฐม ชนะ 2-1 เซต “หมูป่าเขี้ยวตัน” นครปฐม ชนะ “สิงห์บูรพา” ชลบุรี 2-0 ทีม เก็บสองแต้มสำเร็จ
อีกคู่ “ปลาบึกพิฆาต” ไทเลย พบกับ “กระเรียนพิฆาต” ชัยภูมิ ที่โรงยิมโรงเรียนเทศบาล 2 ต.เชียงคาน นัดที่สองของทั้งคู่ โดยเกมแรก ไทเลย บุกไปแบ่งแต้ม ชลบุรี มาได้ 1-1 ทีม ส่วน ชัยภูมิ แพ้ให้กับ พิษณุโลก โดยทีม ก ไทเลย ประกอบด้วย ธีระพบ เส้งนนท์(เสิร์ฟ), ยศนนท์ แหลมไธสง(ทำ), ธวัชัย คงภักดี (ชง), ส่วนทีมเยือนเสิร์ฟเป็นวัชระ เสนสอน, ณัฐวุฒิ บุราณรมณ์ (ทำ), นันทวุฒิ นวลจร (ชง) โดย ทีม ก ไทเลย ชนะ 2-0 เซต 21-10, 21-14
ทีม ข ไทเลย ประกอบด้วย ศิวัชบัญชา สีขวา(เสิร์ฟ), ยุวพงศ์ ภมร(ชง), อลงกรณ์ รักเถาว์ (ทำ) และทีมเยือน ประกอบด้วย อิทธิพล ประมะคัง(ทำ), ปฏิภาญ วิชาโคตร (ทำ ) และเสิร์ฟเป็น ก้องหล้า มณีกัลย์ ผลการแข่งขัน ไทเลย เอาชนะ 2-0 เซต 21-19, 21-12 จบเกม ไทเลย ชนะ ชัยภูมิ 2-0 ทีม และสามารถเก็บสองแต้มแรกในลีกได้สำเร็จ

 Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์// ไทยเครื่องสนามที่มีอาวุธหลากหลายมากกว่าดับลมหายใจ บ้านบึง เดวิล เรย์ส ที่ฟอร์มแผ่วในควอเตอร์ที่สี่ 85-72 คว้าอันดับ 3 ศึกไทยแลนด์ บาสเกตบอล ลีก 2020 หรือ “ทีบีแอล” ประจำฤดูกาลนี้ไปครอง
การแข่งขันบาสเกตบอลรายการ “ไทยแลนด์ บาสเกตบอล ลีก 2020” หรือ “ทีบีแอล”จัดโดยสมาคมกีฬาบาสเกตบอลอาชีพไทย ชิงอันดับที่ 3 เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่ สนามบาสเกตบอลศูนย์กีฬาประชานิเวศน์ สปอร์ต เซนเตอร์ คู่ชิงอันดับที่ 3 แข่งแบบเกมเดียวจบ ระหว่าง บ้านบึง เดวิล เรย์ส ที่พ่ายเต็งหนึ่ง ไฮ-เทค มา 2 เกมรวดในรอบรองชนะเลิศ ดวลกับ ไทยเครื่องสนาม ที่แผ่วปลายในรอบตัดเชือก พ่าย เอ็มยูบีซี มา 1-2 เกมทั้งๆ ที่สามารถกุมความได้เปรียบด้วยการเอาชนะไปได้ก่อนในเกมแรก
รูปเกมในควอเตอร์แรกคู่นี้สุดดุเดือด ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายทันกันและมีความสามารถเฉพาะตัวร้ายกาจไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ฝั่ง ไทยเครื่องสนาม มีเกมฟาสต์เบรกเป็นอาวุธสังหารจากเหล่าผู้เล่นที่มีสปีดความเร็วสูงทั้ง “โส” โสฬส สุนทรสิริ, “พีท” บัณฑิต หลักหาญ และ “บาส” กานต์ณัฐ เสมอใจ แต่ฝั่ง บ้านบึงฯ ก็ได้ทีเด็ดสามคะแนนของ “เป้” ชิดชัย อนันติ ทำให้แต้มยังเบียดกันไฟแล่บ ก่อนไทยเครื่องจะเปลี่ยน “เบนนี่” เอ็นกอนโก บีนเวนู ลงมายิงสามคะแนนติดกันสองลูก ทว่าท้ายควอเตอร์ ชิดชัย ยิงสามคะแนนคืนและบ้านบึงฯ ใช้เกมใต้แป้นที่แกร่งกว่าในควอเตอร์นี้ขึ้นรัวต่อเนื่องจนหมดเวลา 10 นาทีแรก บ้านบึง เดวิล เรย์ส นำก่อน 18-16

