พิมพ์ไทยออนไลน์ // การแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 16 “โตเกียว 2020” ซึ่งมหกรรมกีฬาพาราลิมปิกครั้งนี้ ทัพนักกีฬาคนพิการไทยรวม 74 คน จาก 14 ชนิดกีฬา ผ่านเข้าร่วมชิงชัย ที่กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น วันที่ 24 สิงหาคม- 5 กันยายน 2564 โดยนักกีฬาควอลิฟาย เข้าร่วมรอบสุดท้ายได้มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ กกท. เปิดเผยความคาดหวังของทัพนักกีฬาคนพิการไทย มีโอกาสคว้า 4-6 เหรียญทอง จาก 5 กลุ่มชนิดกีฬา ประกอบด้วย บอคเซีย, วีลแชร์เรซซิ่ง, ยิงธนู, เทเบิลเทนนิสแขน-ขา และเทควันโด
ขณะที่ตามประกาศของคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการให้เงินรางวัลแก่นักกีฬา บุคลากร และสมาคมกีฬา ที่ใช้คำว่าแห่งประเทศไทย พ.ศ.2559 ประกาศให้การสนับสนุนเงินรางวัลแก่กลุ่มนักกีฬาคนพิการที่คว้าเหรียญในกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 16 เช่นเดียวกับในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่จบลงไป
สำหรับนักกีฬาที่ได้รับเหรียญรางวัล มีสิทธิ์เลือกรับเงินรางวัล 2 เงื่อนไขตามที่กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ โดยเหรียญทอง จะได้รับเงินอัดฉีด 7,200,000 บาท, เหรียญเงิน 4,800,000 บาท และเหรียญทองแดง 3,000,000 บาท จะแบ่งจ่าย ซึ่งจ่ายเป็นก้อนให้นักกีฬาในอัตราร้อยละ 50 ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 50 จะจ่ายเป็นรายเดือน ภายในระยะเวลา 4 ปี ส่วนเงื่อนไขที่สอง จ่ายครั้งเดียวเป็นก้อนเดียว จะได้รับในอัตราที่น้อยลง โดยเหรียญทองได้รับเงิน 6,000,000 บาท, เหรียญเงิน 4,000,000 บาท และเหรียญทองแดง 2,500,000 บาท
น.ส.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เปิดเผยว่า หลักเกณฑ์การเบิกจ่ายเงินรางวัลสนับสนุนนักกีฬาคนพิการไทยในศึกพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 16 ยืนยันว่าจะได้เท่าเดิมเมื่อปี 2016 ไม่ได้มีการปรับลดลง แม้จะเกิดภาวะวิกฤตโควิด-19 ในไทยแต่อย่างใด ขอยืนยันว่ากองทุนฯ มีงบประมาณเพียงพอ และพร้อมจ่ายเงินรางวัลอัดฉีดให้กับนักกีฬาคนพิการไทยที่คว้าเหรียญรางวัล เช่นเดิมกับนักกีฬาไทยคว้าเหรียญโอลิมปิกเกมส์

Cr..วิชัย แสงทวีป ผู้สื่อข่าวพิมพ์ไทยออนไลน์