วันเสาร์, มิถุนายน 7, 2025

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรก บล็อก หน้า 1417

“บิ๊กโก” กำชับทีมงานดูแล “ศรีสะเกษ” ลัดฟ้าทวงเข็มขัดโลก WBC

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// “เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น อดีตแชมป์โลก WBC รุ่นซูเปอร์ฟลายเวต (115 ปอนด์) 2 สมัย วัย 36 ปี ได้คิวขึ้นชิงแชมป์โลก WBC รุ่นซูเปอร์ฟลายเวต (ที่ว่าง) กับคู่ปรับเก่า “ไอ้หลังลาย” คาร์ลอส คูเอดราส ชาวเม็กซิกัน วัย 33 ปี วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ Footprint Arena สนามบาสเกตบอลของทีมฟีนิกซ์ ซัน เมืองฟีนิกซ์ รัฐอริโซนา สหรัฐอเมริกา ในฐานะคู่เอกของรายการ ซึ่งตรงกับเช้าเวลา 9.00 น. วันที่ 6 กุมภาพันธ์ ตามเวลาเมืองไทย ด้าน “บิ๊กโก” พล.ต.อ.โกวิท ภักดีภูมิ รองประธานสภามวยโลก สั่งทีมงานเตรียมความพร้อมเดินทางไปส่ง และให้กำลังใจคว้าแชมป์โลกเป็นสมัยที่ 3

ที่สำนักงานสภามวยแห่งเอเซีย (WBC Asia) เมื่อวันที่ 21มกราคมที่ผ่านมา “บิ๊กโก” พล.ต.อ.โกวิท ภักดีภูมิ ให้ทีมงานเตรียมความพร้อมเดินทางไปส่งและให้กำลังใจ ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น รองแชมป์โลกอันดับ 1 สถิติการชก ชนะ 50 (น็อก 43) แพ้ 5 เสมอ 1 ขึ้นชิงแชมป์โลก WBC รุ่นซูเปอร์ฟลายเวต เป็นสมัยที่ 3 ในการชกกับ คาร์ลอส คูเอดราส รองแชมป์โลกอันดับ 3 สถิติการชก ชนะ 39 (น็อก 27) แพ้ 4 เสมอ 1 ที่ “เจ้าแหลม” เคยแพ้และเสียแชมป์โลกสมัยแรกแบบน่ากังขา เมื่อปี 2014 ที่เม็กซิโก
ไฟต์นี้เป็นการหวนกลับมาของศรีสะเกษกับคูเอดราส ตลอดระยะเวลา 7 ปี ที่รอคอย จากอุบัติเหตุหัวชนกัน จนคูเอดราสมีแผลแตกเหนือคิ้วเล็กน้อยในยก 8 โดยกรรมการสั่งยุติการชกรวมคะแนนตัดสิน แล้วให้คูเอดราสเป็นฝ่ายชนะคะแนนเอกฉันท์ไป (77-74 , 78-73 ,77-75) ทั้งที่คูเอดราส กำลังเพลี่ยงพล้ำโดนไล่ถลุงอาการไม่สู้ดี

นอกจากนี้ สภามวยโลกยังสั่งให้ผู้ชนะระหว่างศรีสะเกษกับคูเอดราส ป้องกันแชมป์โลกกับ ผู้ชนะระหว่าง ฮวน ฟราสซิสโก เอสตราดา ชาวเม็กซิโก แชมป์เกียรติยศ WBC หรือ แชมป์โลกแฟรนไชส์ ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นพิเศษ ศึกไตรภาค เป็นครั้งที่ 3 กับ โรมัน กอนซาเลซ ยอดนักชกนิการากัว รองแชมป์โลกอันดับ 2 กำหนดชก วันที่ 5 มีนาคม 2565 ที่สหรัฐอเมริกา
สำหรับศรีสะเกษ จะออกเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ เที่ยวบิน JL708 เวลา 8.05 น. ของวันที่ 26 มกราคมนี้ มุ่งหน้าสู่สนามบินนาริตะ ญี่ปุ่น ก่อนต่อไปยังอเมริกา

Cr..วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

 

 

