http://www.natethip.com/news.php?id=4864
Cr. : ต้นฉบับจาก สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์

(อ่านเพิ่มเติม : ลิ๊งค์เว็บไซต์-เนตรทิพย์ ออนไลน์-ด้านบน)

พิมพ์ไทยออนไลน์ // จ่อระอุทะลักแดดเป็นปรอทแตกแทรกอุณหภูมิทางการเมืองที่กำลังร้อนระอุ!

กับเรื่องที่ “สหภาพรัฐวิสาหกิจการประปาส่วนภูมิภาค (สร.กปภ.)”ออกโรงเรียกร้องให้องค์กรตรวจสอบทั้งหลายแหล่เข้ามาตรวจสอบขบวนการ “ปล้นชาติ” ในกปภ.หลังบอร์ดและฝ่ายบริหาร กปภ.เตรียมแก้ไขสัญญาสัมปทานผลิตและจำหน่ายประปากับบริษัทประปาทุมธานีจำกัด ในเครือกลุ่ม ช.การช่าง ออกไปอีก 20 ปีจากสัญญาเดิมที่จะสิ้นสุดลงในปี 2566 นี้

เป็นการมุบมิบๆต่อขยายสัญญาสัมปทานหรือไม่ จนทำเอาพนักงาน กปภ. “ลุกฮือ”ขึ้นมาร้องแรกแหกกระเชอไปทั่วสารทิศ ถึงขั้นรุกไล่ฝ่ายบริหารโดยเฉพาะตัวผู้ว่าการ กปภ. ที่ทำตัวเป็น “สนต้องลม” ยอมให้ทุนการเมืองเข้ามาล้วงตับ “บอนไซ” องค์กรตนเอง!

เพราะแต่เดิมนั้นบอร์ดกปภ.ที่มี “ปลัดฉิ่ง-นายฉัตรชัย พรหมเลิศ” ปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน มีนโยบายชัดเจนที่จะให้กปภ.ดำเนินการผลิตและจำหน่ายประปาในพื้นที่ปทุมธานี-รังสิตเอง ภายหลังสัญญาสัมปทานที่ กปภ.มีอยู่กับบริษัทเอกชนสิ้นสุดลง! ตามมติบอร์ดกปภ.เมื่อ 24 เม.ย.2562

แต่วันดี คืนดี เมื่อมีการปรับเปลี่ยนบอร์ดกปภ.ในปี 2564 ก็เกิดเรื่อง “พลิกล็อค” ช็อคซีนีม่าขึ้น เมื่อจู่ ๆ ก็มีกระแสข่าวสะพัดว่า กปภ.ได้รับนโยบายหรือ “ใบสั่ง” จากบิ๊กการเมืองที่ผู้กำกับดูแลที่ให้กปภ.รับข้อเสนอของบริษัทเอกชนคู่สัญญาที่ทำเรื่องขอขยายสัญญาสัมปทานออกไปอีก 20ปีจากที่จะสิ้นสุดในปี 2566 โดยอ้างสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ท่ามกลางความงวยงงของคน กปภ. อะไรมันจะกลับตาลปัตรกันได้ถึงเพียงนี้

เหตุนี้ จึงทำเอาคน กปภ.ลุกฮือขึ้นร้องแรกแหกกระเชอไปยังหน่วยงานต่างๆ ไล่ดะมาตั้งแต่ ป.ป.ช. ,สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน, ,ประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาผู้แทนฯ รวมทั้งล่าสุด ยังได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองและทุเลาการดำเนินการทั้งมวลของ กปภ.เอาไว้ก่อน

หากทุกฝ่ายจะได้ย้อนไปพิจารณาเส้นทางการต่อขยายสัมปทานโครงการต่างๆ เทียบเคียงกัน อย่างสัมปทานพัฒนาที่ดินรถไฟ 47 ไร่บริเวณสามเหลี่ยมพหลโยธิน (ห้าแยกลาดพร้าว) ของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) หรือที่สำนักงานทรัพย์สินเปิดประมูลสัมปทานพัฒนาที่ดินโรงเรียนเตรียมทหาร และล่าสุดที่สยามสแควร์นั้น จะเห็นได้ว่าทุกโครงการล้วนสร้างดอกผลกำรี้กำไรให้กับหน่วยงานเจ้าของโครงการกันพุงปลิ้น! ได้เม็ดเงินผลประโยชน์เข้ารัฐมหาศาลนับหมื่นล้านหรือนับแสนล้าน

แต่การต่อขยายสัญญาสัมปทานประปามูลค่านับหมื่นล้านที่กระทรวงมหาดไทยและกปภ.กำลัง“ลุยกำถั่ว” กันอยู่นี้ ทั่น รมต.มหาดไทย และผู้ว่าการกปภ.ช่วยตอบข้อกังขาของสังคมได้ไหมว่า กปภ.ได้ “ค่าต๋ง” หรือเม็ดเงินผลประโยชน์ตอบแทนอะไรมาบ้างจากการต่อขยายสัญญาสัมปทานไปถึง 20 ปี

