วันพุธ, พฤษภาคม 14, 2025

หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทยออนไลน์

หน้าแรกข่าวกีฬา"บาส-ปอป้อ" ล้มแชมป์โอลิมปิก ทะลุชิง "ไทยแลนด์ โอเพ่น 2022"

“บาส-ปอป้อ” ล้มแชมป์โอลิมปิก ทะลุชิง “ไทยแลนด์ โอเพ่น 2022”

พิมพ์ไทยออนไลน์// “บาส-ปอป้อ” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่ผสมมือ 1 โลก ล้ม คู่เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2020 “หวัง ยี่ ลู่” กับ “หวง ดอง ปิง” คู่มืออันดับ 4 ของโลกจากจีน 2-1 เกม ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ ศึกแบดมินตัน “โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ไทยแลนด์ โอเพ่น 2022” ส่วนประเภทหญิงเดี่ยว “เมย์” รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันมือ 1 ไทย พ่าย คู่รักคู่แค้น ไท่ ซือ อิง ดีกรีมือวาง 1 ของรายการมือ 2 โลกจากไต้หวัน อีกครั้ง 1-2 เกม พลาดเข้าชิงชนะเลิศอย่างน่าเสียดาย
การแข่งขันแบดมินตัน เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 500 รายการ “โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ไทยแลนด์ โอเพ่น 2022” (TOYOTA GAZOO Racing Thailand Open 2022) ชิงเงินรางวัลรวม 360,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 12,240,000 บาท ที่อิมแพค อารีนา เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 21พ.ค.ที่ผ่านมา บรรยากาศที่สนามในวันหยุดมีแฟนๆกีฬาแบดมินตันไทยเข้ามาชมกันอย่างคับคั่ง โดยเฉพาะเหล่าบรรดาแฟนคลับของนักกีฬาไทยที่มากันอย่างล้นหลาม
ประเภทคู่ผสม รอบรองชนะเลิศ (4 คู่สุดท้าย) “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ ‘ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มือวางอันดับ 1 ของรายการ คู่มืออันดับ 1 ของโลก “แชมป์เก่า” พบ หวัง ยี่ ลู่ กับ หวง ดอง ปิง คู่มืออันดับ 4 ของโลกจากจีน ดีกรีเหรียญทองคู่ผสม โอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น

สำหรับสถิติการพบกันที่ผ่านมาคู่นี้ดวลแร็กเกตกันมาแล้ว 13 ครั้ง เป็นคู่นักหวดจีนที่สามารถเอาชนะได้ถึง 8 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดเป็นการแข่งขัน “สุธีรมาน คัพ” ที่ฟินแลนด์ เมื่อปีที่แล้ว ซึ่ง เดชาพล กับ ทรัพย์สิรี เป็นฝ่ายปราชัย 8-21, 15-21
การเจอกันในครั้งนี้ เดชาพล กับ ทรัพย์สิรี ได้กำลังใจจากกองเชียร์ที่เข้ามาชมในสนามกันกว่าครึ่งหมื่น ทำให้มีแรงฮึดสู้เต็มที่ แม้จะแพ้ไปในเกมแรก 16-21 แต่ทั้งคู่ก็ยังสามารถผนึกกำลังกันสู้ได้ดี มีเกมบุกที่เฉียบขาดกลับมาชนะในเกมสอง 21-12 เกมสุดท้ายค่อนข้างสูสีในช่วงต้นเกมคู่ไทยเป็นฝ่ายตาม 9-11 ก่อนที่จะไล่บี้ตีเสมอ 11-11 และแซงนำ 12-11 จากนั้นคู่ไทยยิ่งเล่นฟอร์มยิ่งแรงคุมเกมได้หมดจนสามารถทำแต้มนำห่าง 20-16 และชนะได้ในที่สุด 21-16 เดชาพล กับ ทรัพย์สิรี คว้าชัยชนะ 2-1 เกม 16-21, 21-12, 21-16 ใช้เวลา 67 นาที
เดชาพล กับ ทรัพย์สิรี เข้าชิงชนะเลิศเป็นสมัยที่สอง และต้องไปลุ้นป้องกันแชมป์กับ เจิ้ง ซิ เว่ย กับ หวง หย่า เฉียง คู่มือวาง 2 ของโลกจากจีน ที่ตัดเชือกชนะ ยูตะ วาตานาเบ้ กับ เอริสะ ฮิกาชิโนะ คู่มืออันดับ 3 ของโลก 2-1 เกม 18-21, 21-8, 23-21
“บาส-ปอป้อ” ร่วมกันกล่าวว่า คู่ต่อสู้มีความแข็งแกร่งมาก ก็ได้ศึกษาการเล่นมาโดยตลอด ต้องพยายามคุมเกมให้ได้ในการเล่นเกมบุก ไม่ให้ตีเสียเองมากจนเกินไป เกมนี้ถือว่าเล่นได้ตามฟอร์มและเป็นไปตามแผนของตัวเอง สำหรับรอบชิงชนะเลิศ จะพยายามวางแผนกับโค้ชให้รัดกุม ไม่คิดถึงการเป็นคู่มือ 1 ของโลกมากดดันตัวเองจนเกินไป เพื่อที่จะเล่นตามเกมของตัวเองให้ได้มากที่สุด

