พิมพ์ไทยออนไลน์//“เสธ.หมึก” สรุปภาพรวมของกีฬาจักรยานศึกเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่ประเทศจีน ประสบความสำเร็จทะลุเป้า กับการคว้า 1 เหรียญเงิน กับอีก 1 เหรียญทองแดง เผยนักปั่นไทยมีหัวใจนักสู้เกิน 100% ขณะที่โควตาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ฝรั่งเศส ได้แล้ว 4 ที่นั่ง หากได้เพิ่มจาก “จาย อังค์สุธาสาวิทย์” รวมเป็น 5 ที่นั่งจะเป็นประวัติการณ์ของวงการกีฬาจักรยานไทย และจะพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ด้าน “จุฑาธิป มณีพันธุ์” เผยก่อนมาแข่งขันต้องฝึกซ้อมอย่างหนัก และลดน้ำหนักตัวเพื่อให้ปั่นขึ้นเขาได้ รู้สึกเสียดายที่ไม่สามารถเอาเหรียญทองกลับไปฝากคนไทย
“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ได้นำคณะนักกีฬาจักรยานประเภทถนนหญิงทีมชาติไทยชุดสู้ศึกเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่ประเทศจีน นำโดย “บีซ” ร.อ.หญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์ เจ้าของเหรียญทองแดงโรดเรซบุคคลหญิง เดินทางสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อกลางดึกของวันที่ 5 ตุลาคม พร้อมด้วย “แพร” ส.อ.หญิง เพชรดารินทร์ สมราช, “บีม” ส.ต.หญิง ชนิภรณ์ บัตริยะ และ มร.หลี่ เสี่ยว เล่อ ผู้ฝึกสอนชาวจีน โดยมี พลเอกเพิ่มศักดิ์ พวงสาโรจน์ รองประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ, พลเอกวีระกูล ทองมา และ พันเอกสุนทร สัมฤทธิสุทธิ์ อุปนายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ พร้อมกับเจ้าหน้าที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ มาให้การต้อนรับ
พลเอกเดชา กล่าวว่า สำหรับภาพรวมการแข่งขันจักรยานกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ถือว่าประสบความสำเร็จ โดยก่อนแข่งขันทางสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย เชิญฝ่ายเทคนิคของสมาคมไปให้ข้อมูลและประเมินว่าการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้จะได้กี่เหรียญ เราประเมินแล้วว่าน่าจะได้เหรียญใดเหรียญหนึ่ง เพราะเอเชี่ยนเกมส์ไม่เหมือนซีเกมส์ มันเป็นการแข่งขันที่ใหญ่กว่ามาก มีนักกีฬาเข้าร่วมกว่า 40 ประเทศ สำหรับจักรยานต้องเจอศึกหนักทั้งอุซเบกิสถาน, คาซัคสถาน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และมองโกเลีย ล้วนแต่เป็นนักปั่นอาชีพระดับโปร นอกจากนี้นักปั่นทีมชาติคาซัคสถานบางคนก็โอนสัญชาติมาจากรัสเซีย ทำให้นักกีฬาหลาย ๆ ชาติเสียเปรียบ
นายกสองล้อไทย กล่าวอีกว่า สำหรับหัวใจของนักปั่นไทยไม่เคยเสียเปรียบใคร สู้เต็มที่ทุกคน โดยเฉพาะ “บีซ” จุฑาธิป แข่งขันโรดเรซบุคคลหญิง ระยะทาง 140 กม. จุฑาธิปสู้กับคู่แข่งมาตลอด ช่วงสุดท้ายไล่ตามนักปั่นฮ่องกงและเกาหลีใต้ ซึ่งหนีกลุ่มมา 2 คน เหลือระยะทางประมาณ 200-300 เมตร จุฑาธิปและนักปั่นกลุ่มใหญ่รวมทั้ง เหงียน ธิ ทัต จากเวียดนาม ไล่บี้เข้าเส้นชัย สุดท้ายจุฑาธิปได้เหรียญทองแดงมาครอง ซึ่งถ้าหากมีระยะทางอีกสัก 50 เมตร จุฑาธิปน่าจะคว้าเหรียญทองแน่นอน ถือว่าเป็นนักปั่นที่มีหัวใจสู้เกิน 100% ผลสรุปสุดท้ายสมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้มา 1 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง ถือว่าทะลุเป้า
“เสธ.หมึก” กล่าวต่อไปว่า ในส่วนโควตาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ได้มาแล้ว 4 ที่นั่ง ประเภทถนนหญิง 2 ที่นั่ง รายการโรดเรซ และไทม์ไทรอัล, ประเภทถนนชาย 1 ที่นั่ง รายการโรดเรซ, ประเภทบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิ่ง 1 ที่นั่งจาก “เอ้” ส.ต.โกเมธ สุขประเสริฐ ยังรอลุ้นประเภทลู่รายการคีริน จาก “ทีเจ” จาย อังค์สุธาสาวิทย์ ที่จะต้องแข่งขันรายการเนชั่นส์ คัพ 2024 อีก 3 สนาม และจักรยานลู่ชิงแชมป์เอเชีย 2024 ที่อินเดีย เดือนกุมภาพันธ์ 2567 หากได้ 5 ที่นั่งถือว่าเป็นประวัติการณ์ของวงการกีฬาจักรยานไทย ที่พัฒนาก้าวขี้นมาถึงจุดนี้ได้ ที่สำคัญสมาคมกีฬาจักรยานฯ หยุดไม่ได้ เราจะต้องพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง
ด้าน “บีซ” จุฑาธิป กล่าวว่า “รู้สึกดีใจและภูมิใจมาก ๆ ที่ได้เหรียญทองแดง ก่อนแข่งขันคุยกับ น้องบีม ส.ต.หญิง ชนิภรณ์ บัตริยะ ว่าจะช่วยกันอย่างเต็มที่ และหวังลึก ๆ ว่าจะติด 1 ใน 3 ถ้าเราทำดีที่สุดแล้วก็ไม่มีคำว่าเสียใจ แต่ก็รู้สึกเสียดายเล็กน้อยว่าอยากจะคว้าเหรียญทองกลับมาฝากพ่อแม่พี่น้องคนไทยทุกคน แต่เรา 2 คนพยายามทำอย่างสุดความสามารถแล้ว หากใครที่ติดตามชมการถ่ายทอดสดจะเห็นว่าพวกเราสู้กันสุดหัวใจจริง ๆ อีกทั้งเส้นทางการแข่งขันก็ถือว่าโหดมาก ซึ่งก่อนแข่งเอเชี่ยนเกมส์บีซก็ต้องลดน้ำหนัก และฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อให้ปั่นขึ้นภูเขาให้ได้ จะได้ไม่เป็นภาระกับน้องในทีม ขอบคุณตัวเองที่สู้มาจนถึงทุกวันนี้ และขอขอบคุณท่านพลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ และโค้ชหลี่ เสี่ยว เล่อ เชื่อมั่นในตัวบีซเสมอ รวมถึงเพื่อน ๆ น้อง ๆ ในทีมชาติไทยทุกคน วันนี้บีซคว้าเหรียญมาฝากคนไทยได้แล้ว”
Cr..วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์
