พิมพ์ไทยออนไลน์//คณะกรรมการบริหารสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) มีมติเป็นเอกฉันท์รับรองสถานภาพสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) ในฐานะองค์กรกีฬาจักรยานในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่งผลให้การแข่งขันในภูมิภาคอาเซียนมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น สามารถจัดการแข่งขันได้เองโดยเฉพาะมหกรรมกีฬาซีเกมส์ และสามารถยื่นลงทะเบียนจัดการแข่งขันในปฏิทินการแข่งขันของ “ยูซีไอ” โดยไม่ต้องผ่านสมาพันธ์จักรยานแห่งเอเชีย (เอซีซี) คาดว่าจะเริ่มกระบวนการดังกล่าว ในกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 เป็นเจ้าภาพ ปี 2568
“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจาก ดาโต๊ะ อมาจิต ซิงห์ กิล เลขาธิการเอซีเอฟ และกรรมการบริหารสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) ที่เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการบริหารของยูซีไอ ที่กรุงปราก เช็ก ระหว่างวันที่ 1-2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ซึ่งดาโต๊ะ อมาจิต ซิงห์ กิล ระบุว่าที่ประชุมกรรมการบริหารยูซีไอ มีมติเป็นเอกฉันท์รับรองสถานภาพสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน ในฐานะองค์กรกีฬาจักรยานในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นับเป็นองค์กรกีฬาจักรยานระดับภูมิภาคองค์กรที่ 2 ต่อจากสหพันธ์จักรยานอาหรับที่ได้รับการรับรองสถานภาพจากยูซีไอ
พลเอกเดชา กล่าวว่า การที่สหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน หรือ เอซีเอฟ ได้รับการรับรองจากยูซีไอดังกล่าว เป็นก้าวแรกที่สำคัญของเอซีเอฟในยุคใหม่ หลังจากที่ก่อตั้งมานานกว่า 20 ปี จะส่งผลให้การแข่งขันในภูมิภาคอาเซียนมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการแข่งขันมหกรรมกีฬาระดับภูมิภาคอย่างกีฬาซีเกมส์ ที่เอซีเอฟเข้ามาจัดการแข่งขัน พร้อมทั้งยื่นลงทะเบียนปฏิทินการแข่งขันนานาชาติกับสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) รวมถึงการแต่งตั้งผู้แทนเทคนิค (Technical Delegate) และคณะผู้ตัดสินนานาชาติเข้าปฏิบัติหน้าที่การแข่งขันได้ด้วยตัวเอง จากเดิมที่ต้องผ่านสมาพันธ์จักรยานแห่งเอเชีย (ACC) ซึ่งในหลาย ๆ กรณีส่งผลเรื่องความล่าช้าและไม่คล่องตัว
“อย่างไรก็ตาม การดำเนินการของเอซีเอฟ ไม่ได้ขัดแย้งหรือกลายเป็นองค์กรอิสระจากเอซีซีแต่อย่างใด เอซีเอฟจะต้องแจ้งให้เอซีซีรับทราบในขั้นตอนต่าง ๆ ทั้งหมด และต้องการกรอบข้อบังคับทั้งสองยูซีไอและเอซีซี โดยประเด็นดังกล่าว ดาโต๊ะ อมาจิต ยืนยันต่อที่ประชุมกรรมการบริหารยูซีไอ ที่มี มร.โอซามะห์ อัลชาฟา ประธานเอซีซี ชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ มิสหยวน หยวน กรรมการบริหารยูซีไอจากจีน เข้าร่วมประชุมรับทราบ ซึ่งทั้ง มร.โอซามะห์ และมิสหยวน ต่างลงมติเห็นชอบให้การรับรองสถานภาพเอซีเอฟเช่นเดียวกับกรรมการบริหารยูซีไอทั้งหมด”
นายกสองล้อไทย กล่าวอีกว่า กระบวนการดังกล่าวคาดว่าจะเริ่มต้นใช้ในการแข่งขันจักรยานซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ไทยเจ้าภาพ ปี 2568 ขณะที่ประเด็นเร่งด่วนของเอซีเอฟที่อยู่ระหว่างดำเนินการก็คือ การรณรงค์ให้ชาติสมาชิกในอาเซียน พัฒนาระบบการจัดการแข่งขันนานาชาติ ทั้งประเภทถนน ประเภทลู่ ประเภทเสือภูเขา และประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ ให้ขึ้นทะเบียนปฏิทินการแข่งขันนานาชาติของยูซีไอ ทั้งนี้ไม่เพียงเป็นการยกระดับมาตรฐานการแข่งขันเท่านั้น แต่จะส่งผลเรื่องโอกาสการเก็บคะแนนสะสมจักรยานโลก ที่มีผลผูกพันไปถึงโอกาสการควอลิฟายเข้าการแข่งขันจักรยานในระดับสูงขึ้นไป รวมถึงมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ในอนาคต
“ในประเด็นดังกล่าว ผมในฐานะประธาน และดาโต๊ะ อมาจิต ซิงห์ กิล เลขาธิการฯ เริ่มเดินทางเยือนประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนเพื่อรณรงค์ให้สมาคมกีฬาจักรยานแต่ละชาติเห็นความสำคัญของการขึ้นทะเบียนปฏิทินยูซีไอ และก็ต้องยอมรับว่าแต่ละชาติต่างก็มีเหตุปัจจัย หรืออุปสรรคที่แตกต่างกัน ซึ่งเอซีเอฟที่มีคณะกรรมการบริหารอีกจำนวน 6 คน ประกอบด้วย มร.นู จำเริญ จากกัมพูชา, มร.อเวลิโน ซามากุย จากฟิลิปปินส์, มร.ฮอง คำ จาก สปป.ลาว, นายเอกชัย เศวตสมภพ จากไทย, มร.หวู เวียน ก๊อก จากเวียดนาม และ มร.นอรัซมาน อาบู ซามาห์ จากมาเลเซีย และ นายขัตติยะ ศรีโสดาไทย จะนำข้อมูลที่ได้รับมาประมวลและช่วยแก้ไขปัญหา เพื่อให้แต่ละชาติสามารถจัดการแข่งขันระดับนานาชาติในปฏิทินของยูซีไอตามวัตถุประสงค์เบื้องแรกนี้ที่จะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนากีฬาจักรยานของภูมิภาคอาเซียนในอนาคตต่อไป”
Cr..วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์