ขอโทษ!นอกจากจะไม่ได้ค่าต๋งอะไรกลับมา เม็ดเงิน “ส่วนต่าง” จากการขายน้ำประปาจากที่กปภ.จะดำเนินการเอง กับสัญญาแก้ไขฉบับใหม่ที่กปภ.สุมหัวดำเนินการกันอยู่นี้ที่กำหนดอัตราค่าน้ำประปาไว้ตั้งแต่ 10.15 บาทขึ้นไป และปรับค่าน้ำทุกปีตามดัชนีเงินเฟ้อ CPI นัยว่ามีส่วนต่างกำรี้กำไรทะลักไปกว่า 14,400 ล้านเลยทีเดียว

กับข้ออ้างของบอร์ดและฝ่ายบริหาร กปภ.ที่ว่า การต่อขยายสัญญาสัมปทานเป็นไปตามบทบัญญัติมาตรา 46 47 และ48 แห่ง พ.ร.บ.การร่วมลงทุนฯปี2562 นั้น ก็ไม่รู้ผู้ว่า และบอร์ดกปภ.ไปหยิบยกเอามาจากไหน และได้เคยสอบถามเรื่องไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาบ้างหรือไม่?

เพราะจากการตรวจสอบเส้นทางการอนุมัติต่อขยายสัมปทานที่ว่าพบว่า “มีการดำเนินการที่ขัดแย้งและแหก พรบ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน(พีพีพี)ปี 2562 ชัดเจน”..

แม้บทบัญญัติมาตรา 46 และ 47 กำหนดให้….ในกรณีที่ต้องมีการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนให้หน่วยงานเจ้าของโครงการเสนอเหตุผล และความจำเป็นประเด็นที่ขอแก้ไข ผลกระทบและข้อมูลอื่นๆ ต่อคณะกรรมการกำกับดูแล เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนนำร่างสัญญาร่วมลงทุนฉบับแก้ไขให้ สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณา และเสนอต่อรัฐมนตรีเจ้าสังกัดพิจารณาเห็นชอบก่อนลงนาม

แต่ก็มีบทยัญัติมาตรา 49 ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการจัดทำแนวทางการดำเนินโครงการต่อเนื่องจากโครงการร่วมลงทุนภายหลังจากสัญญาร่วมลงทุนสิ้นสุดลง โดยเปรียบเทียบกรณีที่หน่วยงานของรัฐดำเนินการเอง และกรณีให้เอกชนร่วมลงทุน เสนอรัฐมนตรีเจ้าสังกัดอย่างน้อย 5 ปี ก่อนที่สัญญาร่วมลงทุนจะสิ้นสุดลง โดยให้คำนึงถึงประโยชน์ของรัฐ ความต่อเนื่องในการให้บริการสาธารณะ และผลกระทบต่อประชาชน

ในกรณีที่รัฐมนตรีกระทรวงเจ้าสังกัดกำหนดให้มีการดำเนินโครงการต่อเนื่องจากโครงการร่วมลงทุนภายหลังสัญญาร่วมลงทุนสิ้นสุดลง ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้เสมือนเป็นโครงการร่วมลงทุนใหม่

บทบัญญัติข้างต้น ยังไม่ชัดเจนอีกหรือว่าเส้นทางการดำนินโครงการนี้จะต้องเราิมที่ไหนหรือดำเนินการอย่างไร? ฯพณฯทั่น รมต.มหาดไทย และทั่นผู้ว่า กปภ.ถึง”มั่วตุ้ม”ไปหยิบยกเอาบทบัญญัติกฎหมายใดก็ไม่รู้มา “ลุยกำถั่ว” การต่อขยายสัญญาสัมปทานโครงการนี้กันดื้อ ๆ แถมยัง “ถลำลึก”ไปถึงขั้นอนุมัติจัดทำร่างสัญญาแก้ไขฉบับใหม่กันไปเรียบร้อย

เพราะบทบัญญัติมาตรา 49 ของ พรบ.ร่วมลงทุนฯบัญญัติไว้ชัดเจน “หากหน่วยงานเจ้าของโครงการและรัฐมนตรีเจ้าสังกัดกำหนดให้มีการดำเนินโครงการต่อเนื่องจากโครงการร่วมลงทุนภายสัญญาร่วมลงทุนสิ้นสุดโดยการร่วมลงทุน ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินการตามพระราชบัญญัติฉบับนี้ เสมือนเป็นโครงการลงทุนใหม่”

