พิมพ์ไทยออนไลน์// สมชาย วงษ์สุวรรณ นักชกทีมชาติไทย รุ่น63กก. พร้อมด้วย บรรจง สินสิริ(รุ่น69กก.) จักรพงษ์ ยมโคตร(91กก.) จุฑามาศ รักสัตย์ (48กก.หญิง) นำทัพกำปั้นไทย คว้า 4เหรียญทองซีเกมส์ ด้าน “เสธน้อย” พล.อ.อ.ระพีพัฒน์ หลาบเลิศบุญ พอใจผลงานของทีม เตรียมวางแผนระยะยาว เพื่อล่าเหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์ ที่ หางโจว ) ประเทศจีน
ปลายปีนี้
การแข่งขันมวยสากลกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่เวทีมวยชั่วคราวบั๊กนิญ ยิมเนเซี่ยม เวียดนาม เมื่อวันที่ 22 พ.ค. รอบชิงชนะเลิศ โดยทีมชาติไทย เข้าถึง 6 รุ่น ประกอบด้วย ชาย 4 รุ่น และ หญิง 2 รุ่น จากทั้งหมด 11 รุ่น โดยนี้ มี นาย วินัย รอดจ่าย เลขาธิการสมาคมฯและ พล.อ.อ.ระพีพัฒน์ หลาบเลิศบุญ ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิคฯเข้าไปชมและเชียร์ให้กำลังใจทัพกำปั้นไทยถึงเวที
คู่แรก รุ่น 63 กก.สมชาย วงษ์สุวรรณ พบ ฟาร์รันด์ ปาเปนแด็ง (อินโดนีเซีย) ผลปรากฎว่า สมชาย ใช้จังหวะฝีมือ สายตา ชั้นเชิงมวยที่เหนือกว่าออกหมัดแย็ป และกระแทกหมัดเข้าบริเวณหางคิ้วซ้ายของนักชกอิเหนา จนมีแผลแตก กรรมการสั่งพี่เลี้ยงให้มาดูอาการและห้ามเลือดหลายครั้ง ครบ 3 ยก สมชายเป็นฝ่ายต้อนชนะคะแนน 5-0 คะแนน คว้าเหรียญทองแรกให้ทัพกำปั้นไทย
รุ่น 69กก. บรรจง สินสิริ ดีกรีนักชกยอดเยี่ยม มวยสากล”ไทยแลนด์โอเพ่น”ที่จ.ภูเก็ต พบ ซาโรฮาตัว ลุมบานโตบิง (อินโดนีเซีย) บรรจง โชว์สเต็ปเชิงมวย ที่เหนือชั้นชนะคะแนนไม่ยาก 5-0 คว้าเหรียญทองที่ 2ให้ทีมขุนพลทีมชาติไทย
รุ่น81กก.”เจ้าร่อง”อนวัช ถองกระโทก พบ มิเกล โรเบิร์ต มุสกิต้า (อินโดนีเซีย) นักชกไทยเสียเปรียบเรื่องช่วงชก เพียงแค่ 30วินาที ของยกแรก อนวัช พลาดโดนหมัด ให้กรรมการนับ 8 หลังจากนั้นเป็นฝ่ายเดินหน้าแลกหมัด แต่โดนหมัดชุดของมุสกิต้า หลายหมัด หัวใจเกินร้อยสำหรับอนวัช ยก 2 นักชกไทยเป็นฝ่ายเดินชวนทะเลาะ แต่เสียเปรียบเรื่องช่วงชก ทำให้หมด2ยกคะแนน ยังตามอยู่
ยกสุดท้าย อนวัช ยืนปักหลักแลกหมัดกันกลางเวที ช่วง10วินาทีสุดท้าย มุสกิต้า โดนหมัดอนวัชเข้าอย่างจัง ต้อง นับ 8 เหมือนกัน ทว่าครบ 3 ยก กรรมการชูมือให้มุสกิต้าชนะคะแนน 5-0 ทำให้อนวัช ได้เหรียญเงิน
รุ่น 91กก. “เจ้ายักษ์”จักรพงษ์ ยมโคตร พบ อ่อง เพรัก (กัมพูชา) เพียงแค่ยกแรก”เจ้ายักษ์” ปล่อยหมัดเข้าใบหน้านักชกกัมพูชาเต็มแรง จนกรรมต้องเข้ามานับ 8 กรรมการเข้าไปดูเห็นว่าชกต่อไม่ได้ กรรมการยุติการชก ชูมือให้ จักรพงษ์ ชนะอาร์เอสซี เพียงแค่ยกแรก คว้าเหรียญทองอย่างง่ายดาย
ขณะที่มวยหญิง ได้ชิง 2 รุ่น คือ รุ่น 48 กก.หญิง”น้องหวาน”จุฑามาศ รักสัตย์ พบ เตรียน ธี เดียม เกียว(เวียดนาม) ผลปรากฎว่า จุฑามาศ ทำได้ดีกว่าชนะคะแนน 5-0 คว้าเหรียญทองให้กำปั้นหญิง และเป็นเหรียญทองที่4ของขุนพลเสื้อกล้ามทีมชาติไทย
รุ่นสุดท้าย รุ่น57 กก.หญิง”เมษา”นิลาวัลย์ เตชะสืบ พบ หว่อง ธี วี่ (เวียดนาม) นิลาวัลย์อาศัย เดินหน้าออกหมัดรบกวนนักชกเจ้าภาพตลอด ช่วงยก3 “เมษา”รู้ว่าคะแนนเป็นรอง ทำให้เดินหน้าทะเลาะ และ ออกหมัดได้เข้าเป้า เต็มใบหน้าของ หว่อง ธี วี่ ทำให้กรรมการต้องนับ 8 แต่ครบ 3ยก กรรมการชูมือให้นักชกเวียดนามชนะคะแนน 3-2 นิลาวัลย์ ได้แค่เหรียญเงิน
ด้าน “เสธน้ย” พล.อ.อ.ระพีพัฒน์ หลาบเลิศบุญ ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิคสมาคมกีฬามวยสากลฯ เผยว่า พอใจฟอร์มของนักชกไทยทุกคน ขอบคุณนักกีฬาทุกคนที่ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด สร้างความสุขให้คนไทย หลังจากนี้สมาคมจะวางแผนเก็บตัวฝึกซ้อมต่อทันที เป้าหมายคว้าเหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์ ที่หางโจว ประเทศจีน เดือนกันยายนนี้
สรุปผลงาน ขุนพลเสื้อกล้ามทีมชาติไทย ส่งแข่งขัน 10 รุ่น ได้ 4 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง
Cr..วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์