พิมพ์ไทยออนไลน์//สหพันธ์เพาะกายโลก เตรียมแก้ปัญหากัมพูชาตัดเพาะกายออกจาก การแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กัมพูชา เป็นเจ้าภาพ ด้วยการจัดชิงแชมป์อาเซียน ที่ สิงคโปร์ แทนกัมพูชา รอกำหนดวันแข่งอีกครั้ง “ศุกรีย์ สุภาวรีกุล” ชี้แจงเหตุผล เนื่องจาก ทางเจ้าภาพ กัมพูชา มีปัญหาเรื่องนักกีฬาตรวจพบสารกระตุ้น และทางสมาคมกีฬากัมพูชาไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ โดนรัฐบาลเขมรสั่งยุบสมาคมฯ ทำให้นักกีฬาหมดสิทธิ์แข่งเพาะกายทุกระดับทั้งอาเซียน, เอเชีย และชิงแชมป์โลก
นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการที่กัมพูชา ตัดกีฬาเพาะกาย ออกจากการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กรุงพนมเปญ กัมพูชา วันที่ 5-17 พ.ค.เนื่องจากปัญาหาภายในของกัมพูชาเอง โดยทางคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ กัมพูชา (CAMSOC) ได้มีหนังสือแจ้งให้คณะกรรมการโอลิมปิคในชาติอาเซียนให้ทราบถึงสาเหตุที่แท้จริง ของการยกเลิกการจัดการแข่งขันเพาะกาย
“ผมได้ทราบเรื่องดังกล่าวโดยได้รับการประสานแจ้งมาจากทางกัมพูชาว่าจะงดจัดชนิดกีฬาเพาะกายในกีฬาซีเกมส์ ครั้งนี้เนื่องจากข้อขัดข้องภายในประเทศของกัมพูชา ที่สหพันธ์กีฬาเพาะกายของประเทศกัมพูชาไม่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องการควบคุมสารต้องห้ามในนักกีฬาได้ สืบเนื่องมาตั้งแต่การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่เวียดนาม ที่กัมพูชาเตรียมส่งนักกีฬา4 คนเข้าร่วมการแข่งขันแต่ไม่สามารถส่งเข้าแข่งขัน เพราะติดปัญหาเรื่องการใช้สารต้องห้ามทำให้กัมพูชาต้องงดส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันมาแล้ว”
“ทางสหพันธ์เพาะกายและฟิตเนสโลก ได้กำหนดไว้ว่า สำหรับกีฬาเพาะกาย ไม่ว่าชาติไหนก็ตาม ต้องตรวจหาสารกระตุ้นก่อนแข่ง 3 สัปดาห์ ถ้าหากใครพบสารกระตุ้นก็ไม่สามารถแข่งขันได้ เช่นเดียวกับซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่เวียดนาม หลายชาติ ที่ตรวจพบการใช้สารต้องห้าม ทำให้ต้องถอนตัวไม่สามารถมาแข่งได้ กัมพูชาที่ส่งแข่ง 4 คน แต่เจอสารกระตุ้น จนไม่ได้าแข่งซีเกมส์ ที่เวียดนาม ทำให้รัฐบาลกัมพูชา โดยกระทรวงกีฬาของกัมพูชา ได้ให้ทางสมาคมเพาะกายกัมพูชาแก้ไขปัญหาเรื่องนี้”
“สหพันธ์เพาะกายและฟิตเนสโลกได้ไปปรึกษาหารือ เรื่องบรรจุ เพาะกายเข้าซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กัมพูชา เดิมกำหนดไว้ว่าจะแข่งทั้งหมด 5 รุ่น ทางกัมพูชามีการหารือายในระหว่างรัฐบาลกัมพูชา กับ สมาคมเพาะกายกัมพูชา ที่จะป้องกันไม่ให้มีการละเมิดการใช้สารต้องห้ามเกิดขึ้น กับนักกีฬากันอีก ซึ่งสมาคมเพาะกายกัมพูชารับปากกับ กระทรวงกีฬาว่าจะมีการแก้ปัญหาเรื่องนี้ แต่ถ้าแก้ไขไม่ได้จะไม่จัดแข่ง ปรากฏว่า สมาคมกีฬาเพาะกายกัมพูชาไม่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องการส่งแข่ง แล้วนักกีฬาเจอโด๊ปได้
เมื่อเดือนพ.ย.มีเพาะกาย มีแข่งกีฬาในประเทศ เป็นกีฬาแห่งชาติกัมพูชา เจอว่านักกีฬา มีการตรวจพบสารกระตุ้นอีก แสดงให้เห็นว่า สมาคมเพาะกายกัมพูชา ไม่สามารถ สร้างหลักประกันกับ รัฐบาลว่านักกีฬาจะไม่เจอโด๊ป”