เกมในควอเตอร์ถัดมาทั้งสองทีมรันสกอร์กันมหาโหด เพียงควอเตอร์เดียวสามารถยิงลูกสามคะแนนได้ถึง 11 ลูก โดยเป็นทางบ้านบึงฯ ยิงลงไป 6 ลูก ส่วนไทยเครื่องสนามส่องลงไป 5 ลูก สร้างเสียงกรี๊ดและความสะใจให้แก่แฟนๆ ทั้งสนาม ซึ่งแต่ละลูกของทั้งสองฝ่ายแทบจะยิงไม่ซ้ำหน้ากันด้วย จึงต้องบอกว่าเกมวันนี้ทั้งสองทีมต่างท็อปฟอร์มกันสุดๆ ซึ่งอาจจะเนื่องด้วยนี่คือเกมสุดท้ายในลีกปีนี้ของพวกเขา จบควอเตอร์สองไทยเครื่องกลับมานำอยู่ 1 คะแนนที่ 44-43
เกมสุดเดือดในช่วงปลายควอเตอร์สามเมื่อทาง บ้านบึง เดวิล เรย์ส ทำเกมรุกมาน่ากลัวจนพลิกขึ้นมานำ 58-57 ทว่าต้องมาพบกับข่าวร้ายเมื่อตัวทำแต้มสำคัญของทีมอย่าง เป้-ชิดชัย เกิดอาการบาดเจ็บบริเวณเท้าซ้าย ต้องออกไปปฐมพยาบาลข้างสนาม ทางสตาฟจึงเปลี่ยนให้ บัณฑิต จันทร์ทอง ลงมายืนถือบอลแล้วโยกเอา บูม-พงศกร ไปเป็นชูตติ้งการ์ดแทน เป้-ชิดชัย จากนั้นเป็น “ตุ้ม” อนุชัย ลังสุ่ย ของ ไทยเครื่องสนามระเบิดฟอร์มสวย ยิงสามคะแนนสองลูกติด ขึ้นมานำบ้านบึงฯ 63-58 แต่บ้านบึงฯ ไม่ยอม สองดาวรุ่งอย่าง บัณฑิต จันทร์ทอง กับ พงศกร ยิงไปสามแต้มกับสองแต้มเรียงตามลำดับ เกมกลับมาตีเสมอ 63-63 ก่อนหมดเวลาควอเตอร์สามไปอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน

ต้นคอวเตอร์สี่เกิดจุดเปลี่ยนสำคัญเมื่อ บาส-กานต์ณัฐ ของไทยเครื่องฯ ลงมาโชว์ของ กดไปคนเดียว 5 แต้มติดตั้งแต่ไก่โห่ ทำเกมรับของบ้านบึงฯ ที่กำลังมาดีๆ ไม่ทันได้ตั้งตัว แล้วทางสตาฟของบ้านบึงฯ ตัดสินใจเปลี่ยนเอาตัวหลักอย่าง บูม-พงศกร และ บิ๊ก-ธีรวัฒน์ ออก ทำให้ทางฝั่งไทยเครื่องฯ ที่ทั้งตัวจริงและตัวสำรองแข็งแกร่งไม่ต่างกันมีโอกาสที่จะขโยกใส่บ้านบึงฯ ที่เหมือนมีอาวุธน้อยกว่า ไทยเครื่องฯ เริ่มสปีดทำแต้มหนีห่างถึง 9 แต้ม 75-66 สถานการณ์บีบให้บ้านบึงฯ ต้องเข็นผู้เล่นตัวหลักลงมากัดฟันสู้อีกครั้งโดยเฉพาะ เป้-ชิดชัย ที่เจ็บไปก็ลงมาพร้อมกับ พงศกร, ธีรวัฒน์ และ “ไปป์” พิชญุตน์ ทับทอง ทว่ากว่าจะลงมาไทยเครื่องสนามก็เริ่มที่จะยึดโมเมนตั้มของเกมไว้ได้ทั้งหมด พวกเขากำลังฮึกเหิมและแข็งแกร่งทั้งรุกและรับจากการได้แต้มรัวๆ ติดๆ กัน ส่งผลให้ช่วงเวลาที่เหลือบ้านบึง เดวิล เรย์ส ที่เกมดับไปตั้งแต่ต้นควอเตอร์นี้ไล่ตามไม่ทัน หมดเวลาการแข่งขัน ไทยเครื่องสนาม เอาชนะ 85-72 คว้าอันดับที่ 3 ประจำการแข่งขันไทยแลนด์ บาสเกตบอล ลีก 2020 หรือ “ทีบีแอล” ประจำฤดูกาลนี้ไป ส่วนทัพบ้านบึงฯ ได้อันดับที่ 4 ของการแข่งขัน

