พิมพ์ไทยออนไลน์//เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 65 เวลา 09.30 น. นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานในพิธีลงนามความร่วมมือ (MOU) การดำเนินโครงการส่งเสริมอาชีพ และสร้างรายได้ให้กับผู้ใช้บริการในสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง และศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาทักษะชีวิต ภายใต้โครงการ “ปฏิบัติการ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ระหว่างกระทรวง พม. โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กับ เอสซีจี โดยบริษัท ผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด โดยมี นายอนุกูล ปีดแก้ว อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และนายสยามรัฐ สุทธานุกูล Chief Marketing Office – Cement and Green Solution Business ในเอสซีจี ร่วมลงนาม อีกทั้งมีนางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุมปกรณ์ อังศุสิงห์ ชั้น 2 อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวง พม. สะพานขาว กรุงเทพฯ
นายจุติ กล่าวว่า กระทรวง พม. โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) มีภารกิจสำคัญในการจัดสวัสดิการสังคม ช่วยเหลือ คุ้มครอง และพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ด้อยโอกาสในสังคม รวมทั้งกลุ่มคนไร้ที่พึ่งซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบาง ตามนโยบายรัฐบาล “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” โดยได้ขับเคลื่อนโครงการ “ปฏิบัติการ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ด้วยการให้ความช่วยเหลือทุกรูปแบบและขยายความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายภาคธุรกิจได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม ทั้งนี้ จึงได้มีความร่วมมือ (MOU) การดำเนินโครงการส่งเสริมอาชีพ และสร้างรายได้ให้กับผู้ใช้บริการในสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง และศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาทักษะชีวิต ภายใต้โครงการ “ปฏิบัติการ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” กับ เอสซีจี โดยบริษัท ผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด
นายจุติ กล่าวต่อไปว่า วันนี้ เป็นสิ่งที่ประกาศให้เห็นว่าครอบครัว เอสซีจี กับครอบครัว พม. จับมือกัน เพื่อดูแลคนไร้ที่พึ่ง เพราะเราเป็นคนไทยด้วยกัน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่ว่าเราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งสิ่งที่เราทำคือ การนำความคิดอย่างสร้างสรรค์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับคนไร้ที่พึ่ง และคนที่ไม่มีอาชีพได้สามารถสร้างอาชีพและพึ่งพาตนเองได้ สำหรับประเทศไทยเป็นประเทศมหาอำนาจทางวัฒนธรรม ปรัชญาความคิด โดยเศรษฐกิจพอเพียงเป็นสิ่งที่คนไทยนำมาถือปฎิบัติ และวันนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความพอเพียงคือ การแปรรูปขยะสู่ทองคำ เป็นเงินได้ และจากที่ไม่มีโอกาสก็สามารถสร้างโอกาสต่อได้ ทางเอสซีจี และ กระทรวง พม. เราได้ร่วมกันสร้างงาน อาชีพ รายได้ และสร้างบ้านให้กับผู้ที่ด้อยโอกาส และเราหวังว่าจะมีสิ่งดีๆ ให้กับประเทศไทยและให้กับผู้ที่ไม่มีโอกาสได้มีโอกาสต่อไป
นายสยามรัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า เอสซีจี มุ่งดำเนินแผนงานตามนโยบาย ESG 4 Plus ในเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำและความร่วมมือ โดยการพัฒนาทักษะอาชีพ สร้างรายได้ให้กับคนไร้ที่พึ่งที่อยู่ในการดูแลของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการทั้ง 14 แห่ง ผ่านการเพิ่มมูลค่าถุงปูนซีเมนต์รอการทำลาย นำมาจัดทำเป็นสินค้า อาทิ กระเป๋าและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ โดยกลุ่มคนไร้ที่พึ่งจะได้มีโอกาสฟื้นฟูทักษะอาชีพ สร้างรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิตให้มีโอกาสในการช่วยเหลือตัวเองและกลับคืนสู่สังคมได้ ทั้งนี้ เอสซีจี จะเป็นผู้ดำเนินการจัดจำหน่ายสินค้าและขยายช่องการทางการจัดจำหน่าย นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการขับเคลื่อนการให้ความช่วยเหลือและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไร้ที่พึ่ง ซึ่งตอบสนองนโยบายรัฐบาล “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ลดความเหลื่อมล้ำ และ BCG Economy :Cr;มณสิการ รามจันทร์