ประเภทหญิงเดี่ยว รอบรองชนะเลิศ (4 คนสุดท้าย) “เมย์” รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันไทยมืออันดับ 8 ของโลก โคจรมาเจอกับคู่ปรับเก่า ไท่ ซือ อิง มือวาง 1 ของรายการ มือ 2 ของโลกจากไต้หวัน ที่เคยดวลแร็กเกตกันมาแล้วถึง 30 ครั้ง และผลัดแพ้-ชนะกันมาตลอด ซึ่ง รัชนก ชนะได้ 14 ครั้ง ขณะที่ ไท่ ซือ อิง เหนือกว่าเล็กน้อยชนะได้ 16 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดที่พบกันเป็นการแข่งขันรอบ 8 คนสุดท้าย โอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้ว สาวไทย แพ้ 1-2 เกม 21-14, 18-21, 18-21 ขณะที่ การแข่งขัน ไทยแลนด์ โอเพ่น เมื่อต้นปี 2564 ไท่ ซือ อิง เป็นฝ่ายชนะ รัชนก ในรอบรองชนะเลิศ 2-1 เกม 11-21, 21-18, 21-16
เกมนี้ เริ่มต้นอย่างสูสี แต่รัชนกสามารถคุมเกมได้ดีกว่า ทำคะแนนนำห่าง และเข้าป้ายได้ก่อน 21-10 เข้าสู่เกมที่ 2 ไท่ ซือ อิง กลับมาเล่นได้เหนือกว่าบ้าง เร่งหวดทำคะแนนนำรวดเดียว เอาชนะคืนได้ 21-13 ตามมาเท่ากันที่ 1-1 เกม ในเกมตัดสิน ทั้งคู่เล่นกันอย่างระมัดระวัง รัชนกเปิดฉากนำได้ก่อน 7-3 แต่ไท่ ซื่อ อิง ค่อย ๆ ทำแต้มไล่จี้ขึ้นมา จนแต้มกลับมาเบียดกันอีกครั้งที่ 16-16 โดย รัชนก เล่นแบบเน้นทุกแต้ม
รักษาแต้มนำเอาไว้ได้ 19-17 แต่มาพลาดในช่วงสุดท้าย ให้ ไท่ ซื่อ อิง ทำแต้มแซง และเอาชนะไป 21-19 ส่งผลให้ รัชนก แพ้ไป 1-2 เกม 21-10, 13-21,19-21 ใช้เวลา 58 นาที พลาดเข้าชิงชนะเลิศไปอย่างน่าเสียดาย ในขณะที่ ไท่ ซื่อ อิง จะเข้าชิงชนะเลิศ กับ เฉิน ยู่ เฟย นักกีฬาจีนดีกรีมือ 4 ของโลก เจ้าของเหรียญทอง โอลิมปิกเกมส์ 2020 ชนะ พูซาร์ล่า สินธุ จากอินเดีย 2-0 เกม 21-17,21-16

รัชนก กล่าวว่า นี่เป็นครั้งที่ 31 แล้ว ที่ต้องดวลกับ ไท่ ซื่อ อิง ยังรู้สึกสนุกเหมือนเดิม เป็นเกมที่ต้องมีการชิงไหวชิงพริบกัน โดยเกมการเล่นในแต้มสำคัญ ตนเองคอนโทรลได้ไม่ดีพอ แต่ก็รู้สึกภูมิใจและพอใจกับฟอร์มการเล่นของตัวเอง เพราะถึงแม้ในเกมที่ 3 เล่นได้ตามสปีดของตนเอง แม้ไม่สามารถเข้าชิงชนะเลิศได้ อยากจะให้แฟนแบดมินตันเข้ามาเชียร์เยอะ ๆ ในวันสุดท้าย เพื่อให้คู่ผสมของเราคว้าแชมป์ไทยแลนด์ โอเพ่น ให้ได้ ส่วนตนจะเดินหน้าไปแข่งขันเก็บคะแนนสะสม ที่อินโดนีเซีย เดือน มิถุนายนต่อไป

Cr..วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวใหม่