พิมพ์ไทยออนไลน์//“ยูซีไอ” ประกาศโควตาจักรยานประเภทถนนในโอลิมปิกเกมส์ 2024 อย่างเป็นทางการแล้ว สรุปผลงานของ “สองล้อ” ได้โควตา 3 ที่นั่งตามเป้าหมาย จากโรดเรซหญิง ไทม์ไทรอัลบุคคลหญิง และโรดเรซชาย รวมกับ “โกเมธ สุขประเสริฐ” จากบีเอ็มเอ็กซ์อีก 1 ที่นั่ง รวมเป็น 4 ที่นั่ง ด้าน “เสธ.หมึก” เผยช่วงปี 2566 สมาคมกีฬาจักรยานฯ ใช้งบประมาณส่งนักกีฬาไปตระเวนแข่งขันเก็บคะแนนสะสมคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์เป็นจำนวนมาก วอนการกีฬาแห่งประเทศไทย และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เร่งรัดกระบวนการเบิกจ่ายงบประมาณที่สมาคมฯ จัดส่งเอกสารไปเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้เกิดสภาพคล่องทางการเงิน เพราะต้องใช้งบประมาณการจัดการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานฯ และการเปิดอบรมพัฒนาบุคลากร ทั้งผู้ฝึกสอน และผู้ตัดสิน ตลอดปี 2567
“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) ระบุว่าหลังจากผ่านกำหนดเวลาการเก็บคะแนนสะสมจักรยานโลก UCI World Ranking เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งยูซีไอกำหนดให้เป็นการสิ้นสุดกรอบเวลาการเก็บคะแนนสะสมคัดเลือกนักกีฬาจักรยานชายและหญิงเข้าร่วมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ฤดูร้อน ครั้งที่ 33 ปี 2024 ที่ กรุงปารีส ฝรั่งเศส ผลปรากฏว่านักปั่นไทยจะได้รับโควตาทั้งสิ้น 3 ที่นั่งตามเป้าหมาย ประกอบด้วยนักกีฬาหญิง 2 คน นักกีฬาชาย 1 คน
พลเอกเดชา กล่าวว่า จากอันดับคะแนนสะสมที่ประกาศออก ทีมชาติไทยฝ่ายหญิง ทำคะแนนสะสมรวม 933 คะแนน อยู่ในอันดับ 24 ของโลก ได้รับโควตาโอลิมปิกเกมส์ประเภทโรดเรซ 1 ที่นั่ง และประเภทไทม์ไทรอัลบุคคล 1 ที่นั่ง จากระเบียบการคัดเลือกจักรยานถนนโอลิมปิกเกมส์ที่ระบุว่าชาติที่อยู่ใน 45 อันดับแรกโลกจะได้รับโควตาประเภทโรดเรซ และชาติที่อยู่ในอันดับ 1-25 จะได้รับโควตาไทม์ไทรอัลบุคคล
“ส่วนประเภทชาย นักปั่นทีมชาติไทยทำคะแนนสะสม 890 คะแนน อยู่ในอันดับ 42 ของโลก จะได้รับโควตา 1 ที่นั่งในประเภทโรดเรซชาย ซึ่งผลงานการคว้าโควตารวดเดียว 3 ที่นั่งของทีมจักรยานถนนไทยครั้งนี้ เป็นผลงานประวัติศาสตร์หน้าใหม่ วงการจักรยานไทยทั้งประเภทชายที่เพิ่งจะผ่านควอลิฟายครั้งแรก ขณะที่นักปั่นหญิงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถผ่านควอลิฟายถึง 2 ที่นั่ง อดีตนับตั้งแต่โอลิมปิกเกมส์ 2008 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ถึงโอลิปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น ซึ่งไทยเราควอลิฟายประเภทถนนหญิงครั้งละ 1 ที่นั่งมาอย่างต่อเนื่อง”
หลังจากผ่านกำหนดเก็บคะแนนคัดเลือกประเภทโอลิมปิกเกมส์ 2024 ยูซีไอจะส่งแจ้งยืนยันการได้รับสิทธิ์อย่างเป็นทางการไปยังคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ไม่เกินวันที่ 15 พฤศจิกายน ซึ่งตามระเบียบการคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ คณะกรรมการโอลิมปิคฯ จะต้องตอบยืนยันโควตากลับไปยังยูซีไอไม่เกินวันที่ 15 ธันวาคม ขณะที่การยืนยันรายชื่อนักกีฬาเข้าร่วม “ปารีสเกมส์” วันที่ 8 กรกฎาคม 2567 เพื่อเข้าแข่งขันกีฬาโอลิปิกเกมส์ 2024 ระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม ถึงวันที่ 11 สิงหาคม 2567
