พิมพ์ไทยออนไลน์// “บีซ” ร.อ.หญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์ ทำผลงานอย่างสุดยอด ปั่นคว้าเหรียญทองไครทีเรียมหญิง กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 เฉือนชนะ “เหงียน ธิ ทัต” ตัวเก่งของเจ้าภาพ “เวียดนาม” อย่างสุดมัน ด้าน “บีซ” ขอมอบเหรียญทองนี้ให้แก่พี่น้องชาวไทยทุกคน พร้อมขอบคุณ “พลเอกเดชา” นายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ ที่คอยดูแลในทุก ๆ เรื่อง และเปรียบเสมือน “พ่อ” อีกคนหนึ่ง “เสธ.หมึก” สุดปลื้มทัพนักปั่นไทยทำได้ 2 ทองตามเป้าหมาย นอกจากนี้ได้มอบเงินรางวัลพิเศษให้แก่ ส.ต.หญิง ชนิภรณ์ บัตริยะ และ ร.ต.ท.หญิง พรรณรายณ์ ราษี คนละ 75,000 บาท ที่มีหัวใจนักสู้และมีส่วนช่วยให้ “บีซ” คว้าทอง ขณะที่ ส.ท.สราวุฒิ สิริรณชัย คว้าเหรียญเงินไครทีเรียมชาย มาครอง ส่วนเหรียญทองเป็นของเวียดนาม
การแข่งขันจักรยานประเภทถนน กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่เมืองฮัวบินห์ เวียดนาม เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม เปิดฉากวันแรกมีชิงชัยกัน 2 เหรียญทอง รายการไครทีเรียมหญิงและชาย สำหรับสนามแข่งขันใช้ถนนกลางเมือง ปั่นเป็นลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้า ระยะทางรอบละ 1.48 กิโลเมตร แต่ละชาติจะส่งนักกีฬาแข่งขันได้ไม่เกินชาติละ 3 คน ซึ่งทางเจ้าภาพใช้กติกาให้นักกีฬาไปสปรินต์วัดดวงกันในรอบสุดท้าย โดยไม่มีการสปรินต์เก็บคะแนนระหว่างการแข่งขัน เริ่มการแข่งขันไครทีเรียมหญิง ปั่น 20 รอบ ระยะทาง 29.6 กิโลเมตร มีนักกีฬา 19 คน จาก 7 ชาติ ได้แก่ เวียดนาม, ไทย, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์ และ ลาว สำหรับทีมไทยส่ง 3 นักปั่นสาวลงชิงชัย ประกอบด้วย “ผู้กองบีซ” ร้อยเอกหญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์, “ขิม” ร้อยตำรวจโทหญิง พรรณรายณ์ ราษี, “บีม” สิบตรีหญิง ชนิภรณ์ บัตริยะ
เกมการแข่งขันในช่วง 10 รอบแรก ยังเกาะกลุ่มกัน แต่หลังจากนั้นเริ่มมีกลุ่มนำฉีกหนีออกไป โดยมี ชนิภรณ์ เกาะอยู่ในกลุ่มนำด้วย แต่เมื่อเข้าสู่รอบที่ 18 กลุ่มใหญ่ก็เข้ามารวบ จนกระทั่งรอบสุดท้าย นักปั่นแต่ละชาติต่างเร่งสปรินต์กันเต็มที่ ผลปรากฏว่า “บีซ” จุฑาธิป ทุ่มพลังทั้งหมดสปรินต์สุดแรงช่วง 100 เมตรสุดท้าย ก่อนทะยานพุ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก เฉือนชนะ เหงียน ธิ ทัต นักปั่นตัวเก่งของเจ้าภาพอย่างสุดมัน ส่งผลให้ จุฑาธิป