http://www.natethip.com/news.php?id=4212
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
http://www.natethip.com/news.php?id=4212
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์
(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)
พิมพ์ไทยออนไลน์ // ความเคลื่อนไหวการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2021 “โตเกียวเกมส์ 2020” ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา “บิ้กต้อม” นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาทีมชาติไทย เปิดเผยว่า นักกีฬาที่จะรับหน้าที่ถือธงไตรรงค์ในพิธีเปิดโอลิมปิกเกมส์ 2020 ทางคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย พยายามสอบถามสมาคมกีฬาต่างๆ แต่ปรากฎว่ามีปัญหาเรื่องของโปรแกรมการแข่งขันเพราะพิธีเปิด ในวันที่ 23 ก.ค. นี้ จะเลิกค่อนข้างดึกคือเกือบเที่ยงคืน ทำให้นักกีฬาที่จะลงแข่งขันในวันที่ 24 ก.ค. ทั้งแบดมินตัน, เทควันโด, มวยสากล ไม่พร้อมจึงมอบหมายให้ “เอิน” ณภัสวรรณ หย่างไพบูลย์ นักยิงปืนหญิงทีมชาติไทย และ “แซม” เศวต เศรษฐาภรณ์ นักกีฬายิงเป้าบินชายทีมชาติไทย วัย 56 ปี ซึ่งทั้งสองต่างก็มีผลงานที่น่าสนใจ ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ โอลิมปิกเกมส์ จัดให้มีนักกีฬาชาย–หญิง รับหน้าที่ดังกล่าวพร้อมกัน เพื่อส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ

อนึ่ง ในอดีตนักกีฬาไทย ที่ได้รับหน้าที่ถือธงชาติไทยโอลิมปิกเกมส์ ประกอบด้วย โอลิมปิกเกมส์ 2016 “เมย์” รัชนก อินทนนท์ (แบดมินตัน),โอลิมปิกเกมส์ 2012 “เจมสบอนด์” ณัฐพงษ์ เกตุอินทร์ (ว่ายน้ำ), โอลิมปิกเกมส์ 2008 “พจน์” วรพจน์ เพชรขุ้ม(มวยสากลสมัครเล่น),โอลิมปิกเกมส์ 2004 “บอล”ภราดร ศรีชาพันธุ์ (เทนนิส), โอลิมปิกเกมส์ 2000 “บาส” สมรักษ์ คำสิงห์(มวยสากลสมัครเล่น),โอลิมปิกเกมส์ 1996 วิศณุ โสภานิช (กรีฑา),โอลิมปิกเกมส์ 1992 สุรพงษ์ อาริยะมงคล(โค้ชกรีฑา),โอลิมปิกเกมส์ 1988 สมชาย จันทวานิช(ยิงปืน)และโอลิมปิกเกมส์ 1984 รังสิต นาโยทัย(ยิงปืน)
Cr..วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์
พิมพ์ไทยออนไลน์ // เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ “คนไทยหัวใจนักสู้” ภายใต้แนวคิด “ไม่มีอะไรที่เราชนะไม่ได้ เมื่อเราสู้ไปด้วยกัน” ตอกย้ำการยืนหยัดและอยู่สู้เคียงข้างคณะเจ้าหน้าที่และนักกีฬาทีมชาติไทย ชุดทำศึกโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 32 ระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม-8 สิงหาคม 2564 ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยมุ่งส่งเสริมพร้อมให้กำลังใจแก่ทัพนักกีฬาโอลิมปิกทีมชาติไทย ที่แม้จะการแข่งขันในช่วงที่ทั่วโลก เผชิญหน้ากับวิกฤตการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่เครือซีพีและบริษัทในเครือ รวมถึงคนไทยพร้อมสนับสนุน ร่วมเป็นกำลังใจสู้ไปด้วยกัน
นางรุ่งฟ้า เกียรติพจน์ ผู้บริหารด้านโครงการพิเศษ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และผู้ช่วยบริหารงานประธานคณะกรรมการบริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ตัวแทนของเครือฯ เปิดเผยว่า การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ จัดการแข่งขันทุก 4 ปี มหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดรายการหนึ่งในโลก การที่นักกีฬาไทยผ่านการคัดเลือก ได้เข้าแข่งขันรอบสุดท้าย 42 คน ถือว่าทุกคนมีศักยภาพและความสามารถสูง และเป็นที่น่าภาคภูมิใจของคนไทย โดยในโฆษณา “คนไทยหัวใจนักสู้” ถ่ายทอดให้เห็นถึงความมุ่งมั่น อดทน

และไม่ย่อท้อต่อทุกอุปสรรคของนักกีฬาไทย ซึ่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ รวมถึงคนไทยทั่วประเทศพร้อมส่งกำลังใจให้นักกีฬาไทยก้าวข้ามทุกอุปสรรคที่ผ่านเข้ามา ดั่งคำนิยาม “ไม่มีอะไรที่เราชนะไม่ได้ เมื่อเราสู้ไปด้วยกัน”
นางรุ่งฟ้า กล่าวว่า กลุ่มธุรกิจในเครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้แก่ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ, บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมสนับสนุนตั้งแต่ปี 2016 ที่บราซิล จนถึงการแข่งขันครั้งนี้ ที่ได้ร่วมให้การสนับสนุนทัพนักกีฬาไทยต่อเนื่อง ทั้งด้านอาหารที่มีคุณภาพ ถูกหลักโภชนาการ รวมถึงสนับสนุนการสื่อสารทางไกลที่มีประสิทธิภาพตลอดการแข่งขัน ให้ทัพนักกีฬาไทยมีความพร้อมทั้งกายและใจการสู้ศึกโอลิมปิกเกมส์
“ศึกโตเกียว 2020 นักกีฬาไทยจะเจอคู่ต่อสู้ในสนาม ต้องเผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 การผลิตภาพยนต์สั้นชุด “คนไทยหัวนักสู้” เป็นการให้กำลังใจนักกีฬาทีมชาติไทยทุกคน และร้อยรวมพลังใจจากแฟนๆ กีฬาชาวไทย ส่งต่อไปให้นักกีฬาไทยทุกคนได้ก้าวข้ามผ่านปัญหา และอุปสรรคที่ท้าทายดั่งคำนิยาม “ไม่มีอะไรที่เราชนะไม่ได้ เมื่อเราสู้ไปด้วยกัน

สำหรับ ภาพยนต์โฆษณาชุด “คนไทยหัวใจนักสู้” ได้ 3 นักกีฬาทีมชาติไทย ประกอบด้วย ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี (นักกีฬามวยสากล), วุฒิชัย มาสุข (นักกีฬามวยสากล) และ สุเบญรัตน์ อินแสง (นักกีฬาขว้างจักร) มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวความเป็นนักสู้ ซึ่งภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ มีความยาว 60 วินาที กำกับโดย ฐิติพงศ์ เกิดทองทวี ซึ่งชาวไทยสามารถร่วมส่งแรงใจและเชียร์นักกีฬาไทยได้ที่ไอจี Filter #คนไทยหัวใจนักสู้ หรือ คลิกดูรายละเอียดของกิจกรรมได้ที่เฟซบุ๊ค : CP for Sustainability คลิกดูภาพยนตร์โฆษณาได้ที่เฟซบุ๊ค : https://fb.watch/v/LPI-P7R8/ และยูทูป : https://youtu.be/gqdGI3JRIrk
Cr..วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์
พิมพ์ไทยออนไลน์ // โหมโรงโตเกียว 2020 ยิงสดฟุตบอล รอบแรก ก่อนเปิดฉากโอลิมปิกเกมส์ 6 ช่องฟรีทีวี ผนึก T-Sports และ AIS PLAY พร้อมเช็กโปรแกรมถ่ายทอดสดทาง https://stadiumth.com/olympic
มหกรรมกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 32 โตเกียว 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เปิดฉากการแข่งขันวันที่ 23 กรกฎาคม-8 สิงหาคมนี้ แฟนกีฬาชาวไทยสามารถร่วมชมการถ่ายทอดสด ผ่านทาง 6 ช่องฟรีทีวี ประกอบด้วย ThaiPBS, NBT, PPTV, JKN18, True4U, GMMTV 25 รวมทั้งเคเบิลทีวีช่อง T-Sports และถ่ายทอดสดแบบครบทุกกีฬา ทุกคู่ และย้อนหลังผ่านทาง AIS PLAY
โดยมีการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอล รอบแรก วันที่ 21 กรกฎาคมนี้ ฟุตบอลหญิง กลุ่มเอฟ จีน พบ บราซิล เวลาไทย 15.00 น. ทาง ThaiPBS, ฟุตบอลหญิง กลุ่มจี สวีเดน พบ สหรัฐฯ เวลาไทย 15.30 น. ทาง True4U และฟุตบอลหญิง กลุ่มอี ญี่ปุ่น พบ แคนาดา เวลาไทย 17.30 น. ทาง PPTV

วันที่ 22 กรกฎาคม ฟุตบอลชาย กลุ่มเอ เม็กซิโก พบ ฝรั่งเศส เวลาไทย 15.00 น. ทาง JKN18, ฟุตบอลชาย กลุ่มบี นิวซีแลนด์ พบ เกาหลีใต้ เวลาไทย 15.00 น. ทาง NBT, ฟุตบอลชาย กลุ่มเอ ญี่ปุ่น พบ แอฟริกาใต้ เวลาไทย 18.00 น. ทาง GMMTV 25 และฟุตบอลชาย กลุ่มดี รีแมตช์คู่ชิงครั้งก่อน แชมป์เก่า บราซิล พบ เยอรมนี เวลาไทย 18.30 น. ทาง PPTV
จากนั้นพิธีเปิดที่โอลิมปิก สเตเดียม กรุงโตเกียว วันที่ 23 กรกฎาคม จะมีการถ่ายทอดสดผ่านทาง 3 ช่อง ประกอบด้วย True4U, NBT และ ThaiPBS เริ่มยิงสดสัญญาภาพส่งตรงจากญี่ปุ่นเวลาไทย 18.00 น. สิ้นสุดพิธีการในช่วงเวลา 21.00 น.
ในส่วนการแข่งขันของทัพนักกีฬาไทย จะมีการถ่ายทอดสดสลับเปลี่ยนกันผ่านทาง 6 ช่องฟรีทีวี วันแรกวันที่ 24 กรกฏาคม ถ่ายทอดสดผ่านทาง GMMTV 25 และ ThaiPBS ช่วงเช้าเวลา 8.00-12.00 น.,JKN18 และ ThaiPBS ยิงสดช่วงบ่าย เวลา 14.00-18.00 น.
ทั้งนี้โปรแกรมการถ่ายทอดสดโตเกียว 2020 คอกีฬาไทยเช็กได้วันนี้ที่ https://stadiumth.com/olympic
Cr..วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์
พิมพ์ไทยออนไลน์ // “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คณะนักกีฬาจักรยานทีมชาติไทยที่ไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ “โตเกียว 2020” ชุดที่สองต่อจาก “บีซ” ร้อยโทหญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์ นักปั่นประเภทถนนหญิง คือทีมจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิ่ง ประกอบด้วย “น้องฟ้า” น.ส.ชุติกาญจน์ กิจวานิชเสถียร และ “มิ้ง” น.ส.วรัญญา แซ่แต้ นักกีฬาตัวสำรอง พร้อมด้วย “โค้ชบอส” นายอัถร ไชยมาโย ปักหลักฝึกซ้อมที่สุพรรณบุรี โดยมี มร.อดัม แครี่ย์ ผู้ฝึกสอนชาวออสเตรเลีย กำหนดแผนฝึกซ้อมผ่านระบบออนไลน์ เนื่องจาก มร.อดัม ยังไม่กลับได้ เพราะรัฐบาลออสเตรเลียห้ามประชาชนออกนอกประเทศ ส่วน โค้ชอัถร ไชยมาโย ผู้ควบคุมดูแลการฝึกซ้อมอย่างใกล้ชิด และรายงานผลการฝึกซ้อมกลับไปให้ มร.อดัม วิเคราะห์ทุกวัน
พลเอกเดชา กล่าวว่า โอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ ชุติกาญจน์ เจอเกมที่หนักมาก คู่แข่งแต่ละชาติยุโรป, ออสเตรเลีย และอเมริกา ล้วนแต่เป็นแชมป์โลกและแชมป์รายการใหญ่ ๆ ขณะที่นักกีฬาจากเอเชียมีเพียงเจ้าภาพญี่ปุ่น กับ ชุติกาญจน์ 2 ชาติเท่านั้น อีกทั้งการเตรียมทีมฝึกซ้อมของ “น้องฟ้า” ก็มีเวลาค่อนข้างจำกัด ชุติกาญจน์ และ วรัญญา ไปแข่งขันรายการ “ยูซีไอ บีเอ็มเอ็กซ์ เวิลด์คัพ ซูเปอร์ครอส” ที่กรุงโบโกตา โคลอมเบีย เมื่อวันที่ 29-30 พฤษภาคม กลับมากักตัวเป็นเวลา 14 วัน จนถึงวันที่ 17 มิถุนายน มีเวลาฝึกซ้อมประมาณ 1 เดือนเท่านั้น

นายกสองล้อไทย กล่าวอีกว่า การแข่งขันบีเอ็มเอ็กซ์ในโอลิมปิกเกมส์ 2020 ประเภทเรซซิ่งหญิง มีนักกีฬาเข้าชิงชัยจำนวน 24 คน ระหว่างวันที่ 29-30 กรกฎาคม ที่สนามบีเอ็มเอ็กซ์ภายในกรุงโตเกียว โดยวันที่ 29 กรกฎาคม รอบคัดเลือก วันที่ 30 กรกฎาคม รอบชิงชนะเลิศ ตั้งเป้าหมายขอให้ ชุติกาญจน์ เข้ารอบลึกที่สุด ขณะที่ “บีซ” ร.ท.หญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์ ประเภทถนนหญิง วันที่ 25 กรกฎาคม วันเดียวจบ ระยะทาง 137 กม. เป้าหมายคือ จบแบบมีอันดับ หากจะให้ติด 1 ใน 10 อันดับแรก คงค่อนข้างยาก นักกีฬาทั้ง 2 คน มีความมุ่งมั่นจะทำผลงานให้ดีที่สุด ขอให้พี่น้องชาวไทยช่วยส่งแรงใจเชียร์นักกีฬาในโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ด้วย
“โค้ชบอส” นายอัถร เปิดเผยว่า ตอนนี้สภาพร่างกายของ ชุติกาญจน์ และ วรัญญา มีความสมบูรณ์เต็มร้อยทั้งคู่ แม้ว่า ชุติกาญจน์ จะยังมีอาการบาดเจ็บที่บริเวณนิ้วก้อยมือซ้าย เพราะเกิดอุบัติเหตุ แข่งขันที่ประเทศโคลอมเบีย แต่ไม่เป็นปัญหาหรืออุปสรรคการซ้อมที่ผ่าน ๆมา ตนปรึกษาหารือกับ อดัม แครี่ย์ โค้ชชาวออสเตรเลีย ทุกวัน โดยเน้นการแก้ไขจุดข้อบกพร่องของ ชุติกาญจน์ คือเทคนิคการกระโดด และการทำสมาธิการออกตัว สลับกับการเล่นฟิตเนสในโรงยิม เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กล้ามเนื้อ ส่วนสภาพสนามแข่งขัน นักกีฬาบีเอ็มเอ็กซ์ไทยไปแข่งขันปรีโอลิมปิกเกมส์ เมื่อปลายปี 2563 จัดว่าเป็นสนามที่ไม่ยากมากนัก เพราะนักกีฬาเจอสนามที่ยากกว่านี้มาแล้ว เป้าหมายคือพยายามให้นักกีฬาผ่านเข้ารอบลึก ๆ ให้ได้

สำหรับคณะนักกีฬาจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ทีมชาติไทย จะเดินทางไปยังกรุงโตเกียว ช่วงค่ำของวันที่ 21 กรกฎาคม ด้วยสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ JL034 จากสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 21.55 น. ใช้เวลา 6 ชั่วโมง 15 นาที ถึงสนามบินฮาเนดะ กรุงโตเกียว เช้าวันที่ 22 กรกฎาคม เวลา 06.10 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยนักกีฬาและผู้ฝึกสอนทั้ง 3 คน จะเข้าพักอยู่ภายในหมู่บ้านนักกีฬา
ด้านความเคลื่อนไหวของ “บีซ” ร.ท.หญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์ นักปั่นประเภทถนนหญิง เมื่อวันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม ที่ผ่านมา “โค้ชตั้ม” พันจ่าอากาศเอก วิสุทธิ์ กสิยะพัท ผู้ฝึกสอนคู่ใจ ได้ให้ จุฑาธิป ซ้อมตามแผนของ โค้ชลี เสี่ยว เล่อ ผู้ฝึกสอนชาวจีน ด้วยการปั่นระยะทาง 60-70 กม. โดยไม่เร่งความเร็วมากนัก ให้รักษาระดับการเต้นของหัวใจอยู่ในโซน 2 ซึ่ง “โค้ชตั้ม” เลือกเส้นทางให้ จุฑาธิป ปั่นภายในสนามแข่งขันรถยนต์ฟูจิ สปีดเวย์ เส้นชัยของการแข่งขัน โดยสภาพสนามมีเนินสูง-ต่ำสลับกันตลอดทาง
