พิมพ์ไทยออนไลน์//เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 65 เวลา 9.00.น. นางสุจิตรา พิทยานรเศรษฐ์ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ เป็นประธานในพิธีเปิดงานจัดสัมมนาเตรียมตัวก่อนเกษียณบุคลากร พม. ประจำปี 2565 รุ่นที่ 1 เพื่อเตรียมความพร้อมบุคคลากรเป็นผู้สูงอายุที่มีคุณภาพ ณ โรงแรมริเวอร์ตัน อัมพวา จังหวัดสมุทรสงครามนางสุจิตรา พิทยานรเศรษฐ์ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ กล่าวว่า กระทรวง พม. โดยกรมกิจการผู้สูงอายุได้เห็นความสำคัญของประเทศไทยมีแนวโน้มจะก้าวเข้าสู่การเป็นสังคมสูงอายุระดับสมบูรณ์ ในปี 2565 คือมีประชากรสูงอายุ สูงถึงร้อยละ 20 ของประชากรทั้งประเทศ และในปี 2574 มีแนวโน้มที่จะเข้าสู่การเป็นสังคมสูงอายุในระดับสุดยอด คือ มีประชากรผู้สูงอายุ สูงถึงร้อยละ 28 ซึ่งสังคมสูงอายุจะมีผลกระทบสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจระดับมหภาคหลายประการ เช่น วัยแรงงานลดลง การออมลดลง การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจลดลง ปัญหาภาวะหนี้สินเพิ่มมากขึ้น อัตราส่วนพึ่งพิงในวัยสูงอายุเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น ในปี 2561 รัฐบาลจึงได้กำหนดให้วาระผู้สูงอายุเป็นระเบียบวาระแห่งชาติ และตามมติคณะรัฐมนตรี 29 กันยายน 2563 ได้เห็นชอบมาตรการขับเคลื่อนสังคมสูงวัยคนไทยอายุยืนรวมทั้งได้มีการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านผู้สูงอายุ ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2545 – 2565) ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2563 ยุทธศาสตร์ที่ 1 การเตรียมความพร้อมของประชากร เพื่อวัยสูงอายุที่มีคุณภาพ โดยในปีงบประมาณ พ.ศ.2565 กรมกิจการผู้สูงอายุ ได้มีแผนการขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการสร้างความตระหนักและเตรียมความพร้อมรองรับสังคมสูงอายุ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่สังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์ โดยสร้างความร่วมมือ ของภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม รวมทั้งรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญ เพื่อมีการเตรียมความพร้อมตนเอง มีความรู้ความเข้าใจในการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่วัยสูงอายุที่มีคุณภาพด้านต่าง ๆ ที่จำเป็น 5 มิติ ได้แก่ สุขภาพ เศรษฐกิจ สังคม สภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย และเทคโนโลยีนวัตกรรม และมีการเตรียมการรองรับสังคมสูงอายุ เพื่อให้เป็นผู้สูงอายุที่มีคุณภาพ
จากที่กล่าวมาข้างต้น กรมกิจการผู้สูงอายุจึงได้มีการจัดสัมมนาเตรียมตัวก่อนเกษียณบุคลากร พม. ประจำปี 2565 รุ่นที่ 1 ระหว่างวันที่ 9-11- สิงหาคม 2565 ณ โรงแรมริเวอร์ตัน อัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อส่งเสริมให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงการพัฒนาและความมั่นคงของมนุษย์ ที่มีอายุระหว่าง 50-59 ปี หรือผู้ที่จะเกษียณอายุราชการในปี 2565 มีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะการวางแผนชีวิต ตระหนักถึงการสร้างวินัย การเตรียมความพร้อมตนเองในทุกด้าน สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้เป็นแนวทางและสร้างความมั่นคงในการดำเนินชีวิตภายหลังเกษียณอายุได้อย่างมีคุณภาพ
โดยการสัมมนาครั้งนี้ ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากวิทยากรผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านการเตรียมความพร้อมก่อนวัยสูงอายุในทุกมิติ ได้แก่ อาจารย์ไตรรัตน์ จารุทัศน์ หัวหน้าภาควิชาเคหะการ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย / รศ.บัญชา วิทยอนันต์ คณบดีคณะนิติศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ วิทยาลัยนครราชสีมา / วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากธนาคารอาคารสงเคราะห์/ วิทยากรจากบริษัท แอ็บบอต ลาบอแรตตอรีส (ประเทศไทย) จำกัด / วิทยากรกระบวนการ อาจารย์ไพริน ทำขุนทด บริษัท เฮลตี้ แอนด์ ออร์แกไนซ์ จำกัด และวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากแหล่งศึกษาดูงานโครงการอัมพวาชัยพัฒนานุรักษ์ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสCOVID-19:Cr;มณสิการ รามจันทร์