คว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ และเป็นเหรียญทองที่ 2 ของทัพนักปั่นไทย ส่วนเหรียญเงิน เหงียน ธิ ทัต นักปั่นเวียดนาม เหรียญทองแดง นูร์ อิสยา มูฮาหมัด ซูเบียร์ จากมาเลเซีย ชนะ “ขิม” พรรณรายณ์ หวุดหวิดต้องตัดสินด้วยภาพถ่าย ด้าน “บีม” ชนิภรณ์ เข้าอันดับ 10 แต่ทุกคนทำเวลาเท่ากันที่ 46.39 นาที
หลังการแข่งขัน “บีซ” ร.อ.หญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์ ได้ตะโกนออกมาว่า “สะใจ อยากบอกทุกคนเลยว่าสะใจที่ชนะนักปั่นเวียดนาม ในประเทศเวียดนาม” พร้อมกับเปิดเผยว่า เกมวันนี้สุดยอดมาก ดีใจที่คว้าเหรียญทองมาครองได้ตามเป้าหมาย ขอขอบคุณพี่น้องชาวไทยทุกคนที่ช่วยเป็นกำลังใจให้พวกเรานักกีฬาจักรยานทีมชาติไทย ไม่ว่าใครจะได้ลงแข่งขัน หรือใครไม่ได้ลง แต่เมื่อพวกเรามายืนในจุดนี้ถือว่าทำเพื่อชาติไทย ที่สำคัญธงไตรรงค์บนหน้าอก เราทำเพื่อ “พ่อหลวง” ของเรา วันนี้ดีใจมาก และความสำเร็จที่ได้มานี้ต้องขอขอบคุณสตาฟฟ์โค้ช และทีมงานทุก ๆ คน
จุฑาธิป กล่าวอีกว่า “ที่สำคัญขอขอบพระคุณ พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักนยานฯ ที่มาให้กำลังใจพวกเราถึงขอบสนาม และคอยดูแลพวกเราทุกเรื่อง และเปรียบเหมือนพ่ออีกคนหนึ่งของหนู ท่านคือกำลังใจของหนู วันนี้หนูทำสำเร็จแล้ว พวกเราทุกคนสู้เต็มที่ เหรียญทองเหรียญนี้เพื่อประเทศชาติ และเพื่อคนไทยทุกคน ขอให้พี่น้องชาวไทยติดตามเชียร์นักปั่นทีมชาติไทยในรายการอื่น ๆ วันนี้ทีมจักรยานถนนเราเปิดหัวด้วยเหรียญทองแล้ว หลังจากนี้ต้องมีอีกแน่นอน”
ส่วนไครทีเรียมชาย แข่งขันกัน 30 รอบ ระยะทาง 44.4 กิโลเมตร มีนักกีฬา 21 คน จาก 8 ชาติ ทีมไทยส่ง 3 นักปั่นลงชิงชัย ประกอบด้วย “วุฒิ” สิบโท สราวุฒิ สิริรณชัย, “ปาง” จ่าอากาศเอก ธนาวุฒิ สนิกวาที และ “โชเอะ” จ่าอากาศโท ปฐมภพ พลอาจทัน เกมในช่วงแรกยังเกาะกลุ่มกันกันมา แต่หลังจากปั่นมาได้ 8-9 รอบ สราวุฒิ พร้อมกับนักปั่นจากเวียดนาม และสิงคโปร์ ก็กระชากหนีกลุ่มใหญ่ออกมาทิ้งห่างราว 30-40 วินาที ซึ่งรอบสุดท้ายทั้ง 3 คนสปรินต์แย่งแชมป์กันหน้าเส้นชัย ผลปรากฏว่า กวาง วาน กวง นักปั่นเจ้าภาพ เร่งสปรินต์เข้าเส้นชัยเป็นคนแรก คว้าเหรียญทองไปครอง ชนะ สราวุฒิอย่างฉิวเฉียด ได้แค่เหรียญเงิน ส่วนเหรียญทองแดง โยว บูน เกียก สิงคโปร์ ซึ่งทั้ง 3คนทำเวลาเท่ากัน 56.13 นาที ขณะที่ ธนาวุฒิ ได้อันดับ 4 เวลา 56.39 นาที และ ปฐมภพ ได้อันดับ 9 เวลา 56.47 นาที
ส.ท.สราวุฒิ กล่าวว่า เกมวันนี้เป็นเกมเร็วอย่างที่คาดกาณ์เอาไว้ และต้องมีการปั่นหนีกลุ่มใหญ่ ผมก็ตั้งใจว่าจะตามเก็บทุกกลุ่มแล้วไปอยู่กลุ่มหน้าให้ได้ แต่เสียดายที่การสปรินต์หน้าเส้นเกิดเสียจังหวะนิดหน่อย เพราะผมขึ้นช้าไปจึงทำให้แพ้นักปั่นเจ้าภาพ แต่ก็พอใจที่ได้เหรียญเงินมาครอง
ด้าน “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ดีใจกับนักกีฬาที่เปรียบเสมือนลูกหลานทุกคน ช่วงเช้าที่ผ่านมาตนก็สดมนต์ไหว้พระขอพรตั้งแต่ 6โมง เพื่อให้คุ้มครองนักกีฬาและขอให้ประสบความสำเร็จ เพราะว่าไครทีเรียมหญิง ทางเวียดนามมีนักปั่นตัวเก่งคือ เหงียน ธิ ทัต ต้องยอมรับว่าเราเป็นรองเขาเรื่องของความได้เปรียบการเป็นเจ้าภาพ แต่นักปั่นไทยทุกคนสู้อย่างเต็มที่ถือว่าสุดยอดมาก ๆ หลังจากนี้เราก็ต้องซ้อมกันต่อไปเพื่อสู้กันอีกในกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่ประเทศจีน ตอนนี้ทีมจักรยานของไทยได้ 2 เหรียญทองตามเป้าหมายแล้ว หากได้เพิ่มอีกถือว่าเป็นกำไร
นอกจากนี้ พลเอกเดชา กล่าวอีกว่า การแข่งขันครั้งนี้นอกจากยินดีกับเหรียญทองที่ จุฑาธิป ทำได้แล้ว ต้องยอมรับหัวใจของ ส.ต.หญิง ชนิภรณ์ บัตริยะ ที่ปั่นเกาะกลุ่มนำและยังช่วยลาก จุฑาธิป ให้ขึ้นมาสปรินต์หน้าเส้นชัยคว้าเหรียญทอง รวมทั้ง ร.ต.ท.หญิง พรรณรายณ์ ราษี ที่เร่งสปีดเข้าจนเกือบจะได้เหรียญทองแดง ด้วยความที่นักปั่นทั้ง 2 คนมีหัวใจนักสู้ สมาคมกีฬาจักรยานฯ ขอมอบเงินรางวัลพิเศษให้คนละ 75,000 บาท เท่ากับนักกีฬาที่ได้เหรียญทองแดงตามหลักเกณฑ์ที่การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) มอบให้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจที่จะฝึกซ้อมและทำผลงานให้ดียิ่งขึ้นในการรับใช้ทีมชาติต่อไป
“อย่างไรก็ตาม วันนี้เราได้อีก 1 เหรียญเงินจาก สราวุฒิ เสียดายที่มีการเสียจังหวะไปนิดเดียวช่วงสปรินต์หน้าเส้นชัย แต่ทำได้ขนาดนี้ถือว่าน่าพอใจมากแล้ว ซึ่งทุกคนก็ทำหน้าที่ได้ตามที่โค้ชวางแผนเอาไว้ สำหรับวันที่ 20 พฤษภาคม แข่งขันประเภทไทม์ไทรอัล ทั้งชายแหละหญิง นำทีมโดย จ่าอากาศเอก พีระพล ชาวเชียงขวาง และ สิบตรีหญิง เพชรดารินทร์ สมราช วันที่ 21 พฤษภาคม แข่งขันรายการโรคเรซบุคคลชาย วันที่ 22 พฤษภาคม แข่งขันรายการโรดเรซ ทีมหญิง ขอแรงใจจากพี่น้องประชนชาวไทยส่งแรงใจเชียร์นักปั่นลูกหลานไทยสู้ศึกซีเกมส์ที่เวียดนาม และคว้าเหรียญทองเพิ่มกลับไปฝากคนไทยให้ได้ นักกีฬาจักรยานไทยสู้ทุกคน
Cr..วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์