พิมพ์ไทยออนไลน์//เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 “แพม” สุภกมล วรรธนะดิษฐ์ พร้อมด้วย “แพตตี้” สุภจิต วรรธนะดิษฐ์ สองพี่น้องนักกีฬาขี่ม้าดาวรุ่งมาแรงของไทย ได้ร่วมแถลงข่าวและให้สัมภาษณ์พิเศษกับสื่อมวลชน เล่าประสบการณ์การแข่งขันบนสนามระดับโลก หลังจากทั้งสองคนได้ออกไปแสดงฝีมือ โชว์ศักยภาพการขี่ม้าในประเภทศิลปการบังคับม้า (Dressage) จนได้รับการยอมรับจากผู้คนในวงการกีฬาขี่ม้านานาชาติมากมาย โดยมี อิมเก้ เชลเลเกนส์-บาร์เทล อดีตนักกีฬาขี่ม้าหญิงของเนเธอร์แลนด์ ดีกรีเหรียญเงินโอลิมปิก ปี 2008 ที่กรุงปักกิ่ง และเหรียญทองแชมป์โลก ปี 2010 ที่เคนตักกี้ ประเภทศิลปการบังคับม้า เป็นผู้ฝึกสอนแบบติวเข้มให้ทั้งคู่ ตั้งเป้าคว้าโควต้าลงแข่ง เอเชียน เกมส์ 2022 และ โอลิมปิก เกมส์ 2024
“แพม” สุภกมล วรรธนะดิษฐ์ วัย 24 ปี เจ้าของอันดับ 366 ของโลก ตามแรงกิ้งของสมาคมกีฬาขี่ม้านานาชาติ (FEI) ได้รับการยอมรับจากผู้คนในวงการกีฬาขี่ม้าของฝั่งยุโรป หลังแสดงฝีมือลงแข่งขันรายการต่างๆ เก็บคะแนนพัฒนาตัวเอง จนสามารถยกระดับเข้าแข่งรายการระดับ “กรังด์ ปรีซ์” ได้สำเร็จ ซึ่งเป็นการแข่งขันระดับสูงสุดที่รับรองโดย FEI และเป็นนักกีฬาขี่ม้าคนแรกในประวัติศาสตร์ของไทย ที่ได้ลงแข่งขัน ซึ่งผลงานโดดเด่นด้วยการคว้าอันดับ 5 รายการ ซีดีไอ ทรี สตาร์ บิ๊กทัวร์ กรังด์ปรีซ์ (CDI 3* Bigtour GrandPrix) ท่ีประเทศโปแลนด์ในคลาส กรังด์ปรีซ์สเปเชียล เมื่อเมษายน 2565 และอันดับ 2 ในรายการ CDI 3 Star U25 GrandPrix ที่ฝรั่งเศส เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2564ขณะที่ “แพตตี้” สุภจิต วรรธนะดิษฐ์ วัย 21 ปี น้องสาว กำลังเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในวงการกีฬาขี่ม้าตามรอยพี่สาว โดยล่าสุดในรายการ CDI 2 Star Prix St-Georges ที่โปแลนด์ เดือนเมษายน ที่ผ่านมา “แพตตี้” สุภจิต ได้สร้างความประทับใจในสนามแข่งระดับโลก ด้วยการประยุกต์ทำนองเพลงไทย ที่ได้แรงบันดาลใจจากละครดัง “บุพเพสันนิวาส” ใช้ลงแข่งเวทีระดับนานาชาติ สามารถทำผลงานยอดเยี่ยม ชนะใจกรรมการ คว้าอันดับ 3 มาครองในประเภทศิลปการบังคับม้า เรียกความมั่นใจสำหรับการลงแข่งขันควอลิฟาย เพื่อคว้าตั๋วไปแข่ง เอเชียน เกมส์ 2022 ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน ที่ถูกเลื่อนไปเป็นเดือนกันยายน ปี 2023