ซึ่งนั่นหมายถึงว่า หากจะต่อขยายสัญญาสัมปทานใหม่ภายหลังสัญญาเดิมสิ้นสุดลง กปภ.และมหาดไทยจะรวบรัดค้ำถ่อไปดำเนินการาตามมาตรา 46,47 และ 48 เลยไม่ได้ แต่จะต้องกลับไปดำเนินการเปิดประมูลโครงการนี้เสมือนกับเป็นโครงการใหม่เต็มรูปแบบเท่านั้น ไม่ใช่มุบมิบเจรจาจัดทำร่างสัญญาใหม่กันดื้อๆ ก่อน“สอดใส้” นำเสนอให้บอร์ดอนุมัติกันดื้อๆ เช่นนี้

และหากฯพณฯท่านรัฐมนตรีกระทรวงเจ้าสังกัดผู้กำกับดูแล กปภ.หรือแม้แต่บอร์ดและฝ่ายบริหารกปภ.ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ตนเองดำเนินการอยู่นั้น มันสอดคล่องกับบทบัญญัติกฎหมายหรือไม่ แหก พรบ.การร่วมลงทุนฯปี 2562 หรือไม่ ก็สามารถหารือไปยังคณะกรรการกฤษฎีกาได้อยู่แล้ว

เรื่องสำคัญขนาดนี้ พวกท่านคิดว่าจะเอาใบบัวปิดให้มิดแบบกรณี “หมูแพง” เพราะมีการปิดบังโรคระบาดอหิวาห์อาฟริกาได้หรือ?และสมควรหรือไม่ที่หน่วยงานตรวจสอบทุกองค์กรที่มี่อยู่ในประเทศนี้ จะต้องลุกขึ้นมาปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประชน ไม่ให้อ้ายอีหน้าไหนดอดมา”ชุบมือเปิบ”ผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนไปได้อีก

ส่วนใครคือ “ไอ้โม่ง” ที่อยู่เบื้องหลังดีลอัปยศที่ว่าหาก ฯพณฯ ท่านนายกฯ ลุงตู่ อยากรู้ ก็ลองสอบถาม “ทรงศักดิ์ ทองศรี” และทั่นรอง “เนติบริกร” วิษณุ กันดูเอาเองครับ.

พิมพ์ไทยออนไลน์//บริษัท เดลี่ฟู้ดส์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมข้นหวานแบรนด์ “พาเลซ” ฉลองครบรอบ 50 ปี โชคดี มีแต่เฮง พร้อมเสริมความปัง แจกหนัก จัดเต็ม เอาใจคนอยากรวยและสายมูเตลูทั่วประเทศ ในแคมเปญใหญ่แห่งปี เทศกาล “พาเลซ” คนทะลุล้าน ที่ให้ลุ้นของรางวัลรวมกว่า 20 ล้านบาท โดยมีพระเอกหนุ่มสุดฮอตขวัญใจสาวๆ เข้ม – หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล ร่วมปล่อยตัวคาราวาน พาเลซ พาคนทะลุล้าน ที่ยกขบวนไปแจกโชคใหญ่และเครื่องดื่มเสริมดวงรับปีใหม่ให้ผู้บริโภคในย่านสยาม สีลม ราชเทวี และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ อุ่นเครื่องก่อนยกขบวนไปแจกโชคลาภให้พี่น้องชาวไทยทั่วประเทศ โดยผู้สนใจสามารถร่วมลุ้นเป็นคนดวงเฮงแห่งปีได้ทาง LINE OA @PalaceThailand ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 – วันที่ 31 มกราคม 2566 นี้
นายกฤษณพน ปฏิมาวิรุจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดลี่ฟู้ดส์ จำกัด กล่าวว่า “ในโอกาสครบรอบ 50 ปีของ เดลี่ฟู้ดส์ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวาระพิเศษ พร้อมคืนกำไรให้กับผู้บริโภค คู่ค้า ร้านค้า และดีลเลอร์ทั่วประเทศ จึงจัดแคมเปญ สุดยิ่งใหญ่ต่อเนื่องนาน 1 ปี ภายใต้ชื่อ เทศกาล “พาเลซ” คนทะลุล้าน โดยเน้นเอาใจสายมูเตลู ที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ รวมถึงเป็นการส่งต่อความโชคดี มีแต่เฮง ตลอดปี 2565 ผ่านความเชื่อเรื่องโชคลาภ ด้วยของรางวัลมูลค่ารวมกว่า 20 ล้านบาท และยังมีขบวนคาราวานที่จะเดินทางไปยังจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อเสริมดวงให้กับผู้บริโภคและตัวแทนจำหน่ายให้เกิดความสบายใจและคลายความกังวลในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว

นอกจากนี้เรายังร่วมมือกับศูนย์ฝึกอาชีพทั่วประเทศในการจัดอบรมสำหรับผู้ประกอบการและผู้สนใจที่มองหาอาชีพเลี้ยงตัวเอง เพื่อให้ทุกคนเดินหน้าไปด้วยกันอย่างยั่งยืน”

