พิมพ์ไทยออนไลน์//การแข่งขันกอล์ฟเยาวชน จูเนียร์ เอเชียน ทัวร์ หรือ เจเอที พร้อมจัดแข่งขันสนามที่ 2 ระหว่างวันที่ 17-19 มีนาคมนี้ ที่สนามกรังด์ปรีซ์ กอล์ฟ คลับ จ.กาญจนบุรี เปิดโอกาสให้นักกอล์ฟสมัครเล่นเก็บคะแนนสะสมสมัครเล่นโลก และบันทึกผลการแข่งขันใน จูเนียร์ กอล์ฟ สกอร์บอร์ด พร้อมสะสมแต้มเพื่อพัฒนาสู่ก้าวต่อไป พร้อมเปิดรอบคัดเลือกเพื่อร่วมแข่งขันวันที่ 15 มีนาคมนี้
นับเป็นหนึ่งใน 6 แมตช์แข่งขันเก็บคะแนนสะสมกอล์ฟเยาวชนนานาชาติ จูเนียร์ เอเชียน ทัวร์ 2023 ซึ่งเปิดโอกาสนักกอล์ฟเยาวชนได้มีแมตช์แข่งขันแบบมีมาตรฐาน โดยในทุกรายจะได้นับคะแนนสะสมในอันดับนักกอล์ฟสมัครเล่นโลก( WAGR ) และ จูเนียร์ กอล์ฟ สกอร์บอร์ด (Junior Golf Scoreboard) แข่งขันแบบสโตรคเพลย์ 3 วัน 54 หลุม แบ่งออกเป็นประเภทชายและหญิงแต่ละรุ่นอายุ 10-12 ปี, 13-14 ปี และ 15-18 ปี โดยจะมีการเก็บคะแนนสะสมเพื่อลุ้นสิทธิไปแข่งขันในระดับเยาวชนนานาชาติในต่างประเทศแล้ว ยังพิเศษยิ่งขึ้นกับการได้รับสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันระดับ LPGA, Ladies European Tour, Asian Tour, TrustGolf Tour รวมถึงอีกหลายทัวนาเมนต์อาชีพที่จะจัดขึ้นในเมืองไทยอีกด้วย
รายการนี้เปิดรอบควอลิฟายสำหรับผู้ไม่เป็นสมาชิกร่วมแข่งขันวันที่ 16 มีนาคมนี้ ที่ สนามกรังด์ปรีซ์ กอล์ฟ คลับ เพื่อคัดนักกอล์ฟผลงานดีที่สุด 30 รายเข้าสู่รอบทัวร์นาเม้นท์ แข่งขันระหว่างวันที่ 17-19 มีนาคมนี้ ที่สนามเดียวกันนี้
นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในสนามคัดเลือกนักกอล์ฟจากการแข่งขัน JAT รุ่น โอเพ่น คลาส เพื่อลุ้นสิทธิ์ร่วมแข่งขัน รายการ ทรัสต์กอล์ฟ วีเมนส์ สก็อตติส โอเพ่น รอบคัดเลือกรอบสุดท้าย ซึ่งเป็นรายการ แอลพีจีเอ ทัวร์ โคแซงชั่น เลดี้ส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ เพื่อมอบสิทธิ์ให้กับนักกอล์ฟหญิงที่ผลงานสะสมดีที่สุด 4 คนจากการแข่งขัน JAT สนามที่ 1-3 พร้อมทั้งมอบสิทธิ์ กับนักกอล์ฟชาย-หญิง ที่ผลงานดีที่สุดร่วมแข่งขัน เอเชียน ทัวร์ โคแซงชั่น เลดี้ส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ รายการ เอเชียน มิกซ์ คัพ และมอบโอกาสนักกอล์ฟชาย-หญิง ที่ผลงานดีที่สุด จากการแข่งขันสนามที่ 2-3 ร่วมแข่งขันรายการ เอเชียน มิกซ์ สเตเบิลฟอร์ด ชาลเล้นจ์ และมอบโอกาสให้แชมป์ JAT ทุกสนาม ร่วมการแข่งขัน ไทยแลนด์ มิกซ์ สนามที่ 1-3 และ ผู้เล่นที่มีคะแนนสะสมดีที่สุดจาก JAT สนามที่ 1-3 ร่วมการแข่งขัน ไทยแลนด์ มิกซ์ สนามที่ 4 อีกด้วย
กอล์ฟเยาวชนนานาชาติ “รายการ จูเนียร์ เอเชียน ทัวร์” ได้รับการสนับสนุนจาก ทรัสต์กอล์ฟ ศูนย์ฝึกซ้อมและพัฒนาศักยภาพการตีกอล์ฟด้วยเทคโนโลยีระดับโลก, ทรัสต์ ฟาร์มาซี, ซิลิคอนมาริน่า, ดิทโต้, บริษัท บี.กริม, ธนาคารกรุงเทพฯ, บริษัท บอนด์ โฮลดิ้งส์, บริษัทแอลเอ็มวี, บริดจ์สโตน, อาดิดาส กอล์ฟ, เลอบอนด์, บาลานซ์ กอล์ฟ นิวทรีชั่น และ กรังด์ปรีซ์ กอล์ฟ คลับ
Cr..วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์