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์// กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เตรียมลงนาม MOU ความร่วมมือ การตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้กับนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ที่ อาคาร 1 ชั้น 2 สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข? นนทบุรี เมื่อวันที่ 3 กันยายนนี้
พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน โฆษกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เผยว่า “ก่อนที่ฟุตบอลลีกอาชีพ ฤดูกาล 2563 จะกลับมาเริ่มแข่งขันนัดที่ 5 วันที่ 12 กันยายนนี้ ทุกสโมสรจะต้องนำนักกีฬาและบุคคลที่เกี่ยวข้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ตามระเบียบการจัดการแข่งขันกีฬาแบบปิด”
“ในการนี้ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย โดยพล.ต.อ.ดร.สมยศ? พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ? จะทำพีธีลงนาม MOU กับ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ถึงความร่วมมือในการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้แก่นักกีฬาฟุตบอลอาชีพ และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกสโมสร โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพีธี”
“ตามคู่มือการแข่งขันของ ศบค. ระบุไว้ในข้อ 1.1 กรณีการแข่งขันในรายการกีฬาอาชีพ นักกีฬาต้องผ่านการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทางห้องปฎิบัติการแบบบุคคลหรือแบบรวมตัวอย่าง และมีผลตรวจเป็นลบ ซึ่งสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด”
“จึงขอประชาสัมพันธ์ให้สโมสรสมาชิกทุกสโมสร เตรียมความพร้อมในการนำนักฟุตบอลในสังกัดที่ขึ้นทะเบียนกับฝ่ายจัดการแข่งขันทุกคนไปเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 วันที่ 8-9 กันยายนนี้ ที ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ประจำจังหวัด 15 แห่ง?ทั่วประเทศ ประกอบด้วย เชียงใหม่, เชียงราย, พิษณุโลก, นนทบุรี (กระทรวงสาธารณสุข) , ชลบุรี, อุดรธานี , อุบลราชธานี, นครสวรรค์ , สมุทรสงคราม , ขอนแก่น, นครราชสีมา, สุราษฎร์ธานี , สงขลา , ภูเก็ต และ ตรัง
“ทั้งนี้ หากผลการตรวจพบว่านักกีฬาหรือผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ผ่านการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด -19 จะไม่มีสิทธิ์แข่งขันจนกว่าผลตรวจจะเป็นลบ เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งนี้หากสโมสรใดมีข้อสงสัยให้ติดต่อประสานงานมายังฝ่ายจัดการแข่งขัน บริษัท ไทยลีก จำกัด”