“โค้ชตั้ม” กล่าวว่า สำหรับการฝึกซ้อมวันที่ 20 กรกฎาคม ได้ขับรถยนต์ประจำทีมพา จุฑาธิป ข้ามไปเมืองใกล้ กับกรุงโตเกียว เพื่อให้ จุฑาธิป ปั่นข้ามภูเขาลูกใหญ่ ระยะทางประมาณ 100 กม. แข่งขันทั้งหมดระยะ 137 กม.วันแรก วันที่ 17 กรกฎาคม ซ้อมระยะสั้น ๆ 30 กม.วันที่ 18 กรกฎาคม ซ้อมปั่นขึ้นภูเขาช่วงสุดท้าย วันที่ 19 กรกฎาคม ซ้อมภายในฟูจิ สปีดเวย์ และวันที่ 20 กรกฎาคม ซ้อมขึ้นภูเขาเส้นทางช่วงแรกการแข่งขัน จุฑาธิป ปรับเวลาการฝึกซ้อมเริ่ม 11.00 น. ทุกวัน เพื่อปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศ เริ่มเวลา 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น
สำหรับ “บีซ” จุฑาธิป และ โค้ชวิสุทธิ์ เจ้าภาพตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ทุกวัน ผลการตรวจปรากฏว่าเป็น “ลบ” ทั้งสองคน
Cr..วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์
พิมพ์ไทยออนไลน์//ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีความรุนแรงและแพร่ระบาดไปทั่วทุกมุมของประเทศ ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อมีจำนวนมากขึ้น ในทุกๆวัน ในครั้งนี้มูลนิธิพระยูไลไภษัชย์สงเคราะห์ วัดธรรมปัญญารามบางม่วง โดยการนำขององพจนกรโกศลเจ้าอาวาสวัดธรรมปัญญารามบางม่วงและประธานมูลนิธิพระยูไลไภษัชย์สงเคราะห์ ได้เห็นถึงความทุกข์ยากลำบากของประชาชนทั่วไป ที่ได้รับผลกระทบทั้งทางร่างกายและจิตใจ
ไม่ว่าจะเป็นการติดโรคระบาด รอเตียง รักษาตัวที่บ้าน บ้างก็วิตกกังวลกลัวติดเชื้อ จนไม่กล้าดำเนินชีวิต ประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ ด้วยเหตุนี้จึงได้ทำโครงการพระยูไลช่วยภัยโควิด ด้วยการเปลี่ยนวัดเป็นโรงทานยาสมุนไพรและ
ได้จัดพิธีสวดมนต์บูชาบารมีพระยูไลไภษัชย์(พระพุทธเจ้าหมอยา)อธิษฐานบารมีลงมาที่ยาสมุนไพร เพื่อแจกให้กับผู้ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อผู้ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อรวมไปจนถึงผู้ป่วยที่อยู่ในระยะเริ่มต้น เพื่อบรรเทาอาการติดเชื้อในเบื้องต้นและเป็นขวัญกำลังใจให้กับผู้คนในยามยากแบบนี้
องพจจนกรโกศล กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่เราทุกคนสามารถช่วยเหลือกันได้ ใครมีสมุนไพรที่ปลูกที่บ้านอย่างฟ้าทะลายโจร ก็บริจาคได้ที่วัดได้เลย หรือว่าจะร่วมทำบุญเป็นปัจจัยเพื่อให้ทางมูลนิธิไปจัดหามาเพื่อแจกเป็นทานก็สามารถทำได้ ส่วนใครที่ต้องการรับเพราะเป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อกลุ่มผู้ใกล้ชิดผู้ป่วย หรือผู้ที่ติดเชื้อในช่วงระยะแรก ก็สามารถติดต่อขอรับยาสมุนไพรที่วัดได้เลย ด้วยมหาปณิธานแห่งองค์พระยูไลไภษัชย์และมหาเมตตามหากรุณาอันเป็นปณิธานแห่งองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม ขอให้ทุกชีวิตผ่านพ้นจากวิกฤตการณ์อันเลวร้ายจากโรคระบาดในครั้งนี้ได้โดยปลอดภัยด้วย เทอญ
นี่ก็เป็นอีก1กิจกรรมที่แสดงให้เห็นถึงความร่วมแรงร่วมใจกันในยามยากผู้ที่มีแบ่งปันให้กับผู้ขาดแคลนและพร้อมที่จะช่วยกันเพื่อให้ทุกคนผ่านพ้นวิกฤตการณ์ในครั้งนี้ไปได้โดยปลอดภัยและรับผลกระทบให้น้อยที่สุด