“การแข่งขันกีฬาแห่งชาติกัมพูชาจัดขึ้นเพื่อให้สหพันธ์กีฬาชนิดต่างๆ ของกัมพูชาได้ทดสอบสมรรถภาพความสามารถนักกีฬา
ปรากฏว่านักกีฬาเพาะกายกัมพูชาเตรียมเข้าร่วมกีฬาซีเกมส์ ถูกตรวจพบว่ามีการใช้สารต้องห้าม 2 คน ทำให้คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ CAMSOC มีความกังวลถึงความเสียหายและภาพลักษณ์ของการเป็นเจ้าภาพ กัมพูชาเห็นว่าควรยกเลิกการจัดชนิดกีฬาเพาะกายกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 เพื่อเป็นการป้องกันเหตุการณ์ที่อาจจะสร้างความเสียหายให้กับ กัมพูชาในฐานะเจ้าภาพ”
“กัมพูชา เห็นว่าถ้าไม่พร้อมจัดแข่งเพาะกาย ไม่ควรจัดแข่งดีกว่า ทั้งๆ ที่เพาะกายเป็นกีฬาความหวังเหรียญทอง แต่ที่ต้องตัดออกเพราะเป็นปัญหาภายในประเทศ เจ้าภาพซีเกมส์ของกัมพูชา เป็นการจัดในรอบ 70 ปี ถึงแม้เพาะกาย จะเป็นกีฬาความหวัง แต่ถ้าจัดแข่ง นักกีฬากัมพูชาตรวจพบว่ามีสารต้องห้าม ขายหน้าเพื่อนบ้านอาเซียนมากกว่า จึงตัดเพาะกายออกจะดีกว่า และถ้าจัดแข่งโดยไม่มีนักกีฬาชาติเจ้าภาพ ก็ไม่ดี”
“จากการยกเลิกการจัดการแข่งขันชนิดกีฬาเพาะซีเกมส์ ทำให้สหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสโลก (WBPF) เตรียมจัดการแข่งขันกีฬาเพาะกายชิงแชมป์อาเซียน ที่ศสิงคโปร์เป็นการทดแทน เนื่องจากชาติสมาชิกในอาเซียน อาทิ ไทย ลาว เวียดนาม เมียนมาร์ มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ต่างเตรียมนักกีฬาเพาะกาย เพื่อส่งแข่งขันซีเกมส์ ที่กัมพูชา ระยะเวลานานแล้ว”
“ตอนนี้ชาติในอาเซียนมีการประชุมหารือกับ สหพันธ์เพาะกายและฟิตเนส ถึงปัญหาการตัดกีฬาเพาะกายออกจากซีเกมส์ ว่าเป็นอย่างไร เนื่องจากแต่ละชาติมีการเตรียมตัวก่อนแข่ง และสหพันธ์มีการจัดแข่งชืงแชมป์อาเซียน, ชิงแชมป์เอเชีย และชิงแชมป์โลกอนู่แล้ว โดยกัมพูชาส่งนักกีฬาแข่งชิงแชมป์โลก ที่ภูเก็ต เดือนธ.ค.65จำนวน 1 คน แต่ไม่มีปัญหาเรื่องสารกระตุ้น เพราะได้มีการตรวจหาสารต้องห้ามก่อนแข่ง 3 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม สหพันธ์ฯ เป็นห่วงเรื่องของชาติอื่นๆ ในอาเซียนมากกว่า แต่ต่อไปนักกีฬาเพาะกายกัมพูชา จะไม่ได้ออกมาแข่งแน่นอน เนื่องจากทางกระทรวงกีฬาของกัมพูชา ได้ยุบสมาคมกีฬาเพาะกายของกัมพูชาเรียบร้อย และสหพันธ์เพาะกายและฟิตเนสโลกเข้มงวดเรื่องการตรวจสารต้องห้ามการแข่งขันเพาะกายทุกรายการ”
“ดาโต๊ะพอล ชัวร์ ประธานสหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสโลก จะมีการหารือ กับทาง 8 ชาติ ที่มีลาว, เมียนมาร์, ไทย, เวียดนาม, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, บรูไน และทางสหพันธ์เพาะกายเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกครั้งว่า การจัดชิงแชมป์อาเซียน ที่สิงคโปร์ น่าจะจัดก่อนหรือหลัง ซีเกมส์ ครั้งที่ 32 จะต้องกำหนดโปรแกรมการแข่งขันก่อน จะไม่ให้กระทบกับการเตรียมนักกีฬาแข่งชิงแชมป์เอเชีย ที่เนปาล วันที่ 8-14 สิงหาคม 2566”
Cr..วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์
