พิมพ์ไทยออนไลน์ // “ม้าแก่” ศิริมงคล สิงห์วังชา อดีตแชมป์โลกขวัญใจชาวไทย คืนสังเวียนอีกครั้งในต่างแดน เผชิญปัญหาสารพันทั้งโดนหักค่าตัวและไม่มีใบรับรองแพทย์ตรวจโควิด จนต้องตกเครื่องไม่สามารถเดินทางกลับเมืองไทยได้ เจ้าตัวครวญผ่านโซเชียล ไม่มีเงินเหลือแม้ค่าตัว ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ทางการไทยด่วน
“เจ้าโอ๋” ศิริมงคล อดีตแชมป์โลก 3 รุ่น 2 สถาบัน จำต้องหวนคืนสังเวียนอีกครั้งในวัย 43 ปี ด้วยพิษเศรษฐกิจจากไวรัสโควิด หลังได้รับการติดต่อให้ไปชกที่แทนซาเนีย กับ ทวาฮา กิดูกู แชมป์ประเทศแทนซาเนีย รุ่นซูเปอร์มิดเดิ้ลเวต เดิมทีทางผู้จัด เชามาลี อายับ จะจัดเป็นการชิงแชมป์ “ว่าง” สภามวยแห่งเอเชีย WBC Asia รุ่น 168 ปอนด์ แต่เมื่อใกล้วันชก ทางสถาบันฯไม่รับรองเนื่องจากผิดขั้นตอนในระเบียบการจัดหลายประการ อาทิ ไม่ยอมส่งกรรมการของสถาบันฯไปทำหน้าที่ การชกดังกล่าวจึงกลายเป็นการชกนอกรอบ กำหนด 10 ยกแทนที่
ซึ่งผลการชกที่ ดาร์เอส ซาลาม เมืองหลวงเก่าแทนซาเนีย เมื่อ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา “เจ้าโอ๋” ศิริมงคล ต้องรีดลดน้ำหนักถึง 15 กก.แต่ยังเกินพิกัดอีก 3 กก.ไม่สามารถทำน้ำหนักได้ตามพิกัด 168 ปอนด์ จึงเป็นการชกนอกรอบ และขอยอมแพ้หลังหมดยกที่ 7 ทางผู้จัดจึงหักค่าตัว ศิริมงคล 40 เปอร์เซ็นต์ตามสัญญาที่ระบุไว้ก่อนชก ล่าสุดเมื่อ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้เกิดปัญหาขึ้นเมื่อ ศิริมงคล และ “ติ๋ว” วิพัฒนา แทนมูล ผู้จัดการสาวผู้ทำหน้าที่ล่ามและเดินทางไปด้วยกัน 2 คน ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้ เนื่องจากทั้งคู่ไม่มีเอกสาร รับรองการตรวจไวรัสโควิด ภายใน 72 ชม. จึงไม่สามารถผ่าน ตม.สนามบิน (กองตรวจคนเข้าเมืองแทนซาเนีย) เพื่อขึ้นเครื่องได้
ทาง ศิริมงคล จึงได้โพสต์คลิปขอความช่วยเหลือ “ผมตกเครื่องครับ เพราะสถานการณ์โควิด ซึ่งผมไม่รู้อะไรเลย และต้องทำอะไรอย่างไรบ้างมีแต่ มาดามติ๋ว ผู้จัดการผมที่พอจะเจรจาเป็นล่ามให้ แต่เราสองคนก็ไม่มีความรู้ใดๆเลย ซึ่งติ๋วบอกว่า เราไม่มีใบรับรองแพทย์จากสถานทูตไทย จึงไม่มีเอกสารแสดงหลักฐานที่สนามบิน ทำให้ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้ ถือเป็นบทเรียนราคาแพงครั้งหนึ่งในชีวิต”
โอ๋ กล่าวอีกว่า “การชกครั้งนี้ ไม่ได้รับรองให้เป็นการชิงแชมป์ ผมจึงได้ค่าตัวน้อย แต่ก็ยังดีที่ มิสเตอร์เชามาลี โปรโมเตอร์ช่วยดูแลเป็นอย่างดี แต่เขาก็ยังไม่ได้รับเงินจากการจัด ซึ่งเขาก็ไม่มีเงินเลยในตอนนี้ ผมคิดถึงทุกคนทั้งพ่อแม่และญาติพี่น้องทางเมืองไทย แต่ไม่สามารถกลับบ้าน อยากให้ใครก็ได้ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทางการไทยให้ความช่วยเหลือผมในเรื่องนี้”
กรณีดังกล่าว มีการสอบถามไปยัง “มาสเตอร์ เจย์” นายศวิรินทร์ ปิ่นแก้ว ครูมวยสุรกิตย์ยิมส์ที่ภูเก็ต ผู้ประสานงานให้ศิริมงคลได้ไปชกที่แทนซาเนีย ซึ่งอยู่ในไทยเผยว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะทางสถานีทีวีของแทนซาเนีย เห็นว่า มวยคู่นี้ไม่ได้ชิงแชมป์จึงจ่ายค่าตัวเพียงครึ่งเดียวใหักับทาง เชามาลี อายับ โปรโมเตอร์ และตัวเงินก็ยังไม่ถึงมือในขณะนี้ด้วย ทางโปรโมเตอร์พาศิริมงคลออกจากโรงแรมไปพักที่บ้านของคนไทยในแทนซาเนีย และอยู่ระหว่างเดินเรื่องเพื่อขอเอกสารใบรับรองจากสถานทูตไทยที่แทนซาเนีย เบื้องต้นเท่าที่ทราบจะต้องกลับมาถูกกักตัวในไทย และต้องเสียค่าใช้จ่ายเองคนละประมาณ 4 หมื่นบาท ซึ่งลำพังค่าตัวจากการชกก็ไม่เพียงพอเลยด้วยซ้ำ ถือเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับนักมวยไทยที่จะไปชกในต่างแดน ช่วงปัญหาไวรัสโควิด ที่น่าเห็นใจเป็นอย่างยิ่ง และจะมีใครบ้างไหมที่พอจะช่วยเหลือในเรื่องนี้”
Cr. : นายวิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์