“เทนนิส” เปิดศึกคัดทีมชาติชุดใหญ่ มือวางประเดิมชัยถ้วนหน้า

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// สมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย จัดการแข่งขันคัดเลือกนักเทนนิส เพื่อเตรียมความพร้อมทีมชาติไทยชุดใหญ่ ประจำปี 2565 ที่ ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 21 ม.ค. เป็นวันแรก โดยจัดภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เพื่อคัดเอานักเทนนิสชาย 8 คน และหญิง 8 คน เข้าสู่ชุดเตรียมความพร้อมสำหรับทีมชาติไทยชุดใหญ่
ประเภทชายเดี่ยว รอบแรก (สาย 64 คน) ใช้ระบบน็อกเอาท์ หรือแพ้คัดออก บรรดานักหวดมือวางของรายการต่างคว้าชัยได้สำเร็จ โดยคู่ที่น่าสนใจ ชาญไชย สุขตนเอง นักหวดหนุ่ม กทม. มือวางอันดับ 2 ของรายการ โชว์ความแข็งแกรง เก็บชัยชนะเหนือ พาทิศ เกียรติไทยพิพัฒน์ จาก กทม. 2-0 เซต 6-0, 6-0 ชาญไชย ผ่านเข้ารอบสองพบ ชวิน มูฮำหมัด จาก กทม. ชนะผ่าน เกรทกลอรี่ นิตยเมฆินทร์ จากพิษณุโลก
ด้าน กฤติน โกยกุล นักเทนนิสหนุ่มพังงา มือวางอันดับ 6 ของรายการ ก็ฝ่าด่านผ่านเข้ารอบสอง หลังจากหวดเอาชนะ รชตะ ธรรมเจริญสถิต จาก กทม. 2-0 เซต 6-4, 6-1 และรอบสอง กฤติน พบกับ วีรวัฒน์ ขันติวีรวัฒน์ จากขอนแก่น ชนะผ่าน ดานี่ บาราทท์ จากชลบุรี

ผลคู่อื่น ชายเดี่ยว รอบแรก ธนเพชร ฉันทะ (มือวาง5-ประจวบคีรีขันธ์) ชนะ ธีรภัทร ขันติวีรวัฒน์ (ขอนแก่น) 6-1, 6-1 ณัฐสิทธิ์ กุลสุวรรณ์ (มือวาง7-กาญจนบุรี) ชนะ กันตพงศ์ เพชรเลิศอนันต์ (กทม.) 6-0,6-0 จิรัฏฐ์ นวสิริสมบูรณ์ (มือวาง9-กทม.) ชนะ วงศ์วรัณ วงศ์เจริญ (สุราษฎร์ธานี) 6-2, 6-3 กันตินันท์ สูตินันท์โอภาส (ลำปาง) ชนะ ณฐวรรธน์ จุลวิชิต (กทม.) 6-0, 6-0 ขณะที่ คงทรัพย์ คงคา (มือวาง1-กทม.) ได้บาย ชญานนท์ แก้วสุทอ (มือวาง3-สระบุรี) ชนะ ปกรณ์พัฒน์ อารีรัชชกุล (กทม.) 6-1, 6-2 นพดล น้อยกอ (มือวาง4-พิจิตร) ชนะ จิตรภานุ โทสมบูรณ์ (อุดรธานี) 6-1, 7-5 ณัฏฐญุตม์ นิธิธนนนต์ (อุดรธานี) ชนะผ่าน เดเมี่ยน คาร์ดด๊อก (ชลบุรี)
นาธัน จัตวาพรวนิช (กทม.) ชนะ ภูดิท เกียรติไทยพิพัฒน์ (กทม.) 6-0, 6-0 ณัฐดนัย สินเจริญวัฒนา (ชุมพร) ชนะ รัชพล สง่าเพิ่มพูน (กทม.) 6-1, 6-3 อกนิษฐ์ พุ่มจิตร (เพชรบุรี) ชนะ ธรรมรัฐ คำชัย (เชียงใหม่) 6-0, 6-1 ธนกร ศรีรัตน์ (กทม.) ชนะ ปัณณธร สุกสด (กทม.) 6-1, 6-2 กิติรัตน์ เกิดลาภี (กทม.) ชนะ มารุต เกล้ากลาง (สมุทรปราการ) 6-4, 6-2 เฮนดริก โกรฮ์บรึกเกอร์ (กทม.) ชนะ สิรภพ แสงเจริญ (กทม.) 6-0, 6-0 สำหรับผลคู่อื่น ดูรายละเอียดได้ที่ https://www.tour.ltat.org/tournaments-draws-MTA0NA==.html

Cr..วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

 

 

จับพิรุธ!ปฏิบัติการกคช.ยึดบ้านเอื้ออาทร “เทพารักษ์4” ระวัง!บทเรียนซ้ำรอย “ค่าโง่โฮปเวลล์ ”

0

พิมพ์ไทยออนไลน์ // เรื่องของการทุจริต “โครงการบ้านเอื้ออาทร”นั้น คงไม่ต้องท้าวความอะไรกันให้มากความ เพราะปลายปีก่อน2563 “ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” เพิ่งมีคำพิพากษาฟันทุจริตอดีตรัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) และพรรคพวกนับสิบคน กรณีเรียกสินบนการดำเนินโครงการ และปล่อยให้ลิ่วล้อบริวารแฝงเข้ามาหากินอย่างเอิกเกริก สั่งจำคุกกราวรูดตั้งแต่ 4 ปีไปจนถึง 99 ปี

น้ำลด ตอผุด “เอื้ออาทร เทพารักษ์4”