ด้าน เข้ม – หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ว่า “ผมรู้สึกดีใจและตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการฉลองครบรอบ 50 ปี พร้อมปล่อยขบวนคาราวานของนมข้นหวานพาเลซในวันนี้ ซึ่งตัวผมเองก็เป็นคนที่เชื่อถือในเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และโชคลาภอยู่แล้ว จึงคิดว่าแคมเปญนี้น่าจะถูกใจเหล่าสายมูแน่นอน มาร่วมกิจกรรมนี้กันเยอะๆ นะครับ”ผู้สนใจสามารถร่วมสนุก พร้อมลุ้นรับของรางวัลในแคมเปญ เทศกาล “พาเลซ” คนทะลุล้าน ได้ทาง LINE OA @PalaceThailand โดยมีกิจกรรมมากมาย อาทิ Reward for Everyone ที่ไม่ว่ากินเองหรือใช้สินค้าของพาเลซ ก็สามารถลุ้นรับของรางวัลได้ง่ายๆ ทันที, กิจกรรม Play-2-Earn ลุ้นรับคะแนนไปแลกของรางวัลได้ฟรี เช่น ทองคำ, รถยนต์, ตรวจโชคชะตาจากแพลตฟอร์มซินแสบาร์โค้ดชีวิต, แบบทดสอบว่าคุณจะรวยด้วยอะไร จาก META Wealth, สมาชิก Netflix และบัตรเงินสดทรูมันนี่ ที่ยิ่งสะสมคะแนนมาก ก็ยิ่งมีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลทุกสัปดาห์ พร้อมให้แลกรางวัลได้ทุกนาที โดยเตรียมเป็นคนดวงเฮงได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 – 31 มกราคม 2566 นี้ติดตามข้อมูลหรือสอบถามรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ทาง www.facebook.com/Palacethailand
:Cr;มณสิการ รามจันทร์

พิมพ์ไทยออนไลน์// สมาคมกีฬายิมนาสติก เดินหน้าเต็มที่จับนักกีฬาซ้อมวันละ 5 ชั่วโมง พร้อมกับใส่โปรแกรมโหดเป็นท่ายากระดับโลก แม้หนักใจเรื่องโควิดระบาดในเวียดนาม มั่นใจคว้าเหรียญทองมากกว่าครั้งที่แล้วอย่างแน่นอน
ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับนักกีฬายิมนาสติกทีมชาติไทย การเตรียมเข้าร่วมแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ระหว่างวันที่ 12-23 พฤษภาคม 2565 ที่เวียดนาม ขณะนี้ได้เก็บตัวทีมชาติ จำนวน 27 คน แยกเป็น ยิมนาสติกศิลป์ 9 คน , ยิมนาสติกลีลา 10 คน , ยิมนาสติกแอโรบิก จำนวน 8 คน ที่ ศูนย์ฝึกเพื่อการแข่งขันในซอยเพชรเกษม 81

น.ต.ศรายุทธ พัฒนศักดิ์ นายกสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้นักกีฬาทั้งหมดเก็บตัวฝึกซ้อมอย่างเข้มข้น ภายใต้การป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ไม่เปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกเข้าไปในสถานที่เก็บตัวฝึกซ้อมอย่างเด็ดขาด พร้อมกันนี้ได้ระดมผู้ฝึกสอนที่มีความสามารถเข้ามาดูแลเรื่องโภชนาการ และ ระเบียบวินัย ภายใต้การควบคุมเป็นอย่างดีของผู้บริหาร ดร.กุสุมาลย์ ประเสริฐศรี และ ผู้ฝึกสอนต่างประเทศ เน้นการฝึกซ้อมทุกวันอย่างต่อเนื่อง วันละไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง
ดร.กุสุมาลย์ ประเสริฐศรี อุปนายกสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้จัดการทีมชาติไทย เปิดเผยว่า ช่วงที่เก็บตัวซีเกมส์ขณะนี้ ระยะเวลาเหลือน้อยมาก จำเป็นต้องลงมาคุมเองเพื่อสร้างวินัยให้กับนักกีฬาทุกคน ตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่ถึง 4 เดือนจึงต้องเร่งเต็มที่ วางโปรแกรมอย่างกระชับแต่มีประสิทธิภาพ ด้วยการใส่ท่าที่ยากขึ้นเป็นลำดับ โดยเฉพาะท่าที่นักกีฬาระดับโลกซ้อมกันขณะนี้ ดังนั้นนักกีฬาทุกคนต้องมีสมาธิ และตั้งใจฝึกซ้อม เพื่อสร้างร่างกายให้ฟิตมากกว่า 100 เปอร์เซ็น