กิจกรรมพระยูไลต้านภัยโควิดโรงทานยา แจกฟรี!!! #สมุนไพรสู้ภัยโควิด
ติดต่อได้ที่วัดธรรมปัญญารามบางม่วง
Facebook: วัดธรรมปัญญารามบางม่วง
ผู้ควบคุมสูตรตำรับโดยคุณหมอ สมร บูรณะโอสถบว.13495 บภ.14443
*แจกให้กับผู้ที่ป่วยและผู้ที่มีความเสี่ยงสูง** ผู้ที่สนใจร่วมสมทบทุนกิจกรรม สามารถติดต่อร่วมบุญได้ที่
099-7131891 องสมุห์ณัฐกิจ ประธานโครงการฯ ธนาคารทหารไทยธนชาต (ttb) เลขบัญชี 297-2069724
ชื่อบัญชี ตามรอยพระโพธิสัตว์
สนับสนุนโดย มูลนิธิพระยูไลไภษัชย์สงเคราะห์ จ.นครปฐม
—ขอให้พบยาดี ยาหลวงพ่อหมอยา หายทุกข์โศกโรคภัย—:Cr;มณสิการ รามจันทร์
พิมพ์ไทยออนไลน์//โรงแรมเฮอริเทจ เชียงรายจัดโปรโมชั่นพิเศษ‼️ จองห้องพัก 1 คืน แถมอีก 1 คืนฟรี💥
🎁สิทธิพิเศษสำหรับ‼️
• ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 1 เข็ม
• ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม
• ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม 2 เข็ม
• แสดงผลตรวจโควิด-19 ไม่เกิน 72 ชั่วโมง
📌รายละเอียดห้องพัก – ราคานี้สำหรับ 2 คืน🎊
☑️ ห้องดีลักซ์ ราคา 1,900.- บาทสุทธิ พักได้ 2 ท่าน ไม่รวมอาหารเช้า
☑️ ห้องดีลักซ์ ราคา 2,400.- บาทสุทธิ รวมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน
☑️ ห้องเฮอริเทจ สวีท 1 ห้องนอน ราคา 3,800.- บาทสุทธิ รวมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน
✅ จอง: วันนี้ – 30 ก.ย 2564
✅ เข้าพัก: วันนี้ – 31 มี.ค 2565
เงื่อนไข กรุณาแสดงเอกสารได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว
☎️ สอบถามเพิ่มเติมหรือสำรองห้องพักได้ที่
โทร. +66 5205 5888 และ +66 63 474 8673
Inbox Facebook Heritage Chiangrai
พิมพ์ไทยออนไลน์//ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) โดย นางสาวศตกมล วรกุล (ซ้าย) ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทนมอบอาหารว่าง เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติงานดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 ที่ศูนย์แรกรับและส่งต่อผู้ป่วยโควิด-19 กระทรวงสาธารณสุข อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ โดยมี นายแพทย์อาคม ชัยวีระวัฒนะ (ขวา) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมะเร็งชลบุรี ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์แรกรับและส่งต่อฯ เป็นผู้รับมอบ ณ ห้องประชุมศุภชลาศัย สนามกีฬาแห่งชาติ เมื่อเร็ว ๆ นี้ :Cr;มณสิการ รามจันทร์
พิมพ์ไทยออนไลน์ // วงการรับเหมาแฉประมูลก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ 7.8 หมื่นล้านส่งกลิ่น ส่อล็อคสเปกหวังประเคนรับเหมายักษ์แบ่งเค้ก ผุดทีโออาร์(TOR) สุดพิสดารเจริญรอยตามรถไฟฟ้าสายสีส้ม ล็อคเป้าพิจารณาด้านเทคนิค+ราคาประกอบอ้างต้องได้รับเหมามืออาชีพ ทั้งที่ตั้งเกณฑ์ด้านเทคนิคไว้สูงลิ่วอยู่แล้ว คงเห็นมหกรรมมั่วตุ้มในการบริหารจัดการกับวิกฤตไวรัสโควิด -1 ของรัฐบาลและ ศบค.