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์// “กัปตัน” อิสรานุอุดม ภูริหิรัญพัชร์ นักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ดอดเงียบเข้าแคมป์เก็บตัวฝึกซ้อมทีมชาติไทยเรียบร้อยแล้ว ”บิ๊กเสือ” ยืนยันทุกอย่างต้องอยู่ในกฏเกณฑ์เดียวกัน ไม่มีอภิสิทธิ์ หากแหกกฎตัดเบี้ยเลี้ยง และถึงขั้นตัดออกจากทีมชาติไทยโดยไม่มีเงื่อนไขอีกต่อไป
จากกรณีที่สมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย ประกาศเรียกนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย เก็บตัวฝึกซ้อมเพื่อเตรียมแข่งขัน 3 รายการใหญ่ ได้แก่ เอเชี่ยนอินดอร์ แอนด์ มาเชี่ยลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 วันที่ 21-30 พฤษภาคม 2564 ที่ ไทย , การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 32 วันที่ 23 กรกฏาคม- 8 สิงหาคม 2564 ที่ ญี่ปุ่น และการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 วันที่ 21 พฤศจิกายน-2 ธันวาคม 2564 ที่ เวียดนาม โดยเฉพาะโควตา โอลิมปิกเกมส์ 2020 นักกีฬายิงปืนของไทยได้โควตา 3 คน ประกอบด้วย ณภัสวรรณ หย่างไพบูลย์ , ธันยาพร พฤกษากร และ  อิสรานุอุดม ภูริหิรัญพัชร์ สมาคมฯ ได้กำหนดให้นักกีฬาเข้าทำการเก็บตัวฝึกซ้อมร่วมกัน ตั้งแต่วันที่15 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยมี พีระ ภิรมย์รัตน์ , วราวุธ มัจฉาชีพ ควบคุมการฝึกซ้อมประเภทปืนยาว และมีโค้ชชาวยูเครน วาเลนติน่า มาดูแลการฝึกซ้อมประเภทปืนสั้น
อย่างไรก็ตาม อิสรานุอุดม ภูริหิรัญพัชร์ เพียงคนเดียวที่ไม่ยอมมาเก็บตัวฝึกซ้อม ที่ สมาคมกีฬายิงปืน หัวหมาก โดยอ้างว่าได้ฝึกซ้อมอยู่ที่บ้านจังหวัดนครราชสีมา โดยมี นางพรพักตร์ ภูริหิรัญพัชร์ มารดาเป็นผู้ฝึกสอน แต่ต่อมา การกีฬาแห่งประเทศไทยได้มีหนังสือแจ้งยกเลิกให้ นางพรพักตร์ เป็นผู้ฝึกสอนเนื่องจากขาดคุณสมบัติ และไม่เคยเป็นนักกีฬายิงปืนมาก่อน พร้อมกันนี้ สมาคมกีฬายิงปืนได้ส่งหนังสือเรียก อิสรานุอุดม (กัปตัน) เก็บตัวซ้อมร่วมกับนักกีฬาทีมชาติทุกคน ที่ สมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย มื่อวันที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา

ล่าสุด นายอิสรานุอุดม ภูริหิรัญพัชร์ พร้อมด้วยมารดา ได้เดินทางมาเก็บตัวฝึกซ้อมประเภทปืนสั้นยิงเร็ว (ปืน .22 ) ระยะ 25 เมตร ที่สนามยิงปืนของสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย หัวหมาก ตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยได้ซ้อมตั้งแต่เวลา 14.00 – 16.00 น. ซึ่งมี นายชนะ โชติกะเสถียร เป็นผู้ฝึกสอน
นายสกล วรรณพงษ์ นายกสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เมื่อนักกีฬาปฏิบัติตามที่ทางสมาคมฯ ได้ส่งหนังสือเรียกให้มาฝึกซ้อมแล้ว ทุกอย่างเข้าสู่ระบบอย่างเต็มตัว ภายใต้ผู้ฝึกสอนมืออาชีพที่เป็นอดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย สัปดาห์ละ 6 วัน (วันอังคาร – วันอาทิตย์ ) หยุดวันจันทร์ เพื่อให้นักกีฬาได้พักผ่อน และก่อนหน้านี้ อิสรานุอุดม ภูริหิรัญพัชร์ ได้ยื่นข้อเสนอว่าจะซ้อมที่กรุงเทพฯ 3 วัน / ซ้อมที่บ้าน โคราช อีก 3 วัน ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยเนื่องจากนักกีฬาทุกคนซ้อมร่วมกันที่สมาคมฯ มีหอพักให้อยู่ฟรี มีกระสุนให้เบิกซ้อมได้วันละ 300 นัด มีเบี้ยเลี้ยงให้ จึงไม่มีเหตุผลใดที่จะใช้อภิสิทธิ์เหนือคนอื่น
สรุปว่า “กัปตัน” จะต้องซ้อมที่กรุงเทพฯ สัปดาห์ละ 6 วัน ยกเว้นวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันหยุด เขาจะกลับบ้านที่ต่างจังหวัดสามารถทำได้โดยไม่ผิดระเบียบ
“เนื่องจาก อิสรานุอุดม บิดพลิ้วไม่ยอมมาเก็บตัวร่วมกับคนอื่น เป็นเวลา 2 เดือนเต็ม ถือว่าให้โอกาสมากพอแล้ว จากนี้ไปหากไม่ปฏิบัติตามกฏข้อบังคับของสมาคมฯ ขั้นแรกจะตักเตือนด้วยการตัดเบี้ยเลี้ยง และไม่ให้เบิกกระสุนปืน และหากยังดื้อดึงไม่ยอมมาทำการฝึกซ้อมอีก ก็จะต้องใช้ยาแรงด้วยการตัดออกจากการเป็นนักกีฬาทีมชาติทันที”

 Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์// อัลเบอร์โต พูอิก บอสทีมแข่งเรปโซล ฮอนด้า ให้สัมภาษณ์อัพเดตอาการบาดเจ็บของยอดนักบิดแชมป์โลก 8 สมัย อย่าง มาร์ค มาร์เกซ หลังเข้ารับการผ่าตัดกระดูกต้นแขนขวา เป็นครั้งที่สอง คาดว่าอาจต้องใช้เวลาพักฟื้นนานกว่า 2-3 เดือน ก่อนจะฟิตพอขับขี่ Honda RC213V คัมแบ็กศึกโมโตจีพีประจำปีนี้อีกครั้ง
“พวกเรามีการปรึกษาหารือกันภายในทีมถึงการฟื้นตัวของ มาร์เกซ รวมถึงกำหนดการต่างๆ เบื้องต้นย้ำว่าเป้าหมายเดียวของเราคือ การรอให้นักบิดในสังกัดได้พักฟื้นร่างกายให้มีความสมบูรณ์เต็ม 100% ก่อน เราจะไม่เร่งรีบส่งเขาคืนสนามแน่นอน เมื่อเขาพร้อมและต้องการกลับมาเข้าร่วมการแข่งขัน เวลานั้นเราค่อยคิดถึงเป้าหมายถัดไป” ผู้จัดการทีมแข่งเรปโซล ฮอนด้า กล่าว

 Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์// การแข่งขันศึกวัน แชมเปียนชิพ รายการ ONE: A NEW BREED จัดอย่างยิ่งใหญ่ในระบบปิดห้ามคนเข้าชม โดยยังคงเผยแพร่ศิลปะการต่อสู้ในช่วงปลดล็อกโควิด-19 และมีการถ่ายทอดสดสู่แฟนๆ 150 ประเทศทั่วโลก ที่ สังเวียนอิมแพ็คอารีน่า เมืองทองธานี เมื่อคืนวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา คู่เอกนำรายการ แสตมป์ แฟร์เท็กซ์ ป้องกันแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นอะตอมเวตหญิง กับ อัลลิเซีย เฮลเลน รอดริเกส นักชกสาวจากบราซิล เปิดฉากยกแรก แสตมป์ มาในแผนตั้งรับจับทางเน้นดูเชิงก่อน ฝั่งนักชกสาวจากแดนแซมบ้า เป็นฝ่ายเดินเข้าหา ส่วนใหญ่เน้นแลกแข้งกันกลางเวที ยกสอง แสตมป์เปลี่ยนแผนออกมาเดินลุยบ้าง มีหมัดแย๊บซ้ายนำก่อน แล้ววางแข้งตาม ด้าน อัลลิเซีย ตั้งรับมีโต้ด้วยแข้งเช่นกัน

ยกสาม แสตมป์ ออกมาเดินลุย ยิงหมัดเข้าลำตัวสลับกับขึ้นใบหน้าของอัลลิเซีย โดยนักชกสาวบราซิลมาด้วยความแข็งแกร่งจริง ๆ ยิ่งโดนอาวุธของแสตมป์เข้าไป แต่เธอก็ยิ่งเดิน มีหมัดมีศอกโต้ใส่แสตมป์ทุกจังหวะ
เกมยกสี่ ดูเหมือนนักชกสาวแซมบ้ามั่นใจในกำลังของตัวเองมาก เดินยิงหมัดแล้วชวนแสตมป์เล่นวงใน ซึ่งแสตมป์รูปร่างเล็กกว่า เมื่อเข้าวงในแล้วเห็นชัดมากว่า อัลลิเซียนั้น จับในได้เปรียบ เพราะมีเหลี่ยมล็อกคอมาเสียบเข่าลูกนี้แสตมป์โดนเข้าไปออกอาการไม่ดีอย่างเห็นได้ชัด
ยกสุดท้าย แสตมป์เปลี่ยนมาเดินบ้างในช่วง 30 วินาทีท้ายของยกที่ห้า แต่ทำอะไรไม่ถนัด เนื่องจากอัลลิเซียคุมเกมไว้ได้หมดแล้ว เมื่อชกกันครบห้ายก กรรมการรวมคะแนนแล้วชูมือให้ อัลลิเซีย เฮลลเลน รอดริเกส นักชกจากบราซิล ชนะคะแนน คว้าแชมป์ ONE มวยไทย รุ่นอะตอมเวตหญิง ไปครอง
ส่วนรองคู่เอก รถเหล็ก พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม ชิงแชมป์มวยรอบทัวร์นาเมนต์ ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต กับ กุหลาบดำ ส.จ.เปี๊ยกอุทัย เปิดฉากยกแรก รถเหล็ก นักชกรุ่นพี่เดินชวนทะเลาะทันที ฝั่ง กุหลาบดำ ถอยรอจังหวะยังไม่ปะทะมาก ซึ่งปลายยก รถเหล็ก ยิงหมัดขวาเข้าเต็มหน้าเล่นงาน กุหลาบดำ ถึงกับออกอาการเซ ยกสอง รถเหล็ก เดินลุยเหมือนเดิม เน้นเตะเจาะล่าง ตามด้วยยิงหมัด อย่างไรก็ตาม ช่วงกลางยกนี้ กุหลาบดำ ฟันศอกเล่นเอารถเหล็กเลือดไหลยาวบริเวณหน้าผาก ซึ่งดอกนี้เหมือนแหย่รังแตน ทำให้รถเหล็กเข้าเกียร์เดินหน้าเร็วมากขึ้น ตามด้วยสไลต์เดิมคือ เตะขาต่อยหมัด ด้าน กุหลาบดำ โดนหมัดเข้าเต็ม ๆ ถึงกับร่วงลงไปนอนให้กรรมการนับแปด