ล่าสุดทุกคนมีการพัฒนาที่ดี และอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ส่วนอดีตทีมชาติทั้ง ศศิวิมล เมืองพวน และ สีน้ำ รักษ์ภู กลับมา รวมทั้ง ธารธิดา โซเฟีย ริคแคร์ ลูกครึ่งไทย– เยอรมัน มาร่วมทีมชาติในครั้งนี้ ทำให้ยิมศิลป์หญิงมีความแข็งแกร่ง หวังเหรียญทองได้เกินกว่า 80 เปอร์เซ็น ส่วน ยิมลีลา ยังมี “ปอปอ” พิยดา พีรมธุกร กับ “ปิ่น” เบ็ญจพร ลิ้มพานิชย์ , ปัณฑิตา ทองสอง และ ดลพร ชุ่มชูจันทร์ ผ่านเกมระดับใหญ่มามากมาย คู่แข่งมีเพียง มาเลเซีย กับ ฟิลิปปินส์ เท่านั้น ขณะที่ ยิมนาสติกแอโรบิก ทีมไทยซ้อมดีตัวมากที่สุด ผิดกับคู่แข่งทุกชาติที่นำระบบการผสมผสานจาก ยิมลีลา และ ยิมศิลป์ มารวมกัน ทำให้ท่าที่แสดงอาจจะไม่ลงตัว คิดว่า ยิมแอโรบิกทีมชาติไทย น่าจะหยิบเหรียญทองได้ไม่ยาก ซึ่งกีฬาซีเกมส์ครั้งที่แล้ว เราทำได้ 1 เหรียญทอง ครั้งนี้มั่นใจว่ามากกว่าอย่างแน่นอน

Cr..วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์// สโมสรเชียงใหม่ ยูไนเต็ด นำโดย “มาดามออม” ศรีโสภา โกฏคำลือ ประกาศจับมือเป็นพันธมิตร ร่วมกับ Fitogether ผู้นำเทคโนโลยีที่ทันสมัย สำหรับการพัฒนาวงการลูกหนังจากสาธารณรัฐเกาหลีอย่างเป็นทางการ เพื่อยกระดับการฝึกซ้อมของ สโมสรเชียงใหม่ ยูไนเต็ดให้ก้าวสู่มาตรฐานสากล ตลอดจนนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดกับนักเตะของทีม

Fitogether ถือเป็นอีกหนึ่งผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาวงการลูกหนัง โดย Fitogether นั้นได้รับการรับรองมาตรฐานอุปกรณ์จากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า อีกทั้งยังเป็นพันธมิตรด้าน World GPS Competition ร่วมกับสโมสรระดับแถวหน้าทั่วโลก ไม่ต่ำกว่า 352 ทีมจาก 91 ลีก และ 44 ประเทศด้วยกัน

Cr..วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์// “เครื่องดื่มตราช้าง” ร่วมกับ “สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ระเบิดศึกฟุตบอลถ้วยน็อคเอาท์ประวัติศาสตร์แห่งศักดิ์ศรี ที่ไม่มีที่ว่างสำหรับผู้แพ้ รายการ “ช้าง เอฟเอ คัพ 2021/22” แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 แต่ “ช้าง” ให้ความสำคัญและเดินหน้าสนับสนุนวงการฟุตบอลไทยมากว่า 20 ปี เพื่อสร้างความสุขให้กับแฟนบอลและยกระดับวงการลูกหนังสู่สากล เพราะ “ช้าง” คือ เพื่อนแท้ฟุตบอลไทย”
ที่ บริษัท ไทยลีก จำกัด เมื่อวันที่ 25 มกราคม คุณ กรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการประธาน บริษัท ไทยลีก จำกัด พร้อมด้วยคุณโรจนสิทธิ์ มีนิจสิน รองผู้อำนวยการโครงการกีฬาไทยเบฟ ไทยทาเล้นท์ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยเครื่องดื่มตราช้าง เข้าร่วมพิธีจับสลากการแข่งขัน “ช้าง เอฟเอ คัพ 2021/22” รอบ 8 ทีมสุดท้าย

สำหรับ ทีมที่ผ่านมาเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายมีดังนี้ รีโว่ ไทยลีก (8 ทีม) : บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, สุพรรณบุรี เอฟซี, นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี, โปลิศ เทโร เอฟซี, หนองบัว พิชญ เอฟซี, เมืองทอง ยูไนเต็ด, บีจี ปทุม ยูไนเต็ด, การท่าเรือ เอฟซี M-150 แชมเปี้ยนชิพ (1 ทีม) : ลำพูน วอริเออร์ มังกรฟ้า ลีก (2 ทีม) : สงขลา เอฟซี, อุทัยธานี เอฟซี
คู่ตกค้าง ลำพูน วอริเออร์ – หนองบัว พิชญ เอฟซี เมืองทอง ยูไนเต็ด – อุทัยธานี เอฟซี
บีจี ปทุม ยูไนเต็ด – การท่าเรือ เอฟซี แข่งขันนัดตกค้างกันวันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565
สำหรับ ผลการจับฉลาก “ช้าง เอฟเอ คัพ 2021/22” รอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่มีโปรแกรมแข่งขัน วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้ชนะระหว่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด – อุทัยธานี เอฟซี พบ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี โปลิศ เทโร เอฟซี พบ ผู้ชนะระหว่าง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด – การท่าเรือ เอฟซี บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบ ผู้ชนะระหว่าง ลำพูน วอริเออร์ – หนองบัว พิชญ เอฟซี สุพรรณบุรี เอฟซี พบ สงขลา เอฟซี

อนึ่ง เงินรางวัล ฟุตบอลรายการ “ช้าง เอฟเอ คัพ 2021” มีดังนี้ ทีมชนะเลิศ : ถ้วยเกียรติยศ – เงินรางวัล 5,000,000 บาท พร้อมสิทธิเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอล ACL 2023 ทีมรองชนะเลิศ : เงินรางวัล 1,000,000 บาท ทีมที่แพ้ในรอบรองชนะเลิศ : จำนวน 2 ทีม ได้รับเงินบำรุงทีม ทีมละ 400,000 บาท ทีมที่แพ้ในรอบก่อนรอบรองชนะเลิศ : จำนวน 4 ทีม ได้รับเงินบำรุงทีม ทีมละ 200,000 บาท ทีมที่แพ้ในรอบ 16 ทีม : จำนวน 8 ทีม ได้รับเงินบำรุงทีม ทีมละ 100,000 บาท ทีมที่แพ้ในรอบที่สาม : จำนวน 16 ทีม ได้รับเงินบำรุงทีม ทีมละ 50,000 บาท ทีมที่แพ้ในรอบที่สอง : จำนวน 32 ทีม ได้รับเงินบำรุงทีม ทีมละ 25,000 บาท

Cr..วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์// “สองล้อ” ยืนยันปฏิบัติตามมาตรการที่เข้มข้น ศึกบีเอ็มเอ็กซ์ ชิงแชมป์ประเทศไทยฯ ประจำปี 2565 สนามแรก ที่จังหวัดชัยนาท วันที่ 29-30 ม.ค.65 นักปั่นทุกคนต้องสมัครผ่านเว็บไซต์ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ เท่านั้น ด้าน “รังสรรค์ ตันเจริญ” พ่อเมืองชัยนาท ให้การสนับสนุนเต็มที
“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ร่วมกับจังหวัดชัยนาท และองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท จัดการแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2565 ในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) สนามที่ 1 ระหว่างวันที่ 29-30 มกราคม ที่สนามบีเอ็มเอ็กซ์ อบจ.ชัยนาท (เขาขยาย) จังหวัดชัยนาท โดยมีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคไวรัสโควิด-19 ของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. อย่างเคร่งครัด

“เสธ.หมึก” กล่าวอีกว่า การแข่งขันครั้งนี้เปิดรับสมัครนักกีฬาพร้อมเจ้าหน้าที่ประจำทีมผ่านเว็บไซต์ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ www.thaicycling.or.th เท่านั้น ไม่มีการเปิดรับสมัคร ที่ บริเวณสนามแข่งขัน โดยจะให้มีเจ้าหน้าที่ประจำทีมในอัตราส่วนนักกีฬา 3 คน ต่อเจ้าหน้าที่ 1 คน ส่วนนักกีฬาที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปี จะอนุญาตให้มีผู้ปกครองดูแลในอัตราส่วน 1 ต่อ 1
สำหรับโปรแกรมการแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานฯ สนามที่ 1 วันที่ 28 มกราคม เวลา 16.00 น. ประชุมผู้จัดการทีม ที่สนาม อบจ.ชัยนาท (เขาขยาย), วันที่ 29 มกราคม พิธีเปิดการแข่งขันเวลา 08.30 น. โดยสมาคมฯ เชิญ นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท เป็นประธานพิธีเปิด จากนั้นจะแข่งขันรอบคัดเลือกรุ่นยุวชนชายอายุ 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10, 11-12, 13, 14, 15, 16 ปี, รุ่นยุวชนหญิงอายุ 5, 6, 7, 8, 9, 10, 11-12, 13, 14, 15-16 ปี, รุ่นอายุ 30, 35, 40, 45, 50 ปีชาย, รุ่นเยาวชนหญิง, รุ่นทั่วไปหญิง, รุ่นเยาวชนชาย, รุ่นทั่วไปชาย โมโต 1 เริ่มเวลา 09.00 น. โมโต 2 เริ่มเวลา 10.00 น. และโมโต 3 เริ่มเวลา 11.00 น.

ส่วนวันที่ 30 มกราคม อบชิงชนะเลิศทุกรุ่น รวมทั้งประเภทซูเปอร์ครอส รุ่นยุวชนชาย อายุ 14-16 ปี, รุ่นอายึ 30, 40, 50 ปีชาย, รุ่นเยาวชนหญิง, รุ่นทั่วไปหญิง, รุ่นเยาวชนชาย, รุ่นทั่วไปชาย  เริ่มเวลา 09.00 น. ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กไลฟ์ Thaicycling Association ทั้ง 2 วัน
ทั้งนี้ นักกีฬาสามารถสมัครเข้าแข่งขันได้ที่เว็บไซต์ของสมาคมฯ www.thaicycling.or.th ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ปิดรับสมัครวันที่ 27 มกราคม เวลา 12.00 น. โดยไม่มีการเปิดรับสมัคร ที่ บริเวณสนามแข่งขัน หรือสอบถามได้ที่ โทร.0-2719-3340-2 ในวันและเวลาราชการ

Cr..วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์// สมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย จัดการแข่งขันคัดเลือกนักเทนนิส เตรียมความพร้อมสำหรับทีมชาติไทยชุดใหญ่ ประจำปี 2565 ที่ ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อวันที่ 25 ม.ค. รอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้าย ซึ่งจะทำให้ทราบผลว่านักเทนนิสใดได้คะแนนเป็นอันดับ 1 ของกลุ่มและได้สิทธิ์เข้าร่วมโครงการ “เตรียมความพร้อมสำหรับทีมชาติไทย” อย่างเป็นทางการ
ประเภทชายเดี่ยว กลุ่ม บี ชาญไชย สุขตนเอง เต็งสองของรายการ จาก กทม. ที่ตุนชัยชนะไว้แล้ว 2 นัด พลาดท่าปราชัย ธนกร ศรีรัตน์ มือวาง 12 จาก กทม. 1-2 เซต 6-7(4-7), 6-3 และ 3-6 ส่วนอีกคู่ เครดิต ไชยรินทร์ มือวาง 6 จาก กทม. คว้าชัยเหนือ แทนตะวัน ทัดเดโอ มายอลิ แม็คจิโอลิ นักหวดลูกครึ่งไทย-อิตาลี มือวาง 13 จาก กทม. 2-0 เซต 6-1, 6-2 และจากผลการแข่งขัน ทำให้ ชาญไชย, เครดิต และ ธนกร มีผลงานชนะ 2 แพ้ 1 เท่ากัน แต่ ชาญไชย มีเปอร์เซ็นต์เซตได้เสียดีกว่า (71.43 เปอร์เซนต์) จึงรั้งอันดับ 1 ของกลุ่มและได้สิทธิ์เข้าร่วมโครงการต่อไป

ด้านหญิงเดี่ยว กลุ่ม ดี “หมิว” สลักทิพย์ อุ่นเมือง ดาวรุ่งจากนนทบุรี มือวาง 6 ของรายการ ที่ในการแข่งขันครั้งนี้ยังแพ้ใครไม่เป็น ล่าสุดเอาชนะ ภาวินี ร่วมรักษ์ มือวาง 13 จาก กทม. 2-0 เซต 6-2, 6-2 ส่วนอีกคู่ กมลวรรณ บัวแย้ม เต็งสี่ของรายการจากชลบุรี เก็บชัยชนะเหนือ เวียร่า ดีเพิ่ม ลูกครึ่งไทย-รัสเซีย จากชลบุรี 2-0 เซต 6-4, 6-0 และจากผลการแข่งขันของกลุ่มนี้ ปรากฏว่า สลักทิพย์ ชนะ 3 นัดรวด เป็นผลงานดีที่สุดของกลุ่ม จึงได้สิทธิ์เข้าร่วมโครงการทันที
ผลคู่อื่น ชายเดี่ยว กลุ่ม เอ คงทรัพย์ คงคา (กทม.) ชนะ กันตินันท์ สูตินันท์โอภาส (ลำปาง) 6-2, 7-6(3) ณัฐสิทธิ์ กุลสุวรรณ์ (กาญจนบุรี) ชนะ อนพัช ทิมางกูร (กทม.) 6-3, 6-4 /กลุ่ม ซี ศุภวัฒน์ แซ่อุ้ย (ภูเก็ต) ชนะ ปรัชญา อิสโร (สงขลา) 3-6Ret.(ตะคริว) /กลุ่ม ดี กฤติน โกยกุล (พังงา) ชนะผ่าน พงศภัค เกิดลาภี (กทม.) จิรัฏฐ์ นวสิริสมบูรณ์ (กทม.) ชนะ สิรวิชญ์ สุดเนตร (อำนาจเจริญ) 7-6(4), 6-3
หญิงเดี่ยว กลุ่ม เอ เมลิสสา เซ (กทม.) ชนะ ธนัชพร ยังโหมด (ชลบุรี) 6-2, 6-1 พัณณิน โควาพิทักษ์เทศ (ฉะเชิงเทรา) ชนะ ณัฐพัชร์ ผิวบางรักษ์ (กทม.) 6-1, 6-1 /กลุ่ม บี ชมภู่ทิพย์ จันดาเขต (นนทบุรี) ชนะ ณัชชารีย์ ธีรโชติจิรานนท์ (ประจวบคีรีขันธ์) 6-1, 6-1 /กลุ่ม ซี วรรษชล สวัสดี (พิษณุโลก) ชนะ ตปณีย์ บุญวัฒน์ (นนทบุรี) 6-1, 6-2 วิจิตราภรณ์ วิมุกตานนท์ (พิษณุโลก) ชนะ ธมจันทร์ มอมขุนทด (นครราชสีมา) 4-6, 6-3 และ 7-5

หลังจากจบการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้าย ปรากฏว่า นักเทนนิสที่รั้งอันดับ 1 ของแต่ละกลุ่มและได้สิทธิ์เข้าร่วมโครงการ “เตรียมความพร้อมสำหรับทีมชาติไทย” ชุดแรก จำนวน 8 คน (ชาย 4 คน และหญิง 4 คน) มีดังนี้ ชายเดี่ยว กลุ่ม เอ ณัฐสิทธิ์ กุลสุวรรณ์, กลุ่ม บี ชาญไชย สุขตนเอง, กลุ่ม ซี ธนเพชร ฉันทะ และกลุ่ม ดี กฤติน โกยกุล ด้านหญิงเดี่ยว กลุ่ม เอ พัณณิน โควาพิทักษ์เทศ, กลุ่ม บี ชมภู่ทิพย์ จันดาเขต, กลุ่ม ซี วรรษชล สวัสดี และกลุ่ม ดี สลักทิพย์ อุ่นเมือง
ในส่วนนักเทนนิสที่รั้งอันดับ 2-4 ของแต่ละกลุ่ม ได้ลุ้นต่อรอบสุดท้าย (รอบ 12 คน) แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ๆ ละ 3 คน แข่งขันระบบ 2 ใน 3 เซต โดยนักเทนนิสที่ได้อันดับ 1 ในแต่ละกลุ่ม (ชาย 4 คน และหญิง 4 คน) จะได้สิทธิ์เข้าร่วมโครงการเป็นลำดับต่อไป

Cr..วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

พิมพ์ไทยออนไลน์// พลตรี จารึก อารีราชการัณย์ นายกสมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย เป็นประธานการแถลงข่าวการแข่งขันตะกร้อชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งที่ 33 ประจำปี 2565 พร้อมผู้ให้การสนับสนุนอย่างเป็นทางการ ที่รร.โกลเด้นทิวลิป เมื่อวันที่ 25 ม.ค.2565
โดยการแข่งขันครั้งนี้ทีมต่างๆ ให้การตอบรับส่งนักกีฬาเข้าร่วมชิงชัยอย่างคึกคักมากถึง 189 ทีม ประกอบด้วย ทีมเดี่ยวชาย ชิงถ้วยพระราชทานจำนวน 46 ทีม, ทีมเดี่ยวหญิง 60 ทีม, ตะกร้อคู่ชาย 40 ทีม, ตะกร้อคู่หญิง 20 ทีม, ลอดห่วงสากลชาย 8 ทีม, ลอดห่วงสากลหญิง 8 ทีม และลอดห่วงไทย ชิงถ้วยพระราชาน 7 ทีม ระหว่างวันที่ 7-13 ก.พ.2565 ที่ศูนย์การค้าแฟชั่น ไอส์แลนด์ ถนนรามอินทรา กรุงเทพฯ

ศึกตะกร้อชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ นับเป็นรายการแรกของปี 2565 ที่จัดขึ้นท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงมีการระบาด อย่างไรก็ตามสมาคมตะกร้อฯ เตรียมความพร้อมป้องกันเต็มที่
นายธนวัฒน์ ประสงค์เจริญ เลขาธิการสมาคมตะกร้อฯ เผยว่า เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ทั้งนักกีฬา, ผู้ฝึกสอน , เจ้าหน้าที่ รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนที่จะเข้าในสนามแข่งขัน จะต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม รวมถึงจะมีมาตรการตรวจคัดกรอง ATK หน้างานทุกคน และจะตรวจคัดกรองทุกๆ 3 วัน เป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญเพื่อความปลอดภัยของนักกีฬาและเจ้าหน้าที่

พ่อบ้านตะกร้อไทย กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับนักกีฬาทีมชาติไทย ทั้งชายและหญิง จะได้รับอนุญาติให้เข้าร่วมแข่งขันได้ ร่วมกับนักกีฬาตะกร้อแนวหน้าของไทย รายการนี้จะไม่อนุญาติให้แฟนๆ กีฬาเข้าชมในสนามแข่งขัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยการให้ทีมชาติลงแข่งเป็นการเช็คความพร้อม ความฟิตของแต่ละคน ก่อนที่จะกลับเข้าแค้มป์เก็บตัวร่วมชิงชัยในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่เมืองฮานอย เวียดนาม เดือนพ.ค2565 รวมถึงการแข่งขันตะกร้อชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ครั้งที่ 35 และกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน
อย่างไรก็ตามก็ติดตามผลแข่งขันและชมการไลฟ์สดได้ผ่าน ทางเพจสมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย และเพจเซปักตะกร้อ-sepak taktaw”

Cr..วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์