แต่ควันหลงจากคดีทุจริตโครงการยังไม่หมดแค่นั้น ยังมีคดีความอีกหลายสิบคดี ที่ยังขุดกันออกมาไม่หมด หนึ่งในคดีความที่โผล่ขึ้นมาล่าสุด เป็น”น้ำลดตอผุด”นั้นก็คือ โครงการบ้านเอื้ออาทร “เทพารักษ์ 4” ที่จังหวัดสมุทรปราการที่ล่าสุดนั้น ผู้บริหารบริษัทเอกชนคู่สัญญาเข้ายื่นเรื่องร้องทุกข์ต่อกรมสอบ
สวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้ดำเนินคดีกับบอร์ดและฝ่ายบริหารกคช.กราวรูด จากการส่งเจ้าหน้าที่และกลุ่มบุคคลเข้ายึดโครงการ ทั้งที่ยังมีข้อพิพาทคาราคาซังอยู่ในชั้นศาล แถมยังจ่อจะฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตฯ ตามมาอีกคดี

ทั้งนี้ จากการย้อนรอยตรวจสอบโครงการบ้านเอื้ออาทรเทพารักษ์ 4 พบว่า โครงการนี้การเคหะฯไม่ได้ทำสัญญาจ้างรับเหมาเอกชนเข้ามาก่อสร้างบ้านเอื้ออาทรอย่างที่เข้าใจกัน แต่ดันจัดทำเป็นโครงการ “ร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน” ที่กำหนดให้บริษัทเอกชนคู่สัญญาต้องดำเนินการจัดหาที่ดิน แหล่งเงินและดำเนินการก่อสร้างโครงการตามเงื่อนไขที่การเคหะฯกำหนด โดยการเคหะจะทยอยจ่ายเงินงวดคืนให้ตามสัญญา

แต่การดำเนินการได้เกิดมีปัญหาจนต้องเลิกกลางครัน ซึ่งไม่ได้มีแต่โครงการนี้ แต่ยังมีโครงการบ้านเอื้ออาทรอีกหลายแห่งที่มีปัญหาและชะตากรรมแบบเดียวกัน บางโครงการปล่อยทิ้งร้างเสียด้วยซ้ำอย่างที่การเคหะปราจีนบุรีนั่น

ถอดบทเรียน”ค่าโง่โฮปเวลล์

แต่เมื่อเป็นโครงการร่วมลงทุน จึงไม่ใช่เรื่องที่หน่วยงานรัฐคู่สัญญานึกจะฉีกสัญญา หรือส่งเจ้าหน้าที่ ส่งคนเข้าไปบุกยึดโครงการกันดื้อๆ นั้นไม่สามารถทำได้ เพราะรัฐบาลเคยมีบทเรียนที่ต้องจ่าย “ค่าโง่”กันบานทะโรคเป็นหมื่น ๆ ล้านจากการบอกเลิกสัญญาสัมปทาน และยึดโครงการพิพาทในลักษณะนี้กันมาแล้ว

นั่นก็คือ “โครงการโฮปเวลล์”มูลค่ากว่า 8 หมื่นล้านบาท ที่กระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)ใช้สิทธิ์บอกเลิกสัญญา หลังจากเห็นว่าการก่อสร้างมีความล่าช้าไม่เป็นไปตามสัญญา จึงใช้สิทธิ์บอกเลิกสัญญาดื้อๆ พร้อมสั่งห้ามคู่สัญญาเอกชนเข้าใกล้พื้นที่ ก่อนจะลุยทุบตอม่อโฮปเวลล์ทิ้ง
เพื่อผุดโครงการรถไฟฟ้า สายสีแดงที่เห็นในปัจจุบันนั่นแหละแทน

อย่างไรก็ตาม ฟากฝั่งคู่สัญญาเอกชนนั้น ได้ลุกขึ้นมาร้องแรกแหกกระเชอจากการถูกฉีกสัญญาอย่างไม่เป็นธรรม มีการยื่นเรื่องสู่สำนักงานอนุญาโตตุลาการและฟ้องร้องกันนัวเนียตามมาไม่รู้กี่คดี ก่อนที่ในท้ายที่สุดศาลปกครองสูงสุดจะมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 22 เม.ย.2562 สั่งให้การรถไฟฯและกระทรวงคมนาคมจ่ายชดใช้ค่าเสียหายแก่บริษัทเอกชนคู่สัญญา จากการบอกเลิกสัญญาโดยมิชอบนี้กว่า 25,000 ล้านบาท

กลายเป็น “ค่าโง่”ที่จนป่านนี้ทั้งกระทรวงคมนาคมและการรถไฟฯ ยังเคลียร์หน้าเสื่อไม่เสร็จ เพราะไม่รู้จะบากหน้าไปหาเงินจากไหนมาจ่ายค่าโง่ และจนป่านนี้ก็ยังคงเก็บงำเรื่องไม่ดำเนินการไล่เบี้ยหาคนผิดมาลงโทษใดๆ เสียอีก!