“แพม” สุภกมล เล่าว่า “สำหรับการแข่งขันกีฬาขี่ม้าในยุโรปที่ผ่านมา ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก เราได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมาย ทั้งการทำงานร่วมกับโค้ช การดูแลม้าทุกขั้นตอนตั้งแต่ตื่นเช้ามาให้อาหาร สำรวจร่างกาย พาไปออกแปลง รวมถึงการซ้อมต่างๆ แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่แพมได้เรียนรู้จากการขี่ม้าก็คือ คนกับม้าต้องมีใจเป็นหนึ่งเดียวกัน เราต้องรัก ดูแลและเข้าใจเขา อย่าคิดว่าม้าเป็นเพียงแค่สัตว์ที่เราหวังแค่ใช้งานแล้วจบไป ต้องมองเขาให้เป็นเหมือนเพื่อน เป็นสิ่งสำคัญในชีวิตของเรา”
ด้าน “แพตตี้” สุภจิต เล่าเสริมว่า “นอกจากเรื่องการดูแลม้า ทุกครั้งที่พวกเราลงแข่งขัน ก็จะได้รับประสบการณ์ดีๆ มากมาย ซึ่งเวลาลงแข่ง ต่อให้เราซ้อมมาดีแค่ไหนกับสนามที่บ้านตัวเอง พอมาลงแข่งสนามจริง มันก็มีอุปสรรคต่างๆ ที่เราคาดไม่ถึงให้ได้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเสมอ รวมถึงเรื่องความกังวลของเราด้วย เพราะมีบางครั้งที่เราเองก็ไม่มั่นใจว่าจะทำได้ดีไหม จะโชว์ฟอร์มได้เหมือนตอนที่ซ้อมหรือเปล่า แต่พอได้ลงสนามมากขึ้นเราก็ไม่กังวลแล้ว มีแต่ความมุ่งมั่นที่อยากจะทำให้ดีที่สุด แม้สุดท้ายในวันนั้นเราจะจบลงด้วยผลงานที่ไม่ดีนัก แต่ก็เป็นบทเรียนที่ทำให้เราได้กลับมาศึกษาและแก้ไขปรับปรุงตัวเองและม้าให้ดียิ่งขึ้นต่อไป”
สำหรับเป้าหมายหลังจากนี้ ทั้ง “แพม” สุภกมล และ “แพตตี้” สุภจิต มีการวางแผนของตัวเองที่ต่างกันออกไป โดยรายของ “แพม” สุภกมล บอกว่าได้วางแผนที่จะลงแข่งขันระดับอินเตอร์อีก 2-3 รายการที่ยุโรป เช่น ฝรั่งเศส หรือ เยอรมนี เดือนกันยายน–ตุลาคม 2022 เพื่อฝึกซ้อมฝีมือตัวเองและม้าเพิ่มเติม ก่อนที่ในเดือนมกราคม-ธันวาคม ปี 2023 จะลุยแข่งรายการระดับ กรังด์ ปรีซ์ ของ FEI เพื่อเก็บคะแนนสะสมให้ได้มากที่สุด สำหรับการลุ้นโควต้าลงแข่ง โอลิมปิก เกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ฝรั่งเศส ประเภทศิลปะบังคับม้าส่วนของ “แพตตี้” สุภจิต ก็เตรียมตัวสำหรับการลงแข่งขันควอลิฟายระดับประเทศไทย ในรุ่น Prix St.George เพื่อลุ้นโควต้าเข้าร่วมแข่งขันกีฬาขี่ม้า ประเภทศิลปบังคับม้าในศึก เอเชียน เกมส์ 2022 ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน ที่ถูกเลื่อนไปเป็นเดือนกันยายน ปี 2023 ในฐานะตัวแทนของทีมชาติไทย แล้วเมื่อจบการควอลิฟาย ตนก็จะหาโอกาสยกระดับไปฝึกซ้อมในรุ่น Intermediate ซึ่งเป็นรุ่นที่ใหญ่ขึ้น เพื่อเตรียมตัวสำหรับการยกระดับไปลงแข่งในรุ่นที่สูงขึ้นต่อไป
Cr..วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์