ล่าสุดที่มีการสลับและไขว้วัคซีนที่จะฉีดให้ประชาชนกันให้ยุ่งขิง จึงทำให้กระทรวงคมนาคมหันไปผุดเกณฑ์ประมูลรับเหมาก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า สุดพิสดารตามบ้าง โดยผู้สื่อข่าวรายงานถึง โครงการประมูลก่อสร้างรถไฟฟ้า สายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ(วงแหวนกาญจนาภิเษก) ระยะทาง 23.6 กม.วงเงินลงทุน 101,112 ล้านบาทของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) จึงจ่อเจริญรอยตามบ้าง โดยโครงการดังกล่าวแยกเป็นระบบงานโยธา 78,813 ล้านบาท ค่าเวนคืน 15,913 ล้านบาท การก่อสร้างทดแทนหน่วยงานที่ได้รับผลกระทบ 1,335 ล้านบาทและค่าเผื่อเหลือเผื่อขาด 3,582 ล้านบาท


ล่าสุด การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ออกประกาศประกวดราคาก่อสร้างระบบงานโยธา วงเงิน 78,813 ล้านบาทไปเมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา มีกำหนดขายซองตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.-ถึงวันที่ 7 ต.ค.2564 และมีกำหนดให้เอกชนเข้ายื่นซองข้อเสนอในวันที่ 8 ต.ค.ศกนี้ โดยนอกจากจะแบ่งเนื้องานโครงการออกเป็น 6 สัญญาแล้ว ยังมี่การกำหนดเงื่อนไขการพิจารณาเพิ่มเติมที่ผิดแผกแตกต่างไปจากการประมูลโครงการเมกะโปรเจ็กต์อื่น ๆ ด้วย
(ทั้ง 6 สัญญาในโครงการนี้ ประกอบด้วย สัญญาที่ 1 งานออกแบบและก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่งและสถานีใต้ดิน ช่วงเตาปูน-หอสมุดแห่งชาติ ระยะทาง 4.9 กม.และสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน 3 สถานี ราคากลาง 18,574.868 ล้านบาท สัญญาที่ 2 ช่วงหอสมุดแห่งชาติ-ผ่านฟ้า ระยะทาง 2.3 กม. และสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน 3 สถานี ราคากลาง 15,155 ล้านบาท
สัญญาที่ 3 ช่วงผ่านฟ้า-สะพานพุทธ ระยะทาง 3.1 กม. และสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน 2 สถานี ราคากลาง 14,452.35 ล้านบาท สัญญาที่ 4 ช่วงสะพานพุทธ-ดาวคะนอง เป็นงานออกแบบควบคู่การก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่ง ช่วงสะพานพระพุทธยอดฟ้า-ดาวคะนอง ระยะทาง 4 กม. และสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน 2 สถานี ราคากลาง 14,337 ล้านบาท สัญญาที่ 5 ช่วงดาวคะนอง-ครุใน พร้อมอาคารจอดรถไฟฟ้าและอาคารจอดแล้วจร ราคากลาง 12,769 ล้านบาท และสัญญาที่ 6 งานออกแบบและก่อสร้างวางระบบรางรถไฟฟ้าตลอดแนวเส้นทาง ราคากลาง 3,423 ล้านบาท )
แหล่งข่าวในวงการรับเหมา เปิดเผยว่า แม้โครงการดังกล่าว จะมีการแบ่งแยกเนื้องานออกเป็น 6 สัญญาเช่นเดียวกับโครงการรถไฟทางคู่ของการรถไฟฯ มูลค่ากว่า 1.28 แสนล้านบาทก่อนหน้า แต่ รฟม.มีการกำหนดเงื่อนไขการประมูลเพิ่มเติมที่แตกต่างไปจากการประมูลโครงการรถไฟทางคู่ และโครงการเมกะโปรเจกต์อื่นๆ โดยกำหนดเกณฑ์พิจารณาผู้ชนะการประมูลแต่ละสัญญาจากข้อเสนอด้านเทคนิค และราคาประกอบกันในสัดส่วน 30-70 ซึ่งถอดแบบมาจากการประมูลสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีส้ม มูลค่า 1.427 แสนล้านของรฟม.ก่อนหน้าทุกกระเบียดนิ้ว ด้วยข้ออ้างเป็นโครงการใหญ่ที่มีความซับซ้อน ต้องอาศัยเทคโนโลยีชั้นสูงในการก่อสร้าง จำเป็นต้องได้ผู้รับเหมาที่มีศักยภาพ
“การกำหนดเงื่อนไขดังกล่าว เป็นมหกรรมปาหี่หวังประเคนโครงการให้กับผู้รับเหมาบางรายหรือไม่เพราะข้ออ้างของ รฟม.ที่อ้างว่าโครงการนี้เป็นโครงการใหญ่ที่มีความซับซอนต้องใช้เทคโนโลยีชั้นสูง จำเป็นต้องได้ผู้รับเหมาที่มีศักยภาพนั้น ในข้อเท็จจริงเงื่อนไขการประมูลได้กำหนดเกณฑ์ชี้ขาดอันเข้มข้นไว้อยู่แล้ว โดยกลุ่มบริษัทรับเหมาที่จะผ่านเกณฑ์ด้านเทคนิคจะต้องมีคำแนนประเมินด้านเทคนิคในแต่ละหัวข้อไม่น้อยกว่า 80 คะแนน และคะแนนรวมด้านเทคนิคต้องไม่ต่ำกว่า 85 คะแนน ซึ่งถือเป็นเกณฑ์พิจารณาที่เข้มข้นอยู่แล้ว จึงไม่เข้าใจว่าเหตุใด รฟม.จึงไปกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมให้ทอนคะแนนด้านเทคนิคที่ได้ลงมาเหลือ 30 คะแนน แล้วไปพิจารณาข้อเสนอทางการเงินประกอบอีก 70% กลายเป็นการเปิดช่องให้กรรมการคัดเลือกสามารถบวกเพิ่มคะแนนให้กับกลุ่มทุนรับเหมารายใดก็ได้ แม้จะพ่ายคะแนนด้านเทคนิค ก็ยังมีคะแนนช่วยด้านราคาได้อีก”
แหล่งข่าวกล่าวว่า การกำหนดเงื่อนไขหมกเม็ดดังกล่าว ได้เคยสร้างปัญหายุ่งยากให้กับ รฟม.มาแล้วจากการประมูลหาเอกชนเข้าร่วมลงทุน (PPP) โครงการรถไฟฟ้า สายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี(สุวินทวงศ์) วงเงินลงทุนกว่า 1.427 สานล้านบาท เพราะถูกบริษัทรับเหมาเอกชนที่เช้าร่วมประมูลยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง และศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ เนื่องจากเป็นการกำหนดเงื่อนไขที่ไม่โปร่งใส เต็มไปด้วยความย้อนแย้งจนทำให้โครงการรถไฟฟ้า สายสีส้มคาราคาซังมากกว่าขวบปี จนป่านนี้ รฟม.ยังไม่สามารถหาผู้ชนะประมูลเข้าร่วมลงทุนในโครงการได้


ก่อนหน้านี้ คณะรัฐมนตรี(ครม.)เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.64 เพิ่งจะมีมติให้หน่วยงานของรัฐที่มีโครงการจัดซื้อจัดจ้าง ต่าง ๆ หรือมีโครงการร่วมลงทุนกับเอกช จะต้องนำโครงการเข้าทำสัญญาข้อตกลงคุณธรรม(Integrity Pact)เพื่อสนับสนุนให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต รวมถึงสร้างความโปร่งใสในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ แต่กระทรวงคมนาคมและ รฟม.ที่เพิ่งออกประกาศประกวดราคาประมูลก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า สายสีม่วงใต้ กลับทำเป็นทองไม่รู้ร้อนไม่มีแผนจะดำเนินการตามมติ ครม.ดังกล่าว จึงเป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้เร่งเข้ามาตรวจสอบการประมูลโครงการนี้อย่างใกล้ชิด หาไม่แล้วอาจลงเอยเช่นเดียวกับการประมูลรถไฟทางคู่ มูลค่ากว่า 1.28 แสนล้านบาทของการรถไฟฯที่ผลประมูลที่ได้นั้นพบว่าบริษัทรับเหมาที่เข้าร่วมประมูลโครงการจำนวน 5 รายใน 5 สัญญานั้นรวมหัวกันเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางเพียง 30-40 ล้านบาทหรือแค่ 0.08% ของมูลค่าโครงการเท่านั้น ทั้งที่โครงการดังกล่าวมีมูลค่ากว่า 1.28 แสนล้านบาท.