แกะรอยบ้านเอื้ออาทรเทพารักษ์4

มาถึงโครงการบ้านเอื้ออาทร “เทพารักษ์ 4” โครงการนี้ ที่ว่ากันตามสัญญานั้น เป็นการ “ร่วมลงทุน”ระหว่าง กคช.และบริษัทเอกชนคือ บริษัทเพียงประกายก่อสร้าง จำกัด โดยกําหนดให้บริษัทฯ จัดหาที่ดิน เงินทุนและดําเนินการก่อสร้างอาคารที่อยู่อาศัยจำนวน 125 อาคาร รวม 5,830 หน่วย บนพื้นที่รวม 125 ไร่ มูลค่าลงทุนกว่า 2,448 ล้านบาท

ความน่าสนใจของโครงการนี้ อยู่ที่เป็นโครงการบ้านเอื้ออาทรที่ใหญ่ที่สุดในเวลานั้น ทั้งยังเป็นโครงการ”แฟล็กชิพ”ที่ผู้รับเหมาใช้วิธีการก่อสร้างด้วยการก่ออิฐ ฉาบปู หล่อเสาคานในพื้นที่เลยก็ว่าได้ ขณะที่โครงการอื่นๆ ปั๊มระบบ “พรีคาสต์”กันไปหมดแล้ว

หลังเซ็นสัญญากันไปไม่ทันได้เริ่มงาน ก็นัยว่ามี “ใบสั่ง” จากระดับบิ๊กในการเคหะฯเวลานั้น บีบให้บริษัทปรับผังดำเนินโครงการ และจัดซื้อ “ที่ดินตาบอด” ติดโครงการผนวกเข้ามาด้วย รวมทั้งยังดึงเอาบริษัทรับเหมาจากภายนอกเข้ามาร่วมเป็นคู่สัญญาเพิ่มเติม เพื่อ“ชักหัวคิว”เข้าไปอีก ซึ่งบริษัทก็ได้แต่จำยอมแบบน้ำท่วมปาก ไม่เช่นนั้นก็จะถูกกลั่นแกล้ง

ใบสั่งบิ๊กเคหะฯ “ฉ้อฉล-กินหัวคิว”

เรื่องมาแดงขึ้น เพราะบริษัทเอกชนคู่สัญญาไม่สามารถจะแบกรับใบสั่งที่ต้องถูกชักหัวคิวรายวันจนทำเอางานก่อสร้างปั่วป่วน ต้องวิ่งยื่นฟ้องศาลแพ่งเพื่อให้การเคหะฯ ถอนบริษัทรับเหมาที่เอามาแปะเป็น “ปลิงดูดเลือด”ออกไป ซึ่งศาลแพ่งได้มีคําพิพากษาให้การเคหะฯและบริษัทรับเหมาที่ถูกดึงเข้ามาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้คดี เพราะจำนนด้วยเอกสารหลักฐาน ตามคำพิพากษาคดีแดงที่ 5988/2552

แต่ผลพวงจากคดีดังกล่าวก็ทำให้โครงการระส่ำ เพราะถูกผู้ใหญ่ในการเคหะฯหมายหัว และอาศัยความได้เปรียบจากความเป็นหน่วยงานรัฐเจ้าของโครงการ บีบบังคับให้บริษัทฯปรับลดขนาดโครงการลงเหลือเพียง 42 อาคาร หรือ 1 ใน 3 ของสัญญาเดิม ทั้งที่รู้อยู่ว่า จะส่งผลกระทบต่อต้นทุนก่อสร้าง และเห็นอยู่แล้วว่าในเวลานั้น บริษัทได้ก่อสร้างอาคารไปแล้วกว่า 80 อาคารโดยดำเนินการเกือบจะแล้วเสร็จไปแล้ว 42 อาคาร

ท้ายที่สุด จึงทำให้โครงการบ้านเอื้ออาทรเทพารักษ์ 4 ได้รับผลกระทบอย่างหนัก จนไม่สามารถก่อสร้างต่อไปได้ และถูกการเคหะฯ ใช้สิทธิ์บอกเลิกสัญญาไปในที่สุด ทั้งที่บริษัทยืนยันว่า ไม่ได้เป็นผู้ละทิ้งงาน และไม่ได้เป็นต้นเหตุที่ทำให้โครงการล่าช้า จึงทำให้เกิดข้อพิพาทคาราคาซังที่ฟ้องร้องกันนัวเนียมากว่า 10 ปี ปัจจุบันยังอยู่ในชั้นพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด

เคหะฯรุกคืบยึดโครงการ

การที่การเคหะฯใช้สิทธิ์บอกเลิกสัญญา(แต่ฝ่ายเดียว) โดยที่บริษัทเอกชนยืนยันว่า ไม่ได้เป็นผู้ผิดสัญญานั้น จึงทำให้คดีนี้ถูกนำขึ้นฟ้องต่อศาลปกครองและศาลปกครองสูงสุด โดยที่บริษัทยังคงยืนยันว่า ยังเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทอยู่ เพราะแม้จะมีโอนที่ดินให้แก่การเคหะฯ แต่ก็เป็นการโอนแบบมีเงื่อนไขและเป็นไปตามเงื่อนไขการร่วมลงทุนฯ เมื่อการเคหะฯประสงค์จะบอกเลิกสัญญา บริษืทจึงมองว่า ทั้งสองฝ่ายต้องกลับสู่สถานะเดิม ที่ต้อง
เลิกแล้วต่อกัน ตัวบริษัทเอกชนก็เล็งที่จะฟ้องเรียกที่ดินพิพาทคืนเพื่อนำไปพัฒนาด้านอื่นต่อ เพราะได้มีการเจรจาแหล่งเงินทุนไว้แล้ว

อย่างไรก็ตาม วันดีคืนดีฝ่ายบริหารการเคหะฯ กลับส่งเจ้าหน้าที่และดึงเอาบริษัทรับเหมาภายนอกเข้ามาปรับปรุงอาคารพิพาทที่ว่านี้ โดยแจ้งไปยังบริษัทเอกชนว่า ขอเข้าไปปรับปรุงอาคารเพียงบางส่วนเท่านั้น แต่ลึกๆ แล้ว ทุกฝ่ายต่างรู้แก่ใจกันดีว่า การเคหะฯ นั้น มีเป้าหมายจะรุกคืบยึดโครงการไปเปิด
ขายใหม่ในสิ้นเดือน ม.ค.นี้ เพราะมีการปล่อยข่าวสะพัดไปทั่วจังหวัดว่า จะเชิญ “นายกฯลุงตู่” มาเปิดโครงการเอง แม้บริษัทจะทักท้วงยืนยันไม่สามารถจะยินยอมให้ได้ เพราะที่ดินและตัวโครงการ ยังคงมีคดีความกันอยู่ก็ตาม

ระวังซ้ำรอย”ค่าโง่โฮปเวลล์”

ก็คงได้แต่เตือนไปยัง “นายกฯลุงตู่” และบอร์ดการเคหะฯ รวมไปถึงตัวผู้บริหารการเคหะที่กำลัง “ลุยกำถั่ว” ดึงผู้รับเหมารายใหม่เข้าไปบุกยึดโครงการที่ยังเป็นข้อพิพาทมาโม่แป้งต่อ โดยหวังจะเปิดขายให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อย ให้ระวังจะเป็นปฏิบัติการ “เรียกแขกให้งานเข้า”ที่อาจจบลงด้วย” ค่าโง่”แบบโครงการโฮปเวลล์เอาอีก!

เพราะบทเรียนกรณี “ค่าโง่โฮปเวลล์” ที่ผู้บริหารหน่วยงานรัฐใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบไปบอกเลิกสัญญาและรุกคืบยึดเอาโครงการเขาดื้อๆ นั้น วันนี้ไม่เพียงจะทำให้รัฐต้องเจอ “ค่าโง่”ไปกว่า 30,000 ล้านบาท ตัวผู้เกี่ยวข้องยังต้องนอนสะดุ้งไม่รู้จะต้องพาเหรดเข้าซังเตกันวันไหน!

จนป่านนี้ก็ไม่รู้รัฐบาลและการรถไฟฯจะไปหาเงินจากไหนมาจ่ายหนี้เอกชนคู่สัญญาอยู่เลย จะให้ “นายกฯบิ๊กตู่”ออกคำสั่ง ม.44 ชักดาบไม่ต้องจ่ายก็ไม่ได้อีก เพราะ ลำพังแค่ “ค่าโง่เหมืองทองคิงส์เกต” ที่ถูกคู่สัญญาเอกชนจากออสเตรเลียฟ้องหัวเอากว่า 30,000 ล้านนั้น ก็ร่ำๆ ว่า หากพ่ายแพ้คดีก็ยังไม่รู้จะ
โยนขี้ไปให้ใครแบกรับกันอยู่เลย

หากต้องมาเจอ “ค่าโง่”บ้านเอื้ออาทรอีก ก็มีหวังทั้งบอร์ดและฝ่ายบริหารการเคหะฯ ได้งานเข้ากันถ้วนหน้า และไม่ใช่แต่ “ค่าโง่”ที่อาจมีตามมา

เผลอๆ ผู้เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ ทั้ง รมต.พม.,บอร์ดและฝ่ายบริหารการเคหะฯ ที่กำลัง “สุมหัว”ทำสัญญาซ้อนสัญญาบนที่ดินพิพาทโครงการนี้ อาจได้พาเหรดกันเข้า “ซังเต” ตามรอยกรณีทุจริตบ้านเอื้ออาทรก่อนหน้านี้อีกด้วย ทำเป็นเล่นไป.

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“บุรีรัมย์ มาราธอน2022” เน้นตรวจโควิด สานต่อสู่ต้นแบบอีเว้นต์ กีฬาระดับโลกวิถีใหม่

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// บุรีรัมย์คึกคัก ต้อนรับนักวิ่งปอดเหล็กจากทั่วประเทศ สว่างไสวไปทั้งเมืองด้วยเสน่ห์อัตลักษณ์ชาวอีสานสานต่อความสำเร็จปีที่ 6 จัดไนท์รันมาตรฐานโลก เสาร์ที่ 22 ม.ค.นี้ ภายใต้มาตรการสาธารณสุขเข้มข้น ผู้ร่วมงานทุกคนได้รับวัคซีนครบโดส เน้นมาตรการ Covid Free Setting ปล่อยตัวแบบเวฟ เว้นระยะห่าง กองเชียร์ห้ามสัมผัสนักวิ่ง ผนึกกำลังบุคลากรทางการแพทย์-สาธารณสุข ประชาชนในจังหวัด มอบความสุข ความอุ่นใจและให้ความปลอดภัยแก่นักวิ่ง จัดตรวจ ATK ครั้งใหญ่ที่สุดในไทย
ความเคลื่อนไหวของการแข่งขันวิ่ง “บุรีรัมย์ มาราธอน 2022 พรีเซนเต็ดบาย เครื่องดื่มตราช้าง” ปีที่ 6 วันที่ 22 มกราคม 2565 ซึ่งจะออกสตาร์ทที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ และเข้าเส้นชัยที่สนามฟุตบอล ช้างอารีน่า จ.บุรีรัมย์
นายแพทย์พิเชษฐ พืดขุนทด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า สสจ.บุรีรัมย์ เตรียมทีม เพื่อรองรับการแข่งขัน “บุรีรัมย์ มาราธอน 2022″ วันเสาร์ที่ 22 มกราคม 2565 จะมีการเน้นมาตรการ Covid
Free Setting ตรวจคัดกรอง ATK หน้างานทุกคน ร่วมกับกลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ และบุคลากรการแพทย์และสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ โดยจัดตั้งคณะทำงานทีมเฝ้าระวัง สอบสวน ควบคุมโรคจังหวัดบุรีรัมย์ (Communicable Disease Control Unit : CDCU) เตรียมความพร้อมและต่อยอดความสำเร็จในการดำเนินงาน ด้านการแพทย์และสาธารณสุขในปีที่ผ่านมา โดยกำหนดให้นักวิ่งและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ต้องได้รับวัคซีนครบ ตรวจคัดกรองโควิด-19 (ATK) หน้างานได้ก่อน เพื่อลดความแออัด เริ่มตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม 2565 เวลา 09.00-19.00 น. และวันที่ 22 มกราคม 2565 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. จนถึงเวลาปล่อยตัวของแต่ละระยะ บริเวณสนามแข่งรถช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต

ด้านนายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิตจำกัด ฝ่ายจัดการแข่งขันฯ เปิดเผยว่า การแข่งขัน“บุรีรัมย์ มาราธอน 2022 พรีเซนเต็ดบาย เครื่องดื่มตราช้าง”จัดในรูปแบบไนท์รันเป็นปีที่ 2 และเป็นที่ 6 ของการแข่งขันบุรีรัมย์มาราธอนจากประสบการณ์ในปีที่ผ่านมาได้รับเสียงตอบรับจากบรรดานักวิ่งจำนวนมากว่าเป็นไนท์รันที่สนุกและดีที่สุดของประเทศไทย และในปีนี้ก็เช่นกัน ฝ่ายจัดฯได้จัดเตรียมความพร้อมไว้ในทุกด้าน รับฟังเสียงสะท้อนจากนักวิ่ง เพื่อนำมาปรับปรุงรายละเอียดการแข่งขันในทุกจุด“สิ่งที่เราให้ความสำคัญมากที่สุด คือ มาตรการด้านความปลอดภัยของนักวิ่ง และเจ้าหน้าที่และผู้ร่วมงานทุกคนร้านค้าที่มาออกบูธจำหน่ายสินค้าในงาน ต้องได้รับวัคซีนครบโดส ตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ทางน้ำลายซึ่งถือเป็นการตรวจจำนวนมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาของการแข่งขันวิ่ง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด รวมถึงการเตรียมการด้านอื่นๆ อย่างสุดความสามารถ เพื่อให้รายการ บุรีรัมย์ มาราธอน ยังคงรักษามาตรฐานการจัดงานวิ่งระดับโลกมอบความสุข และให้ความปลอดภัยแก่นักวิ่งทุกท่านเสมอดังเช่นที่ผ่านมา”
ส่วนการปล่อยตัว จะปล่อยแบบเวฟ จะปล่อยตัวทีละบล็อก เพื่อลดความแออัด ซึ่งในแต่ละบล็อกนักวิ่ง
ต้องเว้นระยะห่างตามมาตรการการรักษาระยะห่าง นอกจากนี้ยังเน้นย้ำให้ผู้ร่วมงานทุกคนใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ในส่วนของนักวิ่งอนุญาตให้ถอดหน้ากากอนามัยหลังปล่อยตัวจากจุดสตาร์ท และใส่หน้ากากอนามัยหลังแข่งขันเสร็จ โดยผู้จัดเตรียมหน้ากากอนามัยอันใหม่แจกให้นักวิ่งหลังเข้าเส้นชัย