จากนั้นยกสาม รถเหล็ก เร่งเครื่องต่อเนื่อง เดินต่อยหมัดชวนทะเลาะเช่นเคย ซึ่งธาตุทรหดของรถเหล็กนั้นดีกว่ามาก บวกหมัดแลกกันอีก ทำเอากุหลาบดำโดนหมัดแล้วล้มลงไปกองคลุกพื้นผ้าใบให้กรรมการนับถึงแปด เมื่อได้สองนับแล้ว รถเหล็ก ก็ทำการผ่อนเกมลง เนื่องจากคุมจังหวะและคุมสถานการณ์ได้หมดแล้ว ด้าน กุหลาบดำ ก็ออกอาการสารภาพ เมื่อชกกันครบสามยก กรรมการรวบรวบคะแนนแล้วชูมือให้ รถเหล็ก ชนะคะแนนไปอย่างขาดลอย
หลังการชก รถเหล็ก กล่าวว่า “ปกติไม่แพ้มวยหมัดอยู่แล้ว รู้ดีว่า กุหลาบดำ นั้นหมัดหนัก ต้องขอบคุณ วัน แชมเปียนชิพที่ให้โอกาสได้โชว์ฝีมือบนสังเวียนผืนผ้าใบในรายการนี้ โดยแชมป์ครั้งนี้ภาคภูมิใจมาก โอกาสต่อไปได้ขึ้นชิงแชมป์กับรุ่นพี่อย่าง น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาวยิม เจ้าของแชมป์โลก จะทำให้เต็มที่ให้สมกับที่วันแชมเปียนชิพเปิดโอกาสให้ได้มาชกในรายการระดับโลกนี้
ขณะที่ คู่ค้ำ วันเดอร์เกิร์ล แฟร์เท็กซ์ ชนะน็อก เคซี คาร์ลอส ยกที่ 2 สู้กันในรูปแบบมวยไทย รุ่นสตรอว์เวต คู่อื่น ๆ ที่น่าสนใจ มีดังนี้ เดนิส แซมโบอันกา ชนะซับมิชชั่น (แบบคู่ต่อสู้ขอยอมแพ้) วรรษภิญญา แก้วโขง ยกที่ 1 (การต่อสู้แบบผสมผสาน รุ่นอะตอมเวต), เดร็กซ์ แซมโบอันกา ชนะซับมิชชั่น (แบบคู่ต่อสู้ขอยอมแพ้) เดชฎิล สรณ์สิริศุภทิน ยกที่ 2 (การต่อสู้แบบผสมผสาน), ซก ที ชนะน็อก ฮวง ดิง ยกแรก (มวยไทย รุ่นฟลายเวต), ยอดไก่แก้ว แฟร์เท็กซ์ ชนะน็อก อเล็กซ์ ไชลด์ ยกที่ 3 (การต่อสู้แบบผสมผสาน)

Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

http://www.natethip.com/news.php?id=2898
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)