“โดยสรุป ปัจจุบันไทยผ่านควอลิฟายโอลิมปิกเกมส์แล้ว 4 ที่นั่ง ประกอบด้วย บีเอ็มเอ็กซ์เรซซิงชาย จาก ส.ต.โกเมธ สุขประเสริฐ ในฐานะแชมป์เอเชีย 2023 รวมกับประเภทถนนโรดเรซหญิง ไทม์ไทรอัลบุคคลหญิง และโรดเรซชาย อีกอย่างละ 1 ที่นั่ง ประเภทลู่และเสือภูเขา ยังอยู่ในห้วงเวลาการเก็บคะแนนเพื่อคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ต่อเนื่อง จนถึงปีหน้า ประเภทลู่จะสิ้นสุดเดือนเมษายน 2567 ส่วนเสือภูเขาเดือนมิถุนายน 2567”
พลเอกเดชา กล่าวต่อไปว่า ความสำเร็จที่นักกีฬาผ่านควอลิฟายไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 ของสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ เป็นผลงานร่วมกันทั้งนักกีฬา ผู้ฝึกสอน จนถึงทีมงานสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ทุกฝ่ายที่ต้องทำงานสอดประสานกันทั้งด้านเทคนิค การต่างประเทศ งานธุรการกว่าจะลุล่วงต้องอาศัยงบประมาณจำนวนมาก การส่งนักปั่นไทยตระเวนแข่งขันรายการต่าง ๆ ทั้งในภูมิภาคเอเชียและยุโรป เนื่องจากระบบการคัดเลือกอาศัยการเก็บคะแนนสะสม ที่ผ่านมาช่วงการคัดเลือก โดยเฉพาะช่วงสุดท้ายประเภทถนน ปี 2566 จำนวน 14 รายการที่ได้รับอนุมัติจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) สมาคมกีฬาจักรยานฯ ยังรอการเบิกจ่ายงบประมาณจำนวนกว่า 6,600,000 บาท
ขณะที่ยังมีอีกหลายรายการที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ใช้งบประมาณของสมาคมฯ ส่งนักกีฬาไปแข่งขันอีกราวประมาณ 4 ล้านบาท ส่งผลกระทบต่อกระแสเงินหมุนเวียนปัจจุบันของสมาคมฯ เป็นอย่างมาก เนื่องจากจะต้องใช้งบประมาณส่งนักปั่นประเภทลู่และเสือภูเขาไปแข่งขันเก็บคะแนนต่อเนื่อง จนถึงกลางปีหน้า
“ในเรื่องนี้ ขอวิงวอนไปยังการกีฬาแห่งประเทศไทย และ กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ช่วยเร่งรัดกระบวนการเบิกจ่ายงบประมาณที่สมาคมฯ จัดส่งเอกสารดำเนินการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ เพื่อให้สมาคมฯ มีเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ไม่เฉพาะการส่งนักกีฬาแข่งขัน แต่ยังมีกิจกรรมการจัดการแข่งขันจักรยาน การจัดการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานฯ ประเภทต่าง ๆ ที่สมาคมฯ แข่งขันตลอดทั้งปี เพื่อพัฒนามาตรฐานและเฟ้นหานักปั่นไทยรุ่นใหม่ทดแทนรุ่นพี่ ๆไปจนถึงกระบวนการพัฒนาบุคลากรทั้งผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสิน ช่างหรือนักวิทยาศาสตร์การกีฬา ซึ่งล้วนใช้งบประมาณจำนวนมาก ขอให้คณะกรรมการเตรียมทีมนักกีฬาชุดโอลิมปิกเกมส์เร่งออกแผนการเก็บตัวฝึกซ้อมออกมาโดยเร็ว เพื่อที่จะมีเวลาเตรียมทีมตั้งแต่เนิ่น ๆ เพาะเหลือระยะเวลาอีกไม่ถึง 8 เดือน”
Cr..วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์