นอกจากนี้การรับประทานอาหาร จะต้องอยู่ในจุดที่กำหนดตามมาตรการการรักษาระยะห่าง โดยนักวิ่ง
มาราธอนจะอยู่บริเวณสนามซ้อม Training ground ส่วนนักวิ่งระยะอื่นๆ ให้นำอาหารไปทานในสนามช้าง
อารีนา โดยจะต้องนั่งแบบเว้นระยะห่าง ทั้งนี้ฝ่ายจัดได้เตรียมอาหารของดีของขึ้นชื่อของบุรีรัมย์มากมาย รวมทั้งลูกชิ้นยืนกินนับร้อยกระทะไว้รอหลังจากเข้าเส้นชัย
“ในส่วนของกองเชียร์ปีนี้จะมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือทุกคนได้รับวัคซีนครบโดส และ
หลีกเลี่ยงสัมผัสโดนตัวนักวิ่ง บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยจรเข้มาก อีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญ ประดับประดานก
และปลาตะเพียนสานกว่า 60,000 ตัว ผลงานของ ชาวบ้านจากตำบลสะแกซำ, ตำบลเสม็ด, ตำบลสะแกโพรงและชาวบ้านหนองมะเขือ, บ้านผึ้งต้น, บ้านหนองหัวลิง รวมถึงชาวบ้านรอบๆ ที่ได้ช่วยกันทำขึ้นมา และเป็นครั้งแรกที่มีกองเชียร์ในน้ำ กลางอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มากอีกด้วย นอกจากนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ยังขนกองเชียร์ 4 ภาคสุดอลังการ เรียกว่ากองเชียร์จัดเต็มทั้งบนบกและในน้ำ ตลอดเส้นทางวิ่งประดับไฟแสงสีตระการตา พิเศษสำหรับปีนี้มีการนำเอาว่าวอันเป็นหนึ่งในอัตลักษณ์เฉพาะตัวของจังหวัด
บุรีรัมย์ มานำเสนอและจัดแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมพื้นถิ่นของจังหวัดที่งดงาม เชื่อว่านักวิ่งจะต้องได้รับ
ประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ประทับใจ และมีความสุขกับการวิ่งไปตลอดเส้นทางอย่างแน่นอน”
“ในปัจจุบันพี่น้องชาวจังหวัดบุรีรัมย์ได้รับวัคซีนไปแล้วเกินกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนพื้นที่จัดงานประชาชนได้รับวัคซีน 98 เปอร์เซ็นต์ ทำให้มั่นใจได้ว่า เมื่อประชาชนมีภูมิต้านทานจำนวนมาก และมีระบบบริหารจัดการดูแลทางสาธารณสุขอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ร่วมงานเคร่งครัดมาตรการป้องกันส่วนบุคคล จะทำให้ให้บุรีรัมย์มาราธอนเป็นต้นแบบในการจัดการแข่งขันกีฬา ที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด รวมถึงความร่วมมือกันพัฒนาการจัดงานให้ดียิ่งขึ้นในทุกปี เราจะสามารถขยับขึ้นจากมาตรฐาน Silver Label ไปเป็น Gold Label ในรูปแบบ NIGHT RUN ที่ดีที่สุดของโลกได้”

 

ทั้งนี้ “บุรีรัมย์ มาราธอน 2022 พรีเซ็นเต็ด บาย เครื่องดื่มตราช้าง” จัดในรูปแบบไนท์รัน โดยเน้นมาตรการสาธารสุขเข้มข้น แบ่งการแข่งขันเป็น 4 ระยะวิ่งได้แก่ มาราธอน ระยะทาง 42.195 ก.ม.ปล่อยตัวเวลา 18.30 น.เข้าเส้นชัยภายใน 02.00 น., ฮาล์ฟ มาราธอน ระยะทาง 21.1 ก.ม. ปล่อยตัวเวลา 20.00 น. เข้าเส้นชัยภายใน00.30 น., มินิมาราธอน ระยะทาง 10 ก.ม. ปล่อยตัวเวลา 21.00 น. เข้าเส้นชัยภายใน 23.45 น. และ ฟันรันระยะทาง 4.554 ก.ม. ปล่อยตัวเวลา 21.45 น. เข้าเส้นชัยภายในเวลา 23.30 น.
โดยวันแข่งขันวิ่ง จะจัดวันเดียวจบ ครบทุกระยะ วันที่ 22 มกราคม 2565 นอกจากนี้ยังมีการงานจัด มหกรรมสินค้าราคาพิเศษ อุปกรณ์วิ่ง Accessories จากแบรนด์ดังมากมาย บริเวณด้านหน้าสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ตั้งแต่ 10.00 น.เป็นต้นไป

Cr..วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

 

“โค้ชอ้น” หวัง “เทโร” เก็บสามแต้ม หนีโซนอันตราย

0

พิมพ์ไทยออนไลน์// ความพร้อมก่อนการแข่งขันฟุตบอลรีโว่ ไทยลีก นัดที่ 18 ระหว่าง สมุทรปราการ ซิตี้ ทีมอันดับ 14 เปิด สมุทรปราการ สเตเดียม พบกับ โปลิศ เทโร เอฟซี ทีมอันดับ 11 วันเสาร์ที่ 22 มกราคม 2565 เวลา 17.30 น.
สำหรับ สมุทรปราการเพิ่งเดินทางไกล พ่าย สงขลา เอฟซี การดวลจุดโทษ ส่วน เทโร พลิกล็อค ล้มทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ศึกช้าง เอฟเอ คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย
รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค หัวหน้าผู้ฝึกสอน โปลิศ เทโร เอฟซี กล่าวว่า “การเอาชนะ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ทำให้ทีมมีกำลังใจมากขึ้น มองว่ามันเป็นความโชคดีส่วนหนึ่ง และเกมนี้เราพยายามหมุนเวียนนักเตะด้วย เพื่อให้ตัวหลักได้พัก และมีหลายคนไม่ได้เล่นในเกมที่ผ่านมา”
“การเจอกับ สมุทรปราการ ซิตี้ ห้ามประมาทเด็ดขาด เพราะทั้งสองทีมมีความใกล้เคียงกัน ซึ่งอยู่โซนอันตรายทั้งคู่ เราต้องเตรียมตัวให้พร้อม ในเกมนี้จะขาดแนวรับสองรายคือ เฉลิมศักดิ์ อักขี และ ชุมพล บัวงาม สองแนวรับ ที่ติดโทษแบน อาจจะเป็นปัญหาของเรา”
“เราพยายามทำให้ดีที่สุดเสมอ อย่างเกมกับ โคราช ไม่สามารถตำหนินักเตะได้เลย ต้องยอมรับกับผลการแข่งขันที่เกิดขึ้น ถ้ามองรายละเอียดแล้ว เราทำได้ดี แต่แค่ทำประตูไม่ได้ ก็ต้องไปแก้ไข พยายามเก็บแต้ม เพื่อโอกาสการอยู่รอดปลอดภัย คือเป้าหมายในลีกของเราในฤดูกาลนี้”
“ส่วนบอลถ้วย มองว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ จะพยายามไปให้ลึกที่สุด ผมยังจดจำช่วงเวลาทีได้แชมป์ลีก คัพ กับ เทโร ได้ดี เราเองก็แอบหวัง อยากจะมีรางวัลอะไรที่มันชัดเจน เพื่อตอบแทนทุกคน และแฟนบอลของสโมสร”
“เกมกับสมุทรปราการ อาจจะมีความได้เปรียบเรื่องการเดินทาง แต่มีอาการล้า แต่มองว่า พวกเขาแพ้มา อยากจะหาจุดเปลี่ยน เราต้องพยายามสู้ และใช้ความได้เปรียบตรงนี้”
“ขอบคุณแฟนบอลเทโร ทุกคนเสมอ อยากให้ทุกคนมาให้กำลังใจน้องๆ ต่อไป ไม่ว่าจะเกมในบ้านหรือนอกบ้าน เกมกับโคราช ผมอยากขอโทษแทนทุกคนในทีมที่เราทำเต็มที่แล้วแต่ไม่ได้ผลที่ต้องการอยากให้ทุกคนมาเชียร์เยอะๆ”

Cr..วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

 

สำรวจบ้านเอื้ออาทร

0

http://www.natethip.com/news.php?id=4850
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

 

ผลประโยชน์บังตา!

0

http://www.natethip.com/news.php?id=4849
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

 

บีทีเอสร่วมเปิดโครงการอากาศสะอาดเขตปทุมวัน

0

http://www.natethip.com/news.php?id=4848
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

 

 

 

 

น่าจะทำตั้งนาน! พาณิชย์ลุยเช็คสต๊อกหมู

0

http://www.natethip.com/news.php?id=4847
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)