พิมพ์ไทยออนไลน์//นักขี่ม้าสาว “ปรีดิ์อัญ” ชนกภรณ์ การุณยธัช สร้างประวัติศาสตร์วงการขี่ม้าไทย เป็นนักกีฬากระโดดข้ามเครื่องกีดขวางคนแรกที่คว้าตั๋วลุยมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ หลังสหพันธ์ขี่ม้านานชาติ ประกาศผลการคอวลิฟายอย่างเป็นทางการ เมื่อช่วงดึกวันที่ 2 ม.ค. 67 “ ปรีดิอัญ” ทำคะแนนแวงคู่แข่ง จากนิวซีแลนด์ ขึ้นมาเป็นที่ 1 ของโซนจี เผย หลังจากนี้เตรียมเอาม้า ดีไลล่า อกแข่งหาประสบการณ์ เพื่อให้ขึ้นมาเป็นม้าหลักแทน ทีน่า
สหพันธ์ขี่ม้านานาชาติ ( FEI) ประกาศผลการคอวลิฟายขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวางโอลิมปิก 2024 ประเภทบุคคลของโซนจี ( เอเชียและเอเชียโอซีเนีย) อย่างเป็นทางการเมื่อช่วงดึกของวันที่ 2 ม.ค. 67 หลังการคอวลิฟายสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2566 และมีนักกีฬาขี่ม้าทีมชาติไทย ที่ลุ้นคว้าตั๋วไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 คือ “ปรีดิ์อัญ” ชนกภรณ์ การุณยธัช ดีกรีอันดับ 4 เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 “หางโจวเกมส์” ที่ทำคะแนนรั้งอันดับ 2 ตามหลังผู้นำอย่างนิวซีแลนด์ โอนีล, อูมา อยู่ 13 คะแนน ก่อนที่จะลงสนามแข่งขันรายการใหญ่ เวิร์ลคัพ ระดับ 5 ดาว ที่ซาอุอาระเบีย เมื่อเดือนธันวาคม 2566 ซึ่ง”ปรีดิ์อัญ” และอาชาคู่ใจ ทีน่า Maxwin Kinmar Agalux ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเก็บแต้มเพิ่มมากว่า 100 คะแนน จ่อคว้าโควต้าไปแข่งโอลิมปิก 2024 แต่ต้องการประกาศผลอย่างเป็นทางการ
จนกระทั่งสหพันธ์ขี่ม้านานาชาติ ได้ออกมาอัพเดทผลการคอวลิฟายของโซนจี ที่จะคัดเอานักกีฬาที่ทำคะแนนดีที่สุดของโซน 2 คนไปแข่งขันโอลิมปิก 2024 และผลอย่างเป็นทางการ ปรากฏว่า “ปรีดิ์อัญ” ที่เก็บคะแนนในโค้งสุดท้ายจากการแข่งขันเวิร์ลคัพ ทำคะแนนขึ้นมาเป็นที่ 1 ของโซน มี 334 คะแนน ตามมาด้วย โอนีล อูม่า ทำคะแนนมาเป็นอันดับ 2 มี 225 คะแนน ส่งผลให้ “ปรีดิ์อัญ” และ โอนีล คว้าตั๋วเข้าร่วมแข่งขัน อลป. 2024
สำหรับ” ปรีดิ์อัญ” ถือเป็นนักกีฬาขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกึดขวางคนแรกของไทยที่คอวลิฟายไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ได้เป็นคนแรก ซึ่งก่อนหน้านี้ “ปรีดิ์อัญ” สร้างประวัติศาสตร์ให้วงการขี่ม้าไทยด้วยการคอวลิฟายผ่านไปแข่งขัน ขี่ม้าเวิร์ลเกม ได้เป็นคนแรกในปี 2018 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และจากการคว้าตั๋วไปแข่ง อลป. 2024 ส่งผลให้ ชกนภรณ์ เป็นนักกีฬาไทยคนที่ 16 ที่คอวลิฟายไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 ได้สำเร็จ
ด้าน”ปรีดิ์อัญ เปิดเผยว่า หลังจากที่พลาดจาก”โตเกียวเกมส์” ก็ทำให้ต้องกลับมาวางแผนกันใหม่ว่าจะต้องแข่งรายการไหนบ้าง ยอมรับว่าช่วงแรกเครียดเพราะหวังที่จะเก็บคะแนนอย่างเดียว ยิ่งไปเห็นว่าคะแนนสูสีกัน ยิ่งทำให้เรากดดันตัวเอง และเริ่มไม่มีความสุขกับการแข่งขัน จนคิดจะปล่อยแล้วไม่เอา อลป.แล้วไปโฟกัสที่เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 อย่างเดียว เพราะปีที่ผ่านมา ทั้งคนและม้าทำงานกันหนักมาก พอเราไม่ไปโฟกัสที่การคอวลิฟายโอลิมปิกมากนักก็ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น และรู่สึกรีเล็กมากขึ้น จนมาถึงการแข่งขันโค้งสุดท้ายที่ซาอุดิอาระเบีย ก็ไม่หวังอะไรแล้วคิดว่าทำออกมาให้ดีที่สุด ถ้าไม่ได้ก็ต้องยอมรับว่ายังดีไม่พอ
“แต่พอแข่งจบที่ซาอุฯ ค่อนข้างมั่นใจว่าเราได้ไปแล้วแน่นอน ก็ดีใจเพราะเป็นอีกโกลทีอยากจะทำให้สำเร็จ ที่สำคัญมันยาวนานมากกว่าที่จะปลดล๊อก ออกไปได้ หลังจากนี้ก็ต้องวางแผนการแข่งขันเพื่อให้ม้าอีกตัวขึ้นมาเป็นม้าหลักแทนทีน่า คือ ดีไลล่า ซึ่งตอนนี้ประสบการณ์แข่งขันยังน้อย แต่ศักยภาพของเค้าทำได้ในคลาสใหญ่ๆ เพีนงแต่ต้องพาไปแข่งสนาม รายการใหญ่ๆ ให้มากขึ้น โดยรายการที่จะไปแข่งกับ ดีไลล่า คือ ที่การ์ต